ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยสุดซ่ากับตาสุดแสบ

    ลำดับตอนที่ #3 : เหนื่อยกาย...เหนื่อยใจจริงๆ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 48


         “เฮ้อ!!!!…..เหนื่อยโว้ย! ” โน้ตถอนหายใจขณะที่ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวนุ่มภายในบ้านของโจ้ด้วยความเหนื่อยหน่าย ใบหน้าของเขายังคงรอยช้ำ เขียวๆ แดงๆ ยังออกจะมีม่วงๆ ด้วย



         “ไรกันวะไอ้โน้ต..” โจ้ถามเพื่อนชายที่คบกันอยู่ ด้วยเห็นท่าทีของโน้ต



         “ก็น้องก้อยของแกน่ะสิ ถามได้ ทำยุ่งหมดเลย…เลิกว่ะเลิก เลิก เลิก เลิก! ” โน้ตตอบอย่างอิดโรย



         “แล้วแกไปยุ่งกะเค้าทำม้าย…อยู่ดีๆ หาเรื่องเจ็บตัว”



         “วะ..ไอ้นี่! ข้าช่วยไม่ขอบคุณ แล้วยังมาว่าอีก วอนซะแล้ว….”



         “…ก็..ก็ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องไปยุ่งกับน้องเค้า เอ๊ง...ก็ไม่เชื่อ ยัยน้องก้อยเนี่ย..เจ้าชู้จะตายไป นี่ถ้าตอนแกไปส่งน้องเค้ากลับบ้านแล้วเค้าไม่อ่อยนะ มาเหยียบหน้ากันได้เลย”



         “เออ..จริงว่ะ!! รู้มะ ข้าเกือบจอดรถลงอ้วกแล้ว อ่อยอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าน้องก้อยไม่สวยนะเว้ย…แต่บอกตรงๆ มันเคืองลูกกะตาว่ะ แล้วนี่เอ็งทนคบอยู่ได้ยังไงวะ เลิกนะเว้ย..ถ้าไม่เลิกข้าก็ไม่ยุ่งกะเอ็งอีกแล้ว”



         “หือ..แค่นี้ทำบ่น  โถ่!!..ตอนข้าช่วยเอ็งจีบสาวไม่เห็นว่าซักคำ  ไหนจะสับรางให้  ไหนจะหน้าด้านไปขอเบอร์ให้อีก วุ่นกว่าร้อยเท่า”



         “เอ็งรักน้องก้อยมาก…ขนาดเห็นน้องก้อยนั่นดีกว่าเพื่อนอีกเหรอ” โน้ตว่าอย่างน้อยใจ



         “น่า…เพื่อน แต่ว่าที่จริง ข้าก็เลิกกับยัยน้องก้อยนั่นมานานจะได้สองเดือนอยู่แล้ว เอ็งมัวไปทำเซอะอยู่ที่ไหนมิทราบ...ถึงไม่รู้เรื่องเนี่ยฮะ จีบน้องมินท์อยู่ล่ะสิท่า..”



         “ไอ้เพื่อนเวรรรร!!!! ทำไมไม่บอกข้าตั้งแต่แรก แล้วตอนที่ข้าโทรมาบอกว่าจะให้เคลียร์ปัญหากัน เอ็งก็ยังมีหน้ามาบอกว่ายังไม่อยากพูด อยากทำใจก่อนอีก โห่..ไอ้เวรเอ๊ย..ปล่อยให้ข้าลุยเดี่ยว”



         “ก็ตอนแกเจอน้องเค้า แกเคยคิดจะบอกข้า คิดจะถามข้าบ้างมั้ย… ไม่!! ไม่เคยมี ข้าก็แค่อยากดัดนิสัยวู่วาม แส่ไม่เข้าเรื่องของแกก็เท่านั้น ยังจะมาว่าข้าอีก! ”



         “พอๆ พอเลยทั้งคู่นั่นล่ะ เออ..นี่ เอ็งไปเจอน้องเค้าที่ไหนวะโน้ต” โก้ผู้อยู่ในความสงบและฟังบทสนทนาของเพื่อนทั้งคู่อยู่ตลอดออกปากพูดปราม



         “ข้าเจอที่ติวเตอร์ แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร ซวยโคตร…โคตรซวย ข้าทนให้มันกวนโอ๊ยทำหน้าซื่ออยู่ไม่ไหว ก็เลยใส่มันกลางลานจอดรถเลย”



         “ก็แกไปชกเค้าก่อนนี่ แล้วมันซวยตรงไหน เห็นทุกทีแกก็ตีกับคนอื่นออกบ่อยนี่หว่า”



         “มันจะไม่ให้ซวยได้ยังง้าย…..ก็คนที่ข้าชกด้วยมันคือไอ้เจล ไอ้เจลหน้าจืดนี่หว่า”



         “อืม..หา! ไอ้เจลน่ะเหรอ ไอ้นี่ออกหงิมๆ ชกก็เป็นด้วยแฮะ ดูดิ เพื่อนข้าหน้าเยินเลย” โจ้ว่า



         “ไอ้โจ้..แกอยากมีปากไว้พูดอยู่มั้ย.. หรือจะให้ข้าช่วยสอย ถึงจะเจ็บแต่ก็สู้นะโว้ย..”



         “เออๆ พูดเล่นน่า.. แล้วตกลงใครชนะ มันหรือแก แต่ข้าว่าต้องเป็นมันแหงเลย”



         “ไอ้นี่หนิ ..” ป้าบ! เสียงตบหัว



         “แล้วมันยังไง พูดมาซี่…มัวบ้าคำพูดของไอ้โจ้มันทำไม”



         “เออ...เออเออ ข้าก็ไม่รู้ว่ะ ชกยังไม่ครบยก ก็ดันมีระฆังมาตีก่อน เป็นผู้หญิงว่ะ อย่างแรงเลย สวยด้วยอ่ะ แต่ยัยนั่นปากโคตรร้ายเลยว่ะ คราวนี้ยัยนั่นมาปกป้องไอ้เจลโว้ย..ไม่ต้องมามองหน้าข้าอย่างนั้นไอ้โจ้..”



         “อะไร...แค่ผู้หญิงเหรอ ข้านึกว่าตำรวจ”



         “เจอตำรวจก็ซวยกว่านี้สิ แค่เจอยัยตัวร้ายนั่นด่าข้าเต็มลานจอดรถก็ขายขี้หน้าจะแย่แล้ว เลยหนีออกมาก่อนเนี่ย ไม่งั้นก็มีอีกยกแน่ นี่ข้าเห็นว่าเป็นผู้หญิงนะเนี่ยก็เลยไม่ทำอะไร”



         “อืม..สุภาพบู..หลุด” โจ้ว่า



         “ใจกล้ามากเลยนะนั่น.. สงสัยเป็นแฟนไอ้เจลมัน แต่ว่าแต่ก่อนไม่เคยเห็นมันมีแฟนนี่ ผู้หญิงก็ไม่สนด้วยซ้ำ” โก้พูด



         “ก็แล้วแกไปเป็นญาติฝ่ายไหนของมันฮะ..ถึงจะรู้เรื่องมันทุกเรื่อง” โน้ตแขวะโก้



         “ข้าว่าอาจเป็นแฟนมันจริงก็ได้นะ.. แต่ว่าสวยมากไหมวะ”



         “อืม..สวย ยอมรับว่าสวยมาก สวย เผ็ด ดุจนน้องก้อยของแกเอ๊ย..น้องก้อยเฉยๆ หงอไปเลย”



         “น่าสนแฮะ..ไอ้เจลนี่ก็เสน่ห์แรงไม่เบา ข้าก็ยังนึกเสียดายน้องจ๋าที่ไปชอบมันอยู่เลย” โจ้ว่า



         “ถ้าเป็นอย่างนี้ เห็นทีข้าต้องแก้แค้นซะบ้าง ข้าจะรวบยอดเรื่องขายหน้าที่แฟนมันว่าข้า กับเรื่องที่มันอยากหล่อ อยากเก่ง อยากดีกว่าข้าเลย เห้อ!!!...คอยดู”



         “แกจะแก้แค้นใคร ยังไง อย่าทำเลยไอ้โน้ต เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะ ..” โก้ว่า



         “แก้แค้นทั้งคู่น่ะสิ แล้วไม่ต้องมายุ่งน่า ยังไงข้าก็จะแก้แค้น..ด้วยวิธีของข้า เวรเวินอะไรเอาไว้ก่อน”



         “เหตุผลน้อยเต็มทีว่ะ.. ไอ้บ้าโน้ต! แกจะแก้แค้นมันด้วยเรื่องแค่เนี้ย คิดดูดีๆ อีกอย่างมันเป็นความผิดของแกส่วนหนึ่งด้วย แล้วอย่ามาขอความช่วยเหลือจากข้านะ ถ้าแกจะเดือดร้อนเรื่องนี้” โจ้ถึงกับขู่



         “อ้าว...นี่เพื่อนกันเหรอเนี่ย พูดอย่างนี้เหมือนอวยพรให้ข้าเดือดร้อนเลยนี่ ให้ตายเหอะ!! ก็ข้าไม่ชอบขี้หน้ามันอยู่แล้วนี่หว่า มันอยากมาเรียนเก่ง หุ่นก็ดี หน้าก็หล่อนี่ว่า สาวๆ ก็รุมชอบมัน แก้แค้นนิดหน่อยเป็นไรไป”



         “โธ่! เพื่อน…แกก็ไม่คิดบ้างเหรอ…ว่าแกก็เนื้อหอมนี่นา..ถึงจะไม่หล่อ  ไม่รวย เรียนไม่เก่ง หุ่นไม่ดีแต่นิสัยก็…แย่นะโว้ย!! ฮ่าฮ่าฮ่า” โก้ว่าเพื่อนบ้าง



         “ไอ้บ้า.. พูดอย่างนี้ข้าก็เสียหมด”



         จะตรงตามที่โก้ว่าโน้ตหรือไม่นั้น ก็ดูได้จากโน้ต เพราะเขาทั้งหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง ฐานะทางบ้านก็ใช่ว่าจะยากจนเสียเมื่อไหร่ แต่เรื่องเรียนเป็นอีกเรื่องที่เขาถูกว่า เพราะไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าที่ควร ส่วนเรื่อง ‘นิสัยพื้นฐาน’ ก็เป็นอย่างที่เห็น รวมถึงเรื่องความกะล่อนและตัวดีนักที่จะหลีผู้หญิง จีบผู้หญิงไปวันๆ ส่วนคนที่เขาจะรักจริงๆ นั้นแทบไม่เคยมี





    “ที่อังกฤษสนุกมากเลย.. แต่ฝนตกมากไปหน่อย พักนี้ไม่ค่อยสบาย เป็นหวัดนิดหน่อย แล้วคุณหญิงล่ะคะเป็นยังไงบ้าง” ปลายสายทางไกลจากต่างประเทศกรอกเสียงมาแบบล้อเลียน



    “โหย..สนุกเนอะ… แหม! ลืมเพื่อนลืมฝูงไปหมดแล้วล่ะสิ แต่ทางนี้ เฮ้อ..น่าเบื่อเป็นบ้า มีเรื่องแป๊ะอะไรไม่รู้เต็มไปหมด แล้วยิ่งวันนี้นะ มันเป็นวันอะไรมิทราบ ซวย-บอ-รม-มะ–โคตร…เลย” จิลพูดกับเพื่อนสนิทสาวที่ไปเที่ยวประเทศอังกฤษด้วยความกันเอง



    “แย่จัง..ไม่เป็นไรนะ...อีกสามวันฉันก็กลับแล้ว เดี๋ยวจะมาเป็นเพื่อน ของฝากเพียบเลย” ปุ่นหรือณัฐานันท์พูดเรื่องของฝากปลอบใจเพื่อน



    “จริงเหรอ…โอ๊ย!! เพื่อนรัก งั้น…เอางี้ๆ จะเล่าให้ฟัง แล้วเธอช่วยฉันคิดวิธีสงบจิตใจหน่อยเหอะนะ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า…..” จิลเล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟังอย่างออกรสออกชาติ



    “อย่างนี้หรอกเหรอ..มันก็สมควรเซ็งอยู่นะ ซอ..อัว..ยอ..ซวยขนาดนั้น ไปดูดงดูดวง ต่อชะตาซะบ้างก็ดีนะ”



    “ไม่พอนะ เมื่อกี้ก็โดนสวดอภิธรรมเอ๊ย..สวดชะยันโตไป แต่ก็เบาะๆ แค่เรื่องรบกวนเพื่อนบ้านสุดที่รักน่ะ พอดี..ฉันระบายอารมณ์มากไปหน่อยน่ะ” จิลว่าต่อ



    “โห..อย่างนี้ ฉันว่าเธอย้ายบ้านไปเลยดีกว่านะ”



    “ไปอยู่ไหนอ่ะ อยู่ที่ไหนคนก็เยอะเหมือนกัน”



    “อ่าฮ่า! คิดออกแล้ว..ป่าช้าไง ย้ายไปอยู่เลยนะ รับรองไม่มีคนกวนความสงบของเธอแน่นอนเลย”



    “ยัยบ้า! ได้จับไข้ตายพอดี ไม่มีคนกวนก็จริง แต่อย่างอื่นที่เค้าจะคิดว่าเราไปรุกล้ำที่เค้าน่ะ กวนไม่หยุดหย่อนแน่ เผลอๆ ได้ตามไปอยู่ที่อื่นเป็นของแถมด้วยไม่รู้..”



    “ก็จริงเนอะ…เออ..พรุ่งนี้ไปบ้านวิทย์ใช่ไหม แวะไปบ้านฉันก่อนสิ เอาของที่ฝากไว้ที่พี่เรียมหน่อย”



    “ของอะไร แล้วไปบ้านวิทย์ทำไมกัน  ไกลอยู่นะนั่น”



    “ก็วันเกิดของน้องแวนไง เค้าไม่ได้ชวนคุณเธอหรอกเหรอค้า..” ปุ่นเตือนสติ



    “จริงด้วย! ลืมไปเลย สงสัยเนื้อที่สมองถูกกินเพราะเรื่องบ้านั่นแน่ๆ ”



    “กะอีแค่เค้าต่อยพี่เจล เพราะเข้าใจผิดเรื่องยัยพี่ก้อยก็เท่านั้น คิดมากอยู่ได้ เค้าไม่ได้ว่าอะไรเธอซักหน่อย”



    ….อ๊า…จิลได้แต่กรี๊ดในใจเนื่องจากเธอไม่ได้เล่าเรื่องที่เธอว่าโน้ตและโน้ตว่าเธอให้ปุ่นฟัง ปุ่นจึงเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตมากมายอะไร แต่อารมณ์หนออารมณ์ ใจหนอใจคนเรา ทำให้ความรู้สึกนึกคิดของคนเราเป็นไปได้ทุกอย่าง



    “นี่ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อของก่อนนะ เอาอะไรเป็นของฝากดีล่ะ ขนมสักกล่องดีมั้ย 555…”



    “ยัยขี้ตืด! เออ…เดี๋ยวฉันก็จะออกไปซื้อของขวัญให้น้องแวนเหมือนกัน เดี๋ยวไปไม่ทัน แค่นี้นะ บ๊ายบาย”



    “บ๊ายบายจ้ะ”



    เมื่อต่างวางสายโทรศัพท์แล้ว จิลก็รีบออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ไปอย่างไรน่ะหรือ เดิน?..วิ่ง?..ไม่มีทาง! จักรยาน?..จักรยานยนต์?..หรือรถยนต์..ผิดแล้ว! เจลต่างหากที่เป็นคนไปส่งเธอ เนื่องจากเขาก็ได้รับเชิญให้ไปงานนี้เช่นเดียวกัน แต่จะไปโดยวิธีใดน่ะหรือ…รถรับจ้างประจำทางต่างหากที่ได้เงินจากสองพี่น้องไป สงสัยทั้งคู่คงจะเข็ดกับรถเก๋งจากเรื่องเมื่อเช้านี้ไม่หายเป็นแน่!













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×