ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The KINGS โคกรุ๊ปอันดับหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #5 : 5 ร่วมชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 64


     

    5

    ร่วมชีวิต

     

    โดยปกติแล้วทุกคืนก่อนนอนเหล่าเมมเบอร์ก็มักจะตั้งวงพูดคุยกันเสมอ ทั้งเรื่องอาหารการกินในวันนี้ ความเจ็บป่วยของเพื่อนในฝูง ทำนายสภาพอากาศในวันถัดไป บางวันก็แอบพนันกันว่าตอนเช้าลีดเดอร์จะเลือกกินเกลือแร่ น้ำ ฟาง หรือหญ้าก่อน บ่อยครั้งก็นินทาเจ้านายแก้เบื่อโดยเฉพาะเรื่องที่คุณขิงถูกแฟนคนสวยข่มเหงรังแกแบบต่างๆ นั้นยิ่งเม้าท์สนุกที่สุด คนอะไรก็ไม่รู้ทำตัวอ่อนด๋อยจริงๆ แม้จะอยู่คอกใครคอกมันก็นับว่าไม่มีปัญหาในการซุบซิบเม้ามอยประเด็นเด็ดกันแต่อย่างใด ส่วนคืนนี้ดูพิเศษกว่าคืนอื่นๆ เพราะเหล่าเมมเบอร์จัดปาร์ตี้ร้องรำทำเพลงกันอย่างครื้นเครง ก็ลูกพี่คิงส์สละโสดทั้งทีมันจึงต้องมีฉลองกันหน่อย 

    พอเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอกันเรียบร้อยแล้ว วงพนันลับๆ จึงเกิดขึ้นอีกโดยเจ้ามืออย่างป๋าคิมเจ้ามือขาประจำเปิดวง โดยหัวข้อการพนันในวันนี้คือ ลูกพี่คิงส์จะเสียตัวคืนนี้หรือไม่ ด้วยความที่เป็นเรื่อง 18+ คานส์จึงถูกกันออกจากวงอย่างสมบูรณ์

    “มะม่วง 2 ลูก ไม่ใช่คืนนี้” ไคเริ่มเปิด ดูสีหน้ามั่นใจเป็นอย่างยิ่ง

    “ของข้าเอาไปเลย 5 ลูก ไม่ใช่คืนนี้แน่นอน” ที่ปรึกษาคมว่าพลางใช้กีบเท้าขีดเขียนเวลาตกฟากอย่างเคร่งขรึม ดูน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง

    ที่เหลือมองหน้ากัน แล้วพร้อมใจกันหันไปห้องหอของเจ้าบ่าวเจ้าสาว นั่นอะไรน่ะ ยังกินไม่หยุดอีกเรอะ! สีหน้าเมมเบอร์แต่ละตัวดูหมดหวังไร้อารมณ์ตื่นเต้น

    “เลิกๆ นอนกันเถอะพรรคพวก”

    “เฮ้อ...”

    อะไรเนี่ย คืนเข้าหอทั้งทีจะไม่ใช้ประโยชน์หน่อยเหรอลูกพี่ เรื่องกินจะให้กินตอนไหนก็ได้ไหมครับ 

    คิงส์ปรายหางตามองลูกน้องแล้วหัวเราะในลำคอหึๆ 

    “อะไรเหรอคะ” หนูเล็กเงยหน้าขึ้นถาม

    “เปล่า”

    ถึงจะไม่อยากเชื่อเท่าไรแต่ก็จำต้องปล่อยเลยไป หนูเล็กไม่ชอบคิดมากจึงไม่อยากคิดให้ปวดสมอง พอกินหญ้าอิ่มก็กินน้ำต่อ ยืดกายสักหน่อยก็เริ่มอยากนอนขึ้นมา ร่างอ้วนกลมได้ที่เหมาะๆ ก็ล้มตัวลงนอนโดยมีคิงส์นอนเคียงข้างกัน 

    เช้าตรู่วันต่อมาห้องหอของทั้งสองก็มีโอกาสต้อนรับผู้มาเยือนอีกครั้ง เป็นมนุษย์ผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับนายพ่อของหนุ่มๆ ทั้งหลาย เขาเดินเข้ามาหาหนูเล็กที่กำลังยืนกระวนกระวายอยู่ไม่สุข พอหนูเล็กเห็นคนคนนั้นก็ร้องเรียกด้วยความดีใจ

    “คุณเจ้านาย...”

    ชายผู้นั้นก็คือลุงผานนั่นเอง หลังจากฟังเพื่อนบ้านอย่างเสี่ยครามโม้ไว้เยอะวันนี้จึงอยากมาดูให้เห็นกับตาเสียหน่อยว่าควายกับวัวจะอยู่กันยังไง เห็นเสี่ยคุยใหญ่เลยว่าจะสร้างโปรเจ็คลูกผสมวัวควายตัวแรกของจังหวัด โดยมีพ่อพันธุ์เป็นวัวค่าตัวแพงตรงหน้ากับแม่พันธุ์ที่เป็นควายไทยธรรมดาตัวหนึ่ง เขาก็นึกสนุกด้วยเลยคล้อยตามอย่างง่ายๆ ยกหนูเล็กให้ฝ่ายนี้เลี้ยงขยายพันธุ์โดยไม่คิดตังค์ค่าตัวสักบาท หวังเพียงลูกที่ได้จากการผสมสักตัวเท่านั้น

    “กินอิ่มหรือเปล่า”

    คำแรกที่ทักทายทำเอาหนุ่มๆ The KINGS ที่ตั้งใจรอชมฉากซึ้งขำก๊ากแบบอดไม่อยู่ ครีมถึงกับคว่ำหูไม่อยากฟังอะไรที่ทำร้ายจิตใจอีก โถ.. น้องหนูเล็กของพี่ครีม 

    อยู่บ้านเจ้าของตามใจ มาอยู่นี่ยิ่งถูกลูกพี่คิงส์ตามใจ ถ้าอีกหน่อยอ้วนขึ้นกว่านี้พี่ครีมจะไม่ยอมแล้วนะ!

    เขาจะต้องพาน้องน้อยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

    “ฮ่าๆ ดูทำหน้าตา” ลุงผานก็พลอยหัวเราะเมื่อเห็นควายสาวฉีกยิ้มจนเห็นเหงือก เขาลูบหัวลูบเขาหนูเล็กไปมาอย่างเอื้อเอ็นดู 

    “อยู่ที่นี่ต้องเป็นเด็กดีนะรู้ไหม”

    “...” คล้ายใบหน้าของหนูเล็กจะเกิดคำถามขึ้นมา 

    “เห็นแบบนี้ก็สบายใจ ข้าไปล่ะนะ ว่างๆ เดี๋ยวจะมาหาใหม่”

    “เดี๋ยวสิคะ คุณเจ้านายลืมพาหนูไปด้วยนะ กลับมาก๊อนนนน” หนูเล็กร้องตามหลังอย่างลนลาน ไม่ใช่ว่าคุณเจ้านายจะมารับหนูเล็กกลับบ้านเหรอ แล้วจู่ๆ จะมาเดินกลับไปคนเดียวแบบนี้ได้ยังไงกัน 

    “พี่สาวจะมาอยู่ที่นี่กับพวกเรานี่นา แล้วนี่จะไปไหนอีกอ่ะ” คานส์โพล่งถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ไคที่อยู่คอกข้างๆ กันนั้นได้แต่อ้าปากพะงาบๆ จะห้ามก็ห้ามไม่ทัน เพราะกลัวความซื่อใสเกินเหตุของไอ้น้องเล็กของกรุ๊ปจะพาซวยกันหมด เอ็งไม่เห็นสายตาพิฆาตของลูกพี่เลยใช่ไหมฮะ เกิดไปทำว่าที่เมียเขาตกใจจนเตลิดขึ้นมาจะทำไงเนี่ย

    “มากินหญ้าเฉยๆ จ๊ะ เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว” หนูเล็กตะโกนตอบคานส์ที่อยู่สองคอกถัดไป

    “อ้าว ไม่ใช่ว่าพี่สาวกับลูกพี่คิงส์อยู่กินเป็นผัวเมียแล้วไม่ใช่เหรอ”

    “หะ..หา!??”

    “คานส์หยุด” ไคพยายามห้าม ยิ่งนานดวงตาลูกพี่คิงส์ยิ่งถลึงโตไปใหญ่ ความซวยคงตกที่ไอ้ไคนี่แหละก่อนใครเพื่อนในฐานะพี่เลี้ยงที่อบรมน้องไม่ดี โฮ.. ไคทำสุดความสามารถแล้วนะครับ

    “คานส์งงจังเลย” 

    มึงเลิกงงแล้วก็เลิกพูดมากได้แล้วไอ้งัววววว

    หนูเล็กพยักหน้าหงึกหงัก “พี่ก็เหมือนจะงงค่ะ” 

    ใจของคิงส์เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เมื่อเจ้าอ้วนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใหญ่เลย “หนูเล็ก” 

    “คะ” 

    “พี่...” คิงส์กลืนน้ำลาย “คือพี่...”

    หนูเล็กพยักหน้ารับรู้ 

    “พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”

    “แฮะๆ” ควายสาวหัวเราะ “หนูเล็กรู้ว่าพี่จะพูดอะไร ไม่ต้องเขินหรอกน้า”

    “จริงเหรอ” คิงส์ทำหน้าไม่เชื่อ

    “ใช่” เธอเชิดหน้าขึ้นราวกับมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก “พี่จะบอกให้หนูเล็กไปกินหญ้าใช่ม้า อิอิ รู้ทันหรอกจ้า” 

    “อืม.. สมควรกินหญ้าจริงๆ” เมมเบอร์แต่ละตัวคิดเห็นตรงกันโดยมิได้นัดหมาย ไอ้เจ้าอ้วนของลูกพี่คิงส์ดูน่ารักน่าเอ็นดูที่สุดก็ตอนกินนี่แหละ ตอนอื่นนี่คือน่าจะวายป่วงพอๆ กับเจ้าคานส์ สองตัวนี้ไม่สมควรได้อยู่ใกล้กันอย่างที่สุด

     

    ช่วงสายของวันเดียวกัน เพลงละครพื้นบ้านจักรๆ วงศ์ๆ ยังไม่ทันจบดี เสียงนายพ่อก่นด่าคุณขิงก็ดังมาให้ได้ยินแต่ไกล ไม่มีใครสนใจทั้งนั้นแหละนอกจากสมาชิกใหม่ของฝูง หนูเล็กทั้งชันหูทั้งชะเง้อชะแง้มองหาที่มาของเสียง ออกจะแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นผ้าขาวม้าม้วนใหญ่ลอยตามหลังชายหนุ่มคนหนึ่งมา เขาวิ่งมาหอบแฮกๆ อยู่หน้าประตูคอกแล้วฉีกยิ้มเผล่ให้เธอ

    “ไอ้เจ้าอ้วน”

    หา...

    “เร็วสิวะ ลูกข้าหิวแล้วไอ้ขิง” เสียงนายพ่อดังขึ้นอีก ไอ้ขิงที่ว่าเลยหันไปประจบว่าคร๊าบนายแล้วกลับมาฉีกยิ้มให้ควายสาวอีกครั้ง

    “ถ้าหลานได้แม่คงพิลึกอ่ะ ฮ่าๆ”

    อะไรล่ะเนี่ย

    “ไอ้เจ้าพุงอ้วน ตัวเตี้ย ตาโต”

    “มอ!” ไอ้ขิง! คิงส์ขึ้นเสียงใส่อย่างทนไม่ได้ ในขณะที่หนูเล็กชะงักค้างราวกับช๊อกไป 

    เมมเบอร์ก็ทำหน้าตื่นกันเมื่อเห็นสามี(มโน)คืนเดียวอย่างลูกพี่คิงส์มีน้ำโห คอยดูนะ ถ้าทำหนูเล็กเสียใจพวกเขาจะไม่ใจดีกับคุณขิงอีกต่อไป 

    “แง้... แงๆ” กรี๊ด ขอบคุณที่ชมนะคะ 

    อ้าว

    ลืมไปว่าพวกควายชอบให้ชมว่าอ้วน เพราะมันแปลว่าพวกเขาหล่อหรือสวยมากนั่นเอง โอเค... คุณขิงทำดีมากครับ

     

    เผลอแป๊บเดียวหนูเล็กก็มาอยู่ฟาร์ม The KINGS เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว สองสามวันแรกนั้นเธอคิดถึงพ่อทนกับแม่สวยมากทีเดียว เพราะจู่ๆ ได้มาอยู่ต่างที่ต่างถิ่นแบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจจนเกือบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ โชคยังดีที่มีพี่คิงส์อยู่เคียงข้างให้กำลังใจตลอดเลยสามารถกลับมาดื่มกินเป็นปกติจนอ้วนถ้วนสวยสง่าที่สุดในฝูง ฮี่ๆ

    อ้อ! หนูเล็กเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรพร้อมกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ก็คือเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่

    แต่นายพ่อก็บอกว่าไม่ต้องคิดเรื่องนี้ให้มากเดี๋ยวจะพาลเครียดไปเสียเปล่าๆ เพราะถึงอย่างไรเราทั้งสองมันก็คนละพันธุ์ ดังนั้นโอกาสที่เราจะติดลูกนั้นจึงมีน้อยมากๆ พี่คิงส์ก็บอกเช่นกันว่าแค่เราสองได้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าก็มีความสุขมากแล้ว ไม่มีลูกก็ไม่เป็นไร

    พูดแล้วเขิน เป็นคนถูกรักนี่มันรู้สึกดีจริงๆ

    ถึงจะลืมพี่คิงส์ไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็กลับมารำลึกความหลังกันแล้ว และตอนนี้พี่คิงส์คืองานดีกว่าเมื่อก่อนมาก จะพูดให้ถูกก็คือหล่อสุดในย่านนี้เลย ตำแหน่งลีดเดอร์ไม่ได้มาเล่นๆ นะบอกเลย

    ไม่รู้ชาติที่แล้วหนูเล็กทำบุญด้วยอะไร ชาตินี้ถึงเกิดเป็นควายที่โชคดีแบบนี้

    ถึงพี่คิงส์จะต้องไปผสมพันธ์กับสาววัวตัวอื่นตามภาระหน้าที่หนูเล็กก็ไม่ถือ เพราะถึงอย่างไรในอาณาจักร The KINGS นี้ หนูเล็กก็เป็นเมียที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียวของพี่คิงส์ สาววัวตัวผอมแห้งที่ไหนคิดแย่งอย่าหาว่าหนูเล็กไม่เตือน รับรองถูกวิ่งชนแล้วทับจนไส้ไหลแน่ ฮึ! 

    “เป็นอะไร ดูทำหน้าเข้า” 

    งู๊ย... สามี

    มโนว่าตัวเองเป็นเมียไปก่อน อีกประมาณ 2 เดือนน่าจะถึงช่วงติดสัด พอถึงตอนนั้นก็คงจะได้เป็นเมียจริงๆ แล้ว ช่วงนี้จึงต้องบำรุงตัวเองเป็นพิเศษให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ รวมถึงตั้งใจร่วมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงกับพี่ครีมและพี่ๆ ในแก๊งอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง 

    “กำลังคิดว่าลูกของเราจะหน้าตายังไง จะเหมือนพี่หรือเหมือนน้อง”

    คิงส์ยิ้มมุมปาก เขาเลียใบหน้าหนูเล็กอย่างเอ็นดู “น่าจะมีเขายาวเหมือนหนู ตัวอ้วนสวยเหมือนหนู แล้วก็ตัวสีดำเหมือนเรา”

    “ฟังดูน่ารักมาก”

    “อืม... น่ารัก”

    “มอ! พบคนหลงเมีย 1 อัตรา” เสียงแซวของพี่ครีมแว่วมาจากคอกข้างๆ ตามมาด้วยอีกหลายเสียงที่ล้อเลียนตามมา หนูเล็กหุบยิ้มไม่ไหวเลยก็หัวเราะรับเสียงใส ช่วงนี้เริ่มหน้าหนามากขึ้นไม่เหมือนช่วงแรกๆ ที่ม้วนอายหลบหลังพี่คิงส์ตลอด

    คิงส์มองลูกน้องจากหางตา พูดข่มเสียงดัง “ดีกว่าพวกไม่มีเมียเป็นของตัวเอง”

    “แรงมากพ่อ!”

    “เราไม่ต้องการมีเมียเฉยๆ หรอกน่า หล่อๆ อย่างเราไม่เคยขาดแคลนเรื่องผสมพันธุ์”

    “ใช่ๆ เป็นหนุ่มโสดมีอิสระมันดีจะตาย”

    หลายตัวเกทับลูกพี่คิงส์เต็มที แต่แล้วก็มีสุดยอดหนุ่มน้อยขี้สงสัยตัวดีตัวเดิมโพล่งถามขึ้นมา

    “ถึงพี่คิงส์จะมีพี่หนูเล็ก แต่หนูก็เห็นว่าพี่เขาไปผสมพันธุ์กับสาวๆ บ้านอื่นไม่เคยขาดเลยนะ นี่มันแตกต่างจากเดิมตรงไหน แถมยังดีเสียอีกที่พอกลับคอกมาก็มีพี่หนูเล็กรออยู่ โตขึ้นหนูก็จะมีเมียเหมือนลูกพี่คิงส์”

    “ไอ้คานส์ เงียบปากไปเลย” พี่เลี้ยงอย่างครีมอยากเอาตีนกุมหน้าผาก พวกเขาเกทับไปขนาดนี้ก็เพราะอิจฉาปนหมั่นไส้นั่นแหละ มึงจะมาตอกย้ำหนุ่มโสดทำไมไอ้งัว

    ตอนนี้ชายโสดทั้งหลายเลยเลิกแซวลูกพี่คิงส์ หันไปเข้าคอร์สอบรมคานส์ในหัวข้อข้อดีของชายโสดให้หนุ่มน้อยฟังอย่างขมักเขม่น แถมยังตั้งกฎขึ้นมาอีกว่าเมมเบอร์ทุกตัวห้ามมีความรักและห้ามมีแฟน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎและถูกแบนด์ออกจากวงทันที

    “ถ้าอย่างนั้นเราต้องแบนด์ลีดเดอร์อย่างลูกพี่คิงส์ออกจากกลุ่มสิใช่ไหม” คานส์ยังคงมีข้อสงสัย

    พี่ๆ ทั้งหลายถอนหายใจฟืดฟาด หันก้นให้ไม่อยากเสวนาอีก ภาระจึงตกอยู่ที่สุดยอดวัวพี่เลี้ยงอย่างครีม

    “อะแฮ่ม” สมองอันชาญฉลาดของครีมเร่งคิดด่วนจี๋ “ก็เพราะว่ากฎนี้ตั้งขึ้นในภายหลัง มันจึงไม่มีผลกับลูกพี่ยังไงล่ะ”

    “อ๋อ... หนูเข้าใจแล้วจ๊ะ” 

    จบเรื่องวุ่นๆ ในวันนี้ ทุกตัวจึงสามารถนอนคอกใครคอกมันอย่างสงบ

    หนูเล็กยิ้มกว้าง เธอรู้สึกมีความสุขมากกับครอบครัวใหม่แห่งนี้ พ่อทนบอกเสมอว่าบุญเรามีไม่มากเหมือนพวกมนุษย์ ดังนั้นได้เกิดเป็นควายชาติหนึ่งก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ได้กินอิ่มและนอนหลับในทุกวันก็เพียงพอแล้ว หนูเล็กคิดเสมอว่าการได้เป็นลูกพ่อได้มีเจ้าของอย่างลุงผานก็นับเป็นความโชคดีของหนูเล็กแล้ว เพราะลุงผานเลี้ยงควายเพราะความชอบส่วนตัว ไม่ได้เลี้ยงเพราะอาชีพเหมือนเจ้าของคนอื่น ถึงอย่างนั้นพ่อก็เตือนใจเสมอว่าเรามันแค่ควายตัวหนึ่งที่ไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรได้ ขอให้เตรียมใจไว้เสมอหากว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องแยกจากกัน 

    “ร้องทำไม” เห็นดวงตากลมโตระริกสั่นไหวน้ำตาไหลหยดคิงส์เลยถามเสียงเบา พวกเขานอนเคี้ยวเอื้องเคียงกันในคอกที่เต็มไปด้วยฟางแห้ง เป็นคอกนอนยามค่ำคืนที่อบอุ่นในหัวใจที่สุด พอวันพรุ่งนี้เช้าคุณขิงก็จะปล่อยพวกเราออกไปกินหญ้าในฟาร์ม หนูเล็กก็จะลงเล่นน้ำท้ายห้วยและพบปะกับพี่น้องฝูงควายจนพอใจแล้วขึ้นมาเล็มหญ้ากับพี่คิงส์ต่อ ตกเย็นเราก็กลับคอกกัน เป็นทุกๆ วันที่มีความสุขมาก โชคดีจริงๆ ที่ได้มาอยู่กับพี่คิงส์

    “แมงเข้าตาต่างหาก” หนูเล็กปฏิเสธยิ้มๆ ซุกหน้าลงซบแผงคอพี่คิงส์ 

    “ไม่เชื่อ” พี่คิงส์ว่าอย่างนั้นแต่ไม่คาดคั้นเอาคำตอบ หันหน้าผากมาแนบชิดกับหน้าผากหนูเล็ก ขยับเสียดสีเบาๆ ลิ้นสากแลบเลียเขาโค้งสวยอย่างรักใคร่

    “หนูเล็กมีความสุขมาก”

    “ดีแล้ว”

    “ขอบคุณนะคะ”

    “ครับ ขอบคุณเหมือนกัน”

    เสี่ยครามที่แอบเกาะขอบรั้วสอดส่องพี่คิงส์ลูกรักยกมือปาดน้ำตารัวๆ รู้สึกเต็มตื้นเหมือนเห็นลูกชายที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะในวันนั้นได้เจริญเติบโตอย่างงดงาม มีครอบครัวที่มีความสุขเป็นของตัวเองในวันนี้

    “ฮั่นแน่... เป็นไรอ่ะพ่อ ขี้อ่อนไหวเหรอช่วงนี้” ขิงย่องมาจากข้างหลัง แซวบิดาเสียงทะเล้น แต่ในมือกลับยื่นทิชชู่ให้

    “เอ็งไม่ต้องพูดอะไรเลยไอ้ขิง” ผู้เป็นบิดาคว้าทิชชู่มาซับหน้าตาอย่างรวดเร็วด้วยความอาย “จะไปไหนก็ไปเลย”

    “ใช่ซี ผมไม่ใช่พี่คิงส์ลูกรักของพ่อนี่นา” ขิงแสร้งกอดอกหันหน้าหนีอย่างน้อยใจ

    “ใช้มุขเดิมมา 8 ปีแล้วไม่เบื่อบ้างเหรอวะ” ผู้เป็นบิดาถอนหายใจ ยัดทิชชู่ที่ใช้แล้วใส่มือบุตรชายคนโตพลางตบบ่าเบาๆ พูดด้วยสีหน้าเข้าอกเข้าใจ “หน้าตาไม่เหมือนพี่คิงส์ต้องทำใจนะลูกพ่อ”

    “ขิงหน้าเหมือนใครล่ะพ่อ” ชายหนุ่มกอดบิดาเต็มแรง ไอ้ลูกคนนี้ถึงเลี้ยงให้โตยังไงก็ยังมีนิสัยขี้อ้อนแกมทะเล้นเหมือนเดิมเลย 

    “ก็เหมือนพ่อเอ็งสิวะ” 

    “หล่อเหมือนพ่อไง ฮ่าๆ”

    สองพ่อลูกหัวเราะประสานเสียงอย่างอารมณ์ดี 

    ขิงรู้หรอกน่าว่าพ่อกับแม่รักเขาและน้องมากที่สุด และพวกเราก็รักพี่คิงส์และเดอะแก๊งมากที่สุดเช่นกัน ดังนั้นตำแหน่งทาสอันดับหนึ่งนี้ขิงจึงรับมาอย่างยินดีและเต็มใจ

     

     

    -จบ-

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×