ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The KINGS โคกรุ๊ปอันดับหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #4 : 4 คิดถึง

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 64


     

    4

    คิดถึง

     

    เวลาประมาณสี่โมงเย็นคุณขิงก็พาเดอะแก๊งกลับคอก พ่อพันธุ์วัวแต่ละตัวเชิดหน้าเดินเรียงแถวตามหลังลีดเดอร์อย่างลูกพี่คิงส์อย่างสง่างาม จะก้าวขาขวาซ้ายก็ดูพร้อมเพรียงน่าดู หล่อเหลาเอาการจนหมาเห่าทักไปตลอดสาย 

    “โฮ่งๆ แฮร่..” กรี๊ดดดดดด ลีดเดอร์คิงส์ของหนู

    “โฮ่งๆๆ โฮ่ง” อ๊ายยย ฉันแอบมุดลอดรั้วไปหาพี่ที่ฟาร์มทุกวันเลย

    “โฮ่ง!” แรดนะหล่อน!

    น้องเล็กสุดที่ยังไม่มีตบะแก่กล้าพออย่างคานส์ถึงกับสะดุดเท้าไปหนึ่งจังหวะ ถ้ามีสองเท้าคงหัวทิ่มพื้นให้อับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน ต่างกับพี่ๆ ที่ดูจะชินชากับเรื่องแบบนี้ไปแล้ว คานส์นับถือๆ

    แฟนคลับต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหลายต่างวิ่งตามห้อมล้อมหนุ่มๆ เป็นพรวน พอได้ยินเสียงเพื่อนก็วิ่งกระโดดข้ามรั้วโผล่ตามกันมาไวๆ ไม่ได้มีเฉพาะตัวเมียนะ ตัวผู้ก็มาด้วย จู่ๆ หนุ่มๆ ก็มีแฟนบอยเฉยเลยให้ตายสิ 

    พอถึงบ้านก็เข้าคอกใครคอกมัน คนงานเข้ามาดูแลความเรียบร้อย จัดน้ำท่าหญ้าสดๆ มาต้อนรับแล้วก็จากไป คิงส์ก้มลงมองหญ้าในรางแล้วกระหวัดคิดถึงหนูเล็กขึ้นมา ควายฝูงนั้นถูกเลี้ยงในคอกใหญ่ เวลากินน้ำกินหญ้าก็ต้องให้ไวให้เร็ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ทันเพื่อนร่วมฝูง

    คืนนี้จะมีใครนอนหิวไหมนะ

    คิดแล้วก็ถอนหายใจ ล้มตัวลงนอนมันเสียอย่างนั้น 

    เดอะแก๊งส์ถูกดูแลอย่างเข้มงวดตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อให้มั่นใจว่ามีสุขภาพดีพร้อมสำหรับการเก็บน้ำเชื้อ พวกเขาทรมาณใจมากที่กินดีอยู่ดีแต่ขาดอิสระในชีวิต ทั้งวันทำได้แค่กินๆนอนๆ เดินถอยหน้าถอยหลังอยู่ในคอก ซึ่งมันน่าเบื่อมาก โดยเฉพาะลีดเดอร์อย่างคิงส์ดูจะออกอาการชัดเจนที่สุดทั้งที่ปกติจะยืนเงียบเฉยไม่หือไม่อือแม้วันฝนตกหนักหรือวันแดดแรงแยงตาแค่ไหนก็ตาม

    นายพ่อเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของลูกรักก็วิตกกังวลไปกันใหญ่ สั่งให้คนงานดูแลอาหารการกินอย่างเข้มงวด ทั้งปรับหญ้าเปลี่ยนก้อนเกลือแร่และเปลี่ยนรางน้ำ คุณขิงก็โดนใช่น้อย ถูกสั่งให้หอบเสื่อมานั่งๆ นอนๆ ทั้งวี่ทั้งวันที่หน้าคอกเพื่อบันทึกอาการป่วยของลูกพี่คิงส์กันเลยทีเดียว

    เดี๋ยวนะ ลูกพี่แค่หงุดหงิดคิดถึงสาว ไม่ใช่ป่วยใกล้ตายนะมนุษย์

    “ใครคิดถึงใคร หุบปากไปเลยนะครับ” คิงส์สะบัดหูพรึบพรับ ไม่อยากฟังคำหยอกล้อของลูกฝูงตัวทะเล้นทั้งหลาย ยิ่งเขาทำฮึดฮัดพวกมันยิ่งร้องมอๆ กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่

    พฤติกรรมแบบนี้ไม่น่าจะเป็นพ่อพันธุ์ให้ใครได้เลยจริงๆ

    “ไม่เขินน้า”

    “ใครเขิน”

    “งื้อ แก้มแดงอ่ะ”

    “แดงพ่อง!”

    อุ๊ย! เมมเบอร์หุบปากฉับเหมือนงับกรรไกร รู้กันว่าแหย่มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นโดนคิดบัญชีหนักแน่มึงเอ๊ย เห็นเงียบๆ ซึนๆ แบบนั้นแค้นแรงมากบอกเลย มีครั้งหนึ่งเจ้าคมทัดทานไม่ให้ลูกพี่เดินไปทางทิศตะวันออกเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย แต่บังเอิญว่าจุดที่ต้องกินน้ำมันอยู่ทางทิศตะวันออกพอดี ลูกพี่คิงส์หิวจนทนไม่ไหว ใครขวางแม่งชนอย่างเดียว เดินโทงๆ ไปดื่มน้ำทางทิศตะวันออก ในท้ายที่สุดเหตุร้ายจึงตกมาอยู่ที่เจ้าคมที่ถูกลูกพี่ไล่ขวิดอยู่ทั้งวัน

    เกิดเหตุร้ายจริงๆ ตามคำทำนาย ที่ปรึกษาคมแม่นสุดในตำบลจริงๆ

    “นายพ่อมาอีกแล้วจ้า รอบที่ 5+3 ของวันนี้”

    “ไอ้โง่ บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ตั้งใจเรียน วัวบ้าอะไรนับเลขถึงแค่ 5 เสียชื่อโคกรุ๊ปอันดับ 1 หมด”

    “แรงง่ะ มอๆ งอนแล้ว”

    คิงส์ไม่สนใจเมมเบอร์ที่กำลังกระชับความสัมพันธ์กันอย่างรุนแรงอยู่สักหน่อย เขาเงยหน้าขึ้นมองนายพ่อ ชายวัยกลางคนเดินมาหยุดยืนข้างหน้าคอกของเขา ยื่นมือมาลูบใบหน้าเขาเบาๆ อย่างอาทร

    “เป็นอะไรบอกพ่อสิครับ”

    “....” คิงส์สบตานายพ่อ ถอนหายใจเบาๆ บอกไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

    “เป็นแบบนี้พ่อรู้สึกไม่ดีเลยลูก” พูดๆ ไปน้ำตาก็จะไหล “อยากได้อะไรเดี๋ยวพ่อหามาให้”

    คิงส์ยืนนิ่ง

    “หญ้าไม่ถูกปากเหรอ หรือก้อนเกลือแร่มันเค็มเกินไป” เสี่ยครามเห็นคิงส์ปัดหางไล่แมลงเล็กๆ ไปมาอย่างรำคาญก็ทำตาโตประดุจค้นพบทฤษฎีอันยิ่งใหญ่ “เอาคอกใหม่ไหม แบบติดแอร์ หรือว่าจะเอาสมาร์ททีวีสักเครื่องดี แบบที่ดูยูทูปเล่นเน็ตได้น่ะ หรือว่า...”

    พรืด! คิงส์พ่นลมอย่างแรง 

    เสี่ยครามยืนทำตัวไม่ถูก เขาเป็นห่วงเจ้าคิงส์มันจริงๆ นะเนี่ย ขนาดลูกในไส้ป่วยยังไม่ดูแลดีขนาดนี้เลย เขาเดินไปเดินมาอย่างคิดไม่ตก ไม่รู้จะทำยังไงกับอาการผิดปกติของลูกชายสุดรักตัวนี้

    “หรือว่า...” วัวทุกตัวเงยหน้าชันหูรอฟัง “คิงส์อยากมีเมีย!”

    คิงส์ยืนนิ่งค้าง เริ่มเป็นฝ่ายทำหน้าไม่ถูก เขาไม่ทันได้คิดถึงขั้นนั้นเสียหน่อย

    ผิดกับทางฝั่งเมมเบอร์ที่คึกคักกันขึ้นมาทันทีที่นายพ่อเดาได้ถูกประเด็น พวกมันร้องมอๆ ประสานเสียง เร่งเร้าบอกนายพ่อให้สู่ขอสาวน้อยตัวดำมาให้ลูกพี่ตอนนี้เลย

    เสี่ยครามเริ่มรู้สึกว่าความคิดตัวเองเข้าท่าเมื่อได้รับเสียงเชียร์จากวัวตัวอื่นๆ อยู่ด้วยกันมานานก็พอรู้นิสัยใจคอกันพอสมควร ลักษณะแบบนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้ว!

    คิงส์อยากมีเมียก็บอกกันดีๆ สิลูก ทำให้พ่อเป็นห่วงแทบตายกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นอาทิตย์เลยไอ้เสือ

    “ลูกสาวบ้านไหนกัน” เสี่ยครามถามต่อ เริ่มครุ่นคิดถึงวัวสาวรุ่นตัวงามของเพื่อนบ้าน บางทีอาจจะเป็นเจ้าบัวชมพู วัวสาวสีแดงอายุหนึ่งปีของลุงแก้มไร่ข้างๆ หรือว่าจะเป็นสีนวล ตัวเมียสีขาวหน้าตาสวยๆ แต่มีลูกติดแล้ว 1 ตัว หรือบางทีคิงส์อาจจะชอบสีดำเหมือนตัวเอง ก็อาจจะเป็นน้องนิลที่อยู่ไร่ถัดไป

    “เอาอย่างนี้” เสี่ยครามตบมือเสียงดังเรียกความสนใจทีหนึ่ง คิงส์หันมาตั้งใจฟัง “พรุ่งนี้เช้าพ่อจะพาไปเลือกเมีย! อยากได้ตัวไหนตามใจเลย”

    “ม้ออออ..” เมมเบอร์ THE KINGS ร้องเฮดีใจกันยกใหญ่

    เสี่ยครามหัวเราะร่า ตบสีข้างคิงส์เบาๆ แล้วเดินจากไป คิงส์ยังคงยืนหน้านิ่งทั้งที่ใจกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดถึงเจ้าตัวสีดำที่ชื่อหนูเล็กขึ้นมา

    พรุ่งนี้ก็จะได้เจอแล้วสินะ 

     

     สายวันต่อมาเสี่ยครามเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาหาลูกชายตัวโปรด หนุ่มใหญ่กล่าวทักทายพ่อพันธุ์วัวของตนตั้งแต่คอกแรกและคอกต่อๆ มาอย่างอารมณ์ดี มองสำรวจไปทั่วก่อนจะหยุดอยู่ที่จ่าฝูงสีดำตัวโตที่ยังนอนหลับตาเคี้ยวเอื้องไม่สนโลก แต่เดี๋ยวก็ต้องสนแล้วล่ะ หึๆ

    มือหนาหยิบสมาร์ทโฟนสุดหรูออกจากกระเป๋ากางเกง จิ้มๆ เขี่ยๆ สักพักก็ฉีกยิ้ม ภาพแม่วัวสาวพันธุ์ดีที่เขาไปแอบถ่ายตั้งแต่เช้าปรากฎบนจอ มีทั้งเจ้าบัวชมพู เจ้าสีนวล เจ้าสำลี เจ้านิล และตัวอื่นๆ อีกเยอะแยะจนเลื่อนดูไม่หวาดไม่ไหว ก็เขาน่ะไปเอ่ยปากทาบทามวัวสาววัยเจริญพันธุ์ในตำบลนี้มาแล้วทุกตัว เหลือก็แค่ให้เจ้าคิงส์ชี้นิ้วเลือกแค่นั้น เอ่อ.. ไม่มีนิ้วนี่หว่า เอาเถอะๆ จะเอาเมียกี่ตัวพ่อพร้อมสนับสนุนเต็มกำลัง

    เพื่อความสุขของลูก พ่อยอม!

    “คิงส์... มาดูสินี่อะไรเอ่ย” พูดพร้อมกับแกว่งโทรศัพท์ในมือไปมา คิงส์ชันหูขึ้นลืมตามองภาพเล็กๆ บนจออย่างเย็นชา แต่นั่นไม่ทำให้เสี่ยครามหมดความพยายาม เขาเดินไปทรุดตัวลงข้างคอกฝั่งที่ใกล้ลูกชายที่สุดแล้วยื่นหน้าจอไปให้ดู บรรยายแนะนำวัวสาวแต่ละตัวพร้อมกับไถหน้าจอให้ดูประกอบ

    คิงส์ฟังหูซ้ายทะลุหูขวาไม่คิดสนใจสาวๆ พวกนั้น แต่ละนางมีแต่ตัวผอมๆ ไม่รู้ว่าจะมีสารอาหารมีน้ำนมพอเลี้ยงลูกหรือเปล่า เฮ้อ.. เอาเวลาคิดหาผัวไปขุนตัวเองก่อนเถอะนะหนูๆ

    กว่านายพ่อจะพร่ำพรรณนาเสร็จเขาก็เกือบหลับไปอีกรอบ 

    “ป่ะ ลุกๆ”

    คิงส์ลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน ยืดตัวบิดกายนิดหน่อยแล้วเดินออกจากคอกตามแรงจูงของนายพ่อ เสียงเจ้าพวกจอมทะเล้นทั้งหลายร้องมอๆ หยอกแซวดังมาตลอดทางว่าลูกพี่คิงส์จะมีเมีย แถมยังมีการปรึกษากันอีกด้วยว่าคืนนี้จะจัดปาร์ตี้สละโสดกันอย่างไรดี

    คิงส์ตวัดสายตาดุใส่พวกมันจึงสงบอาการขึ้นมาบ้าง

    เขาเดินสายดูตัวแม่วัวสาวกับนายพ่อไปทั่วหมู่บ้าน ยิ่งดูยิ่งเหนื่อยยิ่งหงุดหงิด ออกอาการซังกะตายจนนายพ่อเริ่มยิ้มไม่ออก 

    “เรากลับบ้านกันก่อนดีกว่าเนอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะพาไปอีกหมู่บ้านละกัน ที่นั่นมีสาวๆ สวยๆ เยอะเลย”

    คิงส์กลอกตามองบน นึกว่าจะสิ้นสุดกันแค่ที่ตรงนี้ เขาเดินนำนายพ่อกลับบ้านอย่างเร็วเพราะกลัวนายพ่อจะพาแวะหาสาวบ้านไหนอีก 

    “แน่จริงก็ไล่ให้ทันสิ ไล่ให้ทัน แบร่..”

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะคะอิโนะอุเอะ”

    “ไม่หยุดหรอกนะคะ”

    “เหนื่อยแล้วนะ ถ้าไม่หยุดดิฉันจะฟ้องจ่าฝูงวัวฝั่งนั้นแล้วนะว่าเธอแอบชอบเขา”

    “บอกก็บอกฮิฮิ”

    แว่วเสียงลงกีบเท้ากับทั้งถนนดังกุบๆ ใกล้เข้ามาพร้อมกับการโผล่พ้นหัวมุมของเจ้าตัวอ้วนสีดำที่ชื่อหนูเล็ก เจ้าตัวพาร่างกลมๆ วิ่งกระโดกกระเดกหูลู่ตรงมา ดูเหมือนจะเล่นวิ่งไล่จับกับเพื่อนสาวอีกตัว 

    “หยุดๆ” ดูเหมือนเพื่อนสาวของหนูเล็กจะเห็นเขาก่อน เธอเบิกตาโตตกใจ

    “ไล่ไม่ทันอ่ะดิ ฮี่ๆ” 

    หนูเล็กยังคงสับขาวิ่งแต่ดันไม่มองทาง และยังคงมองไม่เห็นเขาซึ่งยืนจังก้าอยู่กลางถนน คิงส์ขมวดคิ้วทั้งโมโหทั้งระอาใจ จนกระทั่งเจ้าตัวอ้วนวิ่งใกล้เข้ามาเขาจึงหลบลงข้างทาง หากจะให้ยืนรอรับเหมือนพระเอกในละครที่นายแม่เคยพูดให้ฟังก็คงจะไม่ไหว

    เหลียวกลับไปมองด้านหลังเห็นหนูเล็กหยุดวิ่งแล้วหันกลับมาพอดี ส่วนเพื่อนสาวของเธอก็เลิกวิ่งตามแล้วยืนมองอยู่ห่างๆ เสี่ยครามก็เช่นกัน เห็นลูกชายแสดงอาการแปลกๆ ก็เลยเลือกสังเกตการณ์ไว้ก่อน

    “ไงหนูเล็ก” คิงส์เอ่ยปากทักก่อน เสียงร้องมอสั้นๆ นั้นทำเอาเสี่ยครามหูกระดิก ตั้งแต่เช้ามาเขาก็เพิ่งได้ยินเจ้าคิงส์ร้องนี่ล่ะ แล้วทำไมต้องมาร้องทักควายด้วยล่ะ ประหลาดเกินไปแล้ว

    หนูเล็กยิ้มแหย ค่อยเดินกระมิดกระเมี้ยนกลับมา เจอพี่คิงส์ทีไรหนูเล็กชอบทำตัวขายหน้าทุกทีเลย “ส..สวัสดีค่ะ”

    “...”

    “แฮะๆ”

    “ไม่ได้มากับฝูงเหรอ”

    “มาค่ะๆ พวกเขากำลังตามมา หนูกับพี่สาววิ่งเล่นนำมาก่อน”

    “ถึงทุ่งแล้วค่อยเล่น บนถนนมันอันตราย”

    หนูเล็กพยักหน้าแล้วยิ้มกลบเกลื่อนความอาย พลันเสียงเดินของฝูงก็แว่วมาใกล้ พ่อทนเดินนำมาเหมือนทุกที แต่คราวนี้มองลูกสาวจอมดื้อตาดุเชียว หนูเล็กเดินหลบไปแอบๆ ข้างหลังพี่คิงส์ ถึงจะซ่อนพุงกลมๆ ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็อุ่นใจนะ

    “หนูเล็กมานี่” 

    เสียงเข้มเชียวน้า หนูเล็กค่อยๆ ขยับออกมายืนข้างๆ พี่คิงส์ เจอสายตาดุๆ ของพ่อทนตวัดใส่ก็วิ่งเข้าไปหลบหลังพี่สาวซึ่งยืนอยู่ใกล้ที่สุด

    ถึงจะดื้อจะซนยังไงก็ยังคงเชื่อฟังพ่อทนมากที่สุดอยู่ดี ก็เวลาดุน่ะน่ากลัวจะตายไป

    สีทนมองเพื่อนต่างสายพันธุ์นิ่ง “ไง”

    “ก็ดี”

    “อืม” จ่าฝูงควายอย่างเขาไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับจ่าฝูงวัวอย่างเจ้าคิงส์นักหรอก ปกติแล้วเราก็ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องข้องแวะกัน ยิ่งเห็นสายตาแปลกๆ ของมันตอนมองลูกสาวของเขาก็ยิ่งไม่อยากอยู่ใกล้ 

    ดูอ่อนโยนเหรอ ดูเอ็นดูเหรอ ดูเหมือนจะกลืนกินเหรอ สยองว่ะ เจ้าฝูงวัวถึกพวกนี้อยู่เป็นโสดโดดเดี่ยวจนจะกลายเป็นโรคจิตไปแล้ว 

    วันนี้ได้ยินแว่วมาว่าออกดูตัว แต่ดูท่าแล้วคงจะล้มเหลว ดูจากสายตาของมันตอนมองหนูเล็กเขาก็พอรู้ คนละพันธุ์โว๊ยคนละพันธุ์ ลูกสาวกูเป็นควายส่วนมึงเป็นวัว

    ไอ้คิงส์ ไอ้วัวโรคจิต

    “พวกเราเดินเร็วๆ หน่อย” สีทนหันไปบอกลูกฝูงส่วนตัวเองอยู่ยืนดูเชิงเจ้าคิงส์มันก่อน พูดตรงๆ ก็ไม่ใช่จะหวงหนูเล็กอะไรหรอกเพราะโตขึ้นก็ต้องมีผัวมีคู่เป็นธรรมชาติของเราๆ ท่านๆ แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นสายพันธุ์เดียวกันป่ะวะ 

    พอลูกฝูงตัวสุดท้ายเดินผ่านไป จ่าฝูงอย่างสีทนจึงเดินตามปิดท้ายขบวน ตั้งใจใช้ร่างใหญ่โตบดบังพวกมันจากสายตาชั่วร้ายด้านหลัง

    “มึงไม่ต้องมองเลยนะ”

    “หึ”

    คิงส์มองหนูเล็กเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหันกลับมาเจอสายตาประหลาดของนายพ่อ นึกอย่างไรไม่รู้จึงพยักเพยิดหน้าไปทางควายฝูงนั้นทีหนึ่ง เห็นนายพ่อยังทำหน้างงก็พยักเพยิดไปอีก 2 ที คราวนี้นายพ่อกระพริบตางุนงงครู่หนึ่งแล้วเบิกค้าง

    “น..นี่ๆ คิงส์” เสี่ยครามมองหน้าลูกชายสุดรักสลับกับควายฝูงนั้นซึ่งมีเจ้าของเป็นคนรู้จักกันดีในหมู่บ้าน “คิงส์อยากมีเมียเป็นควายเหรอลูก”

     คิงส์หลบตา ถึงมันจะดูผิดแผกไปบ้างแต่เขาก็ให้โอกาสตัวเองโดยการยอมไปดูตัวแม่วัวสาวจนครบทั้งหมู่บ้านแล้วนะ จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครทำให้ใจเต้นเท่าเจ้าตัวอ้วนนั่นเลย

    “เอาจริงเหรอ” เสี่ยครามมองเขาแล้วพึมพำกับตัวเองเหมือนคนที่ยังหาสติไม่เจอ “จริงเหรอเนี่ย หรือกูบ้าคิดไปเองวะ”

    เสี่ยครามเดินกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหลือบมองเจ้าคิงส์ที่ยังคงทำหน้าตายเหมือนเดิมก็ได้แต่ถอนหายใจ พอกลับถึงบ้านก็วิ่งโร่ไปปรึกษาลูกเมียได้ความว่าลองนำไปเลี้ยงปะปนกับควายฝูงนั้นดู

    เอาก็เอาวะ

    สายๆ เสี่ยบอกว่าจะรับหน้าที่พาฝูงวัวเงินล้านลงทุ่งไปสมทบกับฝูงควายลุงผาน พอหนุ่มๆ วัวพ่อพันธุ์ได้ยินอย่างนั้นจึงตั้งตารอเป็นอย่างมาก ทันทีที่คอกเปิดก็พากันเฮโลไปหาลูกพี่คิงส์ ตกลงกันเสร็จสรรพว่าใครจะเดินหน้าเดินหลังหรือเดินเคียงเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว

    “พร้อมนะ”

    “ค๊าบ”

    “พร้อมแล้วก็... โห่..ฮี โห่ ฮี โห่ ฮี โห่ โหยยยยย!”

    “มอออออออ..”

    คมกับครีมเดินนำหน้า เจ้าคานส์ตัวยุ่งเดินวนไปวนมาข้างๆ ผู้เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ ส่วนตัวอื่นๆ เดินอย่างเป็นระเบียบตามหลังมา เลียนแบบขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวมนุษย์ที่เคยเห็นในหมู่บ้าน

    สิ้นสุดถนนใหญ่ประจำหมู่บ้านเป็นท้องนาที่เต็มไปด้วยหญ้าเขียวชอุ่ม  แต่ละตัวต่างไม่น้อยหน้า เดินผ่านกอหญ้างามๆ ก็รวบกัดมาคาบไว้ ถือเป็นค่าใต้โต๊ะ เอ๊ย! ของขวัญต้อนรับว่าที่ผู้คุมฝูงตัวใหม่ วินาทีนี้เป็นใครก็ต้องทำตัวให้น่าเอ็นดูเข้าไว้จึงจะถือว่าอยู่เป็น 

    ภาพที่ออกมาจึงน่าประหลาดอยู่บ้าง กับภาพฝูงวัวที่คาบหญ้าไว้เต็มปากเต็มคำ ยกเว้นลีดเดอร์ที่ไม่ยอมคาบ เพียงเอาเส้นหญ้ายาวๆ พวงใหญ่มาห้อยคล้องคอไว้ ดูไปดูมาก็คล้ายเจ้าบ่าวจริงๆ

    สิบนาทีต่อมาก็ถึงพื้นที่เป้าหมาย คมกับครีมยืนมึนอยู่หน้าฝูงควายที่กำลังผงกหัวมองพวกเขาอย่างงงๆ เช่นกัน หน้าตาเหมือนกันหมดเลยวุ้ย สองหนุ่มที่อาสาเป็นเฒ่าแก่ของงานนี้มองหน้ากัน

    “ดูข้อเท้า” คิงส์เอ่ย

    ครีมหูกระดิก มองสอดส่ายหาข้อเท้าขาวๆ ของเหล่าตัวเมีย แต่กอข้าวมันก็บังอยู่ไหม เป็นแบบนี้ต้องเดินดูทุกตัวเลยหรือเปล่า

    คิงส์ถอนหายใจ เดินฉีกออกจากฝูงไปยังเจ้าอ้วนที่กำลังนอนเหยียดขาบิดกายอยู่ไม่ไกล พุงก็กลมจนแทบแตกยังเคี้ยวหยับๆ ได้ไม่หยุดเลยนะเจ้าอ้วน

    “พี่คิงส์” ดูซิ ยิ้มแป้นแล้นใหญ่เชียว 

    “ทำอะไรอยู่”

    “กิน” ว่าแล้วก็กัดยอดหญ้าใกล้ๆ โชว์เสียเลย

    อืม.. สั้นได้ใจความดี “พวกพี่มีของมาฝาก”

    “ไหนๆ” พอได้ยินว่ามีของฝากก็รีบยืนทันทีเลยนะ

    คิงส์หันหลังไปหาลูกน้อง พวกนั้นรีบออกมาแสดงตัวกันใหญ่ วางหญ้าไว้แล้วก็ทักทายเจ้าควายอ้วนเสียงเซ็งแซ่ แต่ฟังไปฟังมาก็คล้ายกับคำอวยพรคู่แต่งงานชอบกล

    “ยินดีต้อนรับสู่ The KINGS จ้า”

    “เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอะไรก็ปรึกษาพวกเราได้นะครับ”

    “มีความสุขมากๆ น้า”

    “ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ ลูกหลานเต็มคอกนะครับ”

    ไม่ว่าใครจะพูดอะไรหนูเล็กก็กล่าวขอบคุณเสียงหวาน ในดวงตากลมโตเกิดเป็นเงาสะท้อนยอดหญ้าอ่อนสีเขียวระยิบระยับ ดูก็รู้ว่าไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไรเลยไอ้เจ้าอ้วน คิงส์ส่ายหน้าถอนหายใจเมื่อเมมเบอร์ตัวสุดท้ายอวยพรสิ้นสุดลง ในตอนนั้นแหละที่หนูเล็กเงยหน้าขึ้นมองซ้ายมองขวาและหันมาเห็นเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ พอดี พอเห็นพวงหญ้าบนคอหน่อยก็ยิ้มแฉ่งตาเยิ้มเชียว

    “ใจดีกันจังเลยค่ะ”

    คิงส์พยักหน้า หางตาเหลือบเห็นเจ้าสีทนกำลังย่ำเท้าเดินวนไปมาอยู่กับที่ สีหน้ากระวนกระวาย คงเพราะถูกผูกไว้เลยเดินมาไม่ได้ เหอะๆ 

    “อย่ามายุ่งกับลูกกูนะไอ้คิงส์  มึงพาพรรคพวกออกไปไกลๆ ฝูงกูเลย หนูเล็กอย่าเข้าใกล้มันลูก”

    “พี่คิงส์ไม่ทำอะไรหนูหรอกค่ะพ่อ พี่เขาใจดี”

    “หนูเล้กกกกก”

    “ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ”

    “ลูกกกกก... แง้ะ!”

    คิงส์เลิกสนใจเจ้าสีทน เขาเคียงคอให้หนูเล็ก บอกให้เธอกินหญ้าที่ตนนำมาให้ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลย คอสั้นๆ พยายามยืดขึ้นมาดึงพวงหญ้าแล้วเคี้ยวกร้วมๆ อย่างน่าเอร็ดอร่อย ดูแล้วเพลินตาเพลินใจดี แม้แต่เสียงโวยวายของเจ้าสีทนก็กลายเป็นอากาศไป

    “ชอบไหม”

    “มากกกกก”

    “อยากกินอีกไหม”

    “ยังมีอีกเหรอคะ” หนูเล็กมองสอดส่ายหาพวงหญ้าแบบเดียวกันกับที่เพิ่งกินไป แต่ในกองที่เพื่อนของเขาเอามาฝากก็มีแต่หญ้าแบบอื่น ถึงจะอร่อยเหมือนกันแต่ก็ไม่สู้อันที่เพิ่งกินหมดไป ต้องบอกว่าหญ้าพันธุ์นั้นหนูเล็กชอบมากๆ รองจากยอดบึงอ่อนเลยนะ

    “มีสิ”

    หนูเล็กตาวาว

    “ที่ฟาร์มนายพ่อมีเยอะเลย” ล่อลวงขั้นสุด

    “จริงเหรอคะ” ทำหน้าตื่นเต้นได้ครู่เดียวก็เจื่อนลง ถ้าเจ้าของไม่พาไปหนูเล็กก็ไปไม่ได้อยู่ดี

    “ถ้าไปได้... จะไปไหม”

    หนูเล็กพยักหน้าหงอยๆ ก่อนจะก้มลงไปกินหญ้าในกองของฝาก ส่วนคิงส์ก็ยิ้มอยู่เงียบๆ อย่างสมใจ

    ไม่รู้เจ้านายมนุษย์ไปคุยกันอีท่าไหน หนูเล็กถึงได้เดินตามแรงจูงของเสี่ยครามกลับฟาร์ม The KINGS อย่างงงๆ ในตอนเย็น ความจริงก็กลัวนะแต่เมื่อนึกถึงหญ้าหวานๆ ก็จำต้องทนอีกสักหน่อย ตั้งใจว่าพอได้กินเสร็จก็จะกลับบ้านทันที เห็นอย่างนี้หนูเล็กจำทางกลับบ้านเก่งนะจะบอกให้ พอออกจากฟาร์มก็ต้องเลี้ยวขวา เดินตรงไปอีก 2 แยก จากนั้นเลี้ยวขวาอีกทีก็จะถึงทุ่งนา...

    เอ๋?

    พอถึงทุ่งนาแล้วค่อยนึกทางกลับคอกใหม่แล้วกัน

    ความเคยชินที่ต้องอยู่รวมฝูงกับเพื่อนๆ ทำให้หนูเล็กไม่ยอมเดินเข้าคอกเดี่ยวเล็กๆ ที่ถูกจัดไว้ให้ ส่วนคิงส์ก็คอยแต่ชะเง้อชะแง้มองมาทั้งที่ก็ห่างกันแค่ไม้กั้นเท่านั้น 

    ความรักนี่มันเหลือเกินจริงๆ เสี่ยครามถอนหายใจ เดินมาเปิดคอกพาคิงส์ไปคอกหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามาก คงพอสำหรับหนุ่มสาวสองตัวนี้อยู่กินแบบไม่แออัดเกินไป สั่งลูกน้องให้หาหญ้าหาน้ำมาจัดไว้ให้จากนั้นก็ลูบสีข้างคิงส์เบาๆ

    อยากได้อะไรพ่อก็ให้หมดแล้วนะเจ้าลูกชาย ที่เหลือจัดการเองละกัน 

    หนูเล็กมองตามเสี่ยครามไปจนลับตาแล้วจึงหันกลับมาสำรวจที่อยู่ใหม่อย่างตื่นเต้น ที่นี่สะอาดมากๆ น้ำก็ใส หญ้าก็งาม 

    “แต่มันไม่ใช่หญ้าพันธุ์นั้นนี่นา”

    “กินอันนี้ไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไป”

    “จริงนะคะ”

    คิงส์พยักหน้า ก้มลงดุนดันหญ้าในรางฝั่งของตนไปให้หนูเล็ก “กินเถอะ”

    “ขอบคุณน้า” ว่าแล้วก็ก้มลงกินอย่างมีความสุข ใจเฝ้ารอไปถึงวันพรุ่งนี้

    “...” คิงส์ยิ้มเงียบๆ แล้วก้มลงกินหญ้าเช่นกัน

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×