คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 หลิน
ตอนที่
9
หลิน
เฮอร์ไมโอนี่นั่งทานอาหารกลางวันเงียบๆ
คนเดียวท่ามกลางนักเรียนประปรายของฮอกวอต นักเรียนหลายคนยังไม่กลับจากสนามควิดดิชรวมทั้งพวกนักกีฬาจากแต่ละบ้านด้วย
สงสัยนักเรียนหายตัวไปโดยที่ไม่มาทานอาหารกลางวันทั้งที่มันถึงเวลาแล้วคงจะรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
พวกนักกีฬาคงไปสังเกตกลยุทธ์ของบ้านอื่นๆ
ส่วนพวกสามสาวกริฟฟินดอร์คงหายหน้าไปเชียร์เอลดริก ดิกกอรี่อยู่แน่ๆ
ลูเซียน่าอาจโดนลากไปด้วย
เฮอร์ไมโอนี่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตขณะยกแก้วน้ำฟักทองขึ้นดื่ม
ส่วนหูยังคงได้รับเสียงพูดคุยพึมพำไม่เป็นภาษาจากคนอื่นๆ
ทว่ากลับมีเสียงดังของคนกลุ่มหนึ่งดังชัดกว่าคนอื่นๆ
ที่มาของเสียงมาจากอีกฟากหนึ่งของห้องโถง
“แซงก์ทิส
บอกหน่อย เท่าที่นายเล่ามา นายบอกว่าอยู่สวีเดนแต่ไปเรียนไกลถึงบัลแกเรียเชียวเหรอ”
เสียงหนึ่งลอยดังเข้ามากระทบหูเป็นเสียงที่ไม่คุ้นหู
เฮอร์ไมโอนี่จึงชำเลืองสายตาขึ้นมอง เห็นด้านหลังของเด็กหนุ่มผมยุ่งสีดำสนิท
ดูจากด้านหลังแล้วกลับคุ้นตา ท่าทางการนั่งเช่นนั้นราวกับว่าเธอกำลังมองซิเรียส
แบล็กผู้ที่ตายไปแล้วอยู่ คงเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นคนจากตระกูลแบล็ก
ส่วนมัลฟอยนั้นก็ยิ้มตอบแหยๆ
ให้ก่อนกุเรื่อง “พ่อฉันเป็นคนบัลแกเรียน่ะ
เขาจบจากเดิร์มแสตรงก์เลยอยากให้ฉันเข้าเรียนที่นั่นเหมือนเขา”
“งั้นทำไมนายถึงย้ายมาเรียนฮอกวอตเอากลางคัน”
เอเวอรี่ถามต่อราวกับพยายามคาดคั้นคำตอบ
เดรโกตีหน้าเศร้า
“พ่อฉันเพิ่งเสียไปด้วยโรคไข้มังกรน่ะ
มันเศร้าเกินไปที่จะเรียนที่นั่นต่อไปเพราะมันชวนให้ฉันนึกถึงพ่ออยู่ตลอดเวลา
แม่จึงคิดว่าฉันควรย้ายมาเรียนที่ฮอกวอตจะเป็นการดีกว่า”
“นายดูสนิทกับพ่อแม่มากเลยนะ”
คอว์ริส มัลฟอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเชิงเหยียดหยามและไม่รู้ถึงคำสั่งใหม่จากผู้นำในสมาคมลับของพวกเขา
ทอมไม่รวมมัลฟอยอยู่ในแผนด้วยเพราะเขาหยิ่งทระนงตนเกินไป
คิดว่าตนเป็นเลือดบริสุทธิ์อันสูงส่งและร่ำรวยที่สุดในอังกฤษ
คอว์ริสจึงไม่เหมาะกับแผนตีสนิทแซงก์ทิสเสียเท่าไรนัก
แองกวิส
แซงก์ทิสแค่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้โดยไม่ได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้นอีกเพราะคงรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงในด้านลบของมัลฟอย
ทอมเห็นดังนั้นแล้วจึงตวัดสายตาใส่รอนิอัส แบล็กให้เขาหยุดมัลฟอยและทำตามแผนการซะ
ส่วนเด็กหนุ่มผมสีดำยุ่งๆ คนนั้น
หลุบสายตาลงต่ำเป็นภาษากายบอกทอมว่าเขารับทราบคำสั่งแล้ว
รอนิอัสเงื้อแขนกอดคอเพื่อนนักเรียนคนใหม่
“นายยังคงไม่รู้จักทุกคนในนี้ ฉันจะแนะนำให้รู้จัก”
เขาว่าพลางชี้นิ้วไปยังผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามทุกคน “นั่นโดโลฮอฟ
รู้ควู้ดและเอเวอรี่” แล้วชี้นิ้วกลับมายังฝั่งที่ทั้งสองนั่งอยู่ “นั่นทอม
พรีเฟ็คปีหกบ้านเรานายคงรู้จักแล้ว” เขาหันนิ้วชี้ไปทางขวาของเขาแทน
“คนนี้มัลฟอยและเลสแตรงค์”
เดรโกโบกมือทักทาย
หลายคนทักทายตอบแสดงความเป็นมิตร
พวกเลือดผสมบางคนก็จำใจต้องทำเพราะไม่กล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกเลือดบริสุทธิ์หรืออาจจะยกเว้นทอม
ริดเดิ้ลไว้คนหนึ่ง
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะหลังหนังสือพิมพ์เมื่อเห็นสายตาขลาดกลัวจากพวกผู้เสพความตายในอนาคต
เมื่อทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญ
เฮอร์ไมโอนี่พับหนังสือพิมพ์เก็บให้เรียบร้อยและหยิบสมุดบันทึกวิชาอักษรรูณโบราณขึ้นมาอ่านพลางๆ
รอเวลานัดหมายของทอม
ขณะเดียวกันนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์เกือบทุกคนพากันจับกลุ่มคุยเสียงดังเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่
เรียกความสนใจจากนักเรียนบ้านอื่นหลายคน
สามสาวเดินมานั่งตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่สองคนส่วนลูเซียน่านั่งลงข้างเธอ
ทันทีที่สามสาวเห็นสมุดบันทึกเรียนต่างก็อุทาน “ไม
เธอจะมาขยันเรียนตอนนี้ไม่ได้นะ” ดาโกต้าเอ่ยก่อนคนแรก
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว
“ทำไมตอนนี้ไม่ได้ล่ะ”
“ไม
นี่ใกล้แข่งควิดดิชนัดสำคัญแล้วนะ กริฟฟินดอร์เจอกับเรเวนคลอ ปีนี้เราจะโค่นแชมป์
ควิดดิชอย่างพวกสลิธีรินลงให้ได้ ปีนี้พวกนั้นจะต้องเสียแชมป์
ทุกคนในกริฟฟินดอร์จะเชียร์อย่างสุดกำลังกายและกำลังใจ” เอมิเลียเสริม พลางแงะไข่แดงสุกบนไข่ขาวของไข่ดาว
“ไม่ต้องฟังสองคนนี้มากหรอกไม
ขยันเรียนคือสิ่งที่สองคนนี้ทำไม่ได้เลยจะดึงเธอให้เป็นพวก”
ลูเซียน่าพูดแทงใจดำสองสาวตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่จนทั้งสองร้องทักท้วงเสียงดัง
ดาโกต้าแกล้งโยนลูกเบอร์รี่ใส่เด็กสาวผมบลอนด์
ส่วนลูเซียน่าเองก็ใช่ว่าจะยอมโดนแกล้งอยู่ฝ่ายเดียว เธอจึงโยนลูกองุ่นใส่หน้าของเด็กสาวผมแดง
เป็นสงครามเล็กๆ
บนโต๊ะอาหารที่นานครั้งจะได้เห็นรอยยิ้มจากเด็กสาวผมบลอนด์ผู้เคร่งเครียดกับตำราเรียนตลอดเวลา
เอมิเลียและเอไรออนปรบมือหัวเราะเชียร์
เฮอร์ไมโอนี่เห็นเพื่อนสนุกสนานแล้วตนเองก็อดที่จะยิ้มและหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้
มันนานเท่าไรแล้วนะตั้งแต่โวลเดอมอร์กลับสู่อำนาจและศาสตร์มืดแผ่ขยายปกคลุมโลกเวทมนต์
นานเท่าไรแล้วนะที่เธอเริ่มออกตามหาฮอร์ครักซ์กับแฮร์รี่และรอน
นานเท่าไรแล้วนะที่เธอไม่ได้ยิ้มและหัวเราะกับเพื่อนๆ แบบนี้
อาจจะเรียกได้ว่าครั้งนี้คือครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
+---+
ณ
อีกฟากหนึ่งของห้องโถง
นักเรียนบ้านสลิธีรินหันมองบรรยากาศของบ้านกริฟฟินดอร์ก่อนหันมาพึมพำนินทากันสนุกสนาน
แม้แต่กลุ่มของทอมเองก็ไม่เว้น
“พวกเลือดชั้นต่ำ
ส่งเสียงดังน่ารำคาญ!”
มัลฟอยพูดน้ำเสียงแทบจะคำราม
“เฮอะ
นายจะสนใจทำไมมัลฟอย เมื่อไรก็ตามที่เราประสบความสำเร็จ
พวกนั้นจะต้องเปลี่ยนจากหัวเราะเป็นกรีดร้องแทนล่ะนะ”
เลสแตรงค์ว่าพลางหัวเราะเสียงเย็น
มัลฟอยหันมาเอ่ยสนับสนุนเพื่อนเลือดบริสุทธิ์เต็มที่
ทอมมองสีหน้าหยิ่งทระนงจากสองคนนั้นแล้วรู้สึกภายในกายเริ่มคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะ
รอนิอัสคงรู้สึกได้จึงสงบปากสงบคำอย่างยิ่ง ทอมรวบช้อนส้อมก่อนลุกขึ้นยืน
“ถึงเวลาที่ฉันต้องแนะนำปราสาทให้นายรู้จักแล้ว”
เขาพูดกับแซงก์ทิสโดยตรง ดวงตาสีเทาซีดปรากฏร่องรอยหวาดหวั่น
เดรโกพยักหน้าและลุกขึ้นยืนตามทอมไปรอที่ประตูทางเข้าของห้องโถงขณะว่าที่จอมมารเดินไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
ตำแหน่งที่เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์นั่งหัวเราะกับเพื่อนอยู่
เขาเดินมาหยุดด้านหลังเด็กสาว
กริฟฟินดอร์ทุกคนหยุดหัวเราะ บรรยากาศสนุกสนานเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นมืดทะมึน
รังสีของความเป็นศัตรูพุ่งปะทุออกมาจากตัวกริฟฟินดอร์ทุกคนทว่ามีหรือที่คนอย่างทอม
ริดเดิ้ลจะสนใจหรือสะทกสะท้าน
“คุณเคลียร์วอเตอร์
ถึงเวลาแล้ว” ทอมเอ่ยเสียงเรียบ เพเนโลพีถอนหายใจอีกแล้ว! ทำไมแทบจะทุกครั้งที่เขาเข้าคุยด้วย
หล่อนถึงต้องถอนหายใจราวกับเบื่อหน่ายเขายังงั้นแหละ! เพลิงโทสะที่แต่เดิมกำลังคุกรุ่นคราวนี้ดูท่าจะปะทุเสียแล้วและมันแสดงออกมาทางสีหน้าของเขา
ใบหน้าที่แต่เดิมเองก็เรียบเฉยอยู่แล้วกลับยิ่งเฉยชามากขึ้นไปอีก
เพเนโลพีหันไปกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของลูเซียน่าก่อนลุกขึ้นเดินผ่านเขาไปยืนตรงหน้าห้องโถง
ยืนกันคนละฝั่งกับแองกวิส แซงก์ทิสและสองนักเรียนใหม่ปีหกก็ไม่มองหน้ากันเลยแม้แต่น้อย
อย่างน้อยทอมคงมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าสองคนนี้ไม่มีทางรู้จักกันมาก่อนแน่นอน
ทว่าทอมกลับคาดคะเนผิดไปอย่างมหันต์
เฮอร์ไมโอนี่กำลังเดินตามหลังสองหนุ่มพลางมองพฤติกรรม
ท่าทางแสร้งเป็นประหลาดใจหรือหวาดกลัวในความกว้างขวางใหญ่โตของปราสาทหรือป่าต้องห้ามพื้นที่ที่ซึ่งค่อนข้างอันตรายต่อนักเรียนทุกคนถึงชีวิต
ขณะมองเฮอร์ไมโอนี่ได้เหลือบตามองขึ้นบนไปไม่ต่ำกว่าสิบรอบแล้ว
เมื่อหันมองไปหาทอมก็ดูเขาไม่ได้ระวังตัวหรือระแคะระคายสงสัยในตัวของแองกวิส
แซงก์ทิสเลยแม้แต่น้อย
ไม่ได้ผิดไปกับที่คาดไว้สักเท่าไร
ทอมหรือโวลเดอมอร์มีนิสัยที่เรียกได้ว่ามั่นใจในตัวเองสูง เขามักจะประเมินคนอื่นๆ
หรือคู่ต่อสู้ต่ำกว่าเสมอ บางครั้งก็อาจทำให้เขาพลาดได้หลายครั้ง ดูจากผลลัพธ์ในตอนนี้สิ
ทอมและเดรโกหันกลับมามองเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วตอบกลับ ทอมถอนหายใจ “คุณเคลียร์วอเตอร์
ศาสตราจารย์ดิพพิทได้มอบหน้าที่ดูแลพวกคุณสองคนให้ผม
ผมมีหน้าที่รับผิดชอบพวกคุณสองคน เพราะฉะนั้นคุณควรให้ความร่วมมือสักหน่อยไหม
แค่เสแสร้งก็คงดี”
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ
เดรโกขมวดคิ้วสงสัย ส่วนทอมนั้นดูหน้าตึงไปเล็กน้อยเมื่อโดนเด็กสาวคนหนึ่งหัวเราะใส่
“คุณเคลียร์วอเตอร์ไม่ทราบว่ามีอะไรน่าขำนัก”
ทอมเอ่ยถามด้วยความสุภาพทว่ากลับเอ่ยลอดไรฟันด้วยกรามที่ขบแน่นจนเห็นสันนูนบนใบหน้า
นั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่บิดมุมปากให้ยกขึ้นสูง
“ให้ความร่วมมือเหรอ
คุณไม่ได้อยากรับผิดชอบหน้าที่นี้อยู่แล้วจริงไหม คุณคงแค่อยากได้ตำแหน่งประธานนักเรียนในปีหน้าและการได้ทำหน้าที่นี้ก็คงเพื่อให้ตัวเองได้ขยับเข้าใกล้เสียมากกว่า
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องช่วยคุณเพราะคุณคงไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยน”
เดรโกขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
ส่วนทอมนั้นจากที่ความโกรธคุกรุ่น
ตอนนี้เขากลับเผยรอยยิ้มเย็นชาผสมกับความเจ้าเล่ห์
“คุณอยากได้อะไรแลกเปลี่ยนเล่า”
ทอมถามด้วยรอยยิ้มเหี้ยม
ส่วนเดรโกได้แต่วิตกกังวลในใจ
ฝ่ามือชื้อเหงื่อโดยไม่รู้ตัว
ไม่รู้เลยว่าเกรนเจอร์กำลังจะทำอะไรถึงได้เลือกที่จะเอ่ยคำพูดท้าทายจอมมารในอนาคตในขณะที่ตัวเขาได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกกลัวเอาไว้ตลอดเกือบบ่ายของวันนี้
ความกลัวที่ต้องมาอยู่ใกล้กับจอมมารผู้โหดร้าย ทั้งกดขี่พ่อแม่เขาต่างนานา
บังคับให้เขาพาผู้เสพความตายเข้าไปในโรงเรียนฮอกวอต แม้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
คนนี้ไม่ใช่จอมมารที่เดรโกรู้จักทว่ากลับมีรังสีแผ่อายเหมือนจอมมารทีเขารู้จักไม่มีผิด
เดรโกกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่
เกรนเจอร์
เขาจึงเอาแต่มองตาของเกรนเจอร์อยู่ตลอดเวลาหวังว่าหล่อนจะสังเกตเห็นและเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะสื่อผ่านทางดวงตา
เขาเกือบลิงโลดในใจเมื่อเกรนเจอร์สบกับดวงตาสีเทาซีดของเขาแวบหนึ่งทว่าก็เลื่อนสายตาไปอีกทางอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยคำพูดที่ทำให้เขาต้องเสียวสันหลังวาบทันที
“ความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น”
เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยพร้อมรอยยิ้มยียวน “คุณให้ได้ไหมล่ะ”
ทอมรู้สึกไฟที่ดับมอดในใจกลับมาลุกโชติช่วงอีกครั้ง
ดวงตาแทบจะพ่นไฟออกมา หากสายตาสามารถฆ่าคนตายได้ล่ะก็ป่านนี้เพเนโลพี
เคลียร์วอเตอร์คนนี้คงไม่ยืนพูดจาโอหังแบบนี้ใส่เขาหรอก
คงได้ไปนอนในโลงศพกลับบ้านในโลกมักเกิ้ลโสโครกไปแล้ว
แม้ว่าทอมอยากจะร่ายคาถากรีดแทงหรือคาถาพิฆาตใส่หล่อนแค่แต่เพื่อแผนการดึงมาเป็นพวกเขาต้องทำให้สำเร็จ
ทอมจึงได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกเพื่อสะกดตนเองขณะกำลังเอ่ยปากอีกครั้งเสียงหัวเราะร่าเริงพร้อมเอ่ยเรียกชื่อของทอมดึงขึ้งข้างหลังเขา
เมื่อหันไปมองก็พบฮอเรซ
ซลักฮอร์นกำลังยิ้มกว้างและพูดบางอย่างกับทอมอย่างออกรสชาติ
ส่วนสีหน้าแข็งกระด้างเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มสดใสเสียแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศีรษะพร้อมรอยยิ้มที่สมเพสในตัวทอม
เดรโกหันไปสบกับดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งแกมตำหนิ
เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่และสังเกตเห็นว่ามือข้างหนึ่งของศัตรูโกลเด้นทรีโอกำลังกำไม้กายสิทธิ์เอาไว้ตรงกระเป๋าเสื้อคลุม
เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างพร้อมส่ายหน้าแรงๆ ไปมา ทำปากห้ามโดยไร้เสียง
สีหน้าของเดรโกเรียกได้ว่ามุ่งมั่นที่จะเสกคาถาใส่ทอมจากด้านหลังเอามากๆ
ถ้าหากเธอปล่อยให้เดรโกทำแบบนั้นล่ะก็มีโอกาสสูงมากที่เขาจะทำไม่สำเร็จ
ผลที่ตามมาก็จะร้ายแรงด้วย จอมมารเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการพินิจใจ
หากจอมมารเข้าไปในความทรงจำของเดรโกได้ล่ะก็
เขาต้องรู้แน่ว่าทั้งเธอและเดรโกเป็นศัตรูของเขาและย้อนเวลามาจากอนาคตเพื่อทำอะไร
เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ได้วางแผนใดๆ
ทั้งสิ้นเพื่อทำลายเขาเลยจะปล่อยให้จอมมารรู้เรื่องของเธอไม่ได้เด็ดขาด!
เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเท้าออกไปหวังหยุดเดรโกแต่เสียงแหลมเล็กเสียงหนึ่งทำให้ทั้งสองคนจากอนาคตต้องสะดุ้งไปตามๆ
กัน เดรโกรีบปล่อยไม้กายสิทธิ์กลับสู่กระเป๋าเสื้อคลุมทันที
ก่อนจะหันไปมองตามที่มาของเสียงพบเด็กสาวคนหนึ่งใส่เสื้อคลุมฮอกวอตและปักตราประจำบ้านสลิธีรินมีรูปร่างที่บางและเล็ก
เรียกได้ว่าผอมแห้ง
ผมดำยาวปล่อยสยายและไว้หน้าม้าปัดไปทางด้านขวาและมีใบหน้าที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีเมื่อเขาแข่งควิดดิชที่บางครั้งสลิธีรินต้องปะทะกับเรเวนคลอบ้างเป็นครั้งคราว
ในฐานะที่ตนเป็นซีกเกอร์เช่นกัน
เขารู้จักเจ้าของเสียงแหลมเล็กคนนั้นได้เป็นอย่างดี โช แชงหรือซีกเกอร์บ้านเรเวนคลอ
ผู้หญิงที่หน้ามืดตามัวไปคบกับเจ้าพอตเตอร์นั่น
หากเขายังอยู่ในช่วงที่เขากำลังเรียนอยู่ในฮอกวอตในอนาคตล่ะก็เขาจะไม่แปลกใจเลยที่ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้แต่นี่เขาอยู่ในช่วงเวลาห้าสิบปีก่อนนะ
มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนที่ยังไม่เกิดจะมาปรากฏตัวตรงหน้าเขา
อีกทั้งหน้าเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นราวกับแฝด!
ไม่ใช่แค่เดรโกเท่านั้นที่กำลังสับสน
เฮอร์ไมโอนี่เองก็สับสนไม่แพ้กัน เธอเอาแต่คิดแล้วก็คิดว่าโช
แชงที่เธอรู้จักมาโผล่ในฮอกวอตเมื่อห้าสิบปีก่อนได้อย่างไร
ส่วนเด็กสาวที่ทั้งสองคนเข้าใจว่าเป็นโช แชงก็แสดงสีหน้างงงวยก่อนเอ่ยสวัสดีอีกครั้งด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจเหมือนครั้งแรกที่เอ่ย
เฮอร์ไมโอนี่ได้สติกลับมาก่อนเอ่ยทักตอบพร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดี เธอเป็นใครน่ะ”
เด็กสาวดูแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อเธอเป็นคนตอบ
“หลิน ฉันชื่อหลิน จำไว้ด้วยนะเด็กใหม่แห่งกริฟฟินดอร์” หล่อนพูดพร้อมเผยรอยยิ้มเหยียดแต่นั่นไม่ได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่พอใจเหมือนทุกครั้งที่เวลาพวกสลิธีรินมาเอ่ยถากถางใส่
เฮอร์ได้แต่สับสนและสับสนในขณะที่เด็กสาวที่บอกว่าตนเองชื่อหลินหันไปทางเดรโกพร้อมรอยยิ้มกว้างก่อนยื่นมือออกไป
“หลิน ฟาง สวัสดีแองกวิส ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอต” เดรโกที่ยังคงงุนงงยื่นมือออกไปจับมือเล็กๆ
นั่นเอาไว้พร้อมกับหลินเขย่าไปมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูสดใส
เมื่อเห็นว่าเดรโกยังนิ่งเงียบไม่เอ่ยอะไร
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า” หล่อนถาม
เดรโกจึงได้สติกลับมาสักที
“ฉันสบายดี เธอเป็นใครนะ”
เด็กสาวผมดำกลอกตา
“ฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันชื่อหลิน ฟาง นายไม่เป็นอะไรแน่ใช่ไหมเนี่ย”
เดรโกรีบกลบเกลื่อน
“ไม่ๆ ฉันสบายดี ขอโทษที่ถามอะไรโง่ๆ ออกไป”
หลินยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรแองกวิส แล้วเจอกันที่ห้องนั่งเล่นนะ”
หล่อนว่าก่อนหันหลังเดินไปอีกทางก่อนแผ่นหลังจะหายวับพร้อมกับที่ซลักฮอร์นปล่อยทอมให้ทำหน้าที่ต่อในที่สุด
ทอมหันกลับมาเห็นสีหน้าแปลกของทั้งคู่ ในใจบังเกิดความสงสัยขึ้นมา
ทั้งคู่ทำสีหน้าราวกับเห็นผีพร้อมกับเสียงเล็กๆ
กำลังหัวเราะอยู่เหนือศีรษะทั้งสามคน
ทั้งสามเงยหน้ามองที่มาของเสียงพบผีพีทกำลังแกว่งถังสีไปมาอยู่
ความสงสัยทั้งหมดในใจของทอมพลันหายไป ที่แท้พวกนั้นก็เห็นผีจริงๆ นี่เอง
พวกนักเรียนใหม่คงยังไม่รู้จักกับผีพีทที่มีกิจวัตรประจำวันคือการแกล้งนักเรียนให้ตกใจอยู่สม่ำเสมอ
เห็นเช่นนั้นทอมจึงทำหน้าที่พรีเฟ็นที่ดี
“พีท!
ถ้านายทำถังสีนั่นหกใส่พวกเราล่ะก็บารอนจะรีบมาจัดารกับนายทันทีข้อหาทำร้ายนักเรียนใหม่ของบ้านสลิธีริน”
พีทชักสีหน้าเทาๆ
เลือนๆ
ก่อนเบ้ปากใส่ทอมพร้อมบินจากไปพร้อมถังสีหันไปเล่นงานนักเรียนปีสองบ้านฮัฟเฟิลพัฟสองคนที่กำลังเดินกลับห้องนั่งเล่นอยู่พอดี
เมื่อทอมหันกลับมามองเพเนโลพีและแองกวิสอีกครั้ง
คราวนี้สีหน้าของทั้งคู่ดีขึ้นมาก
ทอมจึงมั่นใจว่าเมื่อสักครู่ทั้งสองคงตกใจกับผีพีทอยู่เป็นที่แน่นอน
“นั่นพีท
เป็นผีในปราสาทฮอกวอตที่รักการกลั่นแกล้งนักเรียนเป็นชีวิตจิตใจ
ระวังมันไว้บ้างเพราะพวกเราจะไม่มีวันรู้ว่าพีทจะทำอะไรกับพวกนายซึ่งอาจทำให้พวกนายไปเรียนสายหรือโดนสั่งกักบริเวณเอาได้เข้าใจไหม”
ทอมอธิบายยืดยาวพร้อมกล่าวเตือน
สองนักเรียนใหม่ต่างบ้านพากันพยักหน้าหงึกหงักและทอมก็ได้แต่สงสัยอีกครั้งว่าทำไมคราวนี้เพเนโลพี
เคลียร์วอเตอร์ถึงได้ยอมฟังและทำตัวดี
ไม่เหมือนตัวตนของหล่อนเมื่อสักครู่นี้เลยแม้แต่น้อยแต่ว่าไม่ว่าจะเป็นเพเนโลพีแบบไหน
เขาก็ชอบที่หล่อนยอมทำตัวว่าง่ายแบบนี้ที่สุด
*Talking*
สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะ หายไปนานอีกแล้ว อันนี้ออกมายอมรับว่าหลังสอบเสร็จจู่ๆ เราจะกลับมาเขียนดันเขียนต่อไม่ออกซะงั้นแล้วก็ไม่ได้เขียนอีกยาวเลยค่ะจนไปต้องไปต่างประเทศก็ยิ่งยืดยาวไปอีกไม่ได้กลับมาเขียนเสียที คราวนี้กลับมาเขียนอีกรอบก็ต้องเขียนๆ หยุดๆ จนในที่สุดก็เขียนจนจบตอนนี้จนได้ ยังไงก็ต้องขออภัยค่ะและขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะที่ยังไม่ได้ทิ้งไปไหนและยังตามอยู่เรื่อยๆ
ความคิดเห็น