ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบ) [Fic Tom x Hermione] My demon รักชั่วนิรันดร์...ปีศาจของฉัน

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ย้อนเวลา

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 61


    ตอนที่ 2 ย้อนเวลา


    นาฬิกาย้อนเวลาพาเฮอร์ไมโอนี่มาหล่นตุ้บ! อยู่บนกองเศษใบไม้แห้งสีเหลืองกรอบจำนวนมากและเพราะว่ามีมากจึงทำให้เธอหล่นลงมาได้โดยไร้รอยแผลหรือความเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น เฮอร์ไมโอนี่รีบลุกขึ้นทันที หันมองซ้ายขวาจึงพบว่านาฬิกาพาเธอมายังทะเลสาบนิ่งสงบส่องประกายระยิบระยับด้วยแสงดวงอาทิตย์ เธอลุกขึ้นปัดเศษใบไม้ออกจากเสื้อผ้าและผม


    ที่นี่เงียบสงัด ไม่มีร่องรอยของพ่อมดแม่มดตนใดบริเวณนี้เลย เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทำไมไม่มีแม้แต่นักเรียนคนไหนเลยล่ะ ทั้งที่เธอน่าจะย้อนเวลากลับมาในวันที่ 3 กันยายน ปี 1943  ปีที่ทอม ริดเดิ้ลหรือโวลเดอมอร์กำลังเรียนอยู่ในปีเจ็ด เธอจะได้มีเวลาหนึ่งปีเพื่อหาทางขัดขวางทุกทางทว่านี่มันผิดปกติเสียแล้ว เกิดอะไรขึ้น?!


    เฮอร์ไมโอนี่หยิบนาฬิกาขึ้นมาตรวจสอบดู มีรอยร้าวเล็กๆ พาดอยู่บนกระจกใสหรือเพราะตำหนินี้เลยทำให้นาฬิกาส่งเธอมาผิดเวลาที่ต้องการ สิ่งแรกที่ต้องรู้คือวันนี้วันที่เท่าไร ถ้าหากเปิดเทอมแล้วทำไมไม่เจอนักเรียนเลยสักคน


    เธอจึงหยิบผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่จากกระเป๋าสีแดงใบเล็กๆ คลุมเอาไว้ เริ่มเดินตรงกลับปราสาทของโรงเรียนฮอกวอต เป้าหมายคือห้องโถงใหญ่ ที่นั่นจะมีนักเรียนที่ตื่นเช้ามานั่งอ่านหนังสือพิมพ์เดลี่ พรอเฟ็คอยู่เนืองๆ หรือนั่งกินอาหารเช้าพร้อมอ่านหนังสือทบทวนวิชาเรียนโดยเฉพาะพวกนักเรียนบ้านเรเวนคลอ ทันทีที่มาถึงเฮอร์ไมโอนี่ต้องเบิกตากว้างด้วยความงุนงง


    ภายในห้องโถงไร้ซึ่งสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใดๆ แม้แต่ตรงสุดของห้อง ซึ่งเป็นโต๊ะยาวที่สำหรับศาสตราจารย์ก็ไร้ผู้คนอีกเช่นกัน แสดงว่านี่ยังไม่ถึงวันเปิดภาคเรียนของฮอกวอตแน่นอน ถ้างั้นวันนี้คือวันที่เท่าไรกันแน่ล่ะ


    ขณะกำลังครุ่นคิดเสียงฝีเท้าดังขึ้นทางด้านหลัง เฮอร์ไมโอนี่หันขวับพบใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังเดินตรงมาทางนี้ ดวงตาหลังกรอบแว่นทรงครึ่งวงกลมหรี่มองมาทางที่เธอยืนอยู่ หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นตุบๆ สมองพลันคิดวุ่นวายไปหมด จะเผยตัวตนต่อดัมเบิลดอร์ดีหรือไม่นะ บอกความจริงเกี่ยวกับเขา เธอย้อนเวลามาจากอนาคตงั้นเหรอ บอกเขาว่าเธอมาที่นี่ก็เพื่อบอกว่าทอม ริดเดิ้ลจะกลายเป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่ทรงอำนาจและไร้ความเมตตามากที่สุดในโลกพ่อมดยังงั้นหรือ


    ไม่เอาน่าเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคนในอดีตรู้เรื่องในอนาคตเข้า ดัมเบิลดอร์ในอีกห้าสิบปีข้างหน้าเองก็เคยเตือนเรื่องนี้ไว้แล้ว โชคดีที่ห้าสิบปีก่อนเธอยังไม่เกิดและเพื่อนๆ ทุกคนที่เธอรู้จักด้วย การจะเผยหน้าตาตนเองออกไปอาจไม่มีผลร้ายแรงมากเกินไป เพราะถ้าหากตัวเธอเองในอดีตได้ประจันหน้ากับตัวเองในตอนนี้ นั่นล่ะคือผลร้ายแรงจะตามมา


    ทว่าหากเธอจะเปลี่ยนทอม ริดเดิ้ล เธอก็ต้องเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกเวทมนต์ด้วยเช่นกัน ถ้าหากเธอชักจูงทอมได้บางที แม้เธอจะไม่ได้เกิดมาก็อาจเป็นผลดีที่สุดต่อโลกเวทมนต์


    เธอเลือกมาโลกนี้แล้วนี่ มาถึงขนาดนี้แล้วจะถอยหลังกลับได้อย่างไร เฮอร์ไมโอนี่คิดเช่นนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตนเองมากขึ้นไปอีก ศึกษาทอม ริดเดิ้ลไปก่อนค่อยหาวิธีจะดีกว่า


    เฮอร์ไมโอนี่คิดเช่นนั้นทำให้ใจที่ฟีบแบนมาตลอดหลายปีที่ตามหาฮอร์ครักซ์กับแฮร์รี่เริ่มพองโตขึ้นมาบ้าง เธอเลือกเดินไปเรื่อยๆ พร้อมคิดในใจว่าต้องการอะไร เวลานี้สิ่งเดียวที่ต้องการคือที่ซ่อนตัวภายในปราสาทโดยไม่มีใครจับได้ ส่วนดัมเบิลดอร์ในอดีตเองแม้สายตาจะจ้องตรงมาทางนี้แต่ตัวเขากลับเดินผ่านไปตรงเข้าห้องโถง


    เมื่ออาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตในอนาคตเดินผ่านไปไกลแล้ว เธอจึงเลือกเดินไปตามโถงทางเดินคิดสิ่งที่ต้องการวนไปเวียนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านผนังว่างๆ เธอยืนสักพักจนกระทั่งเริ่มปรากฏรอย ลวดลายของบานประตูโค้งสีเทาค่อยๆ เปลี่ยนจากผนังว่างมาเป็นบานประตูขนาดพอเหมาะสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง


    เธอผลักบานประตูนั้นเดินเข้าไปยังห้องต้องประสงค์ สถานที่ซ่อนอย่างดีสำหรับผู้ไม่ต้องการเปิดเผยตัว ทันทีที่เข้ามาห้องนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก เป็นเสมือนห้องๆ หนึ่งมีพร้อมทุกอย่างคล้ายกับห้อง อพาร์ทเม้นท์ มีห้องน้ำในตัว ขนาดกลางๆ มีเคาท์เตอร์ เตาทำอาหารและส่วนผสมมากมายอย่างผัก เนื้อสัตว์ ของหวานอย่างพุดดิ้งหรือไอศกรีมที่ไม่มีวันเน่าเสียหรือละลายด้วยเวทมนต์บางอย่าง


    นอกจากนี้ยังมีโซฟาบุนวมนิ่มพร้อมหมอนสองสามใบกับผ้าห่มอีกสองผืน ตรงมุมห้องมีเตียงไม้สำหรับนอนได้หนึ่งคนปูผ้าอย่างดีและผ้าห่มผืนสีแดงลายสิงโตสีทองสัญลักษณ์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ ห้องนี้เหมาะสำหรับซ่อนตัวจริงๆ ด้วย เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างสุขใจ


    โอเคต่อจากนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ จากที่เห็นที่ฮอกวอตเหนือที่นั่งของอาจารย์มีนาฬิกาแบบโบราณบอกเวลาและวันที่ว่าวันนี้คือวันที่สามสิบ สิงหาคมปี ค..1942 นั่นหมายความว่านาฬิกาย้อนเวลาพาเธอมาผิดเวลาที่ต้องการ มันไม่ใช่วันเปิดเทอมของฮอกวอตและไม่ใช่ปีที่ริดเดิ้ลเรียนอยู่ปีเจ็ดด้วย มันเป็นปีที่ทอมกำลังเข้าเรียนฮอกวอตในปีที่หก ปีที่ทอมจะรู้ถึงเรื่องของฮอร์ครักซ์จากห้องสมุดในส่วนต้องห้ามและรู้วิธีสร้างฮอร์ครักซ์จากสลักฮอร์น


    บางทีถ้าเธอขัดขวางไม่ให้ทอมรู้เรื่องการสร้างฮอร์ครักซ์ มันอาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ถ้าหากทอมไม่ได้สร้างของพวกนั้นขึ้นมา วันที่โวลเดอมอร์จะทำร้ายแฮร์รี่และพลังจากลิลี่ พอตเตอร์สะท้อนคำสาปพิฆาตจากลอร์ดแห่งศาสตร์มืดและทำลายเขาได้ตั้งแต่วันนั้น จะไม่มีวันที่โวลเดอมอร์จะคืนชีพอีกครั้งได้และแฮร์รี่อาจจะได้มีชีวิตอย่างนักเรียนคนอื่นๆ ทั่วไป


     บางทีวิธีนี้อาจจะทำผิดต่อแฮร์รี่เพื่อนรักของเธอแต่ในเมื่อนาฬิกาส่งเธอมาเวลานี้ไม่ว่าจะเพราะความผิดพลาดหรือเพราะเหตุผลใดก็ตาม ถึงยังไงมันก็คือการขัดขวางทอม


    ส่วนเรื่องเข้าโรงเรียน เฮอร์ไมโอนี่ได้เตรียมพร้อมเรื่องนี้เอาไว้แล้ว เธอหยิบกระดาษยับยู่ยี่สองอันออกมาวางไว้บนเตียงหลังสี่เสา ค่อยๆ คลี่มันออกทีละนิดจนเห็นตราโรงเรียนของโบซ์บาตงและลายเซ็นต์หวัดๆ ของมาดามมักซีม เธอลุกขึ้นยืน วางกระดาษว่างเปล่าขนาดเท่าเอสี่แผ่บนเตียง โบกไม้กายสิทธิ์สองสามครั้ง ทั้งตราโรงเรียนเวทมนต์จากฝรั่งเศสและลายเซ็นลอยคว้างในอากาศ


    ไม่นานกระดาษสองใบยับๆ นั่นรวมกับกระดาษว่างเปล่าบนเตียง พร้อมตัวอักษรภาษาอังกฤษค่อยๆ ลากเส้นต่อกันทีล่ะน้อยๆ จนกระทั่งทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ดูเหมือนแค่จดหมายแนะนำตัวเข้าโรงเรียนใบหนึ่งเท่านั้น


    เฮอร์ไมโอนี่หยิบกระดาษนั่นขึ้นมากวาดตาอ่านทบทวนอีกครั้ง มันเหมือนมาดามมักซีมคือคนที่เขียนมันขึ้นมาทุกอย่างไม่ใช่เวทมนต์ แม้กระทั่งการพูดการเขียนและลายมือ มันดูสมบูรณ์แบบเหลือเกิน เธอมั่นใจว่าคงหลอกอมานโด ดิพพิทได้แต่หากเป็นศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์มันก็ไม่แน่แต่เธอไม่มีทางวิธีอื่นแล้ว นอกจากวิธีนี้ดูน่าจะได้ผลมากที่สุด


    เฮอร์ไมโอนี่พับจดหมายนั่นเข้าซอง ใช้ไม้กายสิทธิ์เขียนตัวอักษรเป็นชื่อของอาจารย์ใหญ่ในอดีตของฮอกวอตหรือก็คืออมานโด ดิพพิท พรุ่งนี้เช้าตรู่เธอจะนำจดหมายนี่ไปส่งให้ถึงมือด้วยตนเองแต่ปัญหาอีกอย่างคือ เธอไม่รู้รหัสผ่านห้องอาจารย์ใหญ่นี่สิ คงต้องแกล้งทำเป็นหลงลืมเผลอเข้ามาภายในเขตแดนของโรงเรียนฮอกวอตโดยไม่รู้ตัวและจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด


    เมื่อหาทางออกให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว เฮอร์ไมโอนี่จึงล้วงแขนเข้าไปจนสุด มือปัดป่ายอยู่สักพักจนควานหาเสื้อผ้าแบบย้อนยุคในห้าสิบปีก่อนออกมา มันเป็นชุดกระโปรงลูกไม้สีดำสนิทติดกระดุม คอปกตั้ง ชุดเว้าตรงเอวเน้นสัดส่วนสะโพก แขนเสื้อเป็นทรงบาน ส่วนกระโปรงจับจีบตรงปลายพร้อมขอบสีขาวลากล้อมรอบ


    เธอหยิบไม้แขวนจากราวแขวนเสื้อใกล้เตียง แขวนชุดกระโปรงตัวนั้นอย่างเรียบร้อย ก่อนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแดงอีกรอบ หยิบถุงน่องสีดำสนิทพร้อมรองเท้าหนังหุ้มส้นออกมาวางไว้ใกล้กับชุด เสื้อผ้าพวกนี้เธอจะเอาไว้ใส่ในวันพรุ่งนี้ จำเป็นจะต้องแต่งตัวให้กลมกลืนไม่ให้คนในอดีตสงสัยเข้าได้ว่าเธอมาจากอนาคต


    เฮอร์ไมโอนี่เดินตรงไปหน้ากระจก มองดูตัวเองผ่านมัน แม้จะแต่งตัวเรียบร้อยขนาดไหนแต่เธอยังสวมใส่เสื้อผ้าแบบคนยุคปัจจุบัน กางเกงยีนส์สีน้ำเงินพร้อมเสื้อแขนยาวสีฟ้าพองฟูบุขน ผ้าพันคอสีแดงสลับทองจากบ้านกริฟฟินดอร์ ส่วนผมสีน้ำตาลเป็นลอนถูกรวบเอาไว้อย่างลวกๆ เธอแกะกิ๊ฟยึดผมส่วนหนึ่งเอาไว้ ปอยผมทิ้งตัวก่อนจะแกะผ้าพันคอออกแขวนไว้กับราว เธอนอนแผ่บนเตียงพร้อมคิดเรื่อยเปื่อย


    พลางสงสัยว่าต่อจากนี้เธอจะเป็นยังไงต่อ สงสัยว่าตนเองจะทำสำเร็จไหมหรือหากขัดขวางทอมได้ เรื่องในอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร บางทีเธออาจหายตัวไปเลยก็ได้เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ หากไม่ทำให้เขารู้ว่าอะไรคือฮอร์ครักซ์ ส่วนซลักฮอร์นเองก็จะเป็นคนบอกเขาเรื่องนี้ เท่าที่ฟังจากปากแฮร์รี่ ลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่ใช่คนที่จะเข้าใกล้ได้ง่ายแม้จะยังเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาไม่มีวันถูกทำลายหรือยอมแพ้อย่างง่ายดาย เพราะเหตุนี้เธอจึงไม่รู้ว่าตนเองจะทำสำเร็จไหมและจะเป็นยังไงหากเธอพลาด ต้องกลับไปยังโลกเดิมโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิดเลยหรือไงนะ


    คิดได้ไม่นานเฮอร์ไมโอนี่ก็ผล็อยหลับไปทั้งอย่างงั้นและฝันถึงเรื่องราวบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ


    +--+

     

    ในวันที่สามสิบเอ็ด สิงหาคม ปี ค..1942


    เฮอร์ไมโอนีตื่นขึ้นมาในสถานที่แปลกประหลาด มันไม่ใช่ห้องของเธอในบ้านในโลกของมักเกิ้ลและไม่ใช่ห้องในบ้านโพรงกระต่าย เธองุนงงอยู่ชั่วครู่ถึงเข้าใจว่าตนเองกำลังอยู่ที่ไหนในตอนนี้ เธออยู่ในห้องต้องประสงค์กำลังซ่อนตัวอยู่และย้อนเวลามาในอีกห้าสิบปีก่อนหน้านี้


    เธอลุกขึ้นยืนพร้อมยืดเส้นยืดสายให้สบายตัวก่อนล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย สวมชุดที่เตรียมเอาไว้ ส่วนผมก็รวบปอยด้านข้างขึ้นมาส่วนหนึ่งยึดเอาไว้ด้วยกิ๊ฟรูปโบว์สีชมพูให้ดูเหมือนเด็กสาววัยรุ่นในยุคนี้เขาแต่งตัวกัน เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เธอหมุนตัวให้กระจกอยู่สองสามทีเพื่อสำรวจความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้ายพลางถอนหายใจ


    เพื่อความสงบสุขของโลกเวทมนต์ต่อจากนี้ เธอจะต้องทำให้ได้เฮอร์ไมโอนี่ เธอบอกกับตนเองเพิ่มความมั่นใจก้าวเดินไปยังบานประตู สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเอื้อมมือไปเปิด แง้มเล็กๆ กวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นจึงรีบออกมาพร้อมบานประตูซึมหายเข้าไปในกำแพง


    จากนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงเริ่มเดิน แสร้งเดินอ้อมเพื่อให้คนอื่นไม่ได้สงสัยว่าเธอรู้จักห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่ เธอต้องเดินอ้อมเสียหน่อย ก่อนอื่นต้องเดินไปยังเรือนกระจกที่เรียนสำหรับวิชาสมุนไพรศาสตร์แล้วค่อยกลับเข้าปราสาทแล้วจึงมุ่งหน้าไปยังห้องอาจารย์ใหญ่และระหว่างทางนั้นเธอเองก็หวังว่าจะเจอใครสักคน ใครก็ได้ในอดีต


    ผ่านมาสักพัก เฮอร์ไมโอนี่ใกล้เดินถึงเรือนกระจกแล้วแต่กระนั้นก็ยังไม่พบใครเลยสักคน แม้แต่อาจารย์สักคนก็ไม่พบเลยจนกระทั่งเธอเดินมาถึงเรือนกระจกที่มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าและพืชสมุนไพรต่างๆ นานาแต่ก็ยังเงียบกริบ ไร้ซึ่งผู้คน เธอจึงตั้งใจจะเดินวกกลับ เมื่อหันมาจึงพบชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักแต่เขากลับไม่ได้ไว้หนวดเครายาวเหมือนในอนาคตและไม่ได้มีแต่ผมสีขาวแซมตลอดด้วย


    “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างลืมตัว ชายตรงหน้ามองกลับมาผ่านแว่นตารูปครึ่งดวงจันทร์ เอ่ยเสียงเนิบช้าทว่าอ่อนโยนให้เธอ


    “ใช่แล้วและคุณคือ


    “ขออภัยค่ะ ฉันเอ่อ ชื่อเฮอร์เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ค่ะ แม่ของฉันเป็นมักเกิ้ลจากประเทศอังกฤษและตอนนี้ถูกส่งมาเรียนที่ฮอกวอตพร้อมจดหมายแนะนำตัวจากโรงเรียนโบซ์บาตงแต่เผอิญว่าฉันหลงทางน่ะค่ะ หาทางไปห้องอาจารย์ใหญ่ไม่เจอ”


     ดัมเบิลดอร์ในวัยหนุ่มเพ่งมองเธออีกครั้ง “น่าแปลกจริงๆ ฮอกวอตไม่น่าปล่อยให้ใครเข้ามาง่ายดาย คุณเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรหรือ”


    “ฉันต้องขอบอกตามตรงว่าไม่ทราบจริงๆ ฉันแค่เดินผ่านเข้ามาผ่านประตูรั้วน่ะค่ะ” เธอตอบพร้อมยื่นจดหมายแนะนำตัวปลอมที่ทำขึ้นมาให้ดัมเบิลดอร์ เธอหวังว่าเขาจะไม่ติดใจสงสัยอะไรเพราะมันคือของปลอมแต่เธอไม่เห็นวิธีอื่นอีกแล้วที่จะเข้าโรงเรียนฮอกวอตโดยที่คนในอดีตไม่สงสัย


    “งั้นผมจะพาคุณไปยังอาจารย์ใหญ่อมานโด ดิพพิท” ดัมเบิลดอร์เอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่แสนใจดีเหมือนที่เฮอร์ไมโอนี่รู้จัก เธอยิ้มตอบก้าวเดินไปเคียงเขา


    “ผมขอแนะนำตัวเอง ผมคืออัลบัส ดัมเบิลดอร์ เป็นอาจารย์สอนวิชาแปลงร่างและเป็นอาจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ ถ้าหากคุณถูกคัดสรรเข้าบ้านนี้บางทีผมอาจได้นักเรียนชั้นยอดอีกคนเข้ามาในบ้านของผม” ดัมเบิลดอร์เอ่ยแนะนำตัวพร้อมขยิบตาให้เมื่อกล่าวถึงบทสุดท้าย


    “ฉันฟังเรื่องนี้มาจากปากปู่ของฉันเองค่ะ เขาเคยเรียนที่ฮอกวอตมาก่อน ทันทีที่เรียนจบก็ย้ายไปอยู่ประเทศฝรั่งเศสและก็อาศัยอยู่ที่นั่นไปเลยจนสร้างครอบครัว เมื่อก่อนพ่อฉันเคยมาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษและก็พบรักกับแม่ซึ่งเป็นคนอังกฤษและมักเกิ้ลจนย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสด้วยกัน ก่อนหน้านี้ฉันก็เรียนที่โบซ์บาตงมาก่อนจนพ่ออยากให้เรียนที่นี่น่ะค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เล่าเสียยืดยาวก็เพียงหวังให้ดัมเบิลดอร์ไม่ซักถามอะไรอย่างอื่น


    “อ้อช่างเป็นเรื่องที่โรแมนติก” เขาว่า “งั้นคุณคงรู้เรื่องของฮอกวอตพอสมควร”


    “ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยท่าทางตื่นเต้นโดยไม่ได้เสแสร้ง “ฉันรู้มาว่าฮอกวอตมีการคัดสรรเป็นบ้านโดยแบ่งออกเป็นสี่บ้าน กริฟฟินดอร์ เรเวนคลอ ฮัฟเฟิลพัฟและสลิธีริน ปู่บอกว่าคนที่อยู่บ้านสลิธีรินมักจะเป็นพวกไม่น่าคบนั่นจริงหรือเปล่าคะ” เธอถามแม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ดูได้จากคนปากเสียอย่างเดรโก มัลฟอย คนโง่อย่างแครบบ์และกลอย์หรือยัยตัวร้ายอย่างแพนซี่ พาร์กินสันที่คอยสมทบเดรโกล้อเธอเรื่องฟันหน้าอยู่ตลอดสี่ปี


    ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์หัวเราะในลำคอ “สลิธีรินไม่น่าคบยังงั้นหรือ” เขาเอ่ยขณะหันมาสบตาเธอ “คุณคงรู้จักเมอร์ลิน เขาเองก็มาจากบ้านสลิธีรินและเขาชั่วร้ายเฉกเช่นที่คนอื่นตราหน้าบ้านสลิธีรินยังงั้นหรือแต่ไม่เลยสลิธีรินอาจดูชั่วร้ายในสายตาคนอื่นหรือกริฟฟินดอร์แต่มิใช่ทุกคนในสลิธีรินจะชั่วร้ายไปเสียหมดหรอกนะ คุณเคลียร์วอเตอร์”


    เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า “คุณพูดถูกค่ะศาสตราจารย์” เรื่องนี้ทำให้เธอหวนคิดถึงเมื่อตอนโกลเด้น ทรีโอยังเป็นนักเรียนฮอกวอตชั้นปีที่สาม วันที่ได้รู้จักกับปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ผู้ที่ทรยศลิลี่กับเจมส์ พอตเตอร์ พ่อแม่ของแฮร์รี่ เขาหักหลังเพื่อนฝูงเพราะกลัวโวลเดอมอร์และทอม ริดเดิ้ลคือตัวการอีกล่ะ ปีเตอร์ไม่สมควรอยู่กริฟฟินดอร์เพราะเขาไม่ได้กล้าหาญมากพอจะเผชิญหน้ากับเจ้าแห่งศาสตร์มืดและปกป้องเพื่อน


    “นั่นคงเพราะบางทีเราอาจถูกคัดสรรเร็วเกินไป” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยคำพูดของดัมเบิลดอร์ครั้งได้ฟังจากปากแฮร์รี่


    อัลบัส ดัมเบิลดอร์ร้องอ้าพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย “คำพูดนี้ช่างโดนใจเหลือเกินคุณเคลียร์วอเตอร์”


    เธอหัวเราะเบาๆ “ฉันจำมาจากใครบางคนที่ฉันรู้จักน่ะค่ะและฉันเคารพเขามาก”


    “เช่นนั้น เขาคงเป็นคนที่น่านับถือมากเหลือเกิน ผมเคยสงสัยว่าแม้โลกจะมืดหม่นเพียงใดแต่ก็มักจะมีคนคนหนึ่งเกิดขึ้นมาเป็นแสงสว่างและความหวังของโลกนี้เสมอ ดูเหมือนคนที่คุณนับถือคงเป็นแสงสว่างเช่นกันในโลกที่กรินเดลวัลกำลังรุกรานยุโรปอยู่เรื่อยๆ”


    เฮอร์ไมโอนี่ตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น เธออยากจะเขกกะโหลดตัวเองเหลือเกินว่าลืมไปได้อย่างไรว่าเวลานี้คือยุครุ่งเรืองของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลผู้ที่เกือบจะได้เป็นพ่อมดที่ชั่วร้ายที่สุดแห่งยุคถ้าหากไม่ใช่โวลเดอมอร์แย่งตำแหน่งนั้นไปเสียก่อน หวังว่าเขาคงจะไม่มาทำอะไรที่อังกฤษนี่หรอกนะ ดัมเบิลดอร์คงไม่มีวันยอมให้สหายเก่ามาทำลายที่นี่แน่ เธอเชื่อมั่นในตัวเขา!

     

    *TALKING*

    เรามาเจอกันอีกตอนนะคะ ขออภัยนะคะที่มาช้าแต่ที่ผ่านมาไม่สบายค่ะ ป่วยแบบเป็นไข้เวียนหัวอยู่สามวันกว่าจะหายต่อด้วยเจ็บคออีก กว่าจะหายดีจนสมองแล่นอีกครั้งก็ผ่านมานานด้วยประการนี้นั่นเอง 

    หากอยากจะติตรงไหนก็ติได้นะคะ ขอให้สนุกกับนิยายค่ะ 

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×