คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นเรื่องราวความรัก
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรัก
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่
รอนและแฮร์รี่ถูกพวกนักต้อนจับแล้วยังถูกพาไปยังคฤหาสน์มัลฟอย เธอถูกเบลลาทริกส์ เลสแตรงจ์
หญิงผู้เสพความตาย ผู้ที่ฆ่าพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทรมานด้วยคำสาปกรีดแทง เธอพยายามกลั้นเอาไว้ทุกครั้งไม่ให้กรีดร้องขณะถูกทรมาน
เดรโก
มัลฟอยเพื่อนรุ่นเดียวกันเพียงเบือนหน้าหนีราวกับไม่ต้องการเห็นเลือดสีโคลนที่เกลียดนักเกลียดหนาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างที่ตนมักจะทำเสมอเมื่อสมัยยังเด็ก
ขณะที่นอนอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง
เธอเห็นเพื่อนรักทั้งสองพุ่งตัวออกมาจากบันไดชั้นใต้ดินเข้าแย่งไม้กายสิทธิ์มาจากเดรโกและปะทะกันกับเดรโกและนาร์ซิลซา
เมื่อฝ่ายสองแม่ลูกกำลังเสียท่าให้เพื่อนรักของเธอ
เบลลาทริกซ์ได้โอกาสดึงร่างของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นพร้อมกับจ่อมีดทีลำคอขาวระหง
ทั้งแฮร์รี่และรอนต่างพากันหยุดต่อสู้
“ลูเซียส เรียกนายท่านมา!” เบลลาทริกซ์ตะโกน
“ถ้าพวกแกกล้าทำอะไร ฉันจะฆ่ายัยเลือดสีโคลนคนนี้ทิ้งทันที ได้ยินไหม!”
“พวกคุณจะต้องไม่ทำร้ายแฮร์รี่
พอตเตอร์และเพื่อนๆ ด๊อบบี้ยอมไม่ได้”
เสียงแหลมเล็กของเอลฟ์ผู้เป็นไทดังขึ้นก่อนจะที่ร่างเล็กๆ ตาโต หูกางจะโผล่ขึ้นมาตรงหน้าแฮร์รี่และรอน
พร้อมกับดีดนิ้ว
ทุกร่างของผู้เสพความตายในบริเวณนั้นกระเด็นออกไปจากตำแหน่งเดิมทันที
แม้แต่ร่างของเบลลาทริกซ์เองก็ยังผละออกจากตัวเฮอร์ไมโอนี่ไปกระแทกผนังด้านหลัง
เฮอร์ไมโอนี่ได้โอกาส
พยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตนเองมีในตอนนี้ พาร่างของตนเองไปหาเพื่อนรักทั้งสอง
ทั้งรอนและแฮร์รี่ต่างเอื้อมมือออกมากันคนละข้างคว้าแขนของเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้
ด๊อบบี้จ้องมองผลงานของตนเองอย่างพึงพอใจเพียงชั่วครู่
ก่อนจะรีบวิ่งมาหาผู้ที่ปลดตนเป็นไท ด๊อบบี้จับมือของแฮร์รี่เอาไว้ข้างหนึ่งพร้อมกับหายไปตัวอย่างรวดเร็วแต่ไม่เร็วพอจนทันได้ยินเสียงเยือกเย็นและทรงอำนาจของโวลเดอมอร์
พร้อมกับลำแสงสีเขียวของคำสาปพิฆาตตรงมายังกลุ่มพวกเขา
แล้วพวกเขาทั้งหมดก็หายตัวไปพร้อมกับลำแสงสีเขียว
คนฉลาดอย่างลอร์ดโวลเดอมอร์รู้ว่าการเสกคาถาพิฆาตเข้าไปด้วยเวลากะทันหัน
พร้อมกับที่พวกมันหายตัวไปด้วยไม่อาจเข้าตรงตามเป้าหมายได้
อย่างมากอาจจะโดนแค่หนึ่งในเพื่อนของพอตเตอร์เท่านั้น
เขาจ้องมองตรงจุดที่เคยมีเป้าหมายของเขายืนอยู่ด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะตวัดสายตาดุดันมายังลูกน้องของตน
พร้อมกับพูดเสียงเยือกเย็น
“พวกแกปล่อยพอตเตอร์หนีไป! ไอ้พวกไร้น้ำยา!”
“นายท่าน โปรดอภัย นายท่าน” ลูเซียสร้องวิงวอน
ขณะพยายามพยุงร่างของตนขึ้นจากพื้น
“โธ่ ลูเซียสข้าให้อภัยเจ้า…” โวลเดอมอร์หยุด
ลูเซียสเริ่มเผยรอยยิ้มโล่งอกบนใบหน้า “ข้าจะให้อภัยเจ้าก็ต่อเมื่อ
เจ้าไปลากคอเจ้าพอตเตอร์กับเพื่อนของมันอีกสองคนมาให้ข้าได้เท่านั้น! ถ้าลากคอมันมาไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้า ถ้ากลับมามือเปล่า
ข้าจะฆ่าเจ้า!!”
ลูเซียส นาร์ซิลซาและเบลลาทริกส์
ต่างคนต่างรีบตาหลีตาเหลือกหายตัวออกไปจากคฤหาสน์มัลฟอยเพื่อตามล่าพอตเตอร์กับเพื่อน
เพราะความกลัวตายของตน ส่วนเดรโก มัลฟอยซึ่งหลบหน้าออกไปตั้งแต่ลอร์ดโวลเดอมอร์กำลังวุ่นอยู่กับเสกคำสาปพิฆาตใส่พวกพอตเตอร์เพียงจ้องมองตรงจุดที่เลือดสีโคลนเกรนเจอร์เคยนอนอยู่บนพื้นก่อนจะเลื่อนสายตาไปจุดที่พวกพอตเตอร์หายตัวไป
เขาอาศัยจังหวะที่ลอร์ดโวลเดอมอร์ตามตัวผู้เสพความตายคนอื่นมาที่นี่
ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์คุกเข่าสั่นงันหงกอยู่ตรงหน้าเจ้าแห่งศาสตร์มืด
เดรโกวิ่งไปยังห้องลับของคฤหาสน์เพื่อไปเอาของสิ่งหนึ่งมาจากห้องนั้น
ของที่หลายคนหรือพวกกระทรวงคิดว่าไม่มีพ่อมดแม่มดคนไหนได้ครอบครองมันอีกแล้ว…
+---+
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่
แฮร์รี่และรอนถูกด๊อบบี้พามาที่กระท่อมเปลือกหอยของบิลกับเฟลอร์แล้ว
แฮร์รี่ต้องเจอกับความสูญเสียของเอลฟ์ด๊อบบี้
ผู้ที่เขาเคยปล่อยให้เป็นไทโดยการให้ถุงเท้าข้างหนึ่งใส่ไว้ในสมุดบันทึกของทอม
ริดเดิ้ลแล้วให้มัลฟอยส่งมอบให้เอลฟ์
เขากอดร่างของเอลฟ์ซึ่งไร้สัญญาณชีวิตเอาไว้นิ่งพร้อมสะอื้นไห้ ดวงตาของเอลฟ์เบิกโพลงไร้ความรู้สึกมีแต่ความว่างเปล่าสะท้อนออกมาจากดวงตาคู่โต
เฮอร์ไมโอนี่และรอนต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญาที่จะช่วย
เธอไม่อาจทนเห็นเพื่อนรักของเธอสูญเสียไปมากกว่านี้อีกแล้ว
เธอคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยให้คนบริสุทธิ์ไม่ต้องตาย ในหัวของเธอคิดถึงแผนการมากมายและคิดได้อย่างเดียวคือการย้อนเวลากลับไปขัดขวางทอม
ทำแบบนั้นจะสามารถช่วยผู้บริสุทธิ์ได้มากกว่าที่คิดแต่เธอต้องวางแผนเสียก่อนจะย้อนเวลา
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นจากพื้นตรงไปหาเพื่อนรัก
มือกดลงบ่าของแฮร์รี่ “เรามาช่วยกันฝังเขาเถอะ”
“ไม่ใช้เวทมนต์นะ” เขาพูดเสียงหม่น
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า “ได้เลย เราจะช่วยกันฝังเขา ไม่ใช้เวทมนต์”
+---+
เมื่อสามเกลอช่วยกันฝังด๊อบบี้แล้ว
เวลาก็ล่วงเลยไปยามสายัณห์ ดวงอาทิตย์ยังทอแสงเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวลับไป
สามเกลอเดินกลับเข้าบ้านเปลือกหอยพร้อมกันด้วยอารมณ์หม่นหมอง
เฟลอร์ เดอลากูร์ยกข้าวต้มร้อนๆ
สามถ้วยให้สามสหายและส่งจานเนื้อแกะกึ่งดิบกึ่งสุกให้บิล เธอนั่งลงข้างสามีตนเอง
“กินหน่อยเถอะนะ ทุกคน” เธอว่าติดสำเนียงฝรั่งเศส
“เราทั้งคู่เสียใจด้วยนะ แอร์รี่*”
เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองแฮร์รี่ขณะเหลือบมองเฟลอร์
ผู้หญิงคนนี้เธอเคยไม่ชอบหน้ามาก่อนแต่ตอนนี้ดูท่าแล้วอาจจะขอความช่วยเหลือจากเธอเสียแล้วเพราะว่าตอนนี้เธอมีแผนบางอย่างอยู่ในใจแล้วล่ะ
ถึงแม้จะไม่ใช่แผนในระยะยาวแต่ก็อาจเป็นวิธีที่จะเข้าไปในฮอกวอตโดยที่ไม่มีใครติดใจสงสัยอะไร
อีกอย่างเท่าที่เคยฟังจากแฮร์รี่เล่า
ศาสตราจารย์ดิพพิทผู้ที่เคยเป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตเมื่อห้าสิบปีก่อนนั้นมักจะถูกทอมหลอกใช้มาตลอด
แผนที่เธอคิดเอาไว้เองก็น่าจะหลอกอมานโดได้เช่นกัน
ทั้แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่นั้นแทบไม่แตะอาหาร
ส่วนรอนแม้จะรู้แย่แต่ก็ยังทานจนหมดชาม สามเกลอแยกกันพักผ่อนในที่ๆ
เฟลอร์จัดเตรียมเอาไว้ให้
แฮร์รี่เข้าไปคุยกับโอลิแวนเดอร์ถึงเรื่องไม้กายสิทธิ์ของเบลลาทริกซ์และเดรโก
ชายชรากล่าวว่ารู้สึกถึงความภักดีที่เปลี่ยนไปจากไม้ของเดรโกและบอกว่าไม้กายสิทธ์เลือกพ่อมด
เฮอร์ไมโอนี่นึกสงสัยอยู่อย่างคือ ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ถ้าหากมันมีจริงล่ะก็
ตอนนี้มันกำลังรับใช้ใครนะ
แฮร์รี่ถามต่ออีกสองสามคำถามก่อนลาออกมาให้ชายชราได้พักผ่อน
สามเกลอยืนคุยกันอยู่หน้าห้องของก๊อบลิน
“เธอเอาอันนี้ไปเถอะ” แฮร์รี่ว่าพลางยื่นไม้กายสิทธิ์ของเดรโกให้เธอ
“ทำไมล่ะ เธอต้องการมันมากกว่าฉันนะ”
“ฉันไม่อยากให้มันภักดีกับฉับ
ถึงยังไงมันก็เป็นไม้ของเดรโก ฉันไม่อยากให้มันรับใช้ฉัน”
“แฮร์รี่ เธอคิดดีแล้วหรือไง”
“ฉันจะใช้อันนี้”
เขาว่าพลางชูไม้กายสิทธิ์ของพวกนักต้อนที่รอนยึดไว้ขึ้นมา
เธอชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจรับไม้นั้นมาอยู่ในมือพร้อมสัมผัสอย่างหนึ่งที่แปลกไป
มันดูเบาราวกับขนนก จับค่อนข้างถนัดมือ ดูเหมือนกำลังดีใจอะไรสักอย่าง
ดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่สบกับดวงตาสีดำสนิทของเพื่อนรัก
ทั้งสองเข้าใจความหมายที่สื่อสารผ่านสายตา
“พวกเธอสองคนเข้าไปดูเจ้าก๊อบลินนั่นก่อนเถอะ
ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับเฟลอร์น่ะ”
“นึกว่าเธอไม่ชอบเขาซะอีก” รอนโพล่ง
“แบบผู้หญิง” เธอตอบ
สองหนุ่มมองตากันแล้วพากันเข้าไปในห้อง
ส่วนอีกหนึ่งสาวเดินลงไปยังชั้นล่างสุด
พบเฟลอร์กำลังเช็ดจานแต่ล่ะใบอย่างช้าๆ ดวงตาเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าสีเทาพร้อมสายฟ้าแลบแปลบปลาบ
เฮอร์ไมโอนี่กระแอม หล่อนสะดุ้ง
ผมสีบลอนด์สะบัดไปอีกทางขณะหมุนศีรษะมาทางเธอพร้อมยิ้ม
“ไง เออร์ไมโอนี่”
เฟลอร์ทักทายยังคงติดสำเนียงบ้านเกิด
“ขอบคุณนะคะ” เธอว่า
“เรื่องที่ให้เราพักอยู่ที่นี่พร้อมคนที่พวกผู้เสพความตายต้องการตัว
มันทำให้พวกคุณกลายเป็นเป้าจากคนพวกนั้น ทำให้พวกคุณเป็นอันตราย”
สาวผมบลอนด์ตรงหน้ายังยิ้มอยู่ หล่อนหยุดงานในมือ
เข้ามาจับมือเธอพามานั่งลงบนโซฟา เธอส่ายหน้าๆ เบาๆ
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ
ฉันกับบิลยินดีช่วยพวกเธอ”
น่าแปลกทุกคำที่หล่อนพูดออกมากลับทำให้หัวใจดูอบอุ่นขึ้นมาบ้างราวกับว่าครอบครัววีสลี่ย์คือครอบครัวของเธอเช่นเดียวกันกับพ่อแม่ในโลกมักเกิ้ลที่เธอลบความทรงจำพวกเขา
น้ำใสๆ เอ่อล้นขอบตาเฮอร์ไมโอนี่
เฟลอร์เห็นเช่นนั้นจึงยื่นมือออกไปปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยนเหมือนแม่
นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เจอกับพวกเขา บางทีเธออาจไม่ได้พบพวกเขาอีก
พวกเขาอาจลืมว่าบนโลกใบนี้ เธอเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา
เฮอร์ไมโอนี่กุมมือบางๆ
ทว่าหยาบกระด้างของเฟลอร์แน่นขึ้นพลางเอ่ย
“ฉันต้องการให้คุณช่วยและเรื่องนี้ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้นอกจากคุณ”
สีหน้าของเฟลอร์เปลี่ยนไป “ฉันหรือ”
เธอถามอย่างไม่แน่ใจนัก
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าอีกครั้ง “ใช่แล้ว
ฉันอยากได้ตราโรงเรียนโบซ์บาตงค่ะ คุณช่วยหาให้หน่อยได้ไหมคะ ขอร้องล่ะ”
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเธอต้องการไปทำอะไรแต่ว่าโชคดีนะ
ฉันยังเก็บจดหมายจากน้องสาวฉันเอาไว้…เกเบรียลน่ะ เธอยังจำได้ไหม”
หล่อนถามพร้อมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ๊กแก็ตสีน้ำเงินไร้ลวดลายที่สวมอยู่
“จำได้สิ คนที่แฮร์รี่ช่วยขึ้นมาจากน้ำพร้อมรอน” เธอตอบขณะระลึกย้อนไปขณะเรียนอยู่ปีสี่ที่ฮอกวอต อะไรหลายๆ อย่างดูสนุกสนานมาก ชีวิตในวันเก่าๆ ภาพที่ทะเลาะกับรอน เต้นรำกับวิคเตอร์ ครัม เสียงสาวๆ กรี๊ดใส่ครัมในห้องสมุดที่เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่หรือเรื่องเศร้าๆ ตอนที่เซดริก ดิกกอรี่ตายเพราะโวลเดอมอร์ แม้เขาจะมาจากบ้านฮัฟเพิลพัฟที่หลายคนบอกว่าเป็นแหล่งรวมของเด็กที่ไม่ได้โดดเด่นทว่าจากที่แฮร์รี่เล่าให้ฟังในวันนั้นก่อนปิดภาคเรียน
เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นว่าแม้จะมาจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟแต่จิตใจเขากลับกล้าหาญได้พอกันกับนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ หากเธอหยุดโวลเดอมอร์ได้ บางที...เซดริกอาจยังมีชีวิตอยู่ต่อจากอายุสิบเจ็ดหรืออาจจะจนแก่เฒ่า เธอจะหยุดเรื่องนี้ให้ได้
“เขาแนบจดหมายจากมาดามมักซีมมาด้วย
ถึงฉันจะจบจากโรงเรียนมาได้สามปีแล้วแต่ช่วงหลังๆ ยังคงติดต่อกับมาดามมักซีมอยู่บ้าง
เขามาจะส่งจดหมายพร้อมด้วยตราโรงเรียนบนจดหมายมาด้วยน่ะ”
เฟลอร์กล่าวพร้อมฉีกกระดาษเหลืองๆ ส่วนของตรายื่นให้เฮอร์ไมโอนี่
เธอยื่นมือไปรับเอาไว้แต่ทว่ายังทำท่ามีเรื่องจะพูด
เฟลอร์สังเกตเห็นท่าทางจึงต้องเอ่ยปากถามอีกครั้ง “อยากได้อะไรอีกงั้นหรือ”
“ถ้าไม่รบกวนมากกว่านี้
ฉันอยากได้ลายเซ็นของมาดามมักซีมด้วยน่ะค่ะ”
เฟลอร์พินิจพิเคราะห์คำขอของเฮอร์ไมโอนี่
หล่อนฉีกกระดาษส่วนนั้นออกมาด้วยพลางยื่นให้ทว่าไม่ได้กล่าวว่าอะไรแต่อย่างใด
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอว่า
เฟลอร์ยิ้มให้อีกครั้ง “ฉันสงสัยจริงๆ
ว่าเธอจะอยากได้พวกมันไปทำไมแต่ไม่เป็นไร เธอไม่จำเป็นต้องตอบฉันหรอก”
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืน สาวผมบลอนด์ลุกขึ้นตาม
ท่าทางอยากจะสวมกอดเธอทว่าไม่แน่ใจในเรื่องนั้นสักเท่าใดนัก
เธอจึงเป็นฝ่ายก้าวไปหาและสวมกอดหล่อนเอาไว้ หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่มีวันทำเช่นนี้ทว่าเธอได้รับความช่วยเหลือมากมายจากผู้หญิงคนนี้
ไม่มีสาเหตุใดจะต้องเกลียดหล่อน ที่ผ่านมาเธอช่างอคติเกินไปเสียจริงๆ
แค่เพียงเพราะจินนี่บ่นกรอกใส่หู เธอจึงพาลไม่ชอบเฟลอร์มาด้วย
วันนี้เธอรู้แล้วว่าเธอนิสัยเสียอย่างไรและพลาดอะไรไปบ้าง
สองสาวผละออกจากกัน
เฮอร์ไมโอนี่กล่าวขอบคุณเฟลอร์อีกครั้งก่อนกลับเข้าห้องที่เฟลอร์เตรียมเอาไว้ให้
เธอนั่งลงบนเตียงเล็กๆ หลังหนึ่งซึ่งดูเหมือนเป็นเตียงสำหรับเด็ก
หยิบกระดาษสองสามแผ่นออกมาลงมือจุ่มน้ำหมึกเขียนตัวอักษรแล้วอักษรเล่าลงบนกระดาษ
เขียนเรื่องราวทั้งหมดในใจหากเธอไม่ได้กลับมา
ทันทีที่เขียนเสร็จ เธอปิดผนึกจดหมายเอาไว้ค่อยๆ
ย่องเดินเข้าไปในห้องที่เพื่อนรักทั้งสองนอนอยู่
วางจดหมายนั่นลงบนโต๊ะเตี้ยข้างเตียง กล่าวลาทั้งสองคนในใจก่อนจะกลับเข้าห้องตนเอง
ตระเตรียมอย่างอื่นให้แน่ใจว่า ของทุกอย่างที่ต้องใช้ยังอยู่ครบอย่างปลอดภัย
เมื่อแน่ใจทุกอย่างเรียบร้อย
จึงจัดการหยิบนาฬิกาย้อนเวลาที่ศาสตราจารย์มักกอลนากัลให้เอาไว้ตอนปีสาม
เธอหมุนมันไว้ในมือ พินิจดูอย่างละเอียด สงสัยมาตลอดว่าอะไรคือกลไกของมัน
ทรายในนั้นดูลดลงไปมากหลังที่เธอใช้ตอนล่าสุดเพื่อเข้าเรียนให้ครบทุกวิชาในปีสาม
เธอลุกขึ้นไม่ลืมหยิบกระเป๋าสะพายสีแดงคล้องเอาไว้กับตัว
เริ่มไขนาฬิกาไปทีละรอบอย่างเชื่องช้า…
*TALKING*
*อันนี้เผื่อใครสงสัยค่ะ
(และไม่เคยอ่านฉบับนิยาย) เฟลอร์เป็นคนฝรั่งเศสค่ะ ในตัว H ภาษาอังกฤษ
คนฝรั่งเศสมักจะออกเสียงเป็นตัว A ค่ะหรือจาก แฮร์รี่เป็นแอร์รี่ค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและยังรออยู่นะคะ เราซึ้งใจมากจริงๆ ค่ะ รู้สึกผิดต่อพวกคุณเลย เราจะพยายามแต่งให้จบนะคะ ส่วนตอนจบก็ต้องขอแอบสปอยว่ายังไงก็ต้องเศร้าค่ะ เพราะแฟนฟิคคู่นี้คงรู้ดีอยู่แล้วนะคะว่ามันไม่มีทางจะจบอย่างสวยงามได้(คนอื่นอาจคิดได้แต่เราคิดว่าไม่ได้) แต่หากแต่งเรื่องนี้จบเมื่อไรก็วางแพลนเอาไว้ว่าจะเขียนตอนพิเศษค่ะแต่จะเป็นเรื่องราวยังไงก็คงต้องขอเก็บเป็นความลับก่อนนะคะ
ปล. แต่ล่ะตอนอาจจะมาห่างกันมากๆ เลยค่ะเพราะพลอตที่เขียนไว้ตอนนี้ยังเป็นเพียงบทต้นค่ะหรืออาจจะไม่มีเวลาเขียนจริงๆ เรื่องนี้คงต้องขออภัยแต่หากยังพอมีเวลาเจียดมาได้อยู่บ้างอาจจะแปลฟิคคู่นี้ที่เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งจากเรื่องที่เราเคยแปลเอาไว้น่ะค่ะมาให้ทุกคนอ่านแทนแก้เซ็งนะคะ 5555
ความคิดเห็น