ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pink Roes ปีศาจวายร้ายขโมยหัวใจยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 นักเรียนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 53


    3

    นักเรียนใหม่

    วันรุ่งขึ้น ฉันก็ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปโรงเรียน ฮ้าว~ ง่วงชะมัดเลยอ่ะ ก็เมื่อวาณฉันแทบไม่ได้นอนเลยนี่นา มัวแต่คิดถึงเรื่องของเจ้าพี่น้องกวนประสาททั้งสองอยู่ จนไม่ได้เป็นอันหลับอันนอน TOT

    เอ๊ะ! ไม่ใช่ว่าฉันไปชอบสองคนนั้นหรอกนะ ฉันก็แค่คิดเรื่องที่ต้องไปดูแลพวกนั้นต่างหาก อย่าเข้าใจผิดไปซะล่ะ-_-**

                ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในรถสุดเลิศของพี่ไวท์ (แอบอิจฉาอยู่ในใจ) แต่ว่าวันนี้พี่ไวท์ไม่ได้เป็นคนขับหรอกนะ คุณสิรินทร์ผู้จัดการวง Twin Rose ของพวกเราต่างหากที่เป็นคนขับรถให้ มันก็เป็นเรื่องปกกติล่ะนะ เพราะว่าพี่ไวท์ก็ยังขับรถไม่เก่งเท่าไร อีกอย่างนะ พี่ไวท์น่ะไม่มีใบขับขี่ด้วยซ้ำ แต่พี่ไวท์ของฉันก็ช่างเป็นคนดีเสียนี่กระไร ตรงที่ว่าทั้งๆที่ไม่ได้มีใบขับขี่แต่พี่ไวท์ก็ยังอุตสาห์มาขับรถได้หน้าตาเฉย สวยที่พี่ไวท์ขับรถเป็นนั้นก็เพราะพี่ไวท์ไปขอให้พ่อช่วยสอนขับรถให้และขอรถจากแม่

    คุณสิรินทร์ผู้จัดการของวงเรานั้น เป็นคนเข้มงวดมาก และเป็นคนสุภาพ มุ่งมั่นตั้งใจกับงานที่ตัวเองทำ มักจะคอยหาข้อผิดพลาดของฉันกับพี่ แต่ความจริงลึกๆแล้วเป็นคนใจดีมากๆเลยนะ ช่วยแก้ไขปรับปรุงสิ่งที่ไม่ดีและแก้ไขข้อผิดพลาดของฉันกับพี่จนพวกเราได้กลายเป็นดาวเด่นในวงการนี้ ฉันก็ต้องขอบคุณคุณสิรินทร์มากๆที่ช่วยทำให้ฉันมีวันนี้ ถึงแม้บางทีคุณสิรินทร์จะทำตัวให้ฉันโมโหอยู่บ่อยครั้งก็เถอะ

    จริงสิ ฉันยังไม่ได้เล่าเลยสินะว่า ตอนนี้ฉันกับพี่ไวท์กำลังจะไปไหนกัน พวกเรากำลังจะไปโรงเรียน  Rose School ที่ต้นตระกูลของฉันเป็นคนสร้างขึ้น และแม่ของฉันก็เป็นคนสืบทอดกิจการนี้ต่อจากคุณยาย และคุณยายนั้นก็สืบทอดกิจการนี้มาจากคุณทวด และคุณทวดก็สืบทอดกิจการาจากคุณทวดของคุณทวด แล้วก็...  โอ๊ย พอเหอะ ตัวเองอธิบายเองแล้วก็งงซะเอง เอาเป็นว่ากิจการนี้ต้นตระกูลของฉันเป็นคนสร้างขึ้นก็แล้วกัน

    กลับมาพูดถึงโรงเรียนโรส กันดีกว่า โรงเรียนโรสนั้น เป็นโรงเรียนที่สอนเฉพาะดารา นักร้อง และซุปเปอร์สตาร์ดังๆหลายคน รวมถึงพกวที่มีความฝันอยากจะเข้าวงการนี้ด้วย โดยจะเน้นไปที่การแสดงมากกว่าการเรียนแต่ถึงอย่างนั้นโรงเรียนโรสของเราก็ไม่ละจากเรื่องเรียน คนที่เป็นดารา นักร้อง หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่มักจะถูกนักข่าวตามล่า ต้องเข้ามาอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ไม่ก็โรงเรียนสอนการแสดงที่อื่นๆ เพราะโรงเรียนแห่งนี้และโรงเรียนสอนการแสดงอื่นๆจะเป็รที่ๆปลอดนักข่าว คือนักข่าวไม่สามารถเข้ามาในเขตรงเรียนหรือบริเวณใหล้โรงเรียนเลยแม้แต่น้อย ถ้ามีนักข่าวคนไหนเข้ามาจะถูกจับส่งตำรวจทันที นับว่าเป็นที่ๆหลบภัยจากพวกนักข่าวสำหรับดาราเลยก็ว่าได้

    เอี๊ยด~ โป๊ก! “โอ๊ย!” รถที่คุณสิรินทร์เป็นคนขับเบรคอย่างกระทันหันทำให้ ฉันผู้ซึ่งไม่เคยระวังตัวกับอะไรเลย หัวโขกกับเบาะข้างหน้า โอ๊ย เจ็บชะมัดเลย T^T

    “ขอโทษนะคะ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ พอดีเมื่อกี๊แมววิ่งตัดหน้ารถน่ะค่ะ” คุณสิรินทร์หันพูดกับฉันที่กำลังเอามือกุมหัวที่เพิ่งจะโขกกับเบาะไป

    “ค่ะๆ ไม่เป็นอะไรเลย (ซะที่ไหนเล่า) ค่ะ” ฉันได้แต่พูดบางคำต่อในใจ เพราะไม่สามารถพูดอะไรที่ฉันคิดว่ามันต้องไม่ถูกใจคุณสิรินทร์ เพราะมิฉะนั้นฉันอาจจะต้องโดนคุณสิรินทร์สวดอีกยาวก็ได้

    “ถ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ วันหลังกรุณาระวังตัวให้ดีด้วยนะคะ” พูดจบคุณสิรินทร์ก็กลับไปขับรถต่อโดนไม่สนใจไยดีฉันเลย แต่ฉันก็รู้นะว่าคุณสิรินทร์น่ะเป็นคนใจดี ใจดีจริ๊งๆนะ T_T

    “ไม่เป็นไรใช่ไหมจ๊ะ” โอ้ พี่ไวท์ผู้แสนใจดี แม่พระมาโปรด ทำไมพี่ไวท์ถึงได้เป็นคนใจดีศรีสังคมแบบนี้ รู้ใจน้องสาวซะด้วยสิ ฮิ ฮิ ฉันนี่มีพี่สาวที่ดีจริงๆ *-*

    “ไม่เป็นไรแล้วล่ะ พี่ไวท์อ่ะ เก่งจังเลย ไม่เป็นอะไรเลยสักนิดเดียว” อิจฉานะเนี่ยที่พี่ไวท์ยังคงนั่งอยู่ในท่าที่สง่างามเหมือนเดิม รักษาท่ามาก

    “ก็...คงงั้นนะจ๊ะ”และพวกเราก็จบบทสนทนาไปอีกนาน มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมากเลยนะเนี่ย ไม่ชอบบรรยากาศอย่างนี้เลย ให้ต่ยสิ และแล้วคุณสิรินทร์ได้ขับรถมาถึงที่โรงเรียนของฉัน ฉันถึงจะรู้สึกหายจากอาการอึดอัดนั่นสักที พอฉันออกจากรถมาแล้วฉันก็สูดอากาศเข้าไปในปอด ชอบบรรรยากาศอย่างนี้ที่สุดเลย><

    เมื่อพี่ไวท์ออกจากรถตามมา คุณสิรินทร์ก็ขับรถออกไป โดยไม่สนใจพวกเราเลย ให้ตายเหอะ เป็นผู้จัดการภาษาอะไรที่นักร้องในความดูแลของตัวเองแท้ กลับไปโดยไม่ยอมกล่าวอะไรเลย แย่จริงๆ (pinkangle: แต่เขาก็ทำให้เธอได้มาเป็นนักร้องชื่อดังนะ)

    และแล้วความไม่สงบสุขก็มาเยือน เมื่อพวกเราก้าวเข้าสู่โรงเรียน...

    ซะที่ไหนเล่าT^T

    “เฮ้ย ดูนั่นดิ คู่แฝดวงทวินส์โรสมาแล้วเว้ย” เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนบอกพวกเพื่อนของมัน-_- จะโกนหาซากไร ที่บ้านขายโทรโข่งหรือไง ฉันมองหน้าพวกมันด้วยความเซ็งจิต ตกลงพวกนายอยากมากเป็นดาราหรืออยากมาดูดารากันแน่ ถึงมาเข้าโรงเรียนนี้

    “จริงด้วย คุณไวท์กับคุณพิ้งค์มาแล้ว ฉันไปช่วยเธอถือของดีกว่า”

    “ใช่ๆ ฉันไปด้วย” และแล้วกลุ่มนักเรียนชายหบายๆกลุ่มก็แย่งกันวิ่งเข้ามาหาพวกเรา

    “คุณไวท์โรสครับผมช่วยถือของให้ไหมครับ^^” ตาแว่นคนหนึ่งวิ่งเข้ามาช่วยพี่ไวท์ถือของ แต่ฉันคิดว่าตาแว่นคงอยากจะให้พี่ไวท์หันมามองเท่านั้นล่ะมั้ง ไม่ใช่คนชอบช่วยเหลือคนอื่นสักหน่อย

    “ไม่เป็นไรค่ะฉันถือเองได้นะคะ^^”พี่ไวท์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ทำเอาหัวใจหนุ่มๆแถวนั้นละลาย

    “แต่ว่า...”

    “เฮ้ย หลบไปๆ เจ้าแว่น คุณไวท์โรสครับ เดี๋ยวพบช่วยถือของให้เองนะครับ”

    “เดี๋ยวผมช่วยถือเอง”

    “ฉันเอง”

    “ฉันต่างหาก” หนอยทนไม่ไหวแล้วนะ

    “พวกนายหยุดบ้าได้แล้ว!!! เห็นอยู่ว่าพี่ของฉันไม่อยากก็อย่ามายุ่งสิ!

    “แย่ล่ะ คุณพิ้งค์โกรธซะแล้ว ไปเร็วพวกเรา” และแล้วพวกผู้ชายที่เกือบจะทำให้พวกเราหายใจไม่ออกด้วยการมารุมพวกเรา ก็วิ่งหนีเตลิดไปคนลทิศคนละทาง เหอะ แค่นี้ก็กลัว แต่ก็ช่วยไม่ได้ก็เพราะว่าฉันน่ะเป็นหัวหน้าชมรมคาราเต้นี่ ใครกล้าหือก็ตาย

    เฮ้อ~ พวกผู้ชายนี่น่าโมโหชะมัดเลย เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงได้เกลียดพวกผู้ชาย พวกผู้ชายก็มีแต่พวกกวนประสาท เจ้าเลห์ เจ้าชู้ น่ารำคาญ ช่างตื๊อ และอะไรอื่นๆที่ไม่ดีอีกมากมาย ไม่อยากจะยุ่งกับเจ้าพวกนี้เลย แต่ว่าเพราะพวกเรา ฉันกับพี่เป็นนักร้องที่ดังอยู่ในขณะนี้และพวกเราก็หน้าตาน่ารักมากๆด้วย (ไม่ได้ชมตัวเองนะ) ทำให้พวกผู้ชายอยากให้พวกเราหันไปมองเขาบ้างเลยแย่งกันมาช่วยถือของ ช่วยนู่นช่วยนี่ ทุกวัน น่ารำคาณจะตายไป

    อย่างวันแรกที่เข้าเรียนนะ ก็เจอแบบนี้แหล่ะ ตอนแรกทุกคนก็มาของช่วยฉันถือของด้วย แต่ว่าฉันโมโหมากเกินไปหน่อย ก็เลยใช้คาราเต้ซัดพวกที่มารุมอยู่ไม่เหลือสักราย หลังจากนั้นเป็นต้นมาเลยไม่ค่อยมีผู้ชายคนไหนกล้ายุ่งกับฉัน แต่กลายเป็นว่ามุ่งไปหาพี่ไวท์ ผู้ที่เหมือนแม่พระแทน น่าโมโหจริงๆ ถ้าพี่ไวท์ไม่ห้ามเนี่ย จะซัดให้หมดเลย

    ช่างเหอะ ไม่ว่าพวกนั้นจะมาไม้ไหน ฉันก็ไล่มันกลับไปได้ทุกราย ด้วยทักษะด้านคาราเต้ที่มีอยู่สูงสุดในโรงเรียนนี้ของฉัน

    “ขอบใจนะจ๊ะพิ้งค์ ถ้าไม่มีเธอพี่คงแย่^^

    “ไม่เป็นไรหรอกพี่ไวท์ ถ้าพี่ไม่ชอบก็ต้องปฏิเสธให้ชัดๆไปเลยสิ ถ้าพี่ยังเป็นอย่างนี้ละกัน พวกนั้นก็จะตามพี่ไม่เลิกน่ะสิ”

    “จ้าๆ^^

    “เห็นตอบแบบนี้มาทุกครั้งยังไม่เห็นจะทำได้สักครั้งเลยนะ พี่ไวท์” ฉันแกล้งแซว

    “อย่าคิดมากสิจ๊ะ เดี๋ยวพี่ก็ทำได้เองนะ^^

    “ค่าๆ” และฉันกับพี่ก็คุยกันเรื่องนี้จนกระทั่งถึงห้องเรียน ห้อง A1 ของพวกเรา ห้องในโรงเรียนนี้จะแบ่งเป็น A B C D ระดับ A จะเป็นห้องของพวกแนวหน้าที่มีความสามรถสูง ส่วนห้อง A1 นั้นหมายถึงอยู่ห้องเอ ปี 1 ถ้าปี 2 ก็จะเป็นA2 และไม่แน่ว่าเราจะอยู่ห้องเอตลอดไป โฮะๆ

    พอฉันเปิดประตูห้องเรียนเสียงในห้องก็พูดคุยในวีรกรรมของฉันที่สมารถไล่พวกผู้ชายไปได้หมด จะพูดอะไรกันนักหนานะ เหตุการณ์แบบนี้มันก็ฒีอยู่ทุกวัน คิดแล้วก็รีบลากพี่ไวท์ไปนั่งที่ก่อนที่จะมีพวกผู้ชายบ้าๆมาก่อกวนอีก

    ติ๊งติ๊อง~ ติ๊งต๊อง~ มาอีกละ ออดเข้าเรียนที่ฉันคิดว่ามันปัญญาอ่อนมากๆ เนื่องจากฟังดูแล้วยังไงๆมันก็ด่าเราว่าติ๊งต๊องเท่านั้น เมื่อไรจะเปลี่ยนออดใหม่สักทีล่ะเนี่ย เซ็งจริงๆ -_-

    แอด~ เสียงประตูห้องเรียนเรียกให้สายตาทุกคู่หันไปมองผู้มาใหม่ที่ประตู ผู้มาใหม่นั้นแน่นอนว่าต้องเป็นอาจารย์สาวสุดเฉิ่มใส่แว่นตาหนาเตอะของพวกเรา แต่เอ๊ะ! เฮ้ย! นั่นมัน นั่นมัน นั่นมัน.... เจ้าพี่น้องกวนประสาทนี่ อย่าบอกนะว่ามันก็มาเรียนที่นี่น่ะT^T

    “อะ..อรุณสวัสดิ์จ๊ะ นักเรียนทุกคน...วะ...วันนี้ครูขอแนะนำนักเรียนใหม่นะ นี่คือเรย์และเรียว ต่อไปนี้ทั้งคู่จะมาเรียนที่ห้องเอวันของเรานะ” อะไรนะ! โฮ~ ชีวิตอันแสนสุขของฉัน Y_Y

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×