คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอน 1
พระราชวังทริสทอร์
"เจ้าไปเรียกลูกหญิงมาให้ข้าที" สุรเสียงของกษัตริย์ทริสทอร์ตรัสขึ้นอย่างน่าเกรงขาม
"เพค่ะ ฝ่าบาท" แล้วนางกำนัลจึงไปตามเจ้าหญิงที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนเจ้าหญิงเลยซักนิดเดียว น่าจะเป็นเจ้าชายเสียมากกว่า เพราะเจ้าหญิงของเธอนั้นโดยเวทย์อาคมตั้งแต่เยาว์วัย ให้แปลงเป็นเจ้าชายที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา นัยน์ตาสีออกน้ำตาลเข้มจนถึงสีดำที่ดูมีแววตาขี้เล่นและสนุกสนานมีผมที่ซอยสั้นสีดำ แล้วจะกลับมาเป็นผู้หญิงได้เฉพาะตอนพระจันทร์เต็มดวงหรืออยู่ต่อหน้าราชินีลูน่าเท่านั้น
"ไม่ทราบว่าเสด็จพ่อมีเรื่องอะไรกับหม่อมฉันหรือพระเจ้าค่ะ" เสียงที่หนักทุ้มของเจ้าหญิงแห่งทริสทอร์ในร่างผู้ชายปรากฏขึ้น
"ตอนนี้เจ้าอายุครบ 15 ปีแล้ว เจ้าต้องไปเรียนที่โรงเรียนพระราชาที่เอดินเบิร์ก"
"แต่หม่อมฉันโดนเวทย์อาคมให้กลายร่างเป็นผู้ชายอยู่ แถมพอพระจันทร์เต็มดวงหม่อมฉันต้องกลายร่างกลับมาเป็นผู้หญิงอีก" เสียงแย้งของเจ้าหญิงแห่งทริสทอร์ปรากฏขึ้นทันควัน
"ก็ไม่เป็นไรหนิ เพราะแม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะส่งลูกไปเรียนในฐานะผู้วิเศษหรือซาตานแห่งทริสทอร์ชื่อว่า ลูคัส ซาโดเรีย ส่วนเรื่องที่ลูกต้องคืนร่างเมื่อพระจันทร์เต็มดวง ลูกก็แค่ใช้เวทย์ม่านบังตาก็เท่านั้น" คำพูดของราชินีแห่งทริสทอร์พูดขึ้นมาแทนที่พระราชา เพราะเห็นว่าลูกสาวตัวดีไม่ยอมไปเรียนง่ายๆโดยแน่แท้
"แต่ไม่รู้ว่าเสด็จแม่ลูน่าจะยอมให้หม่อมฉันไปหรือป่าว" น้ำเสียงที่แฝงความเจ้าเล่ห์พร้อมกับนัยน์ตาที่ออกแววระยับพูดขึ้น เพราะเธอคิดว่ายังไงแม่บุญธรรมของเธอหรือราชินีลูน่าไม่ยอมให้ไปโดยแน่แท้ เพราะความที่ไม่เชื่อใจมนุษย์แต่เธอก็ไม่รู้ว่าแม่บุญธรรมของเธอไม่เชื่อใจมนุษย์ด้วยเรื่องอันใด ทั้งๆที่แม่บุญธรรมของเธอสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ได้ล่วงหน้าแท้ๆ
"เจ้าไม่ต้องเอาลูน่ามาอ้าง เพราะยังไงซะพ่อก็เชื่อว่าลูน่าน่าจะรู้ตั้งนานแล้วว่าลูกต้องไปเรียนโรงเรียนพระราชา และยังไงซะอีกไม่นานเฟลิโอน่าก็ต้องไปเรียนในฐานะรัชทายาทแห่งบารามอสเหมือนกัน"
และแล้วเสียงถอนหายใจของว่าที่ผู้วิเศษหรือซาตานแห่งทริสทอร์ก็ดังขึ้น "เฮ่อ... เปลี่ยนจากเจ้าหญิงเป็นเจ้าชายแล้วยังต้องมาเปลี่ยนจากเจ้าชายเป็นซาตานอีก ชีวิตหนอชีวิตทำไมมันถึงยุ่งยากอย่างนี้น้าาาา..."
"แม่ว่าลูกไปเก็บของแล้วเตรียมตัวออกเดินทางดีกว่า เพราะลูกต้องไปที่เดมอสเพื่อที่จะให้ลูน่าล้างอาคมให้ก่อนที่จะไปเอดินเบิร์ก เดี๋ยวจะไม่ทันเอา" เมื่อฟังคำพูดที่อ่อนหวานของราชินีแห่งทริสทอร์พูดแล้วทำให้เธอไม่อยากขัดใจ เพราะเธอรู้ว่าถึงแม้แม่เธอจะใจดีแค่ไหน ตอนถ้าแม่เธอโกรธแล้วเธอแทบอยากจะฆ่าตัวตายซะตอนนั้นเลยทีเดียว
"พระเจ้าค่ะ แต่ถ้าไม่ทันเดี๋ยวหม่อมฉันเรียกโกโดมมารับก็ได้" แล้วเธอก็เดินออกจากห้องไปพร้อมด้วยนางกำนัลอีกสองสามคนเพื่อไปช่วยเธอเก็บของ
ที่ห้องของเจ้าหญิงแห่งทริสทอร์
ห้องสีขาวที่มีเครื่องตบแต่งที่มีราคาแพง พร้อมด้วยม่านสีฟ้าที่ตัดกับสีของห้องทำให้ห้องนั้นดูหวานและสดใสยิ่งนัก เพราะถึงแม้เธอจะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่เธอก็ถูกเลี้ยงมาอย่างผู้หญิงทำให้เธอมีความอ่อนหวานอยู่ในตัว แล้วเธอก็รู้ว่าถ้าเธอมีอายุครบ 18 ปีเมื่อไหร่ เธอก็จะต้องกลายร่างเป็นผู้หญิงอย่างถาวร
เสียงที่บ่งบอกถึงความเศร้าหมองของเจ้าหญิงดังขึ้นว่า "พี่ซาร่า ฉันไม่อยากไปเลย ไม่รู้ว่าที่นั่นจะเป็นยังไง แล้วถ้าฉันมีเพื่อนฉันก็ไม่อยากปิดบังเพื่อนเพราะไม่รู้ว่าเค้าจะรู้สึกอย่างไรถ้าโดนเพื่อนหลอก"
พี่ซาร่าหรือนางกำนัลที่สนิทที่สุดยิ้มให้กับเธอแล้วพูดขั้นว่า "เจ้าหญิงไม่ได้หลอกเพื่อนของพระองค์หนิเพค่ะ เพราะที่เจ้าหญิงเป็นแบบนี้เพราะเจ้าหญิงโดนอาคมตั้งแต่วัยเด็ก หม่อนฉันเชื่อว่าเพื่อนของเจ้าหญิงต้องเข้าใจเพค่ะ"
"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิ" เมื่อเธอพูดเสร็จ เธอก็เรียกโกโดม "โกโดมๆ ออกมาหาฉันหน่อย"
สักพักก็มีตัวประหลาดร่างเล็กที่สูงไม่เกินฝ่ามือ ตัวดูป้อมๆน่ารักน่าชังโดนเฉพาะเขาที่ใหญ่กว่าตัว พูดขึ้นว่า "เจ้าหญิงมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้หรือพระเจ้าค่ะ"
"เจ้าพาเราไปหาเสร็จแม่หน่อยสิโกโดม"
"พระเจ้าค่ะ เจ้าหญิง" สักพักร่างของเจ้าหญิงแห่งทริสทอร์และร่างของโกโดมตัวน้อยก็ได้หายไป
พระราชวังจันทรา
ร่างของเจ้าหญิงแห่งทริสทอร์ที่มีใบหน้าขาวนวลและอ่อนหวาน ดวงตาสีออกน้ำตาลเข้มจนถึงสีดำ ผมสีดำที่ยาวสลวยจนถึงกลางหลังขับกับผิวที่ขาวนวลชวนมอง ขึ้นมาแทนที่บุรุษผิวขาวที่แววตาดูขี้เล่น แล้วปากรูปกระจับสีชมพูก็แย้มขึ้นมาว่า
"ถวายพระพรเพค่ะ เสด็จแม่ลูน่า"
"แม่รู้แล้วหล่ะ ลูกจะมาบอกแม่ว่าลูกจะเข้าเรียนที่โรงเรียนพระราชาที่เอดินเบิร์กสินะ" เสียงของราชินีลูน่าพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เพราะว่าเธอเองก็ไม่มีลูกแล้วนี่ก็ลูกบุญธรรมของเธอ ถึงแม้เธอจะได้เจอบ้างไม่ได้เจอบ้างแต่ลูกของเธอก็มาหาเธอตลอดเวลา และจะต้องให้เธอรักษาอาคมให้ทุกๆสองปีด้วย ความผูกพันที่เกิดขึ้นทำให้เธอทั้งรักทั้งหวง กลายเป็นคุณแม่หวงลูกสาวไปเลยทีเดียว ดังนั้นคนที่จะมาเป็นลูกเขยของเธอจะต้องเจอศึกหนักอย่างแน่แท้
หญิงแห่งทริสทอร์วิ่งเข้าไปกอดราชินีจันทราแล้วก็พูดขึ้นว่า "เพค่ะเสด็จแม่ แต่ว่าลูกไม่อยากไปนี่เพค่ะ เสด็จแม่ลูน่าช่วยทูลกับเสด็จพ่อให้หน่อยได้ไหมเพค่ะ"
"ไม่ได้หรอกจ๊ะลูเคียน่า เพราะมันเป็นพันธสัญญาของเอเดน เดมอส เอดินเบิร์ก แล้วก็สโนแลนด์ ที่เจ้าชายเจ้าหญิงทุกพระองค์ต้องไปเรียนที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก" เธอพูดพร้อมกับลูบผมลูกสาวของเธอ
"แต่"
"ไม่มีแต่ลูเคียน่า การไปเรียนของเจ้าในครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของลูกเปลี่ยนแปลง แม่เองก็ไม่อยากให้ลูกไปแต่ยังไงเราก็ไม่สามารถขืนชะตาของเราได้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แม่ก็ได้แต่เตือนลูกอยู่ห่างๆเท่านั้น เพราะชิวิตเป็นของลูกเองลูกจะต้องทำให้มันดีที่สุด" เสียงที่เศร้าหมองของราชินีลูน่าทำให้ลูเคียน่าอดแปลกใจไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่บุญธรรมของเธอ
"แล้วเราจะทำพิธีล้างอาคมเลยหรือป่าวเพค่ะ" ลูเคียน่าถามด้วยความกังวล เพราะพิธีล้างอาคมมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก จนเธอรู้สึกว่าตัวเองจะอยู่ในโลกนี้ทำไม
"ยังไม่ใช่วันนี้จ้า พรุ่งนี้แม่จะทำให้พิธีล้างอาคมให้ตอนนี้แม่อยากให้ลูกเตรียมใจไว้ก่อน เจ็บยังไงก็ต้องทนเพื่อตัวลูกเอง" ราชินีลูน่ารู้ว่าตอนนี้ลูกของเธอคิดอะไรอยู่เธอจึงพูดเช่นนั้น เพราะตอนแรกเธอก็กะจะทำพิธีล้างอาคมวันนี้เลย
"เพค่ะ เสด็จแม่"
เช้าวันต่อมา พิธีล้างอาคมที่ห้องนอนของเจ้าหญิงลูเคียน่า
เจ้าหญิงลูเคียน่านอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียงนอนเตียงใหญ่พร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียวและเนื้อตัวที่เย็นเฉียบ เพราะต้องกินยาพิษจากจากชาแสงจันทร์เข้าไปก่อนจึงสามารถทำพิธีได้ จากนั้นราชินีลูน่าได้เอามือวางทาบอยู่เหนือร่างของเจ้าหญิงลูเคียน่า ทันใดนั้นก็มีแสงเจิดจ้าพุ่งมาจากมือของราชินีลูน่า แล้วก็มีแสงสีดำพุ่งออกจากร่างของเจ้าหญิงลูเคียน่า แล้วเจ้าหญิงลูเคียน่าก็ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนล้า พร้อมกับพูดคำพูดทีแสนเบาว่า "ขอบคุณเพค่ะเสด็จแม่" จากนั้นหนังตาที่อ่อนล้าของเจ้าหญิงลูเคียน่าก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
ความคิดเห็น