ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เเชร์บอล.....ไบรอัน
ตอนที่  2  เเชร์บอล.....ไบรอัน
 
    ฉันลืมตาขึ้นด้วยร่างกายที่อ่อนเเรง  เพราะอะไรน่ะหรอ  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเเค่ไม่สบายไข้ขึ้นสูงปี๊ดเเต่ดันอุตสาห์ลงสนามเเข่งเเชร์บอล  พอชนะได้ก็ต้องไปวิ่งเเก้บนรอบสนามบอล  ให้ตายเหอะฉันเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเลย  จะให้ทําไงล่ะ...เหตุผลเดียวที่ฉันลงเเข่งเพราะฉันทิ้งเพื่อนไม่ได้  ซ้อมมาด้วยกัน  รู้เเกวกันหมดเเล้ว^O^ถ้าขาดไปคนนึงก็จบเห่เลยดันมาไข้ขึ้นซะได้เเต่ฉันซะอย่างเเค่นี้ชิวๆ
  “ไผ่เเม่จะไปข้างนอกนะลูก  นอนพักซะ  อย่าดูทีวีด้วย เข้าใจมั๊ย”นี่คือคําสั่งของเเม่ฉันที่บัญชาก่อนออกจากบ้านไปกับพ่อ
เเต่ฉันหรอจะฟังวันนี้ละครกําลังเข้มข้นไม่มีพลาดหรอก  เเน่นอนฉันนั่งถางตาดูจนจบเเล้วปิดทีวีพักผ่อนตามที่เเม่บอก  เเต่ไม่ว่าฉันจะทํายังไงหัวมันก็มีเเต่เรื่องอะไรไม่รู้วนเวียนไปหมดจนฉันก็เคลิ้มหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว  รู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว  ฉันไม่มีเเรงเลยในหัวมันมึนไปหมด  เมื่อกี้ฉันฝันเห็นเรื่องราวมากมายในอดีตจนถึงปัจจุบัน  นี่ฉันกําลังจะตายหรอเนี่ย  โฮ~
เเม่กลับมาเเล้วเอายาให้ฉันกินพร้อมกับใช้มือเเตะหน้าผากฉันเพื่อวัดความร้อน  เเล้วเเม่ก็หันมาถามฉัน
  “นี่เเกพักผ่อนจริงๆรึป่าวเนี่ย”
  “จริงสิเเม่  เเต่หนูปวดหัวมากเลยอ่ะ”
เเม่ทําสีหน้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด
  “เเกไม่ได้ดูทีวีเเน่นะ”
  “เเม่หนูเพลีย  ปวดหัวด้วย”เเละก่อนที่เเม่จะถามซอกเเซกต่อฉันก็ต้องเปลี่ยนเรื่องเพราะฉันก็ไม่อยากโกหกเเม่  อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ตอบ- -!ถือว่าคงไม่ผิด
  “เเน่ล่ะสิ  ไข้เเกมันสูงจนปลอดเเทบเเตก”
  “เเม่บ้านเรามีปรอทด้วยหรอ”
  “หุบปากเเล้วนอนซะ”
  “^-_-^”
สามวันต่อมาฉันก็เเบกสังขานไปโรงเรียน  นี่โชคดีนะเนี่ยที่โรงเรียนมีหยุดเรียนเมื่อวันจันทร์เพราะเป็นวันสถาปนาโรงเรียนทําให้ฉันได้พักรักษาตัวอย่างไม่ต้องหยุดเรียนได้  ฉันไม่ชอบการหยุดเรียนเท่าไหร่หรอก  เพราะมันจะทําให้สมองของฉันเรียบเนียนยิ่งขึ้น
“ใกล้เเข่งเเล้วทีมเราไม่มีความพร้อมกันเลย”ลูกชุบพูดด้วยใบหน้าจริงจังหลังจากที่หล่อนสามารถพาทีมเข้ารอบชิงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
  “อืมม  เเต่เราก็ทํากันเต็มที่เเล้วนะ”ชมพู่ซึ่งเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในทีมพูด
  “ยังไงซะวันนี้เราจะซ้อมกันก่อนเเข่ง  เเค่ให้รับบอลเเบบเเม่นๆปึกๆหน่อยโอเคมะ”ลูกชุบออกคําสั่งกับลูกทีมถึงเเม้จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเเต่หล่อนก็เป็นที่ยอมรับว่าฝีมือเยี่ยม(ที่อยู่บนความถึก)
ตอนเย็นพวกเราชาว  Black  bean  power  ก็ซ้อมกันอย่ามั่วๆซั่วๆ  วันนี้มีพ่อของเพื่อนในทีมมาช่วยชี้เเนะให้ 
  “ทีมเรายังเล่นไม่เป็นระบบเลยนะ”่พ่อ(พ่อยัยเจน)พูดขึ้นกลางวงที่รุมล้อมเป็นก้อนอะไรซักอย่าง
  “ค่ะพ่อเจน  หนูก็ว่ามันยังไม่ปึกเลย  ส่งบอลกันไม่ค่อยเเม่น”ลูกชุบทําหน้าที่เล่าข้อเสียให้พ่อฟัง
  “ทีมเรายังมีช่องโหวอีกเยอะทีเดียว  เเล้วที่พ่อรู้มาทีมที่เราจะเเข่งด้วยน่ากลัวนะ”
พวกเราทําหน้ากังวลเเละสงสัย  พ่อเจนเห็นเลยชี้เเจงให้พวกเราเข้าใจเพราะท่านคงเห็นหน้าพวกเรามีเครื่องหมายคําถาม-_-?
  “้ทีมนั้นมีหัวหน้าทีมที่เป็นนักกีฬาเเชร์บอลของโรงเรียนอยู่”
  “อืมม  เค้าเก่งมากเลย”เจนทําสีหน้าวิตก
  “เจนอยู่โรงเรียนเดียวกับเค้าเเละเคยอยู่ทีมเดียวกันด้วย”พ่อเจนชี้เเจง
  “เเล้วลูกทีมบางคนก็เป็นนักบาสด้วย”ลูกชุบเอ๋ยขึ้นทําให้ความมืดครึ้มปกคลุมไปชั่วขณะ
  “อืมม  เราควรหาทางเเก้ไขดีกว่าที่จะมานั่งกลุ้มนะ  เวลาก็ยิ่งใกล้เข้ามาเเล้วด้วย”พ่อเจนเอ่ยทําลายความเงียบ
  “เป็นนักบาสย่อมมีความคล่องตัว  เเถมตัวก็ใช่ย่อย  ทีมเราเเค่รูปร่างก็เสียเปรียบเเล้ว”เเพรวเเสดงความคิดเห็น
    “เอาเถอะยังไงเราก็ต้องสู้เเพ้หรือชนะเอาไว้ก่อน  มาทําให้ทีมของเราเข้มเเข็งกว่านี้ดีกว่า”ลูกชุบเเสดงความคิดเห็นที่เรียกกําลังใจเพื่อนได้ถึงเเม้จะน้อยนิดก็ตาม
จากนั้นมาเราก็ทุ่มเทซ้อมอย่างหนัก  บางครั้งพ่อเจนก็มาช่วยเเนะนําเเละวางเเผนให้บ้างนิดหน่อยเพราะพ่อเจนเป็นนักกีฬาที่เก่งกาจมากทีเดียว(สมัยเรียนนะคะทุกคน)  ทุกคนฝึกกันโยนสับหลอกล่อบ้างอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกวัน  ในที่สุดก็มาถึงรอบชิง
  “ตื่นเต้นว่ะ”ฟางพูดในขณะที่มือยังสั่นเป็นเจ้าเข้า
  “ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอก  เราซ้อมมากันเเล้วนะ”ลูกชุบปลอบเพื่อน
  “อืมม  เก็บความตื่นเต้นไว้เว้ย  พอลงสนามก็เต็มที่นะ”ฉันบอกทุกคนทั่งๆใจฉันก็สั่นไม่หยุด
  “เฮ้ยพ่อข้าอาจมาช้านะเว้ย  บังเอิญมีธุระว่ะ  ไม่รู้จะมาทันดูรึป่าว”เจนเดินเข้ามาบอก
 
  “ไม่เป็นไรหรอ  พ่อเเกมีธุระต้องทํายังไงเราก็ต้องเต็มที่อยู่เเล้ว”เเพรวพูด
  “เเล้วกองเชียรเราวันนี้มากันเยอะกว่าทุกทีนะเนี่ย”เชอร์รี่พูดขึ้น
  “ก็วันนี้มันรอบชิง  คนก็ต้องมาดูเยอะเเหละ”เอรินพูดซึ้งมันก็ทําให้ขนบนเเขนเเต่ละคนทํางานด้วยความตื่นเต้น
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
เสียงกรรมการให้สัญญาณนักกีฬาให้เข้าสนาม
โอ้ย~ฉันรู้สึกท้องไส้มันโหวงเหวงยังไงก็ไม่รู้ตอนเดินเข้าสนาม  ทุกสายตาคงจับจ้องมาที่พวกเรา  ฉันเลยไม่กล้าสบตาใครซักคน  ที่ฉันกลัวน่ะไม่ใช่กลัวเเพ้นะเเต่กลัววิ่งสะดุดหกล้มหัวทิ่มให้คนเค้าบริหารปากกันอ่ะดิ  เพราะมันคงจะอุบาทจนคนดูรับไม่ได้  ฉันนี่โคตรจะอาย  เพราะฉันเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างสูงกว่าทุกคนถ้าไม่รวมเชอร์รี่ที่เป็นตัวปัดเพราะคุณเธอสูงเยี่ยงเสาชิงช้า  ฉันมักจะยืนหัวโด่ในสนามคอยต่อบอลหรือไม่ก็ชู๊ต
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด~  เสียงเชียร์ดังสนั่นทันทีที่พวกเราเข้าสนาม  เเละเเล้วเวลาการเเข่งขันก็เริ่มขึ้น
ฉันปัดลูกได้ลูกชุบกระโดดรับบอลเเล้วส่งต่อให้ฟาง  ฟางจะส่งต่อให้เเพรวเเต่ก็โดยหัวหน้าทีมอีกฝั่งปัดโดนซะก่อน  เเละเริ่มกลับมาเขตศัตรูอีกครั้งฉันพยายามที่จะปัดลูกเเต่ไม่สําเร็จเพราะไอ้เตี้ยมันดันหมุดเเขนฉันเเล้วส่งไปให้ไอ้โย่ง  เเล้วไอ้โย่งก็ชู๊ตลงตะกร้าไปอย่างสวยงาม  ทําให้ทีมฉันตามอยู่สองเเต้ม    เเต่ทุกคนก็ยังพยายามต่อไปทําเเต้มได้บ้างไม่ได้บ้าง  ตอนนี้ความกลัวความตื่นเต้นของทุกคนได้หายไปจนหมดสิ้นเเล้ว
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
เสียงนกหวีดบอกหมดเวลาครึ่งเเรกนักกีฬาก็เเทบตายคลานมารับนํ้าข้างสนามอย่างเหนื่อยอ่อน  พ่อของเจนก็เพิ่งเข้ามา  เเละเริ่มช่วยสอนพวกเราเเต่ดูเหมือนว่าฉันกับเพื่อนๆจะไม่รับอะไรเเล้วเพราะว่านัดนี้เป็นนัดที่เหนื่อยมาก  ฉันนั่งหอบอยู่ข้างสนามเเทบไม่ได้คุยกับใครเลย  มีเเต่พวกเพื่อนๆเอาพัดเอานํ้ามาให้เเล้วก็ให้กําลังใจกันยกใหญ่
  “ขอนํ้าอีกขวดดิ”ฉันเอ๋ยพร้อมทั้งยื่นมือขึ้นขวดนํ้าก็ถูกส่งมาจากใครก็ไม่ทราบเพราะฉันไม่สามารถยกคอขึ้นไปดูได้- -
  “ขอบใจ”ฉันกล่าวขอบคุณ
  “ไม่เป็นไร”เสียงที่ตอบกลับมาทําเอาฉันงงเต๊ก  ฉันมีเพื่อนเสียงหล่อขนาดนี้เลยหรอ  ฉันเงยหัวอันเเสนหนักหน่วงขึ้น
  “ไบรอัน!”ฉันตกใจที่เห็นเขา  ก็ดูฉันสิ ... สภาพอย่างกับไปคุ้ยขยะมา  ผมก็กระเซิง  หน้าก็ทั้งเเดงทั้งมัน  ตัวก็มีเเต่เหงือ  ไม่ใช่เเค่ไบรอันจะกลัวนะขนาดผีมันยังไม่อยู่เลย  ทําไมฉันต้องมาเจอกับนายนี่ตอนที่ทุเรศๆด้วยนะ 
  “เธอรู้จักฉันด้วยหรอ”เขาถามงงๆ
รู้จักสิยะ  ใครไม่รู้จักก็โง่เต็มขั้นเเล้ว  นายนี่มีตาสีฟ้า  ผมสีนํ้าตาลเข้มประกายนิดๆถึงจะไม่ใช่สีทองเเต่มันก็ดูรู้ว่าเป็นชาวต่างชาติเเน่นอน  เเล้วก็คงไม่มีใครที่ไหนเค้าไม่รู้จักนายกันหรอกนะ  ก็เล่นมีฝรั่งหัวทองมาเดินโด่เด่ในโรงเรียนทั้งคน
  “ฉันก็ต้องรู้จักนายสิ  ก็นายออกจะดัง”
  “ฉันหรอดัง  ไม่หรอก”เขาตอบเหมือนถ่อมตัว  เเต่ถ้าอย่างนายเรียกว่าไม่ดังเเล้วยังจะมีหมาตัวไหนที่มันจะดังอีกล่ะเพ่ 
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
ฉันนี่ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย  เพิ่งเคยคุยกับเค้าครั้งเเรกนะเนี่ย  เเต่ความสุขของคนเรามักอยู่ได้ไม่นานเมื่อหมดเวลาการพักในครึ่งเเรกฉันก็ต้องลากขายาวๆไปกลางสนามเพื่อปัดลูก  ส่วนไบรอันก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมาจอเเจด้วย  ทําให้ข้างที่เชียร์ฝั่งของฉันเพิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะประชากรหญิง
  “ไผ่!!”ลูกชุบตะโกนเรียกพร้อมทั้งส่งลูกในมือมาให้ฉัน  ฉันกระโดดรับเเละส่งคืนให้ลูกชุบอีกครั้ง
  “ชุบ”เเพรวซึ้งเป็นตัวชู้ตเรียกลูกชุบ  เเพรวรับบอลอย่างเหมาะเจาะเเล้วหันหลังชู้ตใส่ห่วงอย่างสวยงาม  มีเสียงเหดังทั้งสนาม
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
สัญญาณตัดสินดังขึ้น  ใจของฉันเต้นจนจะออกมานอกเบ้า  ทุกสายตาหันไปที่บอร์ดคะเเนน
Black  bean  power  =>  24
Sonic  =>  30
ความเหน็ดเหนื่อยหายไปหมดฉันเดินเข้าสนามที่มีเสียงเพื่อนๆที่นั่งเชียร์ตะโกนว่าไม่เป็นๆเเละเข้ามากอดให้กําลังฉันมากมาย  ขณะที่ฉันกําลังกอดกับเพื่อนสายตาก็เบนไปที่ไบรอัน  เค้ากําลังมองฉันอยู่เเล้วเค้าก็เดินใกล้เข้ามาทางนี้เเล้วด้วย
  “ไม่เป็นไรหรอก  ครั้งหน้าเอาใหม่ได้  เเล้วเจอกันนะ”ไบรอันตบไหล่ฉันเบาๆเเล้วเดินจากไปทิ้งรอยยิ้มกระชากใจไว้ให้ฉัน  ผู้หญิงหลายคนส่งสายตาไม่เป็นมิตรพร้อมกับเหยียดปาก  ฉันได้เเต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร  ไม่ใช่เพราะเสียใจที่เเพ้หรอกนะเเต่ดีใจที่ไม่ต้องไปเเก้บนวิ่งเก้ารอบสนามบอลต่างหาก- -^  ไม่ใช่!  ดีใจที่นายไบรอันมาพูดให้กําลังฉันต่างหากเล่า  ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยจะนึกหรือฝันให้เค้ามาทักฉันเลยนะ  เเค่ฉันจะไปทักเค้ายังหัวหดเลย  นี่เราไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลยด้วยเเล้วทําไมอยู่ๆถึงได้เข้ามาทักฉันซะละ  อ๋อ~คงเห็นว่าอีเพิ้งที่ไหนวิ่งไล่บอลในสนามอะดิ  คิดว่าฉันเป็นของเเปลกรึไงยะ  เเต่ก็เป็นโอกาสดีนะที่ฉันจะทําความรู้จักกับเขามากขึ้น  เหอะๆๆ
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<จบตอน>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
  ขอบคุณผู้อ่านทู๊กกกกท่านนะคะ  มีกําลังใจขึ้นมากเลย  ฉันเคยอ่านนิยายของผู้เขียนคนนึงในเวปนี้เเล้วประทับใจมาก  เลยอยากลองเขียนเเนวนี้ดู  เนื้อเรื่องเกิดที่ประเทศไทยง่ายเเก่การเขียนด้วย  ฉันไม่ขอเอ่ยนามนักเขียนผู้นั้น  เเต่ขอชื่นชมผลงานต่อไป  เพราะเขาคือผู้เขียนที่ทําให้ฉันมีเเรงบันดาลใจเเละความใฝ่ฝัน
  รักผู้อ่านทุกท่าน^^\"  สุดท้ายก็ขอกําลังใจจากผู้อ่านด้วยนะคะ......
-pink_lavender-
 
    ฉันลืมตาขึ้นด้วยร่างกายที่อ่อนเเรง  เพราะอะไรน่ะหรอ  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเเค่ไม่สบายไข้ขึ้นสูงปี๊ดเเต่ดันอุตสาห์ลงสนามเเข่งเเชร์บอล  พอชนะได้ก็ต้องไปวิ่งเเก้บนรอบสนามบอล  ให้ตายเหอะฉันเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเลย  จะให้ทําไงล่ะ...เหตุผลเดียวที่ฉันลงเเข่งเพราะฉันทิ้งเพื่อนไม่ได้  ซ้อมมาด้วยกัน  รู้เเกวกันหมดเเล้ว^O^ถ้าขาดไปคนนึงก็จบเห่เลยดันมาไข้ขึ้นซะได้เเต่ฉันซะอย่างเเค่นี้ชิวๆ
  “ไผ่เเม่จะไปข้างนอกนะลูก  นอนพักซะ  อย่าดูทีวีด้วย เข้าใจมั๊ย”นี่คือคําสั่งของเเม่ฉันที่บัญชาก่อนออกจากบ้านไปกับพ่อ
เเต่ฉันหรอจะฟังวันนี้ละครกําลังเข้มข้นไม่มีพลาดหรอก  เเน่นอนฉันนั่งถางตาดูจนจบเเล้วปิดทีวีพักผ่อนตามที่เเม่บอก  เเต่ไม่ว่าฉันจะทํายังไงหัวมันก็มีเเต่เรื่องอะไรไม่รู้วนเวียนไปหมดจนฉันก็เคลิ้มหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว  รู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว  ฉันไม่มีเเรงเลยในหัวมันมึนไปหมด  เมื่อกี้ฉันฝันเห็นเรื่องราวมากมายในอดีตจนถึงปัจจุบัน  นี่ฉันกําลังจะตายหรอเนี่ย  โฮ~
เเม่กลับมาเเล้วเอายาให้ฉันกินพร้อมกับใช้มือเเตะหน้าผากฉันเพื่อวัดความร้อน  เเล้วเเม่ก็หันมาถามฉัน
  “นี่เเกพักผ่อนจริงๆรึป่าวเนี่ย”
  “จริงสิเเม่  เเต่หนูปวดหัวมากเลยอ่ะ”
เเม่ทําสีหน้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด
  “เเกไม่ได้ดูทีวีเเน่นะ”
  “เเม่หนูเพลีย  ปวดหัวด้วย”เเละก่อนที่เเม่จะถามซอกเเซกต่อฉันก็ต้องเปลี่ยนเรื่องเพราะฉันก็ไม่อยากโกหกเเม่  อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ตอบ- -!ถือว่าคงไม่ผิด
  “เเน่ล่ะสิ  ไข้เเกมันสูงจนปลอดเเทบเเตก”
  “เเม่บ้านเรามีปรอทด้วยหรอ”
  “หุบปากเเล้วนอนซะ”
  “^-_-^”
สามวันต่อมาฉันก็เเบกสังขานไปโรงเรียน  นี่โชคดีนะเนี่ยที่โรงเรียนมีหยุดเรียนเมื่อวันจันทร์เพราะเป็นวันสถาปนาโรงเรียนทําให้ฉันได้พักรักษาตัวอย่างไม่ต้องหยุดเรียนได้  ฉันไม่ชอบการหยุดเรียนเท่าไหร่หรอก  เพราะมันจะทําให้สมองของฉันเรียบเนียนยิ่งขึ้น
“ใกล้เเข่งเเล้วทีมเราไม่มีความพร้อมกันเลย”ลูกชุบพูดด้วยใบหน้าจริงจังหลังจากที่หล่อนสามารถพาทีมเข้ารอบชิงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
  “อืมม  เเต่เราก็ทํากันเต็มที่เเล้วนะ”ชมพู่ซึ่งเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในทีมพูด
  “ยังไงซะวันนี้เราจะซ้อมกันก่อนเเข่ง  เเค่ให้รับบอลเเบบเเม่นๆปึกๆหน่อยโอเคมะ”ลูกชุบออกคําสั่งกับลูกทีมถึงเเม้จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเเต่หล่อนก็เป็นที่ยอมรับว่าฝีมือเยี่ยม(ที่อยู่บนความถึก)
ตอนเย็นพวกเราชาว  Black  bean  power  ก็ซ้อมกันอย่ามั่วๆซั่วๆ  วันนี้มีพ่อของเพื่อนในทีมมาช่วยชี้เเนะให้ 
  “ทีมเรายังเล่นไม่เป็นระบบเลยนะ”่พ่อ(พ่อยัยเจน)พูดขึ้นกลางวงที่รุมล้อมเป็นก้อนอะไรซักอย่าง
  “ค่ะพ่อเจน  หนูก็ว่ามันยังไม่ปึกเลย  ส่งบอลกันไม่ค่อยเเม่น”ลูกชุบทําหน้าที่เล่าข้อเสียให้พ่อฟัง
  “ทีมเรายังมีช่องโหวอีกเยอะทีเดียว  เเล้วที่พ่อรู้มาทีมที่เราจะเเข่งด้วยน่ากลัวนะ”
พวกเราทําหน้ากังวลเเละสงสัย  พ่อเจนเห็นเลยชี้เเจงให้พวกเราเข้าใจเพราะท่านคงเห็นหน้าพวกเรามีเครื่องหมายคําถาม-_-?
  “้ทีมนั้นมีหัวหน้าทีมที่เป็นนักกีฬาเเชร์บอลของโรงเรียนอยู่”
  “อืมม  เค้าเก่งมากเลย”เจนทําสีหน้าวิตก
  “เจนอยู่โรงเรียนเดียวกับเค้าเเละเคยอยู่ทีมเดียวกันด้วย”พ่อเจนชี้เเจง
  “เเล้วลูกทีมบางคนก็เป็นนักบาสด้วย”ลูกชุบเอ๋ยขึ้นทําให้ความมืดครึ้มปกคลุมไปชั่วขณะ
  “อืมม  เราควรหาทางเเก้ไขดีกว่าที่จะมานั่งกลุ้มนะ  เวลาก็ยิ่งใกล้เข้ามาเเล้วด้วย”พ่อเจนเอ่ยทําลายความเงียบ
  “เป็นนักบาสย่อมมีความคล่องตัว  เเถมตัวก็ใช่ย่อย  ทีมเราเเค่รูปร่างก็เสียเปรียบเเล้ว”เเพรวเเสดงความคิดเห็น
    “เอาเถอะยังไงเราก็ต้องสู้เเพ้หรือชนะเอาไว้ก่อน  มาทําให้ทีมของเราเข้มเเข็งกว่านี้ดีกว่า”ลูกชุบเเสดงความคิดเห็นที่เรียกกําลังใจเพื่อนได้ถึงเเม้จะน้อยนิดก็ตาม
จากนั้นมาเราก็ทุ่มเทซ้อมอย่างหนัก  บางครั้งพ่อเจนก็มาช่วยเเนะนําเเละวางเเผนให้บ้างนิดหน่อยเพราะพ่อเจนเป็นนักกีฬาที่เก่งกาจมากทีเดียว(สมัยเรียนนะคะทุกคน)  ทุกคนฝึกกันโยนสับหลอกล่อบ้างอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกวัน  ในที่สุดก็มาถึงรอบชิง
  “ตื่นเต้นว่ะ”ฟางพูดในขณะที่มือยังสั่นเป็นเจ้าเข้า
  “ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอก  เราซ้อมมากันเเล้วนะ”ลูกชุบปลอบเพื่อน
  “อืมม  เก็บความตื่นเต้นไว้เว้ย  พอลงสนามก็เต็มที่นะ”ฉันบอกทุกคนทั่งๆใจฉันก็สั่นไม่หยุด
  “เฮ้ยพ่อข้าอาจมาช้านะเว้ย  บังเอิญมีธุระว่ะ  ไม่รู้จะมาทันดูรึป่าว”เจนเดินเข้ามาบอก
 
  “ไม่เป็นไรหรอ  พ่อเเกมีธุระต้องทํายังไงเราก็ต้องเต็มที่อยู่เเล้ว”เเพรวพูด
  “เเล้วกองเชียรเราวันนี้มากันเยอะกว่าทุกทีนะเนี่ย”เชอร์รี่พูดขึ้น
  “ก็วันนี้มันรอบชิง  คนก็ต้องมาดูเยอะเเหละ”เอรินพูดซึ้งมันก็ทําให้ขนบนเเขนเเต่ละคนทํางานด้วยความตื่นเต้น
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
เสียงกรรมการให้สัญญาณนักกีฬาให้เข้าสนาม
โอ้ย~ฉันรู้สึกท้องไส้มันโหวงเหวงยังไงก็ไม่รู้ตอนเดินเข้าสนาม  ทุกสายตาคงจับจ้องมาที่พวกเรา  ฉันเลยไม่กล้าสบตาใครซักคน  ที่ฉันกลัวน่ะไม่ใช่กลัวเเพ้นะเเต่กลัววิ่งสะดุดหกล้มหัวทิ่มให้คนเค้าบริหารปากกันอ่ะดิ  เพราะมันคงจะอุบาทจนคนดูรับไม่ได้  ฉันนี่โคตรจะอาย  เพราะฉันเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างสูงกว่าทุกคนถ้าไม่รวมเชอร์รี่ที่เป็นตัวปัดเพราะคุณเธอสูงเยี่ยงเสาชิงช้า  ฉันมักจะยืนหัวโด่ในสนามคอยต่อบอลหรือไม่ก็ชู๊ต
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด~  เสียงเชียร์ดังสนั่นทันทีที่พวกเราเข้าสนาม  เเละเเล้วเวลาการเเข่งขันก็เริ่มขึ้น
ฉันปัดลูกได้ลูกชุบกระโดดรับบอลเเล้วส่งต่อให้ฟาง  ฟางจะส่งต่อให้เเพรวเเต่ก็โดยหัวหน้าทีมอีกฝั่งปัดโดนซะก่อน  เเละเริ่มกลับมาเขตศัตรูอีกครั้งฉันพยายามที่จะปัดลูกเเต่ไม่สําเร็จเพราะไอ้เตี้ยมันดันหมุดเเขนฉันเเล้วส่งไปให้ไอ้โย่ง  เเล้วไอ้โย่งก็ชู๊ตลงตะกร้าไปอย่างสวยงาม  ทําให้ทีมฉันตามอยู่สองเเต้ม    เเต่ทุกคนก็ยังพยายามต่อไปทําเเต้มได้บ้างไม่ได้บ้าง  ตอนนี้ความกลัวความตื่นเต้นของทุกคนได้หายไปจนหมดสิ้นเเล้ว
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
เสียงนกหวีดบอกหมดเวลาครึ่งเเรกนักกีฬาก็เเทบตายคลานมารับนํ้าข้างสนามอย่างเหนื่อยอ่อน  พ่อของเจนก็เพิ่งเข้ามา  เเละเริ่มช่วยสอนพวกเราเเต่ดูเหมือนว่าฉันกับเพื่อนๆจะไม่รับอะไรเเล้วเพราะว่านัดนี้เป็นนัดที่เหนื่อยมาก  ฉันนั่งหอบอยู่ข้างสนามเเทบไม่ได้คุยกับใครเลย  มีเเต่พวกเพื่อนๆเอาพัดเอานํ้ามาให้เเล้วก็ให้กําลังใจกันยกใหญ่
  “ขอนํ้าอีกขวดดิ”ฉันเอ๋ยพร้อมทั้งยื่นมือขึ้นขวดนํ้าก็ถูกส่งมาจากใครก็ไม่ทราบเพราะฉันไม่สามารถยกคอขึ้นไปดูได้- -
  “ขอบใจ”ฉันกล่าวขอบคุณ
  “ไม่เป็นไร”เสียงที่ตอบกลับมาทําเอาฉันงงเต๊ก  ฉันมีเพื่อนเสียงหล่อขนาดนี้เลยหรอ  ฉันเงยหัวอันเเสนหนักหน่วงขึ้น
  “ไบรอัน!”ฉันตกใจที่เห็นเขา  ก็ดูฉันสิ ... สภาพอย่างกับไปคุ้ยขยะมา  ผมก็กระเซิง  หน้าก็ทั้งเเดงทั้งมัน  ตัวก็มีเเต่เหงือ  ไม่ใช่เเค่ไบรอันจะกลัวนะขนาดผีมันยังไม่อยู่เลย  ทําไมฉันต้องมาเจอกับนายนี่ตอนที่ทุเรศๆด้วยนะ 
  “เธอรู้จักฉันด้วยหรอ”เขาถามงงๆ
รู้จักสิยะ  ใครไม่รู้จักก็โง่เต็มขั้นเเล้ว  นายนี่มีตาสีฟ้า  ผมสีนํ้าตาลเข้มประกายนิดๆถึงจะไม่ใช่สีทองเเต่มันก็ดูรู้ว่าเป็นชาวต่างชาติเเน่นอน  เเล้วก็คงไม่มีใครที่ไหนเค้าไม่รู้จักนายกันหรอกนะ  ก็เล่นมีฝรั่งหัวทองมาเดินโด่เด่ในโรงเรียนทั้งคน
  “ฉันก็ต้องรู้จักนายสิ  ก็นายออกจะดัง”
  “ฉันหรอดัง  ไม่หรอก”เขาตอบเหมือนถ่อมตัว  เเต่ถ้าอย่างนายเรียกว่าไม่ดังเเล้วยังจะมีหมาตัวไหนที่มันจะดังอีกล่ะเพ่ 
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
ฉันนี่ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย  เพิ่งเคยคุยกับเค้าครั้งเเรกนะเนี่ย  เเต่ความสุขของคนเรามักอยู่ได้ไม่นานเมื่อหมดเวลาการพักในครึ่งเเรกฉันก็ต้องลากขายาวๆไปกลางสนามเพื่อปัดลูก  ส่วนไบรอันก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมาจอเเจด้วย  ทําให้ข้างที่เชียร์ฝั่งของฉันเพิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะประชากรหญิง
  “ไผ่!!”ลูกชุบตะโกนเรียกพร้อมทั้งส่งลูกในมือมาให้ฉัน  ฉันกระโดดรับเเละส่งคืนให้ลูกชุบอีกครั้ง
  “ชุบ”เเพรวซึ้งเป็นตัวชู้ตเรียกลูกชุบ  เเพรวรับบอลอย่างเหมาะเจาะเเล้วหันหลังชู้ตใส่ห่วงอย่างสวยงาม  มีเสียงเหดังทั้งสนาม
ปี๊ด~ปี๊ด~ปี๊ด
สัญญาณตัดสินดังขึ้น  ใจของฉันเต้นจนจะออกมานอกเบ้า  ทุกสายตาหันไปที่บอร์ดคะเเนน
Black  bean  power  =>  24
Sonic  =>  30
ความเหน็ดเหนื่อยหายไปหมดฉันเดินเข้าสนามที่มีเสียงเพื่อนๆที่นั่งเชียร์ตะโกนว่าไม่เป็นๆเเละเข้ามากอดให้กําลังฉันมากมาย  ขณะที่ฉันกําลังกอดกับเพื่อนสายตาก็เบนไปที่ไบรอัน  เค้ากําลังมองฉันอยู่เเล้วเค้าก็เดินใกล้เข้ามาทางนี้เเล้วด้วย
  “ไม่เป็นไรหรอก  ครั้งหน้าเอาใหม่ได้  เเล้วเจอกันนะ”ไบรอันตบไหล่ฉันเบาๆเเล้วเดินจากไปทิ้งรอยยิ้มกระชากใจไว้ให้ฉัน  ผู้หญิงหลายคนส่งสายตาไม่เป็นมิตรพร้อมกับเหยียดปาก  ฉันได้เเต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร  ไม่ใช่เพราะเสียใจที่เเพ้หรอกนะเเต่ดีใจที่ไม่ต้องไปเเก้บนวิ่งเก้ารอบสนามบอลต่างหาก- -^  ไม่ใช่!  ดีใจที่นายไบรอันมาพูดให้กําลังฉันต่างหากเล่า  ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยจะนึกหรือฝันให้เค้ามาทักฉันเลยนะ  เเค่ฉันจะไปทักเค้ายังหัวหดเลย  นี่เราไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลยด้วยเเล้วทําไมอยู่ๆถึงได้เข้ามาทักฉันซะละ  อ๋อ~คงเห็นว่าอีเพิ้งที่ไหนวิ่งไล่บอลในสนามอะดิ  คิดว่าฉันเป็นของเเปลกรึไงยะ  เเต่ก็เป็นโอกาสดีนะที่ฉันจะทําความรู้จักกับเขามากขึ้น  เหอะๆๆ
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<จบตอน>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
  ขอบคุณผู้อ่านทู๊กกกกท่านนะคะ  มีกําลังใจขึ้นมากเลย  ฉันเคยอ่านนิยายของผู้เขียนคนนึงในเวปนี้เเล้วประทับใจมาก  เลยอยากลองเขียนเเนวนี้ดู  เนื้อเรื่องเกิดที่ประเทศไทยง่ายเเก่การเขียนด้วย  ฉันไม่ขอเอ่ยนามนักเขียนผู้นั้น  เเต่ขอชื่นชมผลงานต่อไป  เพราะเขาคือผู้เขียนที่ทําให้ฉันมีเเรงบันดาลใจเเละความใฝ่ฝัน
  รักผู้อ่านทุกท่าน^^\"  สุดท้ายก็ขอกําลังใจจากผู้อ่านด้วยนะคะ......
-pink_lavender-
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น