ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดชีวัน YURI

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ ๑ แรกพบ เป็นเรื่องซะงั้น

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 56


    บทที่ ๑

    แรกพบ เป็นเรื่องซะงั้น

     

     

    รถตู้สีบรอนส์เงินแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านปีกไม้หลังใหญ่ในไร่องุ่นท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดทางภาคเหนือ

    ชายหญิงคู่หนึ่งลงมาจากรถยืนรอใครบางคนให้ออกมาจากรถ ไม่นานนักเด็กสาวคนหนึ่งอายุราวๆ สิบสี่ถึงสิบห้าปีค่อยๆ ก้าวขาลงมาจากในรถลงมายืนข้างๆ ชายหญิงคู่นั้น

    ทั้งสามคนเดินตามกันขึ้นบันไดไปบนบ้านปีกไม้หลังนั้น เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบน ทั้งสามเห็นชายชราผมสีดอกเลานั่งรอพวกเขาทั้งสามอยู่ก่อนหน้าแล้ว

    สวัสดีครับคุณพ่อ

    ชายหนุ่มยกมือไหว้ทักทาย ตามด้วยหญิงสาวที่มาพร้อมกับเขา

    สวัสดีค่ะคุณพ่อ

    เออ..สวัสดี เป็นไงเราเจ้ายอด พ่อเราบอกปู่ว่าออกฤทธิ์อีกแล้วหรือไง ชายชราทักทายเด็กสาวที่มาพร้อมๆ กับลูกชายและลูกสะใภ้ของเขา

    เปล่าสักหน่อย ใครบอกคุณปู่ฮะว่ายอดไปออกฤทธิ์ที่ไหน ไม่มี๊ไม่มี นี่ฮะ ยอดชีวันรีบปฏิเสธเสียงแข็ง

    เอาเถอะๆ เราไม่เคยรับผิดหรอกปู่รู้ แล้วนี่จะมาอยู่กับปู่กี่วัน

    ผมกับแดงจะไปประชุมกันราวๆ สองสัปดาห์ครับคุณพ่อ ว่าจะฝากคุณพ่อเอาไว้ราวๆ นั้น พอดีช่วงนี้ปิดเทอมใหญ่ แม่บ้านที่บ้านขอลาไปดูแลแม่ที่ป่วย ยอดเลยไม่มีใครอยู่ด้วยผมต้องรบกวนคุณพ่อด้วยนะครับ

    รบกงรบกวนอะไรกัน พ่ออยู่ที่นี่เหงาๆ มีไอ้ยอดมาอยู่ด้วย คงหายเหงา

    จะปวดหัวแทนหายเหงาสิคะคุณพ่อ แดงว่าคุณพ่อคงต้องรอฟังคนมาฟ้องอะไรต่อมิอะไรมากมาย

    เออดี เด็กซนเป็นเด็กฉลาด

    คุณพ่ออย่าเข้าข้างยอดมากนักนะครับ เดี๋ยวจะเหลิงไปกันใหญ่

    นั่นสิคะคุณพ่อ ยอดยิ่งไม่ค่อยเชื่อใครอยู่ด้วย ถ้าคุณพ่อให้ท้ายแบบนี้มีหวังไร่นี้คงพังเป็นแถบๆ

    ถ้ามันอยากทำมรดกตกทอดของมันให้พังในมือมัน พ่อไม่ว่าอะไรหรอก เรื่องของมัน มันอยากจะกัดก้อนเกลือกินก็ตามใจมัน

    คุณปู่ฮะ กัดก้อนเกลือกินเป็นยังไงหรือฮะ

    ยอดชีวันถามขึ้นเมื่อได้ยินในสิ่งที่ปู่ของเธอพูด

    รอเดี๋ยว ชายชราลุกขึ้นเดินไปหลังบ้าน หยิบขวดใบหนึ่งมาวางบนโต๊ะ

    อะนี่ก้อนเกลือ กินซะ เขายื่นขวดเกลือเม็ดให้กับยอดชีวัน

    ยี้เค็มจังเลยฮะคุณปู่

     ยอดชีวันร้องออกมาเมื่อได้ลิ้มรสของเม็ดเกลือในขวดนั้น

    นี่แหละกัดก้อนเกลือกินแทนข้าว

    งั้นยอดไม่ทำให้ไร่คุณปู่พังแน่นอนฮะ มันเค็มปะลิดปิ๊ดปี๋ ยอดไปเดินดูไร่คุณปู่ก่อนนะฮะ

    ไปเถอะ ชายชราตอบ

    ไม่ทันขาดคำ ร่างของยอดชีวันลุกขึ้นวิ่งตึงๆ ลงไปจากบ้านของเขา

    ดูสิครับคุณพ่อ ยังไม่ทันอะไรเลยออกไปซนอีกแล้ว

    ช่างเด็กมันเถอะ ว่าแต่เรานั่นแหละ เดินทางมาเป็นยังไงบ้าง

    ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ถนนหนทางดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

    ดีที่แม่เลี้ยงช่วยทำถนน ทางเข้าไร่เราถึงได้ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่อย่างนั้น แกต้องกินฝุ่นมาตลอดทาง

    แม่เลี้ยงที่ไหนหรือคะคุณพ่อ

    แม่เลี้ยงจอยข้างไร่เรานี่แหละ มาช่วยลงขันทำถนนเข้าไร่ ขืนรองบทางการมีหวังพ่อตายก่อน

    แม่เลี้ยงจอยไร่อัศรินนั่นหรือคะคุณพ่อ

    นั่นแหละ แม่เลี้ยงนิสัยดีน่ารัก เป็นกันเอง พ่อก็มีแม่เลี้ยงนี่แหละเป็นเพื่อนคอยให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกองุ่น เห็นว่าวันนี้จะมีหลานสาวมาฝึกงานที่ไร่ พ่อว่าจะไปหาเหมือนกัน ลืมไปว่าพวกแกจะมา

    คุณพ่อไปเถอะครับ พวกผมอยู่ได้ ผมว่าจะไปตามยอดกลับมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้ทำไร่คุณพ่อพังเป็นแถบๆ หรือยัง

    โอเค งั้นเดี๋ยวพ่อไปไร่แม่เลี้ยงก่อนนะ ไว้เย็นๆ เจอกันนายยิ่ง แม่แดง

    ชายชราลุกขึ้นเดินลงจากบ้านไปอีกคน ปล่อยให้ยอดยิ่งลูกชายและอนงค์ลูกสะใภ้อยู่บนบ้านของเขา

    ระหว่างทางเขาเห็นหลานสาวคนเดียวกำลังรวมกลุ่มเล่นกับลูกคนงานในไร่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ เขาจึงขึ้นรถออกจากไร่ไปอย่างใจเย็น

     

    ยอดชีวันเดินลงไปในไร่ เห็นเด็กๆ ลูกคนงานในไร่กำลังเล่นปั้นก้อนทรายเป็นลูกกลมๆ เอามาพุ่งชนกัน เธอนึกสนุกจึงเดินเข้าไปดู

    เล่นอะไรกันเหรอ

    ลูกเกมเด็กคนหนึ่งตอบ

    มันคืออะไร ไม่เคยเล่น

    นี่ไง เอาทรายมาโป๊ะกับน้ำ เด็กชายคนนั้นอธิบายราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญการปั้นลูกเกม

    ปั้นเป็นก้อนกลมๆ เอามากลิ้งใส่ก้นในรางอย่างนี้

    เด็กชายกุลีกุจออธิบายพร้อมกับทำท่าทางให้ดู

    เขาเอาลูกเกมที่ปั้นจากทรายเป็นก้อนกลมๆ มากลิ้งลงในรางทรายที่ขุดขึ้นเป็นทางยาวให้มีความลาดนิดๆ เมื่อลูกทรายกลมๆ สองลูกกลิ้งมาปะทะกัน หากลูกเกมของใครไม่แตกถือว่าคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ

    ยอดชีวันนึกสนุก เธอลงมือปั้นลูกเกมของเธอบ้าง เด็กๆ ส่งเสียงเฮลั่น เมื่อลูกเกมของฝ่ายตนไม่แตก ยอดชีวันแม้จะเป็นมือใหม่หัดเล่น เธอชนะทุกครั้งที่เล่น จึงกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานในกลุ่มที่เธอเล่นกัน

    เฮ้ยพวกเอ็งเล่นอะไรกันอยู่วะ

    เด็กอ้วนคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับเด็กชายตัวผอมกะหร่องอีกสองคน

    เกี่ยวอะไรกับเด็กไร่อื่นวะไอ้อ้วน

    เด็กชายในกลุ่มของยอดชีวันขึ้นเสียงถาม

    เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่วันนี้พวกเอ็งต้องจ่ายค่าที่มาให้พวกข้า

    เด็กชายอ้วนบอกพร้อมกับแกว่งไม้หนังสะติ๊กในมือของตัวเองเป็นวงกลม

    ที่ตรงนี้อยู่ในไร่ผู้การ นายมีสิทธิ์อะไรมาเก็บค่าที่ ยอดชีวันถลกแขนเสื้อของเธอขึ้น เดินเข้าไปถามผู้ที่มาอ้างกรรมสิทธิ์เหนือไร่ของปู่เธอ    

    ของใครข้าไม่สน เด็กแถวนี้ถ้าจะเล่นอะไรต้องผ่านความเห็นชอบของพวกข้าก่อนเข้าใจไหมนังหนู เด็กชายอ้วนเดินเข้ามาเชยคางของยอดชีวันขึ้น แถมยังส่งยิ้มให้กับเธออีกด้วย

    งี้ก็สวยดิ ไอ้อ้วน ยอดชีวันชักฉุน ปกติไม่เคยมีใครกล้ามาแหยมกับเธอแบบนี้ ไอ้อ้วนคนนี้เป็นใคร บังอาจมาลูบคมเสือหมอบอย่างเธอ

    สวยอยู่แล้วไอ้น้อง

    มาตัวๆ กันดีกว่า

    ยอดชีวันยกกำปั้นของเธอขึ้น ท้าทายเด็กชายอ้วนลงพุงตรงหน้าเธอ

    ได้เลยไอ้น้องแล้วพี่จะสั่งสอนให้

    เด็กชายอ้วนยกกำปั้นขึ้น รอการต่อกรกับยอดชีวันทันทีเช่นกัน

    ทั้งสองผลัดกันรุกผลัดกันรับ ต่อยโดนบ้างไม่โดนบ้าง จากครั้งแรกมีแค่กำปั้น มาบัดนี้เริ่มมีเข่า แข้ง ศอก นัวเนียกันไปหมด

    สุดท้ายยอดชีวันชนะ เธอศอกไปที่ปลายคางของเด็กอ้วน จนฟันกระทบลิ้นเลือดออก เด็กชายอ้วนเห็นเลือดในปากของตัวเองจึงร้องไห้โห รีบวิ่งกลับไปที่ไร่ของเขา

    ฝากไว้ก่อนเถอะจะกลับมาเอาคืน

    ยอดชีวันส่งเสียงตะโกนตามหลังไป

    โด่นึกว่าแน่ วันหลังมาใหม่นะโว้ย รออยู่

    เด็กๆ ส่งเสียงเฮ ในที่สุดวันนี้พวกเขาก็ได้ปลดปล่อยตัวเองจากการถูกกดขี่จากเด็กชายอ้วนสักที ไม่มีเด็กคนไหนกล้าต่อกรกับไอ้ใหญ่หรือเด็กอ้วนลูกหัวหน้าคนงานไร่สายลมเลยสักคน

     

    พลโทกิตติอดีตนายทหารเก่า มาถึงไร่อัศรินก่อนเวลานัดหมายกับเจ้าของไร่ไม่กี่นาที เขาเป็นคนตรงต่อเวลาเสมอ

    สวัสดีค่ะท่านนายพล มาถึงก่อนเวลาอีกนะคะท่าน

    บอกกี่หนแล้ว ไม่ต้องเรียกผมว่านายพล เรียกกิตติเฉยๆ ดีกว่า

    มันไม่ชินนี่คะท่าน เชิญข้างในดีกว่าค่ะ ยายออพาท่านเข้าไปข้างในหน่อย น้าจะรอกำนันกับพวกอบต.สักหน่อย

    แม่เลี้ยงจอยเรียกหลานสาวเธอให้พากิตติไปนั่งรอคนอื่นๆ ด้านใน

    วันนี้เธอขอประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการจัดงานขายผลผลิตของไร่พวกเธอที่รวมกลุ่มกันผลิตสินค้าออกมามากมาย แต่ยังหาสถานที่วางจำหน่ายสินค้าไม่ได้ จึงต้องรวมพลังกันเพื่อหาทางออกให้กับผลผลิตที่ผลิตขึ้นมา

    หลานสาวหรือครับ กิตติเอ่ยถาม

    หลานสาวของต้องค่ะ คนที่ขอเจ้าสมายล์มาจากท่านไงคะ

    อ้าวเหรอครับ โตเป็นสาวแล้วสวยขึ้นจนจำไม่ได้

    ค่ะโตเป็นสาว แต่ยังนิสัยเป็นเด็กๆ เหมือนเดิม

    อ๋อครับ กิตติเห็นเด็กสาวที่ชื่อออเดินมาตรงที่เขายืนอยู่กับแม่เลี้ยงจอย เด็กสาวยกมือไหว้สวัสดีเขา จากนั้นจึงเดินนำเขาเข้าไปนั่งรอในห้อง

     

    ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่กำลังประชุมกันอยู่ ออรดาเห็นเด็กในสังกัดของเธอมากวักมือเรียกให้ออกไปหานอกห้อง เธอจึงลุกขึ้นเดินไปหา

    ว่าไงอ้วนไปโดนอะไรมา

    ออรดาเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กอ้วนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหัวหน้าคนงานหน้าตาปูดโปน แถมยังมีรอยแดงๆ เปรอะเสื้อเต็มไปหมด

    ไอ้เด็กไร่โน้นครับนาย มันหาเรื่องผม

    เด็กไร่ไหน

    ไร่ผู้การครับ

    เด็กไร่นั้นน่ะนะ จะทำอะไรนายได้ ตัวเท่ามด มีแต่นายนั่นแหละจะไปรังแกพวกนั้นออรดานึกภาพเด็กในไร่ของพลโทกิตติที่เธอเคยเห็น เด็กพวกนั้นไม่น่าที่จะมีใครหาญกล้ามาต่อกรกับไอ้อ้วนในไร่เธอได้

    มันมีเด็กมาใหม่ครับนาย พวกผมพูดกับมันดีๆ มันต่อยผมครับ

    ใช่ๆ ครับนาย มันต่อยพี่อ้วน แล้วก็จะเตะผม พวกผมก็เลยต้องวิ่งหนีมา เด็กชายตัวผอมในกลุ่มเอ่ยสัมทับเด็กชายอ้วนอีกแรง

    ลูกขุนพลอยพยักเชียวนะพวกแก ไหนพาฉันไปหน่อยใครรังแกพวกแก ถ้าโดนรังแกจริงๆ ฉันจะไกล่เกลี่ยให้ ออรดาบอกพร้อมกับเดินตามกลุ่มเด็กๆ ไปยังไร่ผู้การซึ่งอยู่ติดกับไร่สายลมของน้าสาวเธอ

     

     เอาเลยๆ เสียงเด็กเชียร์กันลั่น อยู่ตรงกองทรายใต้ต้นฉำฉาใหญ่ริมลำธารในไร่ผู้การ

    ออรดาขี่ม้าไปหยุดอยู่ใกล้ๆ เธอหรี่ตามองไปยังกลุ่มเด็กกลุ่มนั้น

    ใครรังแกคนของฉัน ออรดาตะโกนถามไปยังกลุ่มเด็กกลุ่มนั้น แต่ไม่มีใครใส่ใจ ยังคงเล่นปล่อยลูกทรายกลมๆ ให้ไหลชนกันไปเรื่อยๆ

    โย้ว...ชนะอีกแล้ว เอามาๆ พวกแกต้องจ่ายคนละเส้น ต้องเส้นเจ๋งๆ ด้วยนะเว้ย ไม่อย่างนั้นจ่ายสองต่อมาๆ

    ออรดาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งแบมือรับหนังยางจากเด็กทั้งกลุ่ม

    ไอ้ปานแกจ่ายไปก่อนดิ แม่แกเป็นแม่ครัว เดี๋ยวแกก็ได้หนังยางเจ๋งๆ มาอีก พวกฉันหมดตูดแล้ว เด็กชายอีกคนเกี่ยงให้ลูกแม่ครัวในไร่จ่ายค่าเสียหายเป็นหนังยางให้กับยอดชีวันก่อน พวกเขาเล่นแพ้จนหนังยางวงใหญ่ที่ใส่ติดข้อมือออกมาจากบ้านหมดเกลี้ยงกันเป็นแถบๆ

    ฉันถามว่าใครรังแกคนใจไร่ฉันไม่มีใครได้ยินหรือไง

    ได้ยินเพ่แต่ไม่ว่างมีรายปะ ยอดชีวันยียวนกวนประสาทผู้ที่เข้ามาใหม่ โดยไม่หันไปมองด้วยซ้ำว่าคนที่มานั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

    ออรดาขี่ม้าเข้าไปกลางวงนั้นเธอให้ม้าของเธอเขี่ยกองทรายกระจายเด็กๆ ที่อยู่ตรงนั้นจึงกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางตามไปด้วย

    เฮ้ย ไอ้งี่เง่า มาพังสนามประลองพวกเราทำไม

    ยอดชีวันถลกแขนเสื้อขึ้นจ้องหน้าผู้มาระรานเธอจังๆ

    พวกเธอมารังแกอ้วนก่อนทำไม

    ฟังความข้างเดียวนี่หว่า ทำไมไม่ถามคนของเราบ้างล่ะ ว่าไอ้อ้วนงี่เง่านั่นมารังแกอะไรพวกเราก่อน

    ไหนอ้วนว่ามาซิ บอกความจริงมา

    ออรดาหันไปตวาดเด็กอ้วนขี้ฟ้อง คาดคั้นเอาความจริง หลังจากที่เห็นว่าเด็กๆ ของพวกเธอปั่นจักรยานมาจอดและลงจากรถแล้ว

    ไม่จริงครับนาย พวกมันต่อยผมก่อน เด็กอ้วนยังคงยืนกรานคำเดิม

    พวกแกนั่นแหละมาข่มขู่พวกเราก่อน แกยังต่อยพี่ยอดก่อนด้วย นี่ไงหน้าพี่ยอดยังบวมอยู่เลย

    ว่าไงไอ้อ้วน ออรดาเริ่มไม่แน่ใจในคำฟ้องของคนของเธอจึงหันไปถามเด็กอ้วนอีกครั้ง

    ผะ..ผม

    ผมเผิ่มอะไรเล่า แกทำเขาก่อนหรือเขาทำแกก่อน

    ผมทำก่อนครับ เด็กอ้วนเอ่ยบอกเสียงแผ่ว

    ไอ้บ้าเอ๊ย กลับไปฉันจะจัดการกับแก ขอโทษด้วยนะ ที่ขัดจังหวะการเล่นของพวกเธอออรดาบอกกับยอดชีวัน

    ขอโทษแล้วมันหายหรือไง ลูกเกมของฉันมันแตกหมดเห็นไหม กว่าจะปั้นให้ในแข็งแบบนี้ได้ นานแค่ไหน คราวหลังฟังให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยมาหาเรื่องคนอื่นเข้าใจไหมเพ่สาว ยอดชีวันชี้ให้ดูสนามแข่งของพวกเธอ บัดนี้เต็มไปด้วยรอยเกือกม้า แถมลูกทรายปั้นของพวกเธอกลายเป็นกองทรายกองเล็กๆ ปะปนไปกับกองทรายใหญ่ไปจนเกือบหมด

    ขอโทษแล้วไง

    ไม่ได้ว่าไรนิ จะไปไหนก็ไปชิ้วๆ ไร่นี้ไม่ต้อนรับ ยอดชีวันยกมือไล่ออรดา ทำให้เด็กๆ ทั้งกลุ่มช่วยกันยกมือไล่พร้อมกันไปด้วย

    ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เด็กแสบ

    ออรดารีบขี่ม้าออกไปจากไร่ผู้การอย่างรวดเร็วด้วยความแค้นใจ

     

    พลโทกิตติได้รับการบอกเล่าเรื่องที่ออรดาไปอาละวาดยอดชีวันถึงในไร่ของเขาจากปากของแม่เลี้ยงจอย

    ต้องขอโทษจริงๆ นะคะท่าน หลานของจอยวู่วามไปหน่อย พอดีเห็นเด็กในไร่ปากแตกหน้าบวม คิดว่าเด็กในไร่ของท่านทำเกินกว่าเหตุ แถมยังฟังความข้างเดียวอีก ก็เลยเกิดเรื่องขึ้น

    แม่เลี้ยงจอยรีบออกหน้ารับผิดแทนหลานของเธอ เธอกลัวว่าพลโทกิตติจะโกรธและไม่ร่วมมือกับเธอในการรวมตัวกันเพื่อขายผลผลิต

    ผมไม่โกรธหรอกครับ ผมเสียอีกที่ต้องขอโทษพวกคุณ หลานสาวของผมคนนี้เคยยอมใครซะที่ไหน ดีเท่าไหร่แล้วที่ไอ้ยอดมันไม่เอาหนังสะติ๊กไล่ยิงม้าหนูออจนวิ่งเตลิดกลับไร่ ผมละกลัวใจไอ้ยอดมันจริง

    พลโทกิตติพูดปนขำ เมื่อนึกถึงความร้ายกาจของยอดชีวัน

    ยายออก็ทำเกินไปค่ะท่าน ไม่ฟังอะไรให้ดีก่อนค่อยไปอาละวาด เห็นว่าเด็กๆ กำลังเล่นกันอยู่ ม้าของยายออเข้าไปขุดจนสนามแข่งพังหมด ดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บเพราโดนม้าดีด

    นั่นสิครับ ผมว่าเราคงต้องให้เด็กทั้งคู่มาปรับความเข้าใจกันใหม่ ขืนปล่อยเอาไว้อย่างนี้มีหวังเราต้องมารับฟังเด็กๆ ฟ้องกันไม่เว้นแต่ละวัน

    ดีเหมือนกันค่ะท่าน จอยว่าเราสมควรทำที่สุด แม่เลี้ยงจอยเห็นด้วยกับพลโทกิตติอย่างแรง ขืนปล่อยเอาไว้คงเป็นอย่างที่ผู้สูงวันกว่าพูด อาจถึงขั้นเกณฑ์พลยกพวกตีกันตามประสาเด็กๆ ก็เป็นได้ เรื่องนี้ยากที่จะคาดเดา

     

    ออรดาและยอดชีวันถูกจับมานั่งคู่กันทั้งคู่ต่างไม่ยอมลงให้กัน แถมยังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่กันอยู่ตลอดเวลา

    เอาล่ะๆ มาตกลงทำสัญญาสงบศึกระหว่างแก๊งค์เด็กสองไร่กันดีกว่า

    พลโทกิตติบอกกับทุกคน ที่มานั่งล้อมวงกันใต้ต้นไม้ใหญ่ในไร่ของเขา โดยมีกลุ่มเด็กๆ ยืนล้อมวงดูเหตุการณ์อยู่รอบๆ

    ยอดเปล่าทำผิดสักหน่อย ไอ้อ้วนมันมากร่างกับพวกของยอดก่อน ใครจะไปทนได้ล่ะคะคุณปู่ มันต่อยยอดก่อนด้วยซ้ำไป จริงไหมพวกเรา

    ยอดชีวันหันไปถามกลุ่มเด็กในแก๊งค์ของเธอ

    จริงครับ เด็กๆ ตอบเป็นเสียงเดียวกัน

    เป็นคุณปู่จะยอมให้ใครมากร่างในไร่ของเราก่อนหรือคะ คุณปู่สอนยอดเอง เป็นลูกผู้ชายศักดิ์ศรีต้องมาก่อน

    เอาล่ะๆ พอได้แล้วไอ้ยอด ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ปู่จะไม่ฟังอะไรแกอีก ที่ปู่ให้แกมานั่นตรงนี้ ปู่ต้องการให้แกกับหนูออตกลงคืนดีกัน ไม่ใช่ให้แกมาฟ้องเรื่องบ้าๆ บอๆ ของพวกแก แค่เรื่องเล่นกันทำให้ผู้ใหญ่ต้องมาปวดหัว เสียเวลา เสียงานเสียการกันหมด พลโทกิตติตัดบทก่อนที่หลานสาวคนเดียวของเขาจะสร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้น

    ยอด ยอดชีวันกำลังจะพูดต่อ เสียงของยอดยิ่งดังสอดขึ้นมาว่า

    หยุดเลยยอด คุณปู่สั่งว่าอะไร ไม่ต้องพูดใช่ไหม ทำไมเราดื้อแบบนี้นะ แทนที่พ่อกับแม่จะต้องบินไปประชุม เพราะเรานี่แหละก่อเรื่องทำให้พ่อกับแม่ไปไม่ทัน แล้วยังจะมาเถียงผู้ใหญ่อีก เรานี่เกินเด็กจริงๆ

    ยอดยิ่งดุลูกสาวของเขาเสียงกร้าว

    ยอดไม่ฟังใครทั้งนั้น คุณปู่กับคุณพ่อไม่เคยฟังอะไรยอดเลย เอะอะก็ดุๆ ว่ายอดผิด ทั้งๆ ที่ยอดไม่ผิด ยอดไม่อยู่แล้วไอ้บ้านนี้

    ยอดชีวันลุกขึ้นวิ่งแหวกวงล้อมของเด็กๆ ออกไปไม่ฟังเสียงใคร

    ดูยอดสิครับคุณพ่อ ดื้อจนดูไม่ได้

    ยอดยิ่งกล่าวอย่างเอือมระอาในพฤติกรรมของลูกสาวตน

    ไม่เป็นไรพ่อรับมือไหว แกสองคนรีบไปเถอะเดี๋ยวจะตกเครื่องไปเปล่า กว่าจะถึงตัวเมืองอีกหลายชั่วโมง

    ครับคุณพ่อ ผมฝากยอดด้วยนะครับ

    เออไปเถอะ ไอ้ยอดมันก็หลานพ่อ ใช่ใครอื่นที่ไหน ต่อให้แกไม่เอ่ยปากฝาก พ่อก็ยินดีเลี้ยงมันด้วยความเต็มใจ

    พลโทกิตติตบบ่าลูกชายคนเดียวของเขาเบาๆ

    ผมลาล่ะครับคุณพ่อ ไปนะครับแม่เลี้ยงจอย ไปนะหนูออ ไว้ลุงจะซื้อขนมมาฝาก ยอดยิ่งเอ่ยลาทุกคน เขาเดินไปขึ้นรถพร้อมกับภรรยา หากปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป เขาอาจจะตกเครื่องบินอย่างที่พ่อของเขาบอก

    พลโทกิตติมองรถตู้ของยอดยิ่งค่อยๆ เคลื่อนออกไปจากไร่ของเขา แล้วจึงหันมาทางแม่เลี้ยงจอย

    เห็นฤทธิ์หลานสาวของผมหรือยังครับแม่เลี้ยง สุดยอดไหม

    ยอดสมชื่อเลยค่ะท่าน

    พ่อมันบอกว่าลูกสาวคนแรกต้องชื่อยอดชีวัน ถ้ามีลูกอีกจะตั้งชื่อว่ายอดดวงใจ ผมละอึ้งไปเลย

    ท่านยังตั้งชื่อลูกชายว่ายอดยิ่งเลยนี่คะ

    นั่นแม่เค้าตั้งให้ บอกว่าอยากให้ยอดยิ่งเหมือนพ่อ จริงๆ วผมอยากให้ไอ้ยอดกับหนูออเป็นเพื่อนเล่นกัน มากกว่ามาตั้งป้อมเป็นศัตรูกันแบบนี้นะ ไอ้ยอดมันอยู่ที่นี่มันคงเหงา น่าเสียดายมาทะเลาะกันตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก

    ท่านเคยได้ยินไหมคะ เป็นอริแต่ต้น ลงท้ายเป็นมิตร

    ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ มันต้องอยู่ที่ไร่นี้จนกว่าจะเปิดเทอม

    ยายออก็เหมือนกันค่ะ ต้องอยู่ที่ไร่นี้จนกว่าพ่อของออจะกลับมาจากอัฟริกาใต้

    ไปทำอะไรที่นั่นล่ะครับ

    เห็นว่าจะไปลงทุนทำโรงงานอะไรนี่แหละค่ะ จอยไม่ค่อยได้คุยกับเขาเท่าไหร่ ต้องบอกว่าเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ จอยเคยเจอเขาแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น พอหลังจากที่ตาลเสียไป

    เด็กสองคนถูกเลี้ยงมาแบบให้ท้ายด้วยกันทั้งคู่ น่าสนุกดีนะ แม่เลี้ยงว่าไหม

    คงสนุกจนผู้ใหญ่ปวดหัวกันเป็นแถวเลยล่ะคะท่าน

    ผมก็ว่าอย่างนั้นหรือว่าไงหนูออ พลโทกิตติหันไปมองหน้าหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ที่นั่งฟังการสนทนาของเขากับแม่เลี้ยงจอยอยู่เงียบๆ

    ออรดามองหน้าผู้สูงวัยกว่าและยิ้ม เธอไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับยอดชีวันสักหน่อย เธอแค่ปกป้องสิทธิ์ของเด็กในไร่เธอเท่านั้น หลังจากที่เธอรู้ว่าเธอวู่วามเกินไป ไม่ฟังความจริงจากทั้งสองฝ่าย เธอรู้สึกผิดและอยากจะกล่าวขอโทษยอดชีวัน เรื่องกลับบานปลายใหญ่โต จนตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอต้องทำอะไรต่อไป หรือแค่ทำตัวเงียบๆ ไม่ต่อปากต่อคำ ปล่อยให้ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการอย่างที่น้าสาวเธอบอก

    เอาแต่ยิ้มนะออ เราสมควรไปตามหนูยอดกลับมาได้แล้ว ต้นเหตุมาจากเรา ฉะนั้นเราต้องเป็นคนแก้ไขเข้าใจไหม แม่เลี้ยงจอยออกคำสั่งกรายๆ

    ค่ะ ออรดาเดินไปขึ้นม้าตัวโปรดของเธอ ขี่ไปตามทางที่ยอดชีวันวิ่งตื้อออกไป เดาว่าคงไปได้ไม่ไกลนัก คนวิ่งกับม้าวิ่ง คนย่อมแพ้อยู่วันยันค่ำ

    ออรดาค่อยๆ ควบม้าไปเรื่อยๆ มองหาตัวยอดชีวันไปพร้อมๆ กัน อีกสักเดี๋ยวคงเจอคนหอบแฮกๆ นอนล้มอยู่ในพงหญ้าที่ใดที่หนึ่งเป็นแน่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×