ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดชีวัน YURI

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ ๓

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 56


     

     

    บทที่ ๓

     

     

    ยอดชีวันพยายามหัดขี่ม้าเป็นเวลาเกือบเดือน เธอลืมเรื่องที่พ่อกับแม่เดินทางไปต่างประเทศ ลืมเรื่องที่เธอจะอยู่ที่ไร่ของคุณปู่ได้อีกไม่นาน

    เธอตื่นแต่เช้ารีบทำอะไรให้เสร็จแล้วจึงปั่นจักรยานไปไร่ของแม่เลี้ยงจอย ชีวิตประจำวันของเธอเป็นเช่นนี้ทุกวัน เธอทำซ้ำๆ แต่ไม่รู้สึกเบื่อ

    ยอดชีวันรู้ว่าเธอชอบการขี่ม้ามากกว่าเรื่องอื่นๆ เธอหัดขี่จนสามารถขึ้นขี่ม้าตัวโตๆ ได้ แม่เลี้ยงจอยบอกกับเธอว่า ถ้าเธอขี่เก่งๆ อาจจะได้เป็นจ๊อกกี้ม้าแข่งของไร่แม่เลี้ยง เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอสามารถทำในสิ่งที่เธอคิดว่าจะทำไม่ได้จนเป็นผลสำเร็จ

    วันนี้อีกเช่นกันยอดชีวันรีบตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปฝึกขี่ม้าเหมือนเช่นเคย

    ยอด มาคุยกับปู่หน่อยลูก

    เสียงเรียกชื่อเธอดังมาจากห้องนั่งเล่น ทำให้ยอดชีวันต้องหยุดการวิ่งตึงๆ ของตัวเอง เพื่อหันหลังเดินกลับไปหาคุณปู่ของเธอ

    คุณปู่มีอะไรกับยอดหรือฮะ ยอดจะรีบไปฝึกขี่ม้า

    เราไปรบกวนแม่เลี้ยงเธอนานแล้ว ชอบขี่ม้ามากหรือไง

    ชอบฮะ ยอดชีวันพยักหน้าหงึกๆ

    ปู่จะให้เราลองขี่ม้าที่ไร่เรา

    จริงหรือฮะ ยอดชีวันตาโต เธอรู้มาจากออรดาว่าม้าที่ไร่ของเธอเป็นม้าพันธุ์ดี แต่ละตัวแข็งแรงอึดถึกบึกบึน แต่ก็แปลก ปกติคุณปู่จะหวงม้าพวกนั้นยิ่งกว่าสมบัติชิ้นอื่นๆ ที่ท่านมี ทำไมวันนี้ถึงใจดีให้เธอไปลองขี่ม้าพวกนั้นได้

    จริงสิ ปู่จะโกหกยอดไปทำไม

    คุณปู่หวงม้าพวกนั้นจะตายไป

    หวงเพราะยังหาคนขี่เก่งๆ มาขี่พวกมันไม่ได้ต่างหาก ปู่ได้ข่าวว่าเราขี่ม้าพอได้แล้วนี่ใช่ไหม

    ใช่ฮะ ยอดขี่จนเก่งแล้วน้า ขอบอก

    ดี งั้นไปที่คอกม้ากับปู่เลือกตัวที่เราชอบสักตัว ปู่ยกให้

    เย้ๆ คุณปู่ใจดีที่หนึ่งเลย

    ยอดชีวันรีบเข้าไปกอดคุณปู่ของเธอ เพื่อเป็นการเอาใจ เธอดีใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เธอคิดว่าการได้ขี่ม้าสุดรักสุดหวงของคุณปู่เป็นของขวัญที่เธอชอบมากกว่าของขวัญชิ้นอื่นๆ ที่เธอเคยได้รับจากท่านด้วยซ้ำไป

     

    อดีตนายทหารใหญ่เดินนำหลานสาวคนเดียวของเขาไปยังคอกม้าในไร่ ม้าหลายตัวที่อยู่ในนั้น ถูกเลี้ยงดูอย่างดี มีคนงานทำความสะอาดให้อาหารและน้ำทุกวัน

    ยอดชีวันเดินตามหลังคุณปู่ของเธอเข้าไปในโรงม้านั้น เธอเห็นม้าหลากหลายสายพันธุ์ยืนนิ่งสงบอยู่ในคอกของมัน

    ม้าในคอกนี้ดูดีมีราคายิ่งกว่าม้าในไร่ของแม่เลี้ยงจอยมากนัก เจ้าสมายล์ว่าสวยแล้ว ยังสู่เจ้าตัวสีขาวทั้งตัวที่เธอเห็นตรงหน้านี้ไม่ได้

    สีของมันขาวเสียจนอยากจะเอาไปทำผ้าปูที่นอน

    เอาตัวนี้ค่ะคุณปู่

    ตัวนี้เหรอ มันชื่อเจ้าไวท์ นายพลกิตติบอกกับหลานของเขา

    ชอบมันจัง ยอดชีวันเข้าไปลูบหัวของเจ้าไวท์เบาๆ เธอเกาคางให้มัน ค่อยๆ ลูบไปบนคอและเรื่อยไปจนถึงแผ่นหลังเนื้อแน่นๆ ของมัน

    มันคงชอบเรานะยอด

    ยอดก็ว่างั้น ยอดชอบมันมากด้วยสิฮะคุณปู่

    ปู่ยกให้ จะได้ไม่ต้องไปเอาเจ้าสมายด์ของหนูออกมาขี่

    ขอบคุณฮะคุณปู่

    ไม่ต้องขอบคุณปู่หรอกนะ วันข้างหน้าพวกมันต้องเป็นของยอดอยู่ดี

    วันข้างหน้าอีกนานฮะ คุณปู่อายุยืนจะตายไป วันนี้เอาเจ้าไวท์ตัวเดียวไปก่อนดีก่า เนอะไวท์เนอะยอดชีวัยหันไปคุยกับม้าสีขาวตัวใหม่ของเธอ

    ไอ้หลานคนนี้ พลโทกิตติมองหน้าหลานสาวของเขา เด็กคนนี้เข้าใจพูดจริงๆ เหมือนจะแช่งเขาแต่ก็เปล่า คำพูดนั้น ฟังครั้งแรกเป็นการชมว่า เขาจะอายุยืน พอคิดอีกครั้งกลับเหมือนจะแช่งให้เขาตายเร็วๆ ม้าในคอกพวกนี้จะได้เป็นของเด็กแสนซนตรงหน้าเขา 

    ลองไปขี่ดูสิ

    ขอบคุณฮะคุณปู่ ยอดชีวันกุลีกุจอเดินไปหยิบอานมาและเครื่องม้ามาใส่ให้กับเจ้าไวท์ตามที่ออรดาเคยสอนเธอ

    เธอลงมือทำด้วยตัวเองเพื่อให้เจ้าไวท์คุ้นชินกับกลิ่นของเธอไปในตัว ออรดาเคยบอกว่าม้าจะตื่นหากไม่เคยชินกับคนขี่ เจ้าไวท์จะเชื่อเหมือนเจ้าสมายด์หรือเปล่า เธอไม่แน่ใจ

    พลโทกิตติยืนมองการกระทำของหลานเขา เขารู้สึกขอบใจเด็กออรดาที่สอนหลานของเขามาเป็นอย่างดี ยอดชีวันทำตามขั้นตอนทุกอย่างไม่รีบเร่ง หล่อนตรวจสอบอานและเครื่องม้าทุกชิ้นด้วยตัวเอง รวมถึงยังจับขาของเจ้าไวท์ขึ้นมาดูเกือกว่าใส่เอาไว้ดีหรือไม่ เป็นการกระทำที่รอบคอบจนเขาต้องยืนยิ้ม

    คำทำนายที่หมอดูคนนั้นเคยบอกว่า เขาจะเสียหลานสาวไปกับม้าเหมือนกับที่เคยเสียภรรยาของเขา ทำให้เขาคิดหนัก เขาไม่อยากให้ยอดชีวันต้องมาตกมาบาดเจ็บ เสียชีวิตเหมือนกับผู้หญิงที่เขารักปานดวงใจเคยเป็นมาแล้ว

    ในครั้งนั้นเขาเสียใจมาก จนถึงกับอยากจะจากโลกนี้ตามภรรยาเขาไป วันนี้ยอดชีวันจะต้องพิสูจน์ให้เขาได้เห็นว่า หล่อนจะไม่เกิดอันตรายจากการขี่ม้า หากเขาเห็นท่าไม่ดี เขาจะยกเลิกไม่ยอมให้ยอดชีวันขี่ม้าในคอกนี้อย่าเด็ดขาด

     

    ยอดชีวันค่อยๆ เหยาะย่างเจ้าไวท์ไปรอบๆ คอกด้วยความเร็วต่ำ แต่คงที่ ทั้งเธอและเจ้าไวท์ยังไม่คุ้นชินซึ่งกันและกัน ออรดาเคยบอกว่าต้องทำให้ทั้งคนขี่และม้าที่ขี่คุ้นกันก่อนจึงจะเร่งฝีเท้าม้าได้

    ยอดมันเก่งเหมือนปู่นะแม่อางชายสูงวัยกันไปพูดกับแม่บ้านคนสนิทคนเดียวของเขา เธอนำอาหารว่างมาให้กับเขาและหลานสาว

    ท่านสอนคุณยอดขี่หรือคะสอางค์วางถาดอาหารว่างไว้บนโต๊ะเล็กๆ ข้างๆ อดีตนายพล เธอมองออกไปยังสนามซ้อมขี่ม้า ยอดชีวันกำลังขี่ม้าตัวโปรดของพลโทกิตติ ม้าตัวนี้นายของเธอรักและหวงมันมาก ไม่ยอมให้ใครขึ้นขี่ได้ง่ายๆ เธอได้ยินมาว่ามันราคาแพง เป็นม้าพันธุ์ดี มีคนเคยให้ราคามันหลายล้านแต่เจ้านายของเธอไม่ยอมขาย ยอดชีวันเป็นหลานเพียงคนเดียวของเขา เธอคิดว่าพลโทกิตติคงตัดสินใจดีแล้วที่ยอมให้ยอดชีวันขึ้นขี่มัน

    เปล่า

    อ้าว แล้วปล่อยให้คุณยอดเธอไปขี่ม้าได้ยังไงคะท่านตกม้าขาแข้งหักไปจะว่าไง

    หนูออเธอสอน คงขี่ได้คล่องแล้วล่ะน่า แม้จะพูดออกมาอย่างนั้นแต่พลโทกิตติยังจ้องมองหลานสาวของเขาไม่วางตา

    ไปบอกให้ใครเรียกยอดมากินของว่างเถอะไป จะได้ให้เจ้าไวท์มันพักเหนื่อยด้วย

    ค่ะท่าน สอางค์รีบเดินไปข้างๆ สนาม เธอหยุดยืนอยู่พักหนึ่งรอให้ยอดชีวันขี่เจ้าไวท์มาถึงบริเวณที่เธอยืนอยู่

    คุณยอดขา พักสักหน่อยเถอะค่ะ คุณปู่ท่านให้คุณยอดไปรับของว่างกับท่าน

    จ้าป้าอาง เดี๋ยวยอดเอาเจ้าไวท์มันไปเข้าคอกก่อนนะ ยอดชีวันรับคำ เธอขี่เจ้าไวท์ไปเก็บเอาไว้ในคอกและรีบวิ่งไปหาคุณปู่ของเธอ

    เป็นไงสนุกไหมยอด

    สนุกฮะคุณปู่ เจ้าไวท์มันแข็งแรงน่าดูเลย

    มันเป็นม้าแข่งที่ดีที่สุดในตอนนี้

    โห ม้าแข่งเลยเหรอคะคุณปู่

    ใช่ ปู่กับย่าของเจ้าไวท์ เป็นม้าแข่งที่กวาดรางวัลมามากที่สุดเท่าที่ปู่เคยมี

    แล้วพวกมันไปไหนล่ะคะคุณปู่

    พวกมันตายหมดแล้ว

    ว้าน่าเสียดาย

    อายุของพวกมันอย่างมากก็แค่ ๓๐ ปีเท่านั้นแหละยอด

    ยอดไม่เคยรู้เลยว่าม้าอายุสั้น

    มันเป็นธรรมชาติของม้า อายุไม่เท่าคนเราหรอกนะ มานั่งกินขนมฝีมือแม่อางกันดีกว่า หิวหรือยังเรา

    หิวฮะ ยอดชีวันถอดหมวกของเธอออกมาถือเอาไว้ เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ จนผู้เป็นปู่ต้องล้วงกระเป๋ากางเกงของเขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อให้กับหลานสาว

    ยอดชีวัน เป็นยอดดวงใจของคนทั้งบ้าน เขามีลูกชายเพียงคนเดียวที่เกิดกับภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว แถมลูกชายของเขายังมีลูกสาวเพียงคนเดียว ภรรยาของเขาเป็นคนตั้งชื่อหลานสาวคนนี้ หลังจากนั้นไม่กี่ปีเธอก็เสียชีวิต

    เขาไม่คิดว่าเขาจะต้องมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในเวลาที่กำลังมีความสุข ครอบครัวของเขาได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเพียงไม่กี่ปี

    อุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้เขาไม่คิดจะไปแถวๆ หน้าผานั้นอีก เขาสั่งห้ามทุกคนในไร่เข้าใกล้บริเวณนั้น มันเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับคนในไร่

    ภูมิประเทศตรงนั้นเป็นหน้าผาสูง พื้นดินเบื้องล่างอยู่ต่ำว่าด้านบนเกือบยี่สิบเมตร แถมมันยังเต็มไปด้วยก้อนหินและต้นไม้ กว่าจะมีใครรู้ว่าภรรยาของเขาตกลงไปพร้อมกับม้าคู่ใจ เวลาล่วงเลยไปเกือบสองวัน

    เขาปีนลงไปรับร่างของเธอขึ้นมาด้วยหัวใจที่ปวดร้าวยิ่งนัก หลังจากนั้นเขาตัดสินใจลาออกจากการเป็นข้าราชการ ทั้งๆ ที่เขายังมีอนาคตอันยาวไกล เขาหมกตัวอยู่ในไร่แห่งนี้ อยู่เป็นเพื่อนคนที่เขารัก เขาหวังว่าดวงวิญญาณของเธอคงรับรู้ในสิ่งที่เขาทำ

    ยอดชีวันหยิบขนมในจานเล็กๆ เข้าปากคำโต แถมยังเคี้ยวตุ้ยๆ ทำเอาสอางค์ต้องปราม

    คุณยอดขา ค่อยๆ กินก็ได้ค่ะ คุณปู่ไม่แย่งคุณยอดกินหรอกค่ะ

    มันหิวนี่ฮะยายอาง ข้าวเมื่อเช้าลงไปอยู่ลำไส้หมดแล้ว

    ปล่อยไปเถอะอาง พลโทกิตติหันไปบอกกับแม่บ้านคนสนิท

    ท่านก็นะ เข้าข้างคุณยอดทุกที เป็นแบบนี้สิคะ ถึงได้ไม่ยอมใคร ถือหางกันตลอด

    ไหนฮะ ยอดมีหางด้วยเหรอฮะ ยอดชีวันรีบลุกจากเก้าอี้ จับไปที่ก้นของตัวเอง

    ไม่เห็นมีสักหน่อย ยายอางก็ว่าไป

    เธอกระแทกตัวลงนั่งเก้าอี้ตามเดิม

    โอ๊ย เสียงร้องออกมาจากปากของยอดชีวัน

    เป็นอะไรยอด พลโทกิตติเอ่ยถาม

    ยอดเจ็บก้นฮะ

    คำตอบของยอดชีวันเรียกเสียงหัวเราะจากพลโทกิตติและสอางค์ได้มากมาย

    ฮ่าๆๆ พลโทกิตติหัวเราะร่วน

    ขำอะไรฮะคุณปู่

    ปู่ขำยอดนั่นแหละ เป็นไงล่ะอยากขี่ม้าจนก้นระบม เข็ดหรือยัง

    ยังฮะ ยอดต้องขี่ม้าให้เก่งแบบคุณย่า

    เรารู้ได้ยังไงว่าคุณย่าขี่ม้าเก่ง

    คุณพ่อเล่าให้ยอดฟังฮะ

    คุณย่าของยอดเป็นนักขี่ม้าที่เก่งมาก ปู่ยังสู้ไม่ได้เลย

    แล้วทำไมคุณย่าถึงได้ตกหน้าล่ะฮะ

    ปู่ไม่รู้

    คุณยอดขา อย่าพูดเรื่องคุณย่าสิคะ สอางค์ปราม

    ยอดชีวันรับรู้มากว่าคุณปู่ของเธอ เสียใจกับการจากไปของคุณย่าเป็นอย่างมาก ยอดยิ่งพ่อของเธอเล่าเรื่องการจากไปอย่าเป็นปริศนาของคุณย่าให้เธอฟัง และยังเล่าอีกว่า คุณปู่ผู้แสนจะใจดีของเธอ โทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุให้คุณย่าของเธอต้องมาจากไป เธอจึงพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ยายสอางค์พูด  

    ไม่เป็นไรหรอกแม่อาง เรื่องมันนานมาแล้ว ฉันเองก็พยายามจะลืมมัน

    นั่นแหละค่ะท่าน พยายามจะลืมแต่ลืมไม่ได้สักที

    เอาเถอะๆ ว่าแต่เราเถอะยอด เจ็บมากไหม

    แฮะๆ พอสมควรฮะ แทบนั่งไม่ได้

    แล้วจะชินไปเองนั่นแหละ ให้แม่อางหายาทาให้สิ เรากลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ปู่จะอยู่ที่นี่สักพัก

    ฮะคุณปู่

    ยอดชีวันรับคำและเดินนำสอางค์กลับไปยังบ้านของท่านนายพล

     

    เอ...วันนี้ทำไมหนูยอดไม่มาล่ะแม่ออ

    แม่เลี้ยงจอยเอ่ยถามหลานสาว ปกติแล้วยอดชีวันจะมาขลุกอยู่กับออรดาทั้งวัน กว่าจะกลับไปไร่ของตน พระอาทิตย์ต้องลับขอบฟ้าไปแล้ว

    สงสัยจะเจ็บก้นค่ะคุณน้า

    เจ็บก้น แม่เลี้ยงจอยทำหน้างุนงง

    ตกม้าวันก่อนเหรอ กระดูกเคลื่อนหรือเปล่า เราดูน้องดีหรือยัง น้าเห็นแค่เอามาทำแผลถลอกเท่านั้น แม่เลี้ยงต้องเป็นอีกคนที่เกิดความสงสัย

    เปล่าค่ะ เจ็บก้น เพราะก้นกระแทกกับอานม้ามากไป

    อ้าว แล้วกัน สองแม่เลี้ยงแทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่

    เด็กหนอกเด็ก ห้าวนัก แม่เลี้ยงต้องแกล้งบ่น

    สองสามวันคงกลับมาอีกแหละค่ะคุณน้า

    แล้วนี่เราจะไปไหน

    จะลงดอยไปหาน้าหมอค่ะ

    เออดี น้าลงไปด้วย จะไปซื้อของในเมืองพอดี

    แม่เลี้ยงต้องบอกความประสงค์ของเธอ

    สองน้าหลาน ลงไปก็ซื้ออะไรติดไม้ติดมือมาฝากน้าบ้างก็แล้วกัน

    น้าจอยไม่ลงไปด้วยกันหรือคะ

    ไม่ล่ะ ขี้เกียจนั่งเอวบิด

    แม่เลี้ยงจอยเริ่มไม่อยากลงจากดอย ทางลงจากดอยที่เธออยู่นั้นคดเคี้ยวไปมา หากไม่ได้ขับรถเอง เธอมักเกิดอาการคลื่นเหียนอาเจียนเป็นประจำ

    เดี๋ยวต้องจะแวะซื้อมาให้ พี่จอยจะเอาอะไรว่ามา

    แม่เลี้ยงจอยยื่นแผ่นกระดาษที่เธอจดของใช้ที่ต้องการซื้อให้กับต้อง

    อย่างกับรู้ว่าต้องจะลงไปในเมือง

    รู้สิ ก็ของมันหมด รออยู่ว่าต้องจะลงไปซื้อวันไหน

    สองคนนี้รู้ใจกันจริงนะคะ

    อ๊ะไม่ได้สิ ไม่อย่างนั้นจะเป็นคนรักกันได้ยังไง จริงไหมจ๊ะที่รัก

    แม่เลี้ยงจอยทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยให้กับคนรักของเธอ

    เซี้ยวใหญ่แล้วพี่จอย หลานอยู่ทั้งคน เล่นอะไรไม่ดูบ้าง

    ชินแล้วค่ะ ออรดาบอกพร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะ เตรียมตัวเดินทาง

    ฝากความคิดถึงให้หมอบิวด้วยนะ

    แม่เลี้ยงจอยบอกตามหลังคนรักและหลานสาว

    แล้วจะบอกให้

    เผื่อสองมาเมืองไทยจะได้ชวนกันมาไร่เรา

    จ้าไปนะ เดี๋ยวจะเสร็จธุระค่ำมืด

    แม่เลี้ยงต้องตอบกลับเสียงดังโดยไม่หันมาสนใจคนรักของเธอ

    จอยมองสองน้าหลานขับรถคู่ใจออกไปจากไร่ ในใจของเธอคิดถึงเด็กยอดชีวัน เด็กคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอถูกชะตา จะว่าไป ความดื้อของเด็กคนนี้ ทำให้เธอคิดถึงสมัยที่เธอยังอายุเท่ากับยอดชีวัน

    ในตอนนั้นเธอกับตาลยังเรียนหนังสือด้วยกัน หากตาลไม่คิดย้ายหนีเธอไปก่อน เธอและตาลคงจะยังอยู่ด้วยกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ หากตาลไม่ด่วนจากไป เธอกับต้องคงไม่มีวันนี้

    ยอดชีวันท่าทางจะดูห้าวกว่าเด็กสาวทั่วไป บางครั้งเธอคิดว่าเด็กคนนั้นอาจจะเป็นทอมบอย แต่ดูไปดูมา มีเพียงแค่คำพูดเท่านั้นที่ดูจะห้วนๆ ห้าวๆ สิ่งอื่นๆ เธอว่ายังสู้ออรดาไม่ได้ ออรดาเป็นเด็กที่โตมาจากเมืองนอก จึงทำให้เด็กคนนั้นมีความมั่นใจในตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง  

    ออรดากับสองรักคนรักของหมอบิวสนิทสนมกัน สองรักเป็นเหมือนพี่และเพื่อนของออรดา สองรักสนิทตาลแม่ของออรดา จึงทำให้ออรดาให้ความไว้วางใจสองรักหลังจากที่ตาลจากไป

    เธอได้ข่าวว่าสองรักจะมาเมืองไทยในเดือนนี้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าสองรักจะมาถึงวันไหน ออรดาคงลงไปสอบถามหมอบิวเกี่ยวกับสองรัก  

    จอยมองจนรถของคนรักเธอหายลับไปกับฝุ่นแดงๆ จากถนน เธอจึงเดินไปในโรงงานเพื่อทำงานของเธอ

     

    ออรดาขับรถของต้องมาถึงโรงพยาบาล หมอบิวยังติดงานตรวจคนไข้ของเธอ ออรดากับต้องจึงตัดสินใจเข้าเมืองเพื่อไปซื้อของใช้ก่อน แล้วจึงกลับมาพบกับหมอบิวในช่วงบ่าย

    หมอบิวดีใจมากที่ได้พบกับออรดาอีกครั้ง สองรักคนรักของเธอ พูดถึงออรดาทุกครั้งที่เธอทั้งคู่อยู่ด้วยกัน หมอบิวรู้จักกับตาลตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก บ้านของเธอทั้งคู่อยู่ในซอยเดียวกัน

    ลูกของตาลจึงเหมือนเป็นลูกของเธอด้วย ความสัมพันธ์ของพวกเธอดูเหมือนจะสลับซับซ้อน แต่มันไม่ซับซ้อนอะไรเลย เธอถือว่าออรดาเป็นหลานของเธออีกคนหนึ่ง

    ว่าไงออ ลมอะไรหอบมาหาน้าได้

    ออจะมาถามว่าน้าสองจะมาเมื่อไหร่คะ

    อีกสองวันคนถึง เห็นว่าร้านอาหารกำลังวุ่นๆ

    ถ้าสองมาบิวชวนสองไปที่ไร่พี่สิแม่เลี้ยงต้องไม่อ้อมค้อม

    ค่ะพี่ต้อง บิวต้องชวนสองไปอยู่แล้ว 

    ไปหาอะไรกินกันเถอะบิว พี่หิวแล้ว ยัยออไม่ยอมกินอะไร บอกว่าจะรอกินพร้อมน้าหมอแม่เลี้ยงต้องลูบท้องของเธอ

    ไปสิคะ วันนี้คนไข้น้อย บิวไปสั่งงานก่อนนะ แล้วจะตามไป

    ภัทรมลบอกกับต้องเสร็จเธอเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง และกลับออกมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายของเธอ

    ไปค่ะ

    ภัทรมลเดินตามสองหน้าหลานออกไปจากโรงพยาบาล จุดมุ่งหมายคือร้านอาหารหน้าตลาดฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลที่เธอเป็นลูกค้าประจำ

     

    ระหว่างรับประทานอาหาร ออรดาลังเลเล็กน้อยที่จะปรึกษาอะไรบางอย่างกับภัทรมล

    แม่เลี้ยงต้องเห็นอาการของหลานสาว จึงลุกขึ้นขอตัวไปห้องน้ำ ปล่อยให้ออรดานั่งอยู่กับภัทรมลสองต่อสอง

    น้าหมอคะ ออมีเรื่องจะปรึกษา

    มีอะไรเหรอออ ว่ามาได้เลย

    อออยากรู้ว่าคุณพ่อกับผู้หญิงคนนั้นตกลงแต่งงานกันแล้วใช่ไหม

    สองบอกน้าว่าน่าจะยัง ทำไมเหรอออ

    ออแค่อยากรู้เท่านั้นแหละคะ ว่าคุณพ่อจะทำตามสัญญาหรือเปล่า

    ออสัญญาอะไรกับคุณพ่อล่ะ

    ออบอกว่า ถ้าออมาเมืองไทย แล้วยังไม่กลับไป คุณพ่อต้องไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น จนกว่าออจะกลับ

    แสดงว่าที่อออยู่ที่ไร่เนี่ย เพราะไม่อยากให้คุณพ่อแต่งงานใหม่ใช่ไหม

    ค่ะ ออไม่อยากให้คุณพ่อโดนผู้หญิงคนนั้นหลอก

    โถเด็กหนอเด็ก ภัทรมลนั่งจ้องใบหน้าที่แสดงออกถึงความวิตกกังวลบวกความเกลียดชัง

    สองรักเคยบอกกับเธอถึงเรื่องการเป็นไม้เบื่อไม้เมาของออรดากับคนรักใหม่ของเจสันพ่อของออรดา

    ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไทย เหมือนกับเธอ ท่าทางนิสัยดี สงบเสงี่ยมเจียมตัว เธอเข้ามาทำงานในร้านอาหารของเจสัน รู้จักกับสองรักเป็นอย่างดี ด้วยนิสัยประกอบกับความน่ารักแบบไทยๆ ผู้หญิงคนนั้นจึงทำให้เจสันตกหลุมรักเธอ

    จากที่สองรักเล่า เธอไม่เห็นว่าผู้หญิงที่ออรดาเกลียดชัง จะมีพิษมีภัยอะไรกับใคร วิภารัตน์มาจากครอบครัวที่ยากจนก็จริงอยู่ แต่เธออาศัยความสามารถในการทำอาหารไทย ถีบตัวเองไปทำงานเมืองนอก ส่งเสียน้องๆ เรียนหนังสือ ภัทรมลคิดว่าผู้หญิงคนนี้แกร่งใช่เล่น หากคนขยันจะได้โบนัสเป็นความรักจากเจ้าของกิจการร้านอาหารไทยมันคงไม่แปลก

    ติดตรงที่เจ้าของร้านอาหารคนนั้นมีลูกสาววัยรุ่นที่ไม่ต้องการให้พ่อของตนไปเป็นของคนอื่น เด็กๆ มักหวงของ ออรดาก็คงเช่นกัน ปัญหานี้คงคิดแก้ไขคนเดียวไม่ได้ พวกน้าๆ ทั้งสี่คนอย่างพวกเธอคงต้องรวมหัว ระดมพลังสมองคิดหาทางแก้ไข

    ที่แน่ๆ เธอคิดว่า ออรดาคงไม่ยอมกลับไปเรียนต่อง่ายๆ เท่าที่ฟังหากวันใดออรดากลับไปยังบ้านเกิด เจสันสามารถแต่งงานกับวิภารัตน์ได้ แล้วหากออรดาเลือกที่จะอยู่เมืองไทยล่ะ ความรักของเจสันจะเป็นอย่างไร

    ณ ตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงรับฟังสิ่งที่ออรดาเล่าเท่านั้น คงต้องคิดหาทางแกไขปัญหากันอีกยาวเลยเชียวแหละ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×