ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 13 กุมภาพันธ์ อิเคบุคุโระ
.......
ตอนที่1 13 กุมภาพันธ์ อิเคบุคุโระ
ตอนที่1 13 กุมภาพันธ์ อิเคบุคุโระ
"นี่ รู้มั๊ยว่าว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร"
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนโต๊ะดีไซน์เท่ๆ บ่นไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ไป ทันใดนั้น เมื่อภาพนั้นเลือนจากจอคู่สนทนาก็ตอบกลับมา
[13 กุมภาไง]
สิ่งที่ปรากฏบนจอคือคำตอบธรรมดา แต่ว่าผู้ชายคนนั้นกลับไม่หุบยิ้ม ถามกลับไปด้วยสีหน้า เหมือนเด็กๆก่อนวันคริสต์มาส
"หมายความว่า พรุ่งนี้เป็นวันอะไรนะ?"
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงที่ไม่คิดว่าพูดอยู่คนเดียวก็ถูกพ่นออกมา ผู้ชายคนนั้นไม่ได้พิมพ์คำพูดลงไปในการแชท แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องที่จะตอบกลับปรากฏในการแชท
[เป็นวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหารไง แต่ถ้าจะแสดงความเคารพ ก็ควรจะพูดว่าวันสละชีพเพื่อศาสนา]
" เธอนี่ พอพิมพ์ล่ะน้ำตาไหลไฟลับเลยนะ แต่ก็รู้ดีเลยนี่ แสดงว่าเธอเองก็ให้ความสำคัญกับวันนี้อยู่ใช่ไหม?"
[เมื่อคืน มีคำถามนี้ในรายการทีวีน่ะ]
[... เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น ...ก็แบบว่า... คือมันก็ เป็นวันที่พิสูจน์ความรักที่แสดงความเคารพต่อคนๆนั้นไม่ใช้หรอ]
ภาพดูเหมือนว่ากำลังคุยกับคอมพิวเตอร์อยู่ แต่ผู้ชายกำลังแก้มแดงไปร้อยเรียงคำพูดไป สำหรับเสียงผู้ชายแบบนั้น ที่หน้าต่างแชท มีประโยคที่ถูกแต่งขึ้นอย่างจริงจัง
[ก็จริงอยู่ ทางยุโรปอเมริกาก็จะมีธรรมเนียมส่งการ์ดให้กัน แต่สำหรับฉัน ก็ไม่ได้เคร่งศาสนาอะไรขนาดนั้นหรอกนะ]
"ไม่ใช่อย่างนั้น... แต่เดิมแล้วมีตำนานว่า ช่วงที่เซนต์วาเลนตินัสสละชีพเพื่อศาสนาคือหน้าร้อน แต่ก็ไม่มีว่ามีจริงหรือเปล่า... มันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกนะ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องศาสนา แต่คนญี่ปุ่นก็ใช้โอกาสนี้กลายเป็นธรรมเนียมที่เริ่มจะทำเพื่อการค้านะ"
[เรื่องนั้ก็พอรู้อยู่อะนะ]
ถ้อยคำที่เรียงต่อกันแบบเรียบๆ ผู้ชายมองแล้วสูดหายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
"... ปกติแล้วผมก็ไม่ได้ใคร่ดีอะไรนะ แต่ก็อยากจะพูดชัดๆด้วยความรู้สึกสดใสร่าเริง
ปลอดโปร่ง... ผมน่ะ อยากได้ช็อกโกแลตจากผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลก ไม่สิ รักที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเลย แบบว่าให้ช็อกโกแลตผมเถอะนะ พลีส"
ดวงตาของผู้ชายพูดแบบตรงซะเหลือเกินเปร่งประกาย แล้วในคำพูดนั้น ก็ไม่คิดว่าจะเกินจริงหรือโกหกแต่อย่างใด แต่วา--- คำตอบที่ปรากฏกลับมาบนคอมพิวเตอร์ ช่างเย็นชาไปถึงไหนๆ
[ฉันจะบอก 2 ข้อนะ ข้อแรก คำว่าไม่อยากได้ใคร่ดีนะ มันหมายถึงการไม่มีความโลภ แล้วนายน่ะไม่โลภตรงไหน? ตอนคริสต์มาสก็พูดเหมือนกันทุกปี แล้วก็ข้อที่ 2 ฉันไม่สนใจธรรมเนียมเกี่ยวกับเรื่องกิน ]
"ไม่ใช่เรื่องกิน มันเป็นธรรมเนียมเกี่ยวกับความรัก อย่างคำว่ารักของชายหญิง ถึงตัวอยู่ไกลแต่ใจใกล้กัน มันก็เหมือนเรื่องกินกับเรื่องรักแหละ ถึงจะอยากกินหรืออยากรักมันจะเขียนเหมือนกัน แต่กรณีนี้ช่วยแยกคนละเรื่องหน่อยได้มั๊ย พลีส"
[พลีสๆ อยู่ได้น่ารำคาญ]
คำขอร้องถูกปฏิเสธอย่างง่ายดาย ผู้ชายถึงกับคอตก แต่ก็ยังมีรอยยิ้มบนสีหน้า และเปิกปากพูดต่อ
"ไอโกรธมันก็โกรธหรอกนะ แต่ฉันก็ดีใจที่ได้เจ็บใจแบบนี้ แค่ได้คุยกับเธอแบบนี้ฉันก็มีความสุขยิ่งกว่าอะไรแล้วเพราะเรื่องนี้มันได้พิสูจน์ความรักของพวกเราด้วย"
ดูเหมือนว่า การที่ถูกที่รักบ่นอะไรแบบนี้ ก็เป็นการแสดงความชื่นชมคนรักอย่างหนึ่ง ที่แสนหวานจนน่าอวกเลยล่ะ...แต่ว่าก็ไม่มีคำตอบใดที่จะเขียนลงบนการแชทบนคอมนี้
จบผ่านไป ผ่านไป
"...เมินเหรอ?"
30 นาที่ผ่านไป ที่อิเคบุคุโระ [ซูชิรัสเซีย]
"เอ้อ แต่ยังไงก็... อยากได้ช็อกโกแลต"
คนที่บ่นพึมพำประโยคนี้ ก็คือผู้ชายที่คุยกับคนรัก ที่เมนชั่นก่อนหน้านี้ [ซูชิรัสเซีย]
ที่อยู่ถนนซันไซน์ที่อิเคบุคุโระ ก็ตามชื่อเพราะเป็นร้านค้าที่คนรัสเผวียเปิดกิจการ ภายในร้านเป็นสไตล์รัสเซียที่ตกแต่งด้วยของกระจุกกระจิกแบบญี่ปุ่น มีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ผู้ที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ในรานก็คือผู้ชายคนเมื่อครู่ ไม่รู้ทำไมเขาถึงใส่เสื้อกาวน์สีขาวเหมือนนักวิทยาศาสตร์นั่งอยู่ในร้านซูชิ เข้าคู่กับแว่นที่ใส่เลยเลยกลายเป็นนักวิจัยอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ว่าเขาไม่ได้มาค้นคว้าอะไรหรอกนะเขากำลังบ่นไปคีบซูชิไปต่างหาก ขณะเดียวกัน คนที่กำลังฟังความงี่เง่าของเขาก็ไม่ใช่ใคร เป็นเด็กหนุ่มที่ท่าทางแปลกๆนิดหน่อย
ติดตามต่อตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น