เราสองคนสลับกันปาดหน้ากันไปมาก่อนที่จะถึงทางแยกจากถนนสายหลัก พอมาเจอถนนสายเล็กๆ ที่มีรถมอเตอร์ไซต์วิ่งสวนไปมาทำให้เราสองคนชะลอความเร็วลง แต่ก็ยังคงขับแข่งกันไป สลับกันนำและสลับกันตามจนฉันทนไม่ไหวเพราะอีกไม่กี่กิโลเมตรก็ถึงทางเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว อยากจะคิดบัญชีให้หมดๆ ไป อย่าค้างคาให้ลำบากใจ ฮึ้ย!
ฉันเร่งเครื่องอย่างเอาเป็นเอาตายขณะที่คันข้างหน้าพยายามรักษาความเป็นผู้นำเอาไว้ ฉันค่อยๆ เบียดไปทางด้านขวาเพื่อหาช่องว่างแซงแต่เขาไม่ยอมง่ายๆ ฉันก็ยังเหยียบคันเร่งเต็มที่จนสามารถตีคู่ได้ แต่ได้ไม่นานเท่าไหร่เขาก็ขับเบียดฉันชนิดที่ไม่กลัวจะเกิดอุบัติเหตุเลย ถึงฉันจะอยากเอาชนะมากแค่ไหนแต่เพราะเคยประสบอุบัติเหตุมาแล้วทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ
เฟอร์รารี่เบียดฉันมากขึ้นจนฉันจำใจต้องหักเลี่ยงเข้าข้างทางที่เป็นพงหญ้า ฉันปล่อยเท้าที่เหยียบคันเร่งและค่อยๆ เหยียบเบรกให้รถหยุด
“เชี้-!” ฉันสบถออกมาด้วยความเจ็บใจก่อนจะเปิดประตูรถออกไปมองเฟอร์รารี่คันนั้นที่หยุดตามฉันไปด้วย กระจกรถด้านคนขับถูกเลื่อนลงจนหมดก่อนที่เจ้าของรถจะยื่นหน้าออกมาจากตัวรถ แล้ว...
“อี๋!” ฉันทำหน้าขยะแขยง มองจากตรงนี้พอจะดูออกว่าเขาเป็นผู้ชาย หมอนั่นอ้วกใส่หญ้าข้างทางอย่างไม่แคร์ใคร ไม่ใช่แค่ขบวนเดียวนะ ยังมีตามมาอีกเป็นสิบ
“อั๊ว!!! แค่กๆ!! กร๊วก!!!”
สงสัยจะเมาค้าง ฉันล่ะเกลียดจริงๆ พวกเมาแล้วขับ ฉันไม่รอช้าเดินไปจะเอาเรื่อง คอยดูนะ เจ๊จะด่าให้ตับแลบ! แต่เมื่อจัดการปล่อยอ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุงแล้วเขาก็เลื่อนกระจกรถขึ้น แล้วขับออกไปโดยไม่สนใจจะเหลียวมองฉันเลยสักนิด
ฉันได้แต่วิ่งตามและร้องเรียกให้หยุด “เฮ้! เดี๋ยวก่อนเซ่!!!”
รถคันนั้นเร่งความเร็วจนหายไปจากสายตาของฉัน ทิ้งให้ฉันกระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความโมโห
“ตัดคะแนนตั้ง5คะแนน ฉันยิ่งไม่ค่อยมีคะแนนอยู่ด้วย เซ็ง!” ฉันบ่นเมื่อเดินออกมาจากห้องเรียนแล้ว เมื่อเช้าฉันเข้าสายตั้งเกือบสองชั่วโมงจึงโดนทำโทษโดยการหักคะแนน5คะแนน ซึ่งมันไม่ได้มากอะไร แต่อาจารย์ประจำวิชานี้โหดมาก กว่าจะให้คะแนนนักศึกษาได้นั้นหินสุดๆ แต่พอจะหักก็ดันหักง่ายอย่างกับหายใจทิ้ง
“เอาน่า อาจารย์แกก็พูดข่มให้เธอใจเสียไปงั้นแหละ เอาเข้าจริงไม่เห็นจะตัด เพราะเธอไม่มีคะแนนจะให้ตัดแล้ว คิกๆ” กาววา สาวสวยประจำกลุ่มเอ่ยขึ้น ชิ! ขัดหูชะมัด เธอเป็นสาวเหนือที่หนีเข้ากรุงมาเรียนหนังสือ ดีกรีดาวโรงเรียนตอนมัธยม สวย น่ารัก นิสัยดี หนุ่มๆ ในฮาเร็มเหลือเฟือแต่เธอไม่จริงจังด้วยสักราย
“โอ้มายก๊อด! พูดเล่นหรือพูดจริงเนี่ย ฉันไม่มีคะแนนให้ตัดแล้วจริงๆ เหรอ”
“ก็เธอเล่นมาสายเกือบทุกครั้ง ตัดครั้งละ 5 คำนวณดูแล้วไม่น่าจะเหลือนะ”
“ก็มันเช้านี่! ถ้าเรียนตอนสิบเอ็ดโมง ฉันมาทันเวลาเช็กชื่อทุกครั้งแน่นอน”
“เธอก็อ้างแบบนี้ตลอด ว่าแต่วันนี้ทำไมถึงมาสายล่ะ?” ณรินทร์ถามขึ้น เธอเป็นสาวชาวกรุงแต้ๆ และยังเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมของฉันด้วย สวย น่ารัก นิสัยดี และมีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ มีเพื่อนอยู่ในทุกคณะ ความเคลื่อนไหวต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้เธอรู้เรื่องหมด
“ตื่นสาย แล้วก็มีเรื่องนิดหน่อยอ่ะ”
“ตลอดเลยเธออ่ะ เมื่อคืนเล่มเกมอีกล่ะสิ?”
“ก็มันสนุกนี่นา” ฉันเริ่มทำเสียงอ่อยเหมือนถูกพ่อถาม “เธอไม่คิดจะเล่นบ้างเหรอ มันสุดๆ เลยนะ”
“เหอะๆ ปลูกผักทำขนมนี่มีสาระมากเลยเนอะ” ฉันจิกตาใส่คนที่เล่นเกมเด็กๆ
“มันจรรโลงจิตใจ ไม่ใช่ทำให้จิตใจว้าวุ่นกว่าเดิม” กาววาที่อยู่ข้างณรินทร์บอกถึงข้อดี และเหน็บแนมเกมสุดโปรดของฉันด้วย
“เหรอ!!” กาววากับณรินทร์พร้อมใจกันทำเสียงล้อเลียน ฉันยิ้มแหย
“แหม... มันก็มีบ้างที่โมโห แต่ส่วนมากสะใจ”
“นี่ ไปช้อปปิ้งกันไหม ฉันอยากได้เสื้อแขนยาวตัวใหม่” ณรินทร์เปลี่ยนเรื่องคุยแบบตัดฉากรวดเร็วจนฉันตามไม่ทัน
“ฉันไม่ว่าง มีนัดแล้ว” กาววาบอก
“กับใครล่ะ?” ฉันถามอย่างไม่ค่อยตกใจนัก เพราะมันเป็นเรื่องปกติของเธออยู่แล้ว
“อย่าบอกนะว่าเป็นหนุ่มคนเมื่อเช้า” ณรินทร์พูดราวกับรู้จัก แต่ฉันนี่มึนเลย
“ก็เธอมาสายเลยไม่รู้เรื่อง เมื่อเช้ากาววาเดินไปชนหนุ่มคนหนึ่งเข้า หล่อด้วยนะเธอ! ยัยนี่เลยไม่ลืมจะหว่านเสน่ห์ ให้เบอร์และนัดเจอกันเสร็จสับ ไวไฟปะล่ะ”
“ไวกว่า4Gก็ฉันนี่แหละค่ะ” กาววาชี้หน้าตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
“ชิ! เอาเถอะ แล้วเธอล่ะมินิ ไปด้วยกันไหม?”
“ไม่ล่ะ ฉันรีบกลับไปนอนพักเอาแรงดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มาเรียนทัน”
“ตามใจ ฉันไปคนเดียวก็ได้ งั้นแยกกันตรงนี้นะ”
หลังจากบอกลาเพื่อนสาวทั้งสองคนแล้วฉันก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถ จังหวะนั้นเองที่สายตาอันแหลมคมประดุจสายตาเหยี่ยวของฉันเหลือบไปเห็นรถเฟอร์รารี่สีแดงสดที่จอดอยู่ไม่ไกล เอ... รู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก ฉันหยุดเท้าแล้วเพ่งสายตาพิจารณารถคันนั้นดีๆ
คุ้นๆ นะ แต่ว่าที่ร้านฉันก็มีรถแบบนี้เข้ามาใช้บริการเยอะแยะ อาจจะเป็นหนึ่งในรถของลูกค้าที่ร้านก็ได้ ฉันเลิกให้ความสนใจแล้วกำลังจะเดินผ่านไป หากทว่า... เอ๊ะ! ฉันดันนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าขึ้นมาได้ มันทำให้ฉันค่อยๆ หันกลับไปและจ้องไปที่ป้ายทะเบียนอย่างเอาเป็นเอาตาย
นี่มัน... ไอ้รถเฮงซวยที่เบียดฉันลงพงหญ้าข้างทางนี่นา ไอ้ขี้เมานั่นดันเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับฉันด้วยเหรอ หน็อยๆ ได้การล่ะ ฉันมองซ้ายมองขวา ตรงนี้มีแค่เราอยู่คนเดียว ปีศาจที่แอบแฝงอยู่ในตัวฉันรีบผุดขึ้นมาอย่างกับรอโอกาสนี้มานาน
ฉันเปิดกระเป๋า หยิบกระดาษโพสต์อิทมาแปะรถคันนี้ด้วยความคับแค้นใจ
ติดให้ทั่วรถเลย เอาให้สำนึกไปถึงชาติหน้า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ราชากับพรินซ์เป็นญาติกัน
แล้วที่จริงตอนเด็กมินิสนิทกับราชา แล้วมินิก็ความจำเสื่อม แล้วราชาก็แลกบ้านเพราะรู้สึกผิด
ใช่ป้ะะะะะ *_*
//วิ่งไปอ่านต่อ
มินิแสบมาก x ราชาฉลาดมาก
เขียนเก่งอ่าห์ หนุกๆๆ
งานเข้าแล้วไงละมินิ - -''
รักอีกแล้วเรา
อ๊าย!
เราอยากรู้ว่าแล้วพริ้นซ์ล่ะ
เราชอบพริ้นซ์นะ!!!
ฮ่ะๆ
ชอบอ่ะ
ชอบพระเอกมากกกกกกกก