ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมอยากเป็นยากุ(ซ่าส์)

    ลำดับตอนที่ #1 : ห้อง 5-D

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 48


    ผมอยากเป็นยากุ (ซ่าส์)

    เมื่อทาคุยะ เด็กดีที่ถูกรังแกเสมอ เพื่อเข้ากลุ่ม ไฟร์ กลุ่มยากุซาที่โด่งดังของโรงเรียน เขาต้องยอมพิสูจน์ตัวเองโดยการเป็นเด็กแลกเปลี่ยน แล้วต้องก่อตั้งแก๊งค์ยากุซาไปเป็นเครือข่าย กลุ่มไฟร์ แต่เรื่องกลับตาลปัตร เมื่อห้องที่เขามาอยู่มันก็ห้องยากุซาดีๆนี่เอง แล้วเด็กดีอย่าทาคุยะจะทนอยู่ได้ไหม

    ตอน  5-d

        กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงออด ขึ้นเรียนดังขึ้น นักเรียนวิ่งวุ่น เข้าห้อง

    อาจารย์วัชรี เดินถือไม้เรียวยาวสามฟุต เดินลาดตระเวน สอดส่องหานักเรียนที่แอบหลับ โดดเรียน เข้าเรียนช้า และอื่นมากมายหลายเหตุผลที่นักเรียนอ้างเวลาเข้าเรียนช้ากว่าคนอื่นๆ แต่วันนี้อาจารย์วัชรีต้องเสียเที่ยว เพราะไม่มีนักเรียนสักคนที่เดินเล่นบริเวณสนามหญ้า หรือระเบียง อาจารย์ร่างเพรียวบางต้องเดินกลับห้องสอนอย่างแปลกใจ  แต่แกหารู้ไม่ว่า มีเด็กนักเรียนของแกยังไม่ได้เข้าห้อง อยู่กลุ่มหนึ่ง นั่นคือกลุ่มตะวัน (ที่กลุ่มนี้ได้ชื่อนี้เพราะชอบแอบนอนกลางวัน และหัวหน้าแก๊งค์ คือนายตะวัน)

        อาจารย์วัชรี เป็นที่ปรึกษานักเรียนห้อง 5-d ซึ่งเป็นห้องที่เป็นที่ทำให้อาจารย์ทุกท่านบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “แย่ มากๆ” ทั้งเรื่องการแต่งกาย ความตั้งใจเรียน และอื่นๆ สุดจะบรรยาย

    วันนี้อาจารย์วัชรี เข้าสอนวิชา ภาษาไทย พร้อมกับการแนะนำสมาชิกใหม่ของห้อง

    “วันนี้อาจารย์ มีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก”

    เสียงแหลมเล็ก บาดแก้วหูดังขึ้น หลังจากที่ฟารีนหัวหน้าห้องกล่าวทำความเคารพ  แต่ไม่ทันสิ้นเสียงอาจารย์วัชรี นายตะวันที่โผล่หน้ามาหน้าประตู ทำเอาทุกคนตกใจ พร้อมคำกวน......น ที่ใส่อาจารย์วัชรี

    “เพื่อนอาจารย์ ผมไม่เห็นจะอยากรู้จัก เลย”

    สิ้นเสียงตะวัน เพื่อนทุกคนพร้อมใจส่งเสียงสนับสนุน สายตาที่แผ่รังสี อำมหิต หันมาทางตะวันกับพวก พร้อมหันไปหยิบไม้เรียวที่โต๊ะตรงมาที่ตะวันและพวก เพื่อนๆนิ่ง เงียบโดยไม่ได้นัดหมาย

    ฟ๊วบบบบบบบบบบบบบบ เสียงไม้เรียวลงที่ใดที่หนึ่ง ตะวันกับพวกหลับตา ตัวแข็งทื่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนอยู่ในอาการสงบ ตะวันหันไปมองอาจารย์วัชรี พร้อมไม้เรียวคู่ใจ แต่พบว่าไม้เรียวของอาจารย์หักเป็นสองท่อน แต่ไม่ยักกะมีใครเจ็บเลย แต่ที่หน้าประตูเป็นรอยยาว อาจารย์วัชรีหันมาสบตาตะวัน

    “ไปนั่งที่ได้แล้ว มายืนทื่ออยู่ได้ หรืออยากโดนไม้เรียว นายตะวัน” ตะวันกับพวกวิ่งไปนั่งที่เดิมอย่างไม่สนใจใคร ขณะที่ริยาที่เตรียมแผนแกล้งตะวันกับพวกไว้ ยื่นขาไปขัดขาตะวันกับพวกจนล้มไม่เป็นท่า อาจารย์วัชรี หันพร้อมส่งสายตาแบบเดิมมาที่ตะวันกับพวก

    “นายตะวัน นายวีรชน นายชิตพล ออกไปทำโทษ ตัวเองเดี๋ยวนี้” ตะวันกับพวก หันมามองริยาอย่างหมั่นไส้ นายชิตพล เดินไปหยิบไม้บรรทัด ของฟารีนแล้วเดินออกไปเป็นคนแรก แต่ตะวัน กับวีรชนยังมองหน้าริยาอย่างเคียดแค้น

    “นายตะวัน นายวีรชน จะออกไปเอง หรือจะให้ครูพาออกไป”

    ตะวัน กับวีรชน ต้องเดินคอตกไปหยิบไม้บรรทัดจากโต๊ะเพื่อนๆ ออกไปหน้าห้อง

    หลังจากสั่งทำโทษ กลุ่มตะวัน อาจารย์วัชรีหันมามองริยาที่แอบยิ้มอย่างซะใจ

    “อริยา เชิญ...........”

    ริยา หน้าซีด พร้อมเดินออกจากห้องไปพร้อมไม้บรรทัด

    ตะวัน วีรชน ชิตพล ที่ยืนอยู่ข้างนอกเมื่อเห็นริยาเดินออกไป ก็ซุบซิบกันเมื่อริยาเตรียมจะยืนกระต่ายขาเดียว ตะวันก็ขัดขาริยา ริยาล้มลง แต่เหมือนมีเจ้าชายมาช่วยริยา ตอนที่ริยาล้มลงไปนั้นตัวไม่ทันถึงพื้น ก็มีคนมาช่วยประคองไว้ ตะวัน วีรชน ชิตพล มองหน้าชายหนุ่ม แต่ไม่ทันเห็นหน้า อาจารย์วัชรี ก็ออกมาพอดี

    “นายตะวัน นายวีรชน นายชิตพล ทำโทษตัวเองจนกว่าจะหมดชั่วโมง อริยา เข้าห้องมาได้”

    ริยาทรงตัวได้ ก็หันไปทำหน้าล้อเลียน กลุ่มนายตะวัน

    “อริยา เธออยากอยู่ข้างนอกต่อหรือไง”

    อาจารย์วัชรีหันมามองนักเรียนในห้องทุกคนกำลังชะเง้อมองออกไปข้างนอก

    “มองอะไรกัน เรื่องเรียนไม่สนใจ เรื่องชาวบ้านสอดรู้สอดเห็นกันดีนักนะ”

    นักเรียนทุกคนหันกลับมาที่เดิมอัตโนมัติ ริยามานั่งที่ พร้อมกับกระซิบกับเอมี่

    “มี่ เมื่อกี้ใครช่วยเราอะ ไม่ทันมองหน้า” เอมี่ ชี้ไปที่ริมหน้าต่าง พร้อมเขียนใส่กระดาษ “นักเรียนใหม่”

    อาจารย์วัชรี ถอนหายใจยาว ก่อนที่จะมองความสงบภายในห้อง

    “วันนี้ห้องเราจะมีสมาชิกใหม่ เพิ่มขึ้น เขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ทางโรงเรียนได้เป็นตัวแทนรับเข้าศึกษาและห้องเราก็โชคดีได้เป็นห้องที่นักเรียนใหม่คนนั้นจะมาศึกษาอยู่ด้วย เอาหละมาให้เขาแนะนำตัวเองดีกว่า”

    อาจารย์หันไปที่ข้างหน้าต่าง พยักหน้าให้ กลุ่มนายตะวัน แอบมองลอดช่องมาเพื่อดูหน้านายคนที่ขัดขวางแผนการแก้เผ็ดริยา ฟารีนเห็นเข้า จึงกระซิบบอก “นี่พวกนายเดี๋ยวก็โดนดีหรอก” อาจารย์วัชรีเห็นฟารีนทำตัวลุกลน จึงกระแอมเสียงดัง กลุ่มนายตะวันหันกลับอย่างรวดเร็ว

    “สวัสดีครับ ผมทาคุยะหรือเรียกผม โช ก็ได้ครับ”

    สิ้นเสียงชายหนุ่มสาวๆ ในห้องมองกันตามันวาว อย่างกับว่าในห้องนี้ไม่มีคนหล่อ

    “น้อยๆหน่อยนะยะ ทำอย่างกับว่าไม่เคยเห็นคนหล่อ” เสียงอาจารย์วัชรี เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นนักเรียนที่ตามันวาวมองทาคุยะอย่างไม่วางตา

    “ฟารีน หาโต๊ะให้เพื่อนด้วย” ฟารีนหัวหน้าห้อง ลุกขึ้นหาโต๊ะว่างให้ทาคุมิ เมื่อเหลือบไปเห็นที่ใกล้ๆ ริยา

    “ทาคุยะ นั่งตรงนี้นะว่างคะ”ฟารีนหันไปมองริยา ก่อนที่จะทำหน้าขออนุญาต

    “ตามสบาย”ริยากล่าวอย่างไม่พอใจ ใครจะไปพอใจเล่า ในเมื่อที่ที่เราเคยครองอยู่คนเดียวมีคนมานั่งด้วย

    “เอาหละ ชั่วโมงต่อไปว่างใช่ไหม ฟารีนครูฝากเธอแนะนำเพื่อนในห้องให้ทาคุมิรู้จักด้วยนะ แล้วไปเรียกทั้งสามคนนั้นมาด้วย” อาจารย์วัชรีเดินออกจากห้องไป ฟารีนช่วยถือของเดินตามไป ไม่ทันที่อาจารย์วัชรีจะพ้นห้องนายตะวัน ตรงดิ่งมาที่ริยา

    “เมื่อกี้ทำไรวะ ยัยซอมบี้” ตะวันทุบโต๊ะอย่างแรง ก่อนที่ริยาจะลุกขึ้นผลักเก้าอี้จนล้มลง

    “ทำไร ก็แกล้งคนอะเด่ เอ หรือว่านายไม่ใช่คน เป็นไรดีหละ” ริยาสวนคำก่อนที่ทำหน้ายั่วโมโหตะวัน

    ตะวันเงื้อมือ  ริยายื่นหน้าเข้าใกล้ วีรชน กับชิตพลมาห้ามไว้

    “พอเหอะตะวัน ช่างมัน” ตะวันลดมือลง หันมาที่ทาคุยะ ทาคุยะไม่สบตา

    “ไอ้หน้าหล่อ แกอย่าไปยุ่งกับยัยซอมบี้ ให้มากนักนะโว้ย ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”

    ฟารีนเข้ามาพอดี

    “ตะวัน วีรชน  พล ริยานั่งที่เหอะ เดี๋ยวให้ทาคุยะแนะนำตัว” ฟารีนสั่งทุกคนพร้อมทำหน้าดุ

    “ทาคุยะ เราต้องขอโทษนะที่เกิดเรื่อง นายอยู่ไปเดี๋ยวก็ชินเองแหละ”

    “ครับ” ทาคุยะตอบสั้นๆ

    เมื่อทาคุยะแนะนำตัวเสร็จ ตะวัน กับวีรชน เตรียมเดินออกจากห้อง ฟารีนเหลือบไปเห็น

    “ตะวัน วีรชน นายสองคนจะออกไปไหน นายยังไม่ได้แนะนำตัวให้ทาคุยะรู้จักเลย”

    ตะวัน หันมามองฟารีน

    “มันเป็นใคร เราต้องไปแนะนำตัวให้มันรู้จัก มันอยากรู้จักให้มันมาถามเอาเองดิ”

    ตะวันตอบฟารีนก่อนที่จะก้าวพ้นประตู

    “นายตะวัน นายวีรชน กลับเข้ามานั่งที่..... เดี๋ยวนี้” ฟารีนขึ้นเสียงสูง ตะวันหันมามองหน้า ฟารีน ก่อนที่จะเดินมานั่งที่เดิม ทาคุยะทำท่างุนงงเมื่อเห็นทุกคนเชื่อฟังฟารีนขนาดนี้

    เมื่อแนะนำตัวเรียบร้อย ทาคุยะเดินมานั่งที่ เพื่อนๆผู้หญิงในห้องก็มาแนะนำตัวเอง จนตะวันหมั่นไส้ ทุบโต๊ะเสียงดัง แต่เขาไม่ทันเห็นว่าบนโต๊ะ มี น็อตโผล่ออกมา ริยามองเห็นมือตะวันมีเลือดซึมแต่ที่เพิ่งทะเลาะกัน จึงสะกิดเอมี่ ให้บอกตะวัน

    “ตะวันมือนายเป็นไรอะ มีเลือดไหลด้วย” ตะวันยกมือขึ้นมาดู แล้วเดินออกจากห้องไป ริยาตามออกไป

    ขณะที่เพื่อนๆกำลังห้อมล้อมทาคุยะอยู่นั้น ทาคุยะหันไปมองเห็นวีรชน แต่ไม่เห็นตะวัน กับชิตพล จึงเข้าไปทักวีรชน

    “เฮ้ เพื่อนนายหละ วีร......” วีรชนมองหน้าทาคุยะอยู่สักพัก

    “พวกนั้นไปเคลียร์ปัญหา แล้วนายหละ พร้อมที่จะมาเคลียร์ ที่นาย ติดค้างพวกชั้นไว้แล้วหรอ”

    “เคลียร์ อะไร เรื่องเมื่อกี้หรอ” วีรชนส่ายหัว ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

    “ทาคุยะ...........” ทาคุยะ หันไปมองต้นเสียง

    “เราชื่อเอมี่ เพื่อนสนิทของทั้งตะวันและริยา เรารู้นายสงสัยเรื่องของพวกเขาอยู่ใช่ไหม เราเล่าให้ฟังได้นะ”

    ทาคุยะทำหน้างง ก่อนที่จะหันมาเห็นสภาพ ห้องอันเละเทะทั้งกระดาษจรวด สภาพโต๊ะ เก้าอี้จนดูไม่ได้ ทั้งที่เขาเพิ่งหันมาแค่ไม่กี่นาที

    นี่หรือห้องที่เขาจะมาใช้ชีวิตอยู่ตั้งหกเดือน แต่เพื่อการเป็นยากุซา เขาต้องทน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×