คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #95 : -:- Special -:- Hit me, Daddy one more time. 02
!! Warning !!
AU Omegaverse, R-rated ช่วงท้ายระวังหลัง
(อาจ OOC)
Hit me, Daddy one more time. 02
เล่นกับหมา หมาเลียปาก
คำนี้ไม่เกินจริงเท่าไหร่
แสงแดดยามเช้าถูกบดบังด้วยกลิ่นโคโลญจน์อ่อน ๆ ภายใต้ผ้านวมสีควันนูนขึ้นเป็นทรงโค้งก้อนใหญ่ ขยุกขยิกอยู่ไม่สุข คลับคล้ายคลับคลาว่าสิ่งแปลกปลอมเพิ่งหาทางเข้าไปข้างในจนพบพื้นที่ที่ต้องการจนได้
สัมผัสเย็นยะเยือกค่อย ๆ ไล่จากปลายเท้าขึ้นมาที่น่องขา จรดลงขาอ่อน เลื่อนขึ้นไล้สะโพกได้รูป -- ไม่นานก็เริ่มส่งผลให้เปลือกตาเจ้าของเตียงเริ่มยับย่น หัวคิ้วมุ่นเข้าหากัน
“...อือ”
ในฝัน จากตอนแรกที่กำลังนอนเอกขเนกบนตักอัลฟ่าที่มีกลิ่นเครื่องหนังชัดกว่าใคร เสียงโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของตัวเองดังขึ้น เจ้าของตักลูบหัวทุยเบา ๆ แล้วลุกออกไปพร้อมเสียงโทรศัพท์ที่จางลง
อ้าปากหาว ก่อนจะเริ่มชะงักกับความรู้สึกประหลาดที่กำลังแล่นริ้วเป็นจังหวะ ชั่วอึดใจเริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา...ทั้งที่เป็นแค่ฝัน
นิ้วเท้าจิกเกร็ง เริ่มขยับขาเข้าหากัน
แต่ติดเข้ากับอะไรสักอย่าง
“...” เดี๋ยวนะ
ลืมตาขึ้นพรวดพร้อม ผ้าห่มสะบัดออกในพริบตาเดียว
กางเกงนอนโปร่งบางถูกถกลงไปคาอยู่ที่ปลายเท้าข้างหนึ่ง อีกข้างพาดอยู่ที่ไหล่กว้าง เห็นหลักฐานและพยานครบครัน อัลฟ่าเจ้าของนัยน์ตาสัตว์เพิ่งตื่นแทบเก็บใบหน้าไร้อารมณ์ไว้ไม่อยู่
“—เวร”
โอเมก้าตรงหว่างขาแย้มยิ้ม
กดจูบลงต่อหน้าตาตา
ไอ้หมาเวร นั่นไม่ใช่ปาก
₪
“เจ้าโอเมก้านั่นก่อกวนอะไรอีกล่ะ”
แขนพาดเข้าที่บ่าก่อนเจ้าของเสียงเสียอีก ทายาทคนกลางตระกูลโซลดิ๊กกลอกตานิดหน่อย ดูก็รู้ว่าไม่ค่อยถูกใจหัวข้อการสนทนาครั้งนี้เท่าไหร่นัก แต่จะให้ทำเมินไม่พูดถึงก็อดใจไม่ไหวอยู่ดี
คนถูกถามจรดปลายปากกาลงบนเอกสาร
“เรื่องเดิม ๆ”
“แล้วเธอก็ยอม?”
“ก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง”
ที่หมอนั่นบอกไว้ก็ถูก
วิน-วินกันทั้งคู่
แค่รำคาญกับนิสัยมาแบบไม่บอกไม่กล่าว -- เมื่อคนเคลื่อนที่ตามทุกตารางเวลาชีวิตในหัวมาเจอกับคนที่โลกบีบบังคับไว้ในกรอบไม่ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับภูเขาไฟที่มีเวลาปะทุไม่แน่นอนทั้งนั้น
ไร้กฏเกณฑ์ ไร้ทิศทาง และไร้หลักการ
คือฮิโซกะ มอนโร
คือคนที่แม้แต่คุโรโร่ ลูซิเฟอร์ยังควบคุมไม่ได้
“ทำไมไม่หาทางสวมปลอกคอให้หมอนั่นบ้าง สินค้าตัวใหม่ของสกอร์เปียนเองก็มีนี่ ปลอกคอที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าและพิษอ่อน ๆ ออกมาเพื่อควบคุมน่ะ”
คิรัวร์เอนแก้มทับบนหัวอัลฟ่ากลิ่นไม้หอม ยีหัวไปมา
“ถึงมันจะเป็นสินค้าที่ใช้กับพวกเฉพาะทางก็เถอะ แต่ถ้าเธอใช้ เชื่อป้ะว่าฉันกับกอร์นจะไม่ปริปากสักคำ”
ในห้องสี่เหลี่ยมกับคนที่ถนัดควบคุมทุกอย่างบนกระดานตารางหมากรุก พวกเขารู้ดีว่าหากคนบนเก้าอี้ตรงนี้ตัดสินใจที่จะลงมือขึ้นมา ไม่ว่าอะไรก็ถูกตรึงไว้อยู่หมัดทั้งนั้น
เช่นเดียวกับคน ๆ นั้น คนที่ตอนนี้ขึ้นแท่นผู้บริหารสูงสุดของคราวน์ โดยเหยียบย่ำพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงด้วยปลายรองเท้าหนังขัดมันสง่า โหดเหี้ยมและเฉียบขาด มีบทบาทอยู่ในเส้นสายและเครือหุ้นบรรดาธุรกิจน้อยใหญ่โด่งดังไปทั่วโลก
คุเรฮะ เอเรอัส คราวน์
คือน้องคนเล็กของผู้ชายคนนั้น
สายเลือดย่อมต้องส่งผ่านกันมาแน่นอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะนิสัยที่ไม่ชอบให้หมากในมือทำตัวผยองออกนอกลู่นอกทาง คิรัวร์เห็นพี่ชายคุเรฮะลงมือครั้งแรกและครั้งเดียวกับพี่ชายคนโตของตัวเอง -- ต่อหน้าต่อตา -- แค่นั้นก็จำทุกอย่างได้ขึ้นใจ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าแมวขาวมองข้ามไปซะฉิบ
“หมอนั่นจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
คือนิสัยเอื่อยเฉื่อยที่ต่างจากพี่ตัวเองสุดกู่
เหลือบตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก ปล่อยเจ้าแมวด้านหลังฟึดฟัดกับเก้าอี้บุหนังที่พิงอยู่ไป เห็นเป็นชายหนุ่มผิวสีแทนน่ามองกับผมที่เสยขึ้นด้วยเจล ปอยผมสองสามเส้นร่วงลงมาระเกลี่ยหน้าผาก หากเข้ามาใกล้อีกนิดคงไม่แคล้วช่วยปัดปอยนั่นให้ด้วยความเอ็นดู
กอร์นยิ้มกว้างขณะที่ถือกล่องในมือขึ้นมา สดใสเหมือนเจ้าหมาพบของถูกใจเมื่อเพื่อนคนสนิทฝากซื้อของบางอย่างระหว่างทาง และของนั่นทำให้รู้ทันทีว่าจะเอาไปใช้ทำอะไรในภายภาคหน้า
“แต่ก็นะ”
ใส่ปากกาลงในกล่องเก็บ ศอกค้ำบนโต๊ะทำงาน ผสานทุกนิ้วเข้าด้วยกันพลางวางคางมนลงบนนั้น เอียงศีรษะนิดหน่อยให้รอยยิ้มเพื่อนชายทั้งสองสะดุด
อัลฟ่า -- ที่กลิ่นเครื่องหนังเริ่มชัด -- คลี่ยิ้มมุมปาก
หากพี่ชายเป็นไฟ ทางนี้ก็น้ำ
“ช่วงนี้หมอนั่นก็ซนเกินไปหน่อย คงต้องดัดนิสัยกันบ้าง”
น้ำมันน่ะนะ
₪
เสียงเปิดประตูดังขึ้น
“แด๊ดดี้ขา”
เข้ามาก็พบเจ้าตัวป่วนชิ้นใหญ่นั่งบนเก้าอี้ประจำตัวในห้องทำงาน ไขว้ขาพาดโต๊ะเฉียดกองแฟ้มเอกสารบางส่วนที่กองทิ้งไว้อย่างไม่คิดจะระวัง
มือที่แตะค้างบนสาบเสื้อกรีดกรายสะบัดขอบให้ดู เห็นเนื้อหนังข้างในวับแวมไปหมด หากเป็นอัลฟ่าปลายแถวคงรู้สึกละลานตาไม่น้อย
ตาคมหรี่ลง
กลิ่นหอมของฮอร์โมนฟุ้งขนาดนี้
“หนูไปทำงานมาตั้งหลายวัน ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอคะ?”
แค่ 37 ชั่วโมง
หลายวันตรงไหนกัน
อัลฟ่าเจ้าของห้องถอนหายใจยาว ยิ่งทำให้คนก่อกวนยิ้มกระหยิ่มขึ้นไปอีก รู้ ๆ กันอยู่ว่าแด๊ดคนนี้เอื่อยเฉื่อยเบื่อโลกแค่ไหน แต่ถ้าเครื่องติดขึ้นมาก็มีแต่จะได้กำไรทั้งนั้น
กลิ่นบางอย่างโชยมาแตะจมูก ปะปนมากับฮอร์โมนยั่วยวนจนเลิกคิ้วสูง ร่างสูงโปร่งในชุดสูทได้รูปเหลือบตามองคนที่เริ่มปลดกระดุมกางเกงลงต่อหน้าต่อตา
…วันนี้เป็นระบายลูกไม้
โอเมก้าเจ้าของผมสีแปลกเฉดเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาด -- กลิ่นเครื่องหนังของแด๊ดชัดขึ้นอีกแล้ว -- ยิ้มกว้างเมื่อเจ้าของกลิ่นขยับปลายรองเท้าขัดมันเข้ามาหา มือที่ขึ้นเส้นเลือดชัดเอื้อมลงปลดกระดุมสูท ดึงจุดรวมสายตาให้ไล่ตาม
เมื่อคนที่หมายตัวค้อมตัวลงมาหาบนเก้าอี้บุหนัง ฮิโซกะไม่รอช้า คล้องแขนสองข้างเข้ากับคอทันที!
ฟุ่บ—
ถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนโต๊ะทำงาน
“?”
อัลฟ่าตาคมนั่งลงบนเก้าอี้ มือหยิบเอกสารที่ทำค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ หยิบกาแฟที่ลงไปรับมาจากเลขาหน้าห้องตอนฝากซื้อขึ้นมาจิบ ไขว่ห้างสบายอารมณ์
“???”
ฮิโซกะทำแก้มป่องทั้งที่ไม่เข้ากับรูปลักษณ์ “แด๊ดคะ...”
คนถูกเรียกเหลือบตาขึ้นมามองนิดหน่อย ทำเมินท่าทีไม่พอใจที่ถูกแสร้งทำแบบเด็กเสี่ยขึ้นมา กะพริบตาปริบ เอียงหัวเข้าหา
“คะ?”
คราวนี้คนเรียกแง่งอนเป็นฝ่ายกะพริบตากลับซะเอง ปกติอัลฟ่าคนนี้พูดอะไรแบบนี้ซะที่ไหนกัน แต่พอเห็นใบหน้าคมคายทำกลับใส่โดยไม่ทันตั้งตัวก็...
ก็ดีนี่
อารมณ์ที่ชะงักไปกลับลุกโชนขึ้นซะอย่างนั้น
เจ้าโอเมก้าตัวเขื่องกระเถิบลงจากโต๊ะทำงาน เจ้าของห้องไม่เอ่ยเรียกอะไรต่อ กลับไปอ่านเอกสารตามเดิม ไม่แปลกใจอะไรทั้งนั้นยามถูกฝ่ามือซุกซนเลื้อยลงเบื้องล่าง
นิ้วเรียวสะดิกปลดกระดุมกางเกงอย่างมีนัยสำคัญ จงใจพ่นลมอุ่นร้อนระรดใบหู จุดอ่อนไหวแสนบอบบาง
เขาแสยะยิ้มยามได้ยินเสียงครางจากอัลฟ่าตาคม
คำราม “อย่าซน”
ให้อดใจยังไงไหว
สองหมาแมวที่ถูกมัดอยู่หลังชั้นหนังสือป่านนี้คงเจียนคลั่งแล้ว
แบบนี้...ยิ่งต้องซน!
แกร็ก
“—!?”
มองลงไป เห็นกุญแจมือใหม่เอี่ยมล็อกข้อมือตัวเองติดกับพนักเก้าอี้ พอขยับก็ส่งเสียงก๊อกแก๊กมาเป็นระยะ เขาทำตาโต แสยะยิ้ม “อ๋า...”
คุณแด๊ดกระตุกยิ้มมุมปาก สลับที่ผลักให้คนถูกจับล็อกหงายหลังมานั่งแหมะบนเก้าอี้ที่ก่อนหน้านี้ชูคอผยองพองขน สำทับด้วยการจับข้อมืออีกข้างล็อกกุญแจไม่ให้หลุดรอดไปไหน
อัลฟ่าตรงหน้าปัดฝุ่นออกจากมือ
ประกายพาดผ่านในแววตา
“พวกนายออกไปได้แล้ว”
แว่วเสียงเคลื่อนชั้นหนังสือ อัลฟ่าสองคนที่เดินออกมาจากห้องลับด้านหลัง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ทรงผมกระเซิงไม่เป็นทรง คนทำไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กคุเรฮะมันนั่นแหละ!
“บ้าเอ๊ย ก็รู้นะว่าแม่งเพี้ยน แต่ไม่นึกว่าจะตะลุมบอนเอาฉันกับกอร์นมาขังไว้ในนี้ไหมเล่า!”
“ดีนะที่คุเรย์ให้คีย์การ์ดสำรองเอาไว้ ไม่งั้น...” กอร์นเกาแก้มยิก เว้นช่องว่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าหมายความว่าอะไร
“อะไรกัน ๆ ฉันอุตส่าห์จะยอมให้พวกนายได้ดูของดีอย่างใกล้ชิด มีตรงไหนที่ไม่ดี?”
คิรัวร์แยกเขี้ยวใส่คนพูดที่นั่งเหลอหลา -- เห็นนะโว้ยว่ามันเอาขาเกี่ยวเอวญาติเขาไม่ปล่อย “ก่อนแกจะได้เริ่ม ฉันนี่แหละจะซัดหมัดใส่แกสักตุ้บ!”
“เอาน่า ๆ อย่าทะเลาะกัน”
กอร์นยิ้มแห้ง ยกมือห้ามทัพด้วยความเคยชิน ก่อนจะดันหลังให้เพื่อนผมฟูฟ่องเดินผ่านเก้าอี้และคนสองคนออกไปจากห้องทั้งทียังฮึดฮัด เสียงก่นด่าแว่วชวนให้ขบขันดังมาตลอดทาง
หากก่อนออกไปดวงตาสีเข้มของเปลือกไม้เหลือบมองลงมาที่คนบนเก้าอี้
นิ่ง,
กระซิบข้างใบหู เธอ
“อย่าเล่นนานล่ะ ฉันรออยู่”
“โฮ่ยกอร์น ออกมาซะที จะอยู่ดูหนังสดพวกนั้นกันรึไง!”
อัลฟ่าอารมณ์ดีที่สุดในกลุ่มยิ้มเหยียดยิ้มสดใส หอมหัวเพื่อนสาวทีหนึ่งแล้วเดินออกไปไม่เหลียวแลโอเมก้าในห้อง -- ฮิโซกะหัวเราะในลำคอส่งท้าย ขาที่เกี่ยวเอวแนบชิดกับแด๊ดขยับกระชับขึ้นอีก
เสียงประตูปิดลง
ตามด้วยเสียงล็อกหนักแน่น
“แบบนี้ต้องครางให้เสียงดังกว่าเดิมซะแล้วซี่ ♥️”
นั่นเป็นคำพูดก่อนจะได้เห็นคนเป็นแด๊ดเปิดลิ้นชักล่างสุดของโต๊ะออกมา
₪
เขารู้ตัวดีว่าช่วงนี้ซุกซนเกินไปหน่อย
“—อื้อ”
แต่ถ้าการซนครั้งนี้จะทำให้ได้เห็นคุณแด๊ดของเขาถอดสูทตัวนอก
“อะ อื้อ!”
พับแขนเสื้อสีเลือดหมูขึ้นมาถึงข้อศอก
“อะ แอ๊ด -- อื้อ”
มือข้างนึงถือแส้หนังฟาดไปหยอกไปตามจุดกระสันของเขาสั้น ๆ
“อื้อ อื้อ อื้อ—!!”
มันก็คุ้ม
พยายามกลืนน้ำลายที่คั่งค้างลงคอ แต่บางส่วนที่กลั้นไม่อยู่ไหลแหมะลงมาตามรูปคาง แม้จะมีลูกหนังอุดปากอยู่แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการสื่อสาร กลับกันมันยิ่งทำให้ตื่นตัวไปสิ่งเร้าที่กำลังถูกประเคนให้
นัยน์ตาเลื่อนลอยมองอัลฟ่าที่กลิ่นหวานปนขมเจือจางจนอยากมุดเข้าไปซุก ที่เอวสอบนั่น ที่หน้าท้อง เหนือข้อเท้า ตรงนั้นก็ได้ -- ตรงนั้น—
นิ้วเรียวชุ่มฉ่ำกดเข้าลึก
“ตรงนี้?”
ส่ายหน้า
รู้จักกันดีอยู่แล้วอย่าทำเป็นลืมซี่
“หืม...ตรงนี้ล่ะ?”
สะดุ้ง
แต่ยังไม่ใช่
เขาช้อนตามอง เว้าวอน
“ล้อเล่นน่ะ”
กระตุก
เผลอยกเอวสูงไปหน่อย คุณแด๊ดเลยต้องเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ขึ้นมาพับแล้วเช็ดข้างแก้มไล่ไปถึงสันกรามอย่างคนชั้นสูง เขามองเรียวนิ้วที่ดึงสิ่งที่คั่งค้างข้างในออกอย่างหลงใหล
มากกว่านี้
อยากได้มากกว่านี้ -- เปล่งเสียงในลำคอ ออดอ้อนด้วยอย่างเดียวที่ขยับได้คือแววตา บดเบียดด้วยเนื้อตัวที่สั่นเร้าแสดงออกถึงความต้องการ
คนตาคมที่ยืนอยู่หน้าเก้าอี้ทำทีเอียงศีรษะ
ครุ่นคิด
“ก็ได้”
เขาตัวสั่นระริกเมื่อเห็นมือเอื้อมลงไปปลดเข็มขัดออกช้า ๆ ไล่ไปที่รังดุม ดุนดันกระดุมสั่งทำให้หลุดออกมาทีละอันเหมือนรั้งรอแกล้งเขา
แด๊ดดี้ของเขาคลี่ยิ้มกดลึก
ปลดพัธนาการที่ริมฝีปากออก กดจูบตรงมุมที่หยาดเยิ้มเบา ๆ
“เอาล่ะเด็กดี อยากได้รางวัลต้องทำยังไง”
เขายิ้มรับ
“โฮ่ง”
______________________________________
Talk:
อะแฮ่ม
จะโดนมั้ย จะโดนแบนมั้ย เลิ่กลั่กแล้วน้า 55555555
ที่คิดเอาเอาไว้คือคุเรฮะเป็นอัลฟ่ากลิ่นไม้หอมค่ะ แต่เวลาที่นิสัยเหมือนพี่ชายขึ้นมากลิ่นเครื่องหนังจะเด่นชัด และแน่นอนว่าพี่ชายคือกลิ่นเครื่องหนังหนัก ๆ เลย อบอวลไปหมดบ้านนี้ (ฮา)
ส่วนฮิโซกะให้ลองเดา ๆ กันดูว่าเป็นโอเมก้ากลิ่นอะไร คงไม่ใช่กลิ่นหวานแน่ ๆ ล่ะ!
---
ดราม่าด้อมฮันครั้งก่อนทำเอาหมดไฟไปเป็นเดือน+กดดันจากสิ่งรอบตัว ถึงจะไม่รู้ว่าคนอ่านหายกันหมดรึยัง แต่ตอนนี้ถือว่าอารมณ์ดี มาสั้นบ้างยาวบ้างแต่ก็กลับมาต่อแล้วนะคะ *หัวเราะ*
เรื่องฟิคโลกคู่ขนานเราจะลงสปอยจบรวดเดียวให้อ่านกันไปเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีไฟกับฟิคได้ยาวเท่าเรื่องหลักแล้วแหละ แฮะ (ตอนแรกกะไม่ให้เกี่ยวข้องกับรูทหลัก...แต่พอไฟติดมันดันคิดตอนจบเชื่อมกันซะได้)
รักทุกคนค่ะ จุ๊บ
ความคิดเห็น