ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #86 : Chapter 66 | ปล่อย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.39K
      174
      8 เม.ย. 63


    Chapter 66



    ไคท์กลับมามีชีวิต

    กลายเป็นมดตัวน้อย หน้าตาที่ไม่คุ้นเคย สีผมยาวแปลกตาและหางคล้ายหนูยาวออกมาจากบั้นท้าย -- แต่ความทรงจำยังอยู่ -- มีอดีตของคนอื่นเข้ามาแซมในหัวด้วยซ้ำไป

    มดที่เคยเป็นหัวหน้าหน่วยกลับใจมาอยู่ฝ่ายมนุษย์ขอรับไปเลี้ยงเอง ครั้งแรกทุกคนเข้าใจว่าเธออาจเป็นน้องสาวของคอลต์ที่กลับมาเกิดใหม่ในครรภ์ราชินี แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันเมื่อเธอเติบโตอย่างรวดเร็ว

    แล้วโพล่งออกมาหน้าตาเฉย

    ‘ไม่ใช่เรนะ แต่เป็นไคท์ต่างหาก!’


    กอร์นก็ยังอาการไม่ดีขึ้น


    เพื่อนทุกคนที่รู้จักในการสอบ ในการปะทะแมงมุม ในเกมกรีดไอร์แลนด์ -- ทุกคนมาพยายามมาเรียกสติเด็กชายอยู่หน้ากระจก แจ้งข่าวของไคท์ไปก็เหมือนจะส่งไปไม่ถึง โมราอุโทรหาคิรัวร์แจ้งอาการเป็นพัลวัน

    “อา เข้าใจแล้ว” เด็กชายแนบโทรศัพท์เข้ากับหู รู้ว่าระยะแค่นี้คุเรฮะก็ได้ยินข่าวไปด้วย “ตอนนี้ฉันถอดใจเรื่องทำให้กอร์นกลับมาเป็นปกติตามวิธีเดิมแล้วล่ะ”

    เด็กสาวนั่งอยู่ในป้อมยามของลุงเฝ้าประตู มีอารุกะนั่งอยู่บนตัก ขอแตะมือที่มีกรงเล็บสีดำแหลมคม ขอแตะเขาสีหม่นสองข้างบนหัวด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว

    ดวงตาของพี่สาวผู้เคยเล่นกันในวัยเยาว์ช่างคล้ายปีศาจในนิทาน แต่เด็กน้อยรู้ดีว่าถ้ามากับพี่ชายที่เขารัก พี่สาวคนนี้จะไม่ทำร้ายเขา -- รูปลักษณ์เปลี่ยนไปจนน่ากลัวแล้วอย่างไร ขอแค่ข้างในใจดีกับเขาและเธอ -- อารุกะก็ไว้ใจได้

    “สรุปง่าย ๆ ว่าเรื่องช่วยกอร์นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน วิธีฉันดีและปลอดภัยกว่าผู้ขจัดเน็น” เสียงตามสายเริ่มเงียบลง คงเริ่มวางใจหรือเอะใจ หรืออาจจะทั้งคู่

    “แต่ปัญหาตอนนี้คือทำยังไงจะไปที่นั่นได้ ที่จริงนี่เป็นปัญหาใหญ่ตอนนี้เลยล่ะ”

    “ไม่ใช่ว่าคุเรฮะมีเทเลพอร์ตหรอกเหรอ ให้เธอพากลับมาสิ!”

    ดวงตาสีครามสบมองญาติผู้พี่ เธอมองกลับ

    เขายืนยันคำเดิมเหมือนที่เคยตกลงกัน


    “ไม่”



    คิดว่าเขามองไม่ออกรึไง



    “หมายความว่าไง?!”

    “—ผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ ท่านคิรัวร์”

    มีอีกสายแทรกเข้ามา คิรัวร์ขมวดคิ้ว “โกโต้?”

    “เรื่องที่มากไปกว่านั้นถือเป็นความลับ คงต้องพอแค่นี้”

    “หา? ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”

    “ไม่ครับ ‘ฉันจะช่วยกอร์นเอง’ ประโยคนี้ชี้นำไปถึงความสามารถของท่านอารุกะ ส่วนบริหารจัดการที่ท่านคิรัวร์อยู่ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูล ท่านต้องทราบนะครับว่าการจำกัดการเคลื่อนไหวของท่านตอนนี้อยู่ที่ระดับ 4 แล้ว”

    คิรัวร์เริ่มเท้าเอว แสยะยิ้ม -- แสดงว่าถือสายรอมาตั้งแต่แรก จนเขาพยายามบอกเป้าหมายกับโมราอุ อย่างน้อยหัวหน้าพ่อบ้านคนนี้ก็ไม่ได้ขัดขวางจนถึงที่สุดขนาดนั้น

    “นายขู่ฉันได้ดีนี่ โกโต้”

    “อ๋า อีกเรื่องนึงที่ท่านควรทราบ ตอนนี้ท่านคุเรฮะหลุุดพ้นจากสถานะว่าที่ผู้สืบทอดคราวน์แล้ว คนของคราวน์กำลังมารับ ผมคิดว่าท่านควรทราบเรื่องนี้”

    “ว่าไงนะ!?”

    ตาเบิกกว้างสวนทางกับคนที่ถูกกล่าวถึง คุเรฮะนั่งนิ่งราวกับรู้อยู่แล้ว

    คนอย่างแม่ไม่มีทางปลดผนึกความทรงจำให้อย่างง่ายดายหรอก พี่ชายหยิ่งทระนงเพียงใด เธอดื้อรั้นในใจแค่ไหน -- ชิรางิคุก็เป็นอย่างนั้นตราบจนสิ้นลม -- สองพี่น้องล้วนได้รับส่วนของแม่มาจนเข้าใจดี

    หากสิ่งที่ต่างออกไป


    คือการไขว่คว้าอิสระให้กันและกัน



    _______________________________________



    โคเซย์เพิ่งมารู้สึกคิดผิดภายหลัง

    เด็กน้อยที่เขาอุ้มกระเตงไปไหนมาไหนทำข้อสอบวัดความรู้ได้คะแนนเต็มทุกครั้ง ผ่านบททดสอบความอึดนำหน้าซีริล -- ลูกชายของนายหญิงที่สาม -- คล่องแคล่ว หลบหลีก สะกดรอย ใช้อาวุธทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ

    เป็นต้นแบบโครงการเงาที่เขาควรภูมิใจ

    แต่ทำไมมันถึงหงุดหงิดทุกครั้งเวลาที่เด็กสี่ขวบทำตัวได้สมกับเป็นเงามากกว่าที่คาดไว้ ไม่มีปริปากบ่น ไม่มีคำน้อยใจ ไม่มีอาการต่อต้านใด ๆ เลยด้วยซ้ำ

    ให้ตายสิ

    เจ้าก้อนแป้งวอร์มร่างกายอยู่ในสวนริมทะเลสาบ การสอนเน็นด้วยทฤษฎีจบไปภายในสองวัน แน่นอนว่าคนที่ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ก็โคเซย์อีกนั่นแหละ เขาไม่ไว้ใจคนของพ่อไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม

    ทดสอบด้วยใบไม้แล้วมันมาโผล่ที่เหม่งเขา -- แปะเป็นยันต์กันผีเชียว -- น้องสาวคนนี้เป็นสายพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย บอกให้ลองฮัทสึอยู่เป็นสิบ ๆ แบบ ไม่นานก็พบว่ามันอาจเป็นวาร์ป—

    ไม่ 

    ไม่ใช่วาร์ป

    เทเลพอร์ตต่างหาก

    “มันก็อันเดียวกันนี่นา”

    ตาใสแจ๋วเลิกขึ้นอย่างฉงน “ต่างกันแค่ชื่อเรียกเอง”

    พี่ชายหัวเราะในลำคอ วางคริสตัลทรงเหลี่ยมขนาดเท้าหัวคนไว้บนโต๊ะน้ำชา ไม่มีช่องว่างใด ๆ ข้างในเพราะมันไม่ใช่กล่อง เหลี่ยมสี่ด้านถูกขัดเงาตัดเหลี่ยมอย่างดี สั่งทำมาราคาแพงไม่ใช่น้อย

    “ทำให้มีดนั่นเข้ามาอยู่ในนี้ซะ เรย์”

    เด็กน้อยมองมีดในมือ แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง เธอมองระยะของคริสตัลตรงหน้า กะระยะจนรูม่านตาแคบลงเกือบเท่าขีด แล้ว—

    ฟุ่บ!

    มีดหายไปจากมือ ฝังกลางคริสตัลหรูราวกับฟอลซิลสัตว์หายาก

    คนตัวสูงเคาะกับแก้วสั่งทำอย่างดี

    “วาร์ปคือการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยพลังที่มากกว่าความเร็วแสง แต่เทเลพอร์ตไม่ใช่” แสยะยิ้มยามลูบไปตามผิวสัมผัส มันเป็นพื้นที่ปิดตายที่เหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ หากเป็นวาร์ปจะต้องเห็นเส้นทางการเจาะผ่านพื้นผิวคริสตัลก้อนนี้

    แต่นี่ไม่มีเส้นทางที่ว่าเลยสักนิด ราวกับอาวุธโผล่มาอยู่ข้างในซะเอง

    “มันคือการเคลื่อนย้ายมวลสารในพริบตา แตกเป็นอนุภาคจากที่หนึ่ง แล้วประกอบขึ้นมาใหม่อีกที่หนึ่ง -- ถ้าพลังของเรย์ไม่เสถียร”

    เปรี๊ยะ!

    ตัวมีดข้างในเกิดเป็นรอยร้าว

    “ของที่ถูกเคลื่อนย้ายก็จะไม่เสถียรตามไปด้วย เอาล่ะ จบการทดสอบของวันนี้แล้ว”

    ถอดเสื้อนอกออก โคเซย์เดินมาหยุดตัวหน้าเด็กผู้หญิงในชุดกิโมโนประยุกต์


    “เทเลพอร์ตฉันไปกลางทะเลสาบเดี๋ยวนี้”


    จากนี้ต่างหากคือของจริง


    ตากลมโตตกใจแทบเท่าไข่ห่าน แต่ยังน้อยกว่าไข่งูยักษ์ในสวนหลังบ้าน เจ้าเด็กที่เคยฟังคำสั่งมาตลอดกระโดดหนีเหมือนงูติดสปริง “ไม่เอา!”

    “กล้าขัดคำสั่งฉัน?”

    “ถ้าพลังของเรย์ไม่เสถียร เซย์จะเจ็บ!”

    ไม่ใช่แค่เจ็บ เผลอ ๆ อาจป่นเป็นเศษเนื้อด้วย

    “ก็ช่างมันสิ ฉันกำลังฝึกเธออยู่นะ กลับมานี่ซะยัยก้อน”

    คุเรฮะไม่เคยขัดคำสั่งเขา เพราะงั้นเธอจึงเดินเตาะแตะเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้ ผิดจากที่เคยตรงที่สองมือขยุ้มชายเสื้อ ปากอมลมจนแก้มป่อง หน้าแดงอย่างไม่ยินยอมจนเหมือนมีควันออกหู

    “ฟังฉัน”

    ตากลมช้อนมอง

    นี่กล้าขมวดคิ้วใส่เขาเรอะ เดี๋ยวเถอะ

    “มันก็แค่เรื่องง่าย ๆ เธอต้องทำให้พลังนี่สมบูรณ์แบบที่สุด” บีบแก้มเจ้าน้องสาวจนลมแตกโผละ บีบจนยู่ยี่หน้าเกลียด “ถ้าทำได้ฉันก็รอด ถ้าไม่ได้ฉันก็ตาย จำใส่สมองไว้ให้ดี”

    ยัยเด็กแก้มป่องถกแขนเสื้อทันทีที่เขาปล่อยมือ

    “ได้”

    แล้วมุดเข้ามากอดขาเขา หน้าซุกพุงแน่น

    “งั้นเรย์จะไปกับเซย์ด้วย!”

    “เฮ้ย—!”


    ฟุ่บ!


    _______________________________________


    เจ้าก้อนแป้งทำสำเร็จ ตัวไม่ป่น กระดูกไม่ร้าว

    แต่เปียกซกไปหมดทั้งพี่ทั้งน้อง


    “ถ้าพี่เป็นเนื้อแล้วเรย์จะนอนซุกใคร”

    บ่นเป็นหมาหงอยตอนเขาเช็ดผมให้ “เรย์กอดเนื้อตอนนอนไม่ไหวนะ...”

    โคเซย์ผลักหัวทิ่มเตียง

    แล้วดึงมากอดอย่างเอาแต่ใจที่สุด

    “บอกว่าให้เรียกเซย์ไง”


    หงุดหงิดชะมัด ไม่ต้องเป็นแล้วมั้งเงาเนี่ย


    _______________________________________


    “ไม่! ฉันไม่ให้ไป!”

    กลุ่มคนในชุดสูท— พ่อบ้านของตระกูลคราวน์เดินเรียงกันเป็นระเบียบ เบื้องหน้าเป็นรถลีมูซีนคันงาม เดเรคที่อยู่หน้าสุดของกลุ่มคนนำมือทาบอก ค้อมตัวให้

    “นายน้อย”

    คิรัวร์กอดพี่สาวคนสำคัญไว้แน่น กัดฟัน “คุเรฮะจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!” 

    เมินเหล่าพ่อบ้านโซลดิ๊กที่พ่อตัวเองส่งมาคุมอารุกะ ไม่สนว่านั่นจะเป็นยายแก่ซึโบเนะที่เลี้ยงมาแต่เด็ก อามาเนะ คานาเรีย หรือโกโตั -- จะพ่อบ้านคนไหนก็ช่างหัวมันให้หมด

    “นายน้อย”

    เดเรคย้ำคำเดิม สบตานายน้อยที่เฝ้าดูแลตั้งแต่นายเหนือหัวของเขาจากไป จนท่านผู้นั้นฟื้นขึ้นมาจากความตาย ก่อนจะร่วงโรยอีกครั้งโดยที่เขาได้แต่เฝ้ามอง

    เปิดเปลือกตาที่มักปิดขึ้น เผยดวงตาสีน้ำเงินเฉดเดียวกับซัลลิแวน -- ตัวเขาที่ถูกสายตระกูลทอดทิ้ง มีเพียงนายเหนือหัวโคเซย์ที่เห็นค่าแล้วรับมาฝึกฝน ไม่ใยดีแม้เขาจะมาจากสายตระกูลที่ฝากแผลลึกไว้กับเจ้านายทั้งสองอย่างเจ็บแสบ


    ‘นับแต่นี้ต่อไป นายคือเงาของฉัน’


    วัยเยาว์เคลื่อนตาที่อ่อนล้าขึ้นมองผู้มีพระคุณ


    ‘และของเธอ’


    ยามเติบโตหลุบตามองคนสำคัญที่ท่านฝากฝังไว้

    เด็กน้อยที่นัยน์ตาเคยไร้แวว ใช้ชีวิตตามคำสั่งให้ผ่านไปในแต่ละวันกับตระกูลงูพิษ ตอนนี้ไม่ต้องมีเขาคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้อีกต่อไปแล้ว

    ไม่ต้องทำอะไรเพื่อเธออีกแล้ว

    ในเมื่อเจ้านายเพียงคนเดียวของเขาไม่มีวันกลับมาอีกครั้ง -- ทั้งตัวเดเรคและเงาทุกคนที่อยู่รอคำสั่งก็ไม่จำเป็นต้องรออีก


    ปล่อยให้เธอเดินไปตามทางของเธอ

    เธอเองก็จะปล่อยทุกคนให้ไปตามทางตัวเองเหมือนกัน


    แววตาคุเรฮะบอกทุกอย่างมาแบบนั้น


    “คิรัวร์”

    เธอแตะมือที่สั่นเทา อ้อมกอดของญาติผู้น้องเกร็งตัวแน่น คิดโจมตีกลับทันทีหากร่างเย็นเชียบถูกแย่งไป เด็กชายส่ายหน้า “ไม่เอา ไม่ไปนะ พี่”

    “ไม่เป็นไร”

    ร่างสูงของพ่อบ้านผมสีเทาก้าวเข้ามาเมื่อเห็นว่าทายาทโซลดิ๊กคงไม่คิดปล่อยมือแน่ คิรัวร์ทำท่าจะดันให้ร่างดัดแปลงไปอยู่ด้านหลัง หากเดเรคล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ยื่นบางอย่างออกมาให้

    เป็นขวดแก้วคริสตัลที่มีน้ำสีใสอยู่ภายใน

    “นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำเพื่อท่านได้”

    คิรัวร์มองด้วยแววตาไม่วางใจ ยื่นมือไปรับมากำไว้แน่น เด็กสาวที่ร่างกายเปลี่ยนไปเกือบหมดยิ้มบางให้พ่อบ้านตรงหน้า มองเลยไปด้านหลัง เหล่าคนในชุดสูทที่ยืนเรียงรอบรถลีมูซีนยืนตัวตรง

    เป็นหน่วยเงาทั้งหมด ไม่ใช่คราวน์ที่ส่งมารับ

    เดเรคโค้งตัวให้ตอบรับแววตาขอบคุณ ก่อนที่ตัวเขาและทุกคนที่ลอบโจมตีคนของคราวน์ให้มาไม่ถึงตัวนายน้อยจะหันหลังกลับไป

    “พวกนั้นจะไปด้วย”

    คุเรฮะเอ่ยกับคิรัวร์ที่จ้องขวดแก้วในมือ สบตากัน “คุ้มกันน่ะ”

    เด็กชายเม้มปาก

    “อารุกะ”

    “ฮื่อ อารุกะอยู่นี่!”

    น้องชายที่มองทุกอย่างมาตั้งแต่ต้นรีบพยักหน้ารับ น้ำเสียงแบบนี้ สีหน้าแบบนี้ พี่จ๋าคิดจะ—

    “ไม่ต้องหรอก”

    คุเรฮะยกมือลูบหัวเด็กน้อยปุ ก่อนจะแบมือขอขวดคริสตัลในมือเด็กชายผมเงิน นัยน์ตาทอแสงอ่อน… คิรัวร์เป็นเด็กฉลาด เธอคิดไว้แล้วว่าเก็บเรื่องนี้ให้พ้นสายตาเจ้าแมวนี่ได้ไม่นานนักหรอก

    เพราะงั้นเลยช้อนสองมือเข้าไปกอดเต็มแขน คนตัวสูงกว่าซบใบหน้าลงบนบ่า รับรู้ได้ว่าตัวของญาติผู้น้องเกร็งตัวอยู่ลึก ๆ คิรัวร์กัดฟัน กำมือสองข้างแน่น

    เธอกระซิบแผ่ว


    “อย่าใช้นานิกะตอนนี้… อย่าให้โซลดิ๊กรู้”


    ก่อนเดเรคจะมา อารุกะได้เอ่ยคำขอข้อแรกกับซึโบเนะไปแล้ว -- เล็บนิ้วก้อยยังคาอยู่ในมือ -- ระหว่างนี้เด็กน้อยจะไม่สามารถเอ่ยคำขอกับใครได้อีก จนกว่าจะขอกับซึโบเนะอีกสองข้อ

    เรื่องนี้แม้แต่คิรัวร์ก็ควบคุมไม่ได้

    ซึโบเนะเป็นคนแก่ตัวสูง -- พ่อบ้านรุ่นเก่าแก่ของโซลดิ๊กมองเด็กน้อยทั้งสองผ่านเลนส์แว่นตา เธอถอนหายใจกับชะตากรรมที่ทั้งคู่ต้องเผชิญ ถึงอย่างนั้น…

    “ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดิฉันแล้ว อย่างไรก็ตาม ดิฉันอยู่ข้างคุณทั้งสองคนนะคะ”

    เธอทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะหายตัวไป 

    ซ่อนตัวจากสายตาและคำขอข้ออื่นของลูกชายคนเล็กโซลดิ๊กอย่างสิ้นเชิง



    รถคันหรูกำลังผ่านเส้นทางคดเคี้ยวบนเขาเพื่อมุ่งหน้าไปหากอร์น คุเรฮะมองเหม่อออกไปนอกกระจก ขวดคริสตัลอยู่ในกระเป๋าเสื้อ คิรัวร์นั่งอยู่ตรงกลาง คุยโทรศัพท์กับเลโอลีโอไม่นานก็เปลี่ยนเป็นโมราอุ จากนั้นโกโต้ก็รับช่วงต่ออีกที

    อารุกะนั่งเล่นไอแพดสนุกมือ สักพักก็เอามาดูเรื่องเลือกตั้ง -- ที่เลโอลีโอเข้าไปแทรกแซงเพื่อกอร์นที่กำลังสาหัส แถมยังซัดหน้าจินออกโทรทัศน์ดังเป็นพลุแตก

    พ่อของกอร์นมั่นใจว่าลูกจะรอดจนน่าหมั่นไส้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าคน ๆ นี้อ่านเกมขาดจนน่ากลัว

    ก่อนบรรยากาศเงียบสงบจะถูกขัดจังหวะลง


    “ท่านอิรุมิ”


    ทุกคนกดดันขึ้นทันทีที่โกโต้รับสายโทรศัพท์ 

    “ครับ อยู่ข้าง ๆ -- รอสักครู่นะครับ” หัวหน้าพ่อบ้านยื่นสายให้คิรัวร์รับช่วงต่อ เด็กชายพยักหน้าคว้ามาขณะกวาดตามองท่าทีทุกคน ผังความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัวต่ออารุกะผุดขึ้นมาชัดเจน

    พวกพ่อส่งซึโบเนะกับอามาเนะมาจับตาดูพวกเขา

    แต่อิรุมิไม่ใช่


    หมอนั่นต้องการฆ่าอารุกะเท่านั้น


    “คิรัวร์ใช่ไหม”

    “ใช่”

    “แบกเอาหนามไปด้วยเหรอเราน่ะ ตัวปัญหาตั้งสองอันแน่ะ”

    “ใช่ ติดพิษไปแล้วด้วย”

    “งั้น...ฉันก็ไปที่นั่นได้สินะ”

    “ต้องการฆ่าฉันรึไง?”

    “ฮะฮะฮะ ปฏิบัติการส่วนบุคคลน่ะ มันฆ่าสมาชิกครอบครัวไม่ได้นา”


    ‘ไม่ต้องไปคิดว่ามันเป็นคนในครอบครัว’

    เหมือนคำที่พ่อเคยย้ำไว้


    จิตสังหารคิรัวร์แผ่ไปทั้งคันรถ ทุกคนเงียบกริบ

    รอฟังสัญญาณ



    “ก็มาสิวะ” 


    การต่อสู้


    “ฉันนี่แหละจะล้มแกในเกมนี้เอง”


    เริ่มขึ้นแล้ว




    “ถ้างั้น— ฉันเริ่มเลยนะ”




    รถบรรทุกโผล่พ้นมุมโค้งมา คนขับที่ถูกปักเข็มไปทั่วหัวเสยรถลีมูซีนหรูตกผาสูงทันที


    ตูม!!!


    __________C H E C K M A T E__________


    เรื่องกำลังคลายปมเรื่อย ๆ แล้ว

    หลังจากนี้ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปก็อยากขอให้ทุกคนโหวตคะแนนแล้วเขียนคำวิจารณ์ในแฟนฟิคเรื่องนี้หน่อยค่ะ เป็นคำขอก่อนฟิคเรื่องนี้จะจบลง *กุมมือทำตาปิ๊ง ๆ*

    ฟิคคู่ขนานของเรื่องนี้เองก็มีไม่กี่ตอนด้วย


    ก็นะ ถ้าปิดจักรวาลเรื่องนี้ลงแล้ว หมีก็อาจวางนามปากกา SleepyB. ลงแล้วล่ะค่ะ วางทุกอย่างเกี่ยวกับฟิคนี้และออริ เก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำแทน

    ถามว่ามีโอกาสกลับมาไหม ก็อาจมี แต่ไม่รับรอง

    ยังไงก็

    ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ 

    (รู้ไหม แฟนฟิคเรื่องนี้แต่งมาตั้ง 6 ปีแน่ะ!)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×