คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #69 : Chapter 53 | The Movie : Last Mission (III)
Chapter
53
The
Movie : Last Mission (III)
ฟิ้ว—
ร่างสะบักสะบอมร่วงผล็อยจากดาดฟ้าสูงหลายร้อยชั้น
ผมเผ้าพลิ้วไหวปิดบังเสี้ยวหน้าคนนิ่งเงียบ
ได้ยินเสียงเรือเหาะหลายลำกำลังใกล้เข้ามา
ดูเหมือนเรื่องนี้รัฐบาลกำลังยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง
“จะบอกอะไรให้”
ได้ยินชัด
เสียงสั่นเครือทำให้ต้องเงยหน้าสบตา
“คนที่ทำลายดวงตาของเธอ คือฉันเอง”
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจรดคาง
ใบหน้าของพี่ชายต่างแม่ที่มักจะมองเหยียดและจิกกัดถูกครอบงำไปด้วยพลังความมืด --
ตรงข้ามกับดวงตาและเสียงหัวใจ
ทำไมมือถึงสั่น
ทำไมถึงต้องมองกันอย่างนั้น
ในเมื่อความสัมพันธ์ในครอบครัวของเรามันไม่เคยมีอะไรดีสักนิดเดียว
ฟู่ว—
อ็นสีดำค่อย ๆ
มารวมกันเป็นกลุ่มก้อนที่ฝ่ามือ สานกันเป็นเกลียวก่อเป็นด้ามจับ
แผ่ขยายความยาวออกไป จบลงที่จรดปลายแหลมเป็นอาวุธขึ้นมา
อาวุธของเธอในนามของผู้ใช้อ็น
-โชว-
ดวงตาคมสีแดงเสี้ยวเปิดขึ้น
สะบัดอาวุธสายแปรสภาพที่ยาวเกือบเท่าตัวออกไป
เมื่อมีแรงเหวี่ยงด้ามสีดำยาวก็แยกออกเป็นท่อน ๆ คล้ายกระบองหลายอัน
มันเชื่อมกันด้วยสายโซ่ข้างใน
บางส่วนของอาคารมีร่องรอยการโจมตีทำให้มีเหล็กยาวด้านบนที่ยื่นออกมา
เดาไว้ว่าอาจเป็นฝีมือของเจ้าสองหมาแมวที่ถูกซัดลงมาก่อนแล้ว --
ปลายหอกแหลมพุ่งออกไป พันเกี่ยวเหล็กนั่นเอาไว้
ตึง!!
ร่างเล็กเด้งกระดอนขึ้นมาตามแรงดึง
ในที่สุดการร่วงลงจากหอคอยสูงก็สิ้นสุดลง
อาวุธของเธอที่ปรับสภาพบางส่วนเกี่ยวเหล็กไว้ได้
ทำให้ไม่ต้องเปลืองแรงใช้เทเลพอร์ตเกินตัวมากนัก
กวาดสายตาไปมา
ดูเหมือนร่างฟกช้ำจะร่วงลงมาคาอยู่ที่ชั้นร้อยกว่า ๆ
โชคดีที่ตรงนี้ดูเหมือนจะใกล้กับจุดที่เป็นรูโหว่ สภาพเหมือนระเบิดออกมาจากภายใน
ตึง!
ตึง! เคร้ง!
ขมวดคิ้วนิดหน่อยกับเสียงต่อสู้ด้านใน
ตอนนี้คงต้องหาทางเข้าไปด้านในให้ได้ก่อน
คุเรฮะจับอาวุธไว้มั่น
ใช้สองเท้าวิ่งไปบนผนังซีเมนต์ของหอคอยเป็นตัวช่วย ก่อนจะเหวี่ยงตัวเองออกให้ลอยไปเกือบถึงทางเข้าที่มีคนทำเอาไว้
เท่านั้นแหละ
เคร้ง!
“ทำหน้าตาบูดเป็นตูดลิงไปได้น่า ♥”
“หนวกหูไอ้ตุ๊ด”
ไหงเซย์ถึงมาตีกับเจ้าตัวตลกตรงนี้กัน!?
พรืด—
“เรย์!! / สลีปปี้!!”
กลายเป็นหลุดเหวอจนเผลอปล่อยมือร่วงซะนี่…
-----
ถูกคว้าเอาไว้ได้ทัน
แต่ถึงคว้าพลาดคุเรฮะก็เตรียมเทเลพอร์ตตัวเองพุ่งเข้าไปด้านในอยู่ดี
-- พี่ชายสำรวจร่างกายที่ไปฟัดกับคนบนดาดฟ้ามา ดวงตาคมหรี่ลงใต้หน้ากากกระดูก
เอ่ยถาม
“เซ็นจิสินะ”
“อือ”
มือฮิโซกะยื่นมาเก็บผมยุ่งทัดหู
โดนพี่ชายปัดดังเพี๊ยะ
“เซ็นจิรับพลังอ็นจากคนชื่อเจดไปแล้ว” เธอเล่าสั้น ๆ
“งั้นเหรอ ฉันคงมาช้าไป”
แก้มนิ่มถูกจิ้ม
ๆ ตรงรอยช้ำ โดนพี่ชายปัดดังเพี๊ยะ
“หมอนั่นบอกว่าเป็นคนทำลายดวงตาเรย์”
“ใช่ ฝีมือมันนั่นแหละ”
ฮิโซกะขยับเข้ามาใกล้ทีละก้าวสองก้าว
โคเซย์ก้มหน้าลง เส้นเลือดปูดบนขมับเป็นทางยาว
อ็นสีดำมารวมกันที่มือแปรสภาพเป็นแส้เหล็ก พร้อมฟาดเจ้าตัวก่อกวนให้กระเด็นตกหอคอย
มือคุเรฮะยื่นมาแตะไว้
เบรคก่อนเส้นความอดทนจะขาดผึ่ง เพราะต่อให้พี่ชายฟาดจนพังไปทั้งชั้น
ฮิโซกะก็ยังยิ้มระรื่นได้อยู่ดี
เธอทำหน้าปลาตาย
ต้องแปลกใจไหมที่ตัวเองชินชาขนาดนี้
(...)
ตูม!!!
บนจุดสูงสุดของลานประลองกลางหาว
เรือเหาะจากฝ่ายรัฐบาลระเบิดเป็นจุล คุเรฮะเอียงตัวมองทุกอย่างผ่านรูโหว่หอคอย
เห็นร่างอวตารคล้ายยักษ์เพศหญิงขนาดใหญ่ใช้กระบวนท่าซัดเรือเหาะพังไปตาม ๆ กัน
พลังความมืดรุนแรงขนาดนี้...ฝีมือเจดแน่นอน
“ไปกันเถอะ”
พี่ชายจับมือไปกุมไว้
ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าหมายความว่าอะไร คุเรฮะพยักหน้าออกตัววิ่งไปพร้อมโคเซย์
โดยไม่ลืมกระตุกชายเสื้อโจ๊กเกอร์หนุ่มตอนวิ่งสวนกัน
“ฝากตามหากอร์นกับคิรัวร์ด้วย”
“ไม่ทำให้ฟรีนะ ♦”
เธอกลอกตา
กระชากมือหนาเข้ามากัดงั่มแรง
ๆ หนึ่งที
!!?
ฮิโซกะผิวปากอารมณ์ดี
—แต่โคเซย์เหลือกตาใส่แรงมาก
“ติดไว้ก่อน”
ตัดภาพระหว่างวิ่งเกินความเร็วคนปกติมาให้ดู
พี่ชายอุ้มน้องด้วยแขนข้างเดียว
ส่วนอีกข้างคว้าผ้าสะอาดขึ้นมา สั่งให้อ้าปากแล้วเอาผ้าถูเขี้ยวแหลม ๆ
จนคนเป็นน้องแทบน้ำตาเล็ด
“สกปรก!! ถ้าติดเชื้อบ้าขึ้นมาจะทำยังไง!! หา!!!”
เกรี้ยวกราดแล้ว
-----
โคเซย์เล่าให้ฟังระหว่างวิ่งขึ้นไปชั้นบน
ดูเหมือนเจดกับลูกสมุนสามคนจะไปบุกเรือนจำทางเหนือ
เกลี้ยกล่อมเหล่านักโทษในนั้นให้มาเป็นพวกแล้วพากันบุกลานประลองตอนเนเทโล่อยู่ข้างใน
เป้าหมายคือใช้เนเทโล่และตัวประกันเป็นข้อต่อรอง
เรียกร้องให้ปล่อยพวกของตัวเองทุกคน
รวมถึงแฉความผิดพลาดในอดีตของสมาคมให้ปรากฏสู่สายตาคนทั้งโลก
ความผิดที่ระแวงพวกเดียวกันเองว่าเป็นตัวอันตราย
จึงคิดกำจัดทิ้ง
“เผยแพร่ข้อมูลพวกนี้ต่อสาธารณะ...ว่าดาร์กเมมโมรี่ที่เคยถูกพวกฮันเตอร์จับเป็นนักโทษทั้งหมดเป็นโมฆะ”
ส่วนสมุนอีกสามคน
ตามข้อมูลคือเป็นชนเผ่าที่อาศัยในภูเขาลึก
แต่แล้วก็ถูกระแวงและจับกุมทุกคนในเผ่าไปขังไว้ที่คุก ไร้ซึ่งอิสระ
ให้ทำงานจนแก่เฒ่า ท้ายที่สุดก็ตายไปโดยไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
สามคนนั้นคือผู้รอดจากการจับกุม
คาดเดาว่าคงฝังใจกับพวกสมาคมฮันเตอร์มากจึงได้ออกตามหาเจดที่ถูกอ็นกลืนกิน
จากนั้นจึงร่วมมือกันแก้แค้น
โดยใช้สถานที่เป็นลานประลองกลางหาวที่จัดการแข่งทัวร์นาเมนต์ขึ้นพอดี
แถมยังมาโป๊ะเช้ะกับเซ็นจิที่พี่ชายกำลังไล่ล่าอีก
อยากกุมขมับจริง
ๆ อะไรจะลงล็อกขนาดนี้
แต่พอนึกถึงหยดน้ำตาของพี่ชายต่างแม่
คุเรฮะก้มหน้าลง
สองเท้าวิ่งเคียงคู่ไปพร้อมพี่ชาย
เรา...พลาดอะไรไปรึเปล่านะ?
-----
“เนเทโล่ มีเพียงนายเท่านั้นที่เลือดฉันใช้ไม่ได้ผล”
ดวงตาที่กลายเป็นผู้ใช้อ็นโดยสมบูรณ์มองทิวทัศน์รอบเมืองบนดาดฟ้าหอคอยสูง
ด้านหลังเป็นชายผู้อุทิศตนให้กับความมืด เพื่อเป้าหมายและการแก้แค้น
ตอนที่เรือเหาะบินเข้ามาใกล้
นอกจากพลังของเจดที่ทำลายมันแล้ว เซ็นจิเองก็ร่วมมือด้วยเช่นกัน
เพื่อพิสูจน์ว่าเขาพร้อมมอบทุกอย่างให้โดยไม่มีข้อกังขา
—แม้ในใจจะไม่ได้จงรักภักดีขนาดนั้นก็ตาม
_________________________________________
“นี่มัน...”
เด็กชายในวัยเยาว์เงยหน้ามองมารดา
หญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปโชว์ทรวดทรงสมกับเป็นนายหญิงที่หนึ่งมองขวดแก้วขนาดเล็กในมือลูกชาย
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มหรี่ลงอย่างเย็นชา
หากริมฝีปากสวยเป็นกระจับแสยะยิ้ม
“นังเด็กนั่นน่ะ ลูกเกลียดมันใช่ไหม?”
“ครับท่านแม่”
“ดี”
จับไหล่ทั้งสองข้างของลูกชายหันไปทางประตู
ด้านในเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องเจ็บปวดและเสียงของแพทย์กับพยาบาลหลายคนวิ่งวุ่นไปหมด
ลูกทั้งสองคนของนายหญิงที่สี่อาการสาหัสอยู่ในนั้น
จำได้ว่าเสียงกรี๊ดของแม่สี่ทำให้ทุกคนตกใจกันทั้งบ้าน
เซ็นจิที่กำลังต่อหุ่นยนต์ตัวโปรดก็วิ่งไปตามเสียงเหมือนพี่น้องคนอื่น
ตุบ
แต่พอไปถึงของเล่นในมือพลันร่วงลงพื้น
ตรงหน้ามีแต่เลือดและซากศพ
แพทย์ประจำตระกูลแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นดูอาการพี่ชายคนรองของบ้าน
เห็นเสี้ยวพลังสีดำแลบออกมาเป็นพัก ๆ หลายคนดูผวาและทำตัวไม่ถูกกัน
อีกกลุ่มหนึ่งดูอาการน้องสาวคนสุดท้อง
"อุ๊บ!"
พี่สาวฝาแฝดปิดปาก
ใบหน้าหวาดหวั่นหันไปมองทางอื่น แต่เขาไม่เห็นอะไรเลย นอกจากคนของสายตระกูลรองที่นอนตายกันเกลื่อน
กลุ่มแพทย์ และ—
รองเท้าเกี๊ยะที่ยัยเด็กนั่นชอบใส่
เซ็นจิหยิบรองเท้านั่นด้วยสองมือ
เช็ดเลือดออกจนสะอาด
แล้วพยายามชะเง้อคอมองลอดเข้าไปในกลุ่มแพทย์ที่ล้อมปิดเกือบทุกช่องทาง
แล้วท่านพ่อก็มาถึง
ใบหน้าโกรธแบบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ตรงไปหาแม่สี่ที่ร้องไห้จนสลบ
ประคองขึ้นมาอย่างทะนุถนอม พลางถามไถ่อาการลูกทั้งสองคนกับหน่วยแพทย์
เขากอดรองเท้าเกี๊ยะเอาไว้
ได้ยินทุกอย่าง
คนพี่กำลังถูกพลังความมืดเข้าครอบงำ
ส่วนคนน้องเกือบถูกรุมข่มขืน...ดวงตาสีแดงเสี้ยวทั้งสองข้างถูกควักออกไป
“เอาเจ้านี่ไปหยดใส่กล่องที่เก็บดวงตายัยเด็กนั่นซะ
เท่านี้ดวงตาของมันก็จะไม่มีทางใช้การได้อีก”
เซ็นจิเงยหน้ามองผู้เป็นมารดา
รอยยิ้มบิดเบี้ยว
“ครับ ท่านแม่”
_________________________________________
“คุราปิก้า!!”
กอร์นกับคิรัวร์ที่ชนะหนึ่งในสามลูกสมุนของเจดพบร่างเพื่อนนอนทรมาณบนโซฟาข้างทางทาง
เลโอลีโอคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ถัดไปมีตัวตลกผมสีฮอตพิ้งค์ยืนพิงกำแพงยิ้มแป้น
“เกิดอะไรขึ้น!?” กอร์นร้องถาม
“ดูเหมือนจะสู้จนชนะเจ้าคนที่อยู่ในห้องควบคุมได้
แต่ก็พลาดท่าถูกฉีดเลือดของตัวหัวหน้าเข้าเส้นเลือดด้วยเหมือนกัน ♦”
ฮิโซกะอธิบายพลางสับไพ่เล่น
“ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าจะใช้เน็นไม่ได้น่ะนะ ♠”
เลโอลีโอพูดเสริม
“ฉันเห็นเดเรคมาช่วยด้วย หมอนั่นเป็นคนจัดการให้ระบบรักษาความปลอดภัยกลับมาเป็นปกติ
แต่ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
คุราปิก้าในชุดสูทสีดำจิกแขนตัวเองแน่น
ทางเลือกที่รับรู้มาท่าทางจะมีแค่สาบานกับความมืด ไม่งั้นก็ทรมาณแบบนี้ไปจนตาย
“ม-ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก อึก!
ฉันจะไม่ยอมสาบานกับความมืดแม้ว่าจะต้องตายก็ตาม”
“ไม่ ฉันจะไม่ยอมให้คุราปิก้าตายเด็ดขาด!!”
เด็กชายผมดำตั้งกำหมัดแน่น
“งั้นก็ต้องสาบานกับความมืด” คิรัวร์แย้ง
“คุราปิก้าจะไม่สาบานกับความมืดด้วย!”
ยิ่งพูดดูเหมือนจะเสียเวลามากขึ้น
เลโอลีโอทำหน้าเครียด เอายาต่าง ๆ ให้แล้วแต่ก็ไม่น่าจะได้ผล
เพื่อนผมทองมีแต่จะทรมาณเพิ่มขึ้นตามเวลาเท่านั้น
ตัวตลกยักไหล่ไม่ยี่หระ
“งั้นก็ต้องเอาชนะเจดให้ได้”
ชูไพ่ในมือที่จัดเรียงสวยงามให้ดู
ปล่อยให้ตีความกันเอาเอง
“ถ้าอยากชนะเกม...ลองทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะศัตรูตัวสุดท้ายให้ได้สิ
ไม่ก็—เลือกใช้โจ๊กเกอร์”
“นายหมายความว่าไง?”
ฮิโซกะฉีกยิ้ม
ไม่ตอบคำถามใดก่อนจะเดินหายไปต่อหน้าต่อตา -- ทิ้งให้คิรัวร์ตะหงิดใจกับคำพูดต่อไป
กอร์นก้มมองเพื่อนที่ทรมาณ ไหนจะมีคุเรฮะที่อยู่กับเจดข้างบนหอคอยนั่นอีก
ทำทุกอย่างเพื่อชนะศัตรูงั้นเหรอ...
ได้
“ศัตรูจะเป็นใครก็ช่าง ฉันจะทำทุกวิถีทาง
ฉันจะเอาชนะเจด!!”
ผั้วะ!!!
ประตูดาดฟ้าถูกเตะกระเด็น
-- สองเด็กชายขึ้นมาด้วยท่าทางใบหน้าเคร่งเครียดเพราะมีชีวิตคุราปิก้าเป็นเดิมพัน
ก่อนจะร้องตกใจเมื่อเห็นคนกำลังสู้กันอยู่
“คุเรฮะ!”
เด็กสาวที่โดดออกมาจากระยะการโจมตีของเจดเลิกคิ้ว
ตามด้วยตาเบิกกว้าง
ใกล้
ๆ กันมีโคเซย์ที่สะบัดแส้ใส่เป้าหมายจนเซ็นจิกระเด็นไปไกล
เดเรคคอยสนับสนุนอยู่ตรงมุมอับ -- มือสองข้างวางอยู่ที่พื้น
ควบคุมโซ่ให้ผุดจากข้างใต้พุ่งไปสกัดการเคลื่อนไหวของเซ็นจิเอาไว้
“ขึ้นมาทำไม!”
เธอตะโกนเสียงดัง
กอร์นตะโกนกลับมา
“คุราปิก้าทรมาณเพราะเลือดของเจดอยู่ เราต้องร่วมมือกันจัดการเจด!”
ข่าวของคุราปิก้าเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุเรฮะไม่คิดว่าจะได้ยิน
เธอพุ่งหลบอ็นสีดำของเจดที่โจมตีมาเป็นระยะ เม้มปากแน่น
แผนในหัววิ่งเร็วเหมือนหนูติดจั่น
สุดท้ายจึงคำรามในลำคออย่างไม่มีทางเลือก
“ให้ตายสิ!!”
“ใครจะยอมให้เป็นอย่างนั้นไอ้พวกโง่!!!”
เจคสะบัดมือ
คลื่นพลังอ็นรุนแรงซัดไปทางคราวน์ที่สาบานจะรับใช้เขาจนโซ่ที่จำกัดการเคลื่อนไหวไว้ขาดกระจาย
พอเซ็นจิเป็นอิสระก็ระเบิดอ็นเป็นวงกว้างทันที
โคเซย์คำราม
แส้เหล็กที่สร้างจากอ็นสะบัดยาวราวกับงูยักษ์เคลื่อนล้อมเหยื่อ
ถึงเขาจะตายไปแล้วและนี่เป็นแค่ร่างบรรจุพลังอ็นจากสัตย์สาบาน
แต่ก็ใช่ว่าจะสู้ไอ้คนที่ทำลายดวงตาน้องสาวไม่ได้
ต่างกันแค่เจตจำนงค์เท่านั้น
เพราะพลังของเจดที่เซ็นจิได้รับเกิดจากความเคียดแค้น
-- ไม่เหมือนเขา!!
“ยัน ยี เยา— กระดาษ!!!”
“หึ!”
เจคแสยะยิ้มเอี้ยวตัวหลบพลังสายแผ่พุ่งของเจ้าเด็กผมตั้ง
แต่พอก้อนพลังหายไปกลับแทนที่ด้วยร่างของมือสังหารโซลดิ๊กพุ่งเข้ามายกขาขึ้นเตะ!
อ็นของเจคซัดออกไป—
ฟุ่บ!
ร่างของคิรัวร์ถูกแตะให้เทเลพอร์ตหลบไปหากอร์น
-- คุเรฮะที่มาแทนที่ต้านพลังอ็นเจดสุดแรง เสี้ยวพลังแตกเปรี๊ยะเป็นวงกว้าง
เธอกัดฟันโยนอาวุธอ็นขึ้นให้กระจายเป็นใบมีดนับสิบลอยเหนือหัว
พุ่งเข้าใส่เป้าหมายพร้อมกัน!
ตูม!!!!
คุเรฮะหันไปช่วยกอร์นกับคิรัวร์ตัดกำลังเจด
ในขณะเดียวกันโคเซย์ก็โจมตีใส่เซ็นจิไม่ยั้งมือโดยมีสุนัขรับใช้อย่างเดเรคคอยสนับสนุนตลอดเวลา
“อ๊ากกก!!”
แส้เหล็กของโคเซย์คมกริบจนเฉือนเนื้อไปหลายรอย
อีกทั้งยังต้องหลบโซ่ของลูกน้องมันที่ร้อนราวกับมีไฟลนอยู่ข้างใน
เซ็นจิกระชากเหล็กของเสารับสัญญาณบนดาดฟ้ามา เสริมพลังลงไปจนเหล็กเกือบแตก
ฟาดเข้าใส่สุดแรง
ปัดแส้เหล็กของคนที่ควรตายไปนานแล้วให้กระเด็นห่าง
“ถ้าไม่มีแก! ถ้าไม่มีแก!!!”
ภาพที่เขาเฝ้าทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้นมา
ทั้งรวบรวมกำลังคนฝ่ายตัวเอง
ทั้งแทรกซึมเข้าตระกูลสายหลักด้วยหนอนบอนไส้จากตระกูลรองที่ทรยศอย่างซัลลิแวน
แต่สุดท้าย
ก็แทนที่คนที่พ่อตั้งใจยกตำแหน่งให้แต่แรกไม่ได้
ดวงตาอำพันล้อมสีแดงเข้มแดงก่ำ
เส้นเลือดขยายยาวในม่านตา “ถ้าไม่มีแกสักคน
ฉันก็จะกลายเป็นคราวน์ที่สืบทอดผู้นำตระกูล!!”
“ถ้าทำได้แค่แหกปาก แกมันก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้นั่นแหละวะ!”
“ไอ้โคเซย์!!!”
ฉั้วะ!!
“คิรัวร์!”
กอร์นกับคุเรฮะตาโต
เด็กชายผมสีเงินพุ่งเข้าไปใช้กรงเล็บเฉือดแก้มเจดได้ในเวลาไม่กี่วิ
แต่เลือดสีน้ำเงินที่พุ่งกระเซ็นออกมาทำให้พวกเขาตกใจมากกว่า
จะสัมผัสเลือดของเจดไม่ได้!!
กอร์นกระโจนเข้าไปผลักเพื่อนสนิทออก
เอาตัวบังอีกฝ่ายไว้จนมิด
ตอนนั้นเองไม่ต่างจากภาพในอดีตที่ทั้งสองคนถูกไวเปอร์รุมโจมตี
ภาพที่อาวุธกำลังจะแทงเข้ากลางหลังคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนทำให้จิตสังหารระเบิดออกในพริบตา
พลั่ก—!
“คุเรฮะ!!”
“...ชิ”
เด็กสาวที่พุ่งเข้าไปช่วยอีกทีมองหลังมือตัวเองที่มีเลือดสีเข้มติดอยู่
ควันพุ่งออกมาราวกับน้ำกรดกำลังกัดผิว -- อย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้ใช้อ็นอยู่แล้ว
ยังไงก็ไม่น่ามีผลเสียเท่ากอร์นหรือคิรัวร์
ถึงจะเป็นพวกครึ่ง
ๆ กลาง ๆ ก็ตามที
“ช้าไปหน่อย แต่การได้เธอมาเป็นพวกเดียวกันนั่นมันก็...น่ายินดี”
เจดแสยะยิ้ม
-- มองผลงานที่เริ่มออกฤทธิ์ เด็กสาวกัดฟันจิกแขนตัวเองไว้
ราวกับกำลังสะกดความเจ็บปวดที่กำลังทิ่มแทงไปทั่งร่าง
กอร์นกับคิรัวร์ประคองเธอไว้ด้วยความเป็นห่วง
เหงื่อไหลลงมาตามกรอบคาง หากคุเรฮะหัวเราะหยันแม้จะมีความเจ็บปวดในน้ำเสียง
“อะไรกัน...ก็อยู่ในเกณฑ์ทนได้นี่นา”
ตึง!!
ร่างที่ถูกประคองหายวับไป
เด็กสาวพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเจดอีกครั้ง พลังความมืดแผ่กระจายครอบคลุมจนแทบมองข้างในไม่เห็น
แต่เสียงที่ได้ยินมั่นใจได้ว่าค่อนข้างลำบากสำหรับคุเรฮะไม่น้อย
คิรัวร์กะพริบตา—
เห็นร่างของพี่ชายคุเรฮะโดดตามเข้าไปในนั้นโดยไม่ลังเล
หันไปอีกฝั่งดูเหมือนจะจัดการคราวน์ที่ทรยศได้แล้ว
มีเดเรคคอยคุมเชิงอยู่วงนอกอีกที
เหลือแค่เจดคนเดียวเท่านั้น
ทำยังไงดี
เหลือแค่พวกเขาที่ได้แค่มองอยู่ตรงนี้
ทำไมเราสองคนถึงได้ไร้พลังขนาดนี้...
เปรี๊ยะ!
เงยหน้าขึ้น
เห็นเนเทโล่ที่ถูกตรึงไว้ขยิบตาให้
“ไม่เอาน่า พวกนายยังใช้เน็นได้อยู่นะ”
ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองร่างหนุ่มหน้าหวานที่ยอมตายเพื่อแลกสัตย์สาบานที่ทัดเทียม
สองหมาแมวมองหน้ากัน รอยยิ้มมั่นใจเริ่มปรากฏออกมา
รวบรวมออร่าไว้ที่ฝ่ามือ
พุ่งเข้าไปหาผู้พันธนาการตาแก่เอาไว้พร้อมกัน!
เปรี้ยง!!!!!
พลังความมืดที่ปกคลุมหนาถูกพัดออกไปด้วยสายลมกรรโชก
โคเซย์คว้าตัวเด็กสาวโดดถอยออกห่างจากเจดทันทีที่มีช่องโหว่
ชายแก่ที่ได้รับอิสระสะบัดเกี๊ยะไม้ออกจากเท้าอย่างไม่ใยดี
ขยับเขยื้อนคอแก้เมื่อย แล้วตั้งกระบวนท่าขึ้นมา
เน็นก่อขึ้นเป็นร่างอวตารสีทองอร่ามเรียงร้อยฝ่ามือ --
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเจดที่จ้องอย่างนิ่งงัน
เนเทโล่สูดหายใจลึก
เฮียวคุชิกิคันนน—
เทพคันนน 100 วิถี!!
“ขอชำระบัญชีแค้น!!”
ที่เหลือ...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตาแก่คนนี้จัดการเอง
__________C
H E C K M A T E__________
The Movie : Last Mission (III)
ความคิดเห็น