คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #68 : Chapter 52 | The Movie : Last Mission (II)
Chapter 52
The Movie :
Last Mission (II)
“อีกสักพักกว่าจะเดินเรื่องเอกสารเสร็จ
ระหว่างนี้พวกเธอไปเที่ยวที่ลานประลองกลางหาวรอก่อนก็ได้”
จำได้ว่าไคท์ยิ้มให้
ใบหน้าในมุมย้อนแสงทอประกายอ่อนโยน
มือหนาดุนแผ่นหลังของเธอที่กำลังนอนแผล่อยู่บนกิ่งไม้ใหญ่
สวนทางกับลูกพี่ลูกน้องตระกูลโซลดิ๊กและเพื่อนสนิทจากเกาะปลาวาฬ
ทั้งสองคนกำลังแท็กทีมใช้เซ็ทสึตามหาสัตว์สายพันธุ์ใหม่มาบันทึกกันมันส์มือเชียว
ตั้งแต่คราวแรกที่พบกัน
ไคท์เป็นผู้ใหญ่ผมสีขาวยาวสวย
แม้กรอบตาจะเฉียงขึ้นคล้ายคนหงุดหงิดตลอดเวลา
แต่นิสัยกลับใจดีจนสัตว์ป่าน้อยใหญ่ชอบเข้ามาคลอเคลีย
ด้านหลังมีพวกพ้องคอยสนับสนุนในสิ่งที่รักจะทำ
เขาให้ความไว้วางใจ
แม้จะรู้ว่าเพื่อนของลูกชายอาจารย์อย่างกอร์นมีสหายเป็นอดีตมือสังหารชื่อดังมาก่อน
ไร้ความหวาดระแวงให้เห็น
“เห จริงเหรอฮะ!”
“จะรออะไรล่ะ ไปเร็วกอร์น คุเรฮะอย่าเพิ่งคอพับ!”
พอได้ยินว่ามีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในสถานที่ที่เคยไปฝึกวิชา
สองเด็กชายก็โลดแล่นคึกคัก คว้าตัวเธอวิ่งโร่ไปจองตั๋วเรือเหาะกันอย่างสนุกสนานจนสองขาแทบไม่ติดพื้น
ให้ตายสิ
คนกลางอย่างเธอทั้งที่อายุมากกว่าใครในกลุ่มถึง
2
ปี แต่พักหลังมากลับโดนหิ้วไปนู่นมานี่อยู่เรื่อย --
ไม่เพียงแค่นั้น --
เดี๋ยวนี้ทั้งกอร์นกับคิรัวร์ก็ชักจะอ่านภาษากายของเธอออกง่ายจนตัวเธอยังตกใจ
แต่ขยับตัวนิดหน่อยก็รู้ว่าอยากนอน
พากันคว้าหัวไปซบไหล่ พอทำหน้าตายหรือตากระตุกหน่อยก็รู้ว่าจี้ถูกจุด
มาหยอกมาเย้ากันไม่ห่าง
เมื่อก่อนเธอยังเป็นฝ่ายหิ้วทั้งคู่ไปไหนมาไหนแท้
ๆ
หรือกำลังเข้าช่วงเจริญเติบโตกันนะ…
คิดกับตัวเองในใจไปเรื่อยเปื่อยจนสุดท้ายเรือเหาะก็ลงจอด
พักแค่ไม่กี่ชั่วโมงเจ้าสองหมาแมวที่ตอนแรกนอนงีบซบไหล่คนละข้างก็ชาร์ตพลังมาเต็ม
กอร์นเป็นคนเดิมที่เสนอให้วิ่งแข่งกันมาถึงลานประลองกลางหาว
ใครถึงก่อนต้องเลี้ยงข้าวอีกสองคนที่เหลือ คุรฮะคร้านจะออกแรงแข่ง เลยเทเลพอร์ตขึ้นไปข้างบน
สูงแทบเสียดฟ้า
แล้วก็สภาวะทิ้งตัว
พุ่งลงมาแบบอุกกาบาตแม่ง
…
(ตอนแรกกอร์นกับคิรัวร์วิ่งหน้าตั้งจะมารับ กลัวหลับหัวโหม่งโลกด้วยซ้ำไป)
หลังจากนั้นก็พากันจับจูงมือมาถึงลานประลอง
ทักทายคนรู้จักอย่างซูชิ
วิงก์และบิสเก็ต
พอพิธีเปิดจบก็ขึ้นมาชิงบอลกับตาแก่
มันควรจะจบลงที่พูดคุยถามไถ่กันเสร็จ
พวกเขาถึงลงไปดูซูชิต่อสู้กับฟลอร์มาสเตอร์คนอื่น
ถึงช่วงจบงานก็เดินเที่ยวหาของกินกันอีกนิดหน่อยแล้วค่อยกลับไปหาไคท์
แต่…
ไหงตอนนี้มีหนุ่มหน้าหวานโผล่มาฮาราคีรีตัวเองต่อหน้าต่อตากัน!!?
พลังกดดันบางอย่างแผ่กระจายทั่วห้องรับรอง
ร่างของเด็กหนุ่มที่เงื้อมีดปักเข้าทะลุทรวงอกทรุดลงนั่งลง ขาดใจตายในทีเดียว
ปีกสีดำสองคู่ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลัง
มันพุ่งเข้าจู่โจมประธานสมาคมฮันเตอร์เร็วจนตามองแทบไม่ทัน
ตรึงสองแขนและสองขาไว้ด้านบนอย่างรุนแรง แน่นหนาจนยากจะดิ้นหลุด
“คุณเนเทโล่!!”
“ตาแก่!!”
คุเรฮะเบิกตากว้าง
ตกตะลึงจนเกือบลืมจังหวะหายใจ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้พบผู้ใช้อ็นคนอื่นนอกจากพี่ชาย
...ผู้ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในร่างของหุ่นเชิด
มองตรงไปยังผู้ที่ปลิดชีพตัวเองอย่างไร้ความลังเล
พิจารณาดวงหน้าหวานหลับตาพริ้ม เลือดสีแดงข้นทะลักออกมาจากบาดแผล ไหลรินเป็นทางยาว
“หนีไป...”
เนเทโล่แค่นเสียง
“ฉันสามารถใช้พลังกักขังหมอนี่ได้ แต่นั่นมันก่อนที่ฉันจะแก่”
“งั้นให้พวกเราช่วย—”
“อย่าแตะนะ!!”
คุเรฮะแผดเสียงดัง
หยุดพวกเด็กชายที่เกือบจะสัมผัสพลังอันดำมืด ขนนกสีดำลอยว่อนไปทั่วห้อง พลังความมืดที่ซึ่งตรงข้ามกับเน็นมันอันตรายกว่าที่คิดไว้
“นี่มันอะไรกัน มันเหมือนกับ...พลังของคุเรฮะเลย” คิรัวร์ร้องถาม
คุเรฮะขมวดคิ้วเครียด
ส่ายหัวปฏิเสธ
“ทั้งใช่และไม่ใช่”
“หา?”
“มันคือสัตย์สาบานภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดโดยความมืด”
เนเทโล่ที่ขยับตัวไม่ได้อธิบาย พวกเด็ก ๆ กำลังตื่นตกใจพยายามหาทางช่วยเขา
“ต่างจากคุเรฮะที่เป็น ‘ผู้ถูกมอบสัตย์สาบาน’
”
คุเรฮะชะงัก
“หมายความว่าไง คุณรู้อะไร?”
ชายแก่หัวเราะชวนให้เคลือบแคลง
เลือกที่จะเมินคำถามแล้วมองไปยังร่างหน้าประตู
ปีกสีดำยังคงตรึงตัวเขาเอาไว้แม้จะสิ้นลมหายใจ
“หมอนี่กำลังสละชีวิตตัวเองเพื่อปิดผนึกเน็นของฉัน”
“หมายความว่าคุณเนเทโล่จะใช้เน็นอีกไม่ได้เหรอฮะ?” กอร์นร้องถาม
“คุเรฮะเองก็มีอ็นใช่ไหม ถ้าเป็นเธอล่ะ!?”
“อย่าพยายามช่วยฉัน!! เพราะนั่นเป็นความคิดที่บ้ามาก
ถ้าทำพลาดล่ะก็ทุกคนจะต้องถูกฆ่า”
เนเทโล่ดักไว้
ต่อให้คุเรฮะจะใช้อ็นได้ก็ตาม
—แต่อย่าลืมว่าเธอไม่ใช่ผู้ใช้อ็นโดยตรงตั้งแต่แรก
กว่าจะรู้ตัวว่ามีผู้ใช้อ็นที่เด็ดเดี่ยวขนาดนี้เข้ามาใกล้ก็สายเกินไปแล้ว
ต่อให้ใช้เซ็ทสึแล้วแตะถูกขอบเขตเอ็นของผู้ใช้เน็นทุกคนก็ล้วนแต่ไร้ผล
เพราะอ็นต่างจากเน็นโดยสิ้นเชิง
มันเป็นพลังความมืดที่ทรงพลังและอันตราย
แต่ก็ต้องแลกด้วยข้อตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ --
เหมือนเด็กหนุ่มคนนี้...ที่ยอมแลกชีวิตทั้งหมดเพื่อใช้สัตย์สาบานของอ็นจับเนเทโล่ตรึงไว้
ซึ่งต่อให้เขามีเน็นที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางดิ้นหลุด
อ็นไม่ใช่เน็นที่เกิดจากพลังชีวิต
มันเกิดจากความมืด
เกิดจากความโกรธแค้นชิงชัง
ความอาฆาตมุ่งร้าย
ไม่ใช่พลังที่จะให้ผลดีแก่ผู้ร้องขอเลยสักนิดเดียว
เนเทโล่มองไปยังเด็กสาวด้านล่าง
เธอมองขึ้นมาสบตาอย่างเคร่งเครียด ในหัวคงกำลังคิดวางแผนหาทางทำอะไรสักอย่างเร็วจี๋
ทำไมเขาจะไม่รู้
สาเหตุที่คุเรฮะยังอยู่ดี
เพราะคนที่ร้องขอพลังอันตรายนี้
ไม่ใช่เธอ
ชายชราที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้ใช้เน็นที่เก่งติดอันดับโลกเมื่อครั้งยังหนุ่มหลับตาลง
“เมื่อนานมาแล้วฉันได้สอนเรื่องนี้แก่คน ๆ หนึ่ง แต่สุดท้าย…”
ลืมตาขึ้น
“—เจ้านั่นก็หายตัวไป”
วูบ
คลื่นพลังชวนกดดันที่สัมผัสได้แผ่ขยายมาจากบุคคลหลังประตู
ยืนอยู่หลังศพเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งในท่าปลิดชีพตน ทุกคนจับจ้องไปที่จุดเดียว
เป็นชายหนุ่มผิวขาวซีดราวซากศพในชุดชนเผ่าโดดเด่น
-- ผมสีอ่อนจนเกือบขาวเสยไปด้านหลัง
ดวงตาสีทองผสานกรอบตาสีแดงเข้มมองตรงมาด้วยรอยยิ้มอันตราย
“เจอตัวแล้ว”
ยื่นฝ่ามือมาหา
สบสายตากับเด็กสาวเพียงผู้เดียวในห้อง
“เจ้าสาว...ของฉัน”
“กรี๊ด คิลตี้ไม่ยอมนะ คิลตี้ไม่ย๊อม!!”
“เล่นเลยเรอะ-- จะ จีจี้ก็ไม่ยอมนะ เสี่ยคุเรย์คะ!!”
หันขวับมองกันทั้งบาง
คุเรฮะทำหน้าตายถามผ่านสายตาว่าอิหยังของพวกสูวะ
คิรัวร์ที่มันนึกอยากจะเล่นก็เล่นยังไม่เท่าไหร่ แต่กอร์น… หน้าสิวหน้าขวานแบบนี้นายยัง..ยัง…
“พวกมันเป็นใคร”
บุคคลปริศนาที่ประกาศว่าคุเรฮะเป็นเจ้าสาวมองเหยียด
ก่อนจะเหยียบกริบ
“เด็กฉัน”
ตอบกลับหน้าตายเสียงโมโนโทน
คุเรฮะทำมือปางห้ามญาติ
ไม่ดิ ปางห้ามว่าที่เจ้าบ่าว ผู้ซึ่งเป็นใครไม่รู้ที่จู่ ๆ
ก็โผล่มาบอกว่าเธอเป็นเจ้าสาวมัน ประกาศขนาดนี้อะมีใบไหม
“ตีได้ แต่อย่าแรงนะ...เดี๋ยวช้ำ”
“เสี่ยคะ! เสี่ยจะให้ไอ้วอกนี่มันตีคิลตี้จริง ๆ เหรอคะ! เสี่ยค้า!!”
“ไม่เป็นไรค่ะ! เพื่อเสี่ยจีจี้ยอมเจ็บ ดีนะวันนี้ใส่รองเท้าบูทมาอะ
เผ่นง่ายสบายบรื๋อ!”
เนเทโล่ที่ถูกขึงไว้ด้านบนเป็นไก่เสียบไม้หัวเราะลั่น
เอากับเด็กมันสิวะ
ก๊าก!
-----
ระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดถูกเปิดขึ้นโดยผู้บุกรุก
ลานประลองกลางหาวที่ควรจะมีทัวร์นาเมนต์เหล่าฟลอร์มาสเตอร์ --
กลายเป็นสถานที่จับตัวประกันนับพันคน เสียงกรีดร้องดังระงม
เหล็กกั้นทางเดินหนักหลายตันเลื่อนลงปิดทางเข้าออก
การสื่อสารทั้งหมดในหอคอยถูกระงับ
ฉายให้เห็นแค่ภาพฟลอร์มาสเตอร์บางคนที่แพ้ศัตรูราบคาบอย่างซูชิ
ยังไม่รวมชายในชุดดำคลุมหน้าปิดตาถืออาวุธคุมคนที่กำลังแตกตื่นให้อยู่นิ่งเฉยเข้าไว้
ยกเว้นคนนอกที่—
ตูม!!!
จุด ๆ
หนึ่งของหอคอยเป็นรูโหว่ใหญ่
ร่างของชายหนุ่มสองคนกระโดดเข้ามาหน้าตาเฉยแม้ด้านนอกจะเป็นชั้นเลขสองหลัก
เจ้าของกระโหลกหักครึ่งปัดฝุ่นตามตัวแบบขอไปที
“เดเรค นายไปทางห้องควบคุม ฉันจะขึ้นไปข้างบน”
“ครับผม”
สิ้นคำพวกเขาก็แยกกันไปด้วยความเร็วที่คนธรรมดามองตามไม่ทัน
แม้ตามเส้นทางในการขึ้นไปชั้นบนหรือห้องต่าง ๆ
จะมีเหล็กเลื่อนลงมากั้นไว้เป็นปราการ แต่นั่นไม่คณามือเขาแม้แต่นิดเดียว
กำปั้นห่อหุ้มด้วยอ็นหนาแน่น
โคเซย์ต่อยจนมันเป็นรูแล้วมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายโดยไร้การชะลอความเร็ว
แน่นอนว่าเจ้าคนที่อยู่ในห้องควบคุมต้องรู้แน่ ซึ่ง...ช่างมันปะไร
และ...อาจเป็นเพราะเซ้นส์
หรือเพราะสายใยผูกพันธ์ของเขากับเรย์ โคเซย์มั่นใจอยู่ลึก ๆ
ว่าน้องสาวที่ทำให้เขาก่อ ‘สัตย์สาบาน’ อยู่ที่นี่กับเพื่อนพ้อง
จะได้เจอกันอีกแล้ว
ทั้งเจ้าก้อนแป้ง
-- และเจ้าคนที่หลบหนีเข้ามาในนี้ด้วย
กึก
“โอ๊ะโอ๋ จะรีบไปไหนเหรอ คุณพี่ชาย~?”
-----
“ถึงสมาคมฮันเตอร์...นี่ก็นานแล้วใช่ไหม?”
เจด ชายหนุ่มผู้ใช้อ็นแสนอันตรายเอ่ยกับหน้าจอสื่อสารโดยตรงกับทางสมาคมฮันเตอร์
สายลมตกกระทบใบหน้า คุเรฮะที่ถูกพาขึ้นมาบนดาดฟ้าสูงของหอคอยมองอย่างเฝ้าระวัง
คนที่ถูกพามาบนนี้มีเพียงเธอ
และเนเทโล่ที่ถูกตรึงด้วยอ็นของศพของชายหน้าหวาน
ส่วนคิรัวร์กับกอร์นน่ะเหรอ…?
หึ
—โดนซัดทะลุหน้าต่างตกหอคอยไปแล้ว
แต่คิดว่ายังไงสองคนนั้นก็คงหาทางปีนหอคอยขึ้นมาได้อยู่ดี
เพราะงั้นตอนนี้ที่ต้องจับจ้องไม่ให้คลาดสายตาก็มีแต่ชายผมสีอ่อนตรงหน้าที่กำลังข่มขู่ทางสมาคมนั่นแหละ
“พวกเราคือ The shadows เราจับเนเทโล่และยึดลานประลองกลางหาวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
และพรุ่งนี้ตอนเช้าเราจะจัดการตัวประกันทั้งหมด”
“The Shadows…?
เงา?”
เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้นสูง
ชื่อเรียกที่ว่าทำไมถึงคล้ายคลึงกับชื่อหน่วยเงาของเธอนัก
นั่นเรียกเสียงหัวเราะราวกับผู้ที่รู้มากกว่าได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ชายหนุ่มผิวสีซีดราวซากศพหันเสี้ยวหน้ามาหา
--
ซึ่งคนที่ปรากฏในหน้าจอสื่อสารมีเพียงเขาและเนเทโล่ที่ถูกตรึงไว้กลางอากาศเท่านั้น
โชคดีที่เขาไม่พาเธอออกสื่อด้วย ไม่งั้นคราวน์คงวิ่งวุ่นไม่ต่างจากสมาคมฮันเตอร์แน่
ๆ
“หึ ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนล่ะสิ งั้นฉันจะเล่าให้ฟัง”
เขาผายมือกว้าง
เล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงชิงชัง
“พวกเราคือความมืดที่ครั้งหนึ่งเคยมีอยู่
เราสามารถทำภารกิจที่พวกทหารทำไม่ได้
แต่เพราะเจ้าพวกสมาคมฮันเตอร์มันอ้างว่าการปฏิบัติภารกิจของพวกเรามันเลวร้ายขึ้น
มันเลยส่งเนเทโล่มาจัดการพวกเรา”
ฉีกยิ้มหยัน
“และปิดผนึกเรื่องราวของพวกเราไว้ในดาร์กเมมโมรี่”
เสียงที่จำได้ว่าเป็นบีนท์
-- สไลม์มือขวาของเนเทโล่ -- ดังออกมาจากเครื่องมือสื่อสารตรงหน้า
“ต้องการอะไร?”
“เผยแพร่ข้อมูลพวกนี้ต่อสาธารณะ...ว่าดาร์กเมมโมรี่ที่เคยถูกพวกฮันเตอร์จับเป็นนักโทษทั้งหมดเป็นโมฆะ”
“นาย...นายเป็นใครกัน!?”
ชายหนุ่มเมินคำถาม
“ฉันจะให้เวลาพวกนายเพิ่มอีก 5 ชั่วโมง
ตอนนี้มีเวลาทั้งหมด 10 ชั่วโมง ทำตามที่สั่งซะ
ฉันจะรออยู่ที่นี่กับเนเทโล่...และเจ้าสาวของฉัน”
ปิ๊บ
หน้าจอสื่อสารถูกปิดลงโดยไม่ให้อีกฝ่ายโต้แย้ง
“หมายความว่ายังไงเรื่องฉันเป็นเจ้าสาว?”
คุเรฮะขยับร่างกายในท่าทางเตรียมพร้อมหาทางหนีทีไล่
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนทุกอย่างอยู่ในกำมือของผู้ใช้อ็นตรงหน้า
อย่างไรก็ตาม
เธอควรรีบลงไปรวมตัวกับพวกกอร์นด้านล่างก่อน ส่วนตาแก่เนเทโล่...ถึงจะแก่ลง
แต่คิดว่าฝีไม้ลายมือคงไม่ได้ทื่อไปจากตอนหนุ่มนักหรอก
จะมีก็แค่...ต้องหาวิธีทำลายพันธนาการอ็นที่ตรึงตาแก่ออกก่อนก็เท่านั้น
ร่างสูงหันมา
แววตาเย่อหยิ่งเชิดขึ้นให้ความรู้สึกคล้ายผู้เป็นพี่ชายในอีกนัยหนึ่ง
“คุเรฮะ เอเรอัส คราวน์...เธอมีมันใช่ไหมล่ะ? อ็นน่ะ”
เจดกอดอก ยิ้มมุมปาก “เธอเป็นคราวน์สายตระกูลหลักที่โด่งดัง
และยังมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างอ็น”
“หากเธอเป็นของฉันและให้กำเนิดลูกของ เรา ขึ้นมา
เด็กนั่นจะกลายเป็นผู้นำที่ทำให้เหล่า Shadows กลับมารุ่งเรืองได้แน่
ทุกคนรวมถึงสมาคมฮันเตอร์ที่แสนน่ารังเกียจนั่นจะต้องก้มหัวให้กับ Shadows ทุกคน!!”
ก็แค่ข้ออ้างเห็นแก่ตัวที่จะใช้เด็กสาวเป็นเครื่องมือผลิตเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเท่านั้น!
กึด
เขากัดที่นิ้วโป้งจนมีเลือดสีน้ำเงินซึมออกมา
ยื่นข้อเสนอที่แสนหอมหวานไปให้เด็กน้อย
“มาสิ มาทำพันธสัญญากับฉัน หรือแค่เธอสัมผัสกับมันก็พอ…
แค่นั้นเธอก็จะกลายเป็นพวกเราโดยสมบูรณ์ ไม่ใช่พวกครึ่ง ๆ กลาง ๆ จากสัตย์สาบานในร่างนั่น”
“อย่าไปฟังมันคุเรฮะ! เจ้านั่นน่ะถูกความมืดกลืนกินจนกลายเป็นเนอวาน่าไปแล้ว!
หนีไปซะ!!”
เสียงเนเทโล่แว่วมาเหมือนลมผ่านหู
เด็กสาวหรี่ตาลงเริ่มปล่อยจิตสังหารของตนออกมาแสดงเจตนารมณ์ด้วยเช่นกัน
“แล้วถ้าฉันไม่ยอมล่ะ?”
“คิดดีแล้วเรอะ? ถึงจะไม่อยากเป็นเจ้าสาว
แต่เพราะพลังที่แข็งแกร่งของเธอ
ฉันจะให้เป็นถึงมือขวาหากเธอยอมสาบานว่าจะเป็นบริวารที่ซื่อสัตย์เลยนะ ...คิดให้ดี
ๆ”
“ไม่—”
“ฉันขอสาบาน!!!”
!!!
ร่างที่สะบักสะบอมปรากฏอยู่บนทางขึ้นดาดฟ้า
ผมสีน้ำเงินเข้มเสยเรียบคุ้นตา ดวงตาสีแดงเสี้ยวอำพันใต้กรอบแว่นแข็งกร้าว
ตามตัวมีรอยถลอกและช้ำเปื้อนเลือดไปหมด
พี่ชายต่างแม่
-- คู่กัดและคู่แข่งของเธอ
“เซ็นจิ!?”
ชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง
ความรู้สึกหลายอย่างอัดรวมอยู่ในดวงตา
หนึ่งในนั้นคือความรู้สึกของหมาจนตรอกที่หมดหนทาง
“จะเป็นบริวารผู้ภักดี จะเป็นเครื่องมือให้ อะไรก็ยอม!
ขอแค่มอบพลังนั่นให้กับฉัน!!”
“อะไรนะ!”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่เซ็นจิ
เอเรอัส คราวน์คุเรฮะขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเคร่งเครียด
ท่าทางของอีกฝ่ายเหมือนกำลังหนีจากอะไรมา
ลางสังหรณ์ของเธอกำลังส่งเสียงร้อง
เซ็นจิโผล่มาเพื่อขอพลังอ็นจากเจดไม่พอ
สิ่งที่ตามมาจากนั้นล่ะคือปัญหาที่กำลังจะเกิด
เจดหยักยิ้มเจ้าเล่ห์
“ได้”
หมับ!
ร่างของพี่ชายต่างสายเลือดถูกพลังที่น่าหวาดหวั่นกระชากเข้ามา
ลำคอถูกฝ่ามือผู้ใช้อ็นอันตรายบีบจนเป็นรอยช้ำ
เจคนำนิ้วโป้งที่กัดจนเลือดผุดออกมาป้ายไปที่ใบหน้าชายผู้ไร้ทางเลือก
รวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว
"อ๊ากกกก!!!"
เธอเห็นเซ็นจิกรีดร้องทรมาณ
ขยับทุรนทุรายราวกับถูกเหล็กแหลมแทงทะลุไปทั่วร่าง ตาเบิกกว้างจนแทบเหลือกเกร็ง
เส้นเลือดในร่างปูดสีน้ำเงินขึ้นมาเต็มไปหมด
พลังสีดำเอ่อล้นกดดันไปทั่วบริเวณ
แผ่ขยายกดดันจนเหมือนพายุกำลังโถมเข้าใส่ --
เด็กสาวกัดฟันใช้เท้าจิกพื้นยืนต้านไว้
มองผลลัพธ์จากการยอมรับคำสาบานที่พี่ชายตรงหน้าเป็นคนเลือกเอง
ดวงตาอีกฝ่ายกลายเป็นสีอำพันท่ามกลางสีแดงเข้ม
ดวงตาของผู้ใช้อ็น
ฟุ่บ— ผู้ร้องขอพลังทรุดลงกับพื้น
แทบเท้าผู้ให้พลังความมืดที่แสนจะอันตรายและทรงพลัง เซ็นจิหอบหายใจ ค่อย ๆ
เงยหน้าขึ้นมองเจดที่เลื่อนสายตามาหาเธอ
“ถ้าไม่ยอมรับข้อเสนอฉัน ...เธอก็ไร้ประโยชน์แล้ว”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนหันมาทางน้องสาวต่างสายเลือดช้า
ๆ แว่นที่สวมแตกร้าวร่วงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนจะหยัดยืนขึ้น
เนเทโล่ตะโกน
“หนีไปคุเรฮะ!!”
เจดสั่งด้วยใบหน้าผู้เหนือกว่า
“จัดการซะ”
ตึง!!
หมัดที่อัดไปด้วยพลังความมืดจำนวนมากซัดเข้ากลางลำตัวเต็มรัก
เด็กสาวกระอักของเหลวออกมาจากปากเพราะจุกไปหมด
เซ็นจิที่ได้รับพลังอ็นเข้าไปไม่นานเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วที่ทวีคูณจนเธอตั้งรับไม่ทัน
ร่างเล็กกระเด็นไปไกล
กระแทกเข้ากับพื้นปูนเนื้อตัวถลอกไปหมด
ฟุ่บ—!
ทันทีที่ลุกขึ้นตั้งตัวได้กระบวนท่าอีกฝ่ายก็พุ่งตัวตามมาติด
ๆ เสียงหมัดกระทบหมัดดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง -- เจคหันหลังกลับ
ในเมื่อไร้ประโยชน์ เขาก็ไม่คิดจะสนใจอีก
คุเรฮะสร้างอาวุธขึ้นจากอ็นตั้งรับการปะทะ
เซ็นจิเป็นผู้ใช้เน็นสายเสริมพลังเหมือนเซ็นโคคุที่โถมเข้าใส่รัวแทบไม่เปิดช่องว่าง
หมัดและฝ่าเท้าหนัก ๆ กระแทกเข้าใส่
ในขณะที่สายความเร็วอย่างคุเรฮะพยายามเทเลพอร์ตหาทางหลบและสวนกลับด้วยอาวุธในมือเท่าที่ทำได้
ผลั่ก!!
“ทำได้ดีสำหรับเด็กตัวแค่นี้”
เจคปรบมือให้
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวถูกซัดไปอีกระลอก ในขณะที่เนเทโล่เลือกที่จะนิ่งเฉย
เขารับรู้ได้ว่าคุเรฮะเลือกที่จะยอมอ่อนข้อให้แก่คราวน์ต่างมารดาคนนั้นด้วยเหตุผลอะไร
จนในที่สุดร่างเปื้อนเลือดของเด็กสาวก็ถูกบีบคอยกขึ้นบนขอบดาดฟ้า
-- บนจุดสูงสุดของหอคอยลานประลองกลางหาว -- เซ็นจิยิ้มเยาะ
น้องสาวที่แสนสำคัญของคราวน์กำลังจะถูกปล่อยให้ร่วงลงไปด้านล่าง
ดวงตาของคุเรฮะปรือลง
มองลึกเข้าไปในดวงตาของพี่ชายต่างสายเลือด
ดวงตาที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนในนั้น
“จะบอกอะไรให้ฟัง”
ประสาทการได้ยินของคุเรฮะดีกว่าใคร
หากตั้งใจฟัง แม้ลมจะพัดแรงแค่ไหนเธอก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องเอ่ยปาก
คุเรฮะชะงัก
สบมองกับผู้ที่ปล่อยให้ตนร่วงหล่นจนลับสายตา
“คนที่ทำลายดวงตาของเธอ คือฉันเอง”
ถ้างั้น...ทำไมถึงร้องไห้
__________C
H E C K M A T E__________
The
Movie : Last Mission (II)
เป็นหนึ่งตอนที่อัดแน่นหลายความรู้สึกจริง
ๆ น้า…
*เจ้าหมีง่วงที่เพิ่งสอบเสร็จนอนตายแป็บ*
ความคิดเห็น