คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : Chapter 21 | เหยื่อล่อแมลง
♜
Chapter 21
“ฉันไม่ใส่”
คำปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยทำให้ตัวตลกตรงหน้าทำแก้มป่อง เขาลดมือที่ถือชุดกระโปรงน่ารักลง “โธ่สลีปปี้ แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเดทได้ยังไงกันล่ะ!”
คุเรฮะที่มาตามนัดในโทรศัพท์กลอกตาเล็กน้อย -- เบอร์โทรศัพท์ก็ใช่ว่าจะเต็มใจให้ ติดที่ว่าใครบางคนอ้างว่าต้องใช้ในการแจ้งเรื่องคำสั่งแล้วถือวิสาสะมาล้วงโทรศัพท์ไปจิ้ม ๆ เอง ซ้ำยังขู่ไม่ให้ลบอีก
ถ้าฝีมือเธอนำหน้ามันเมื่อไหร่จะโบกให้หงาย
“เดทก็แค่ชายหญิงไปเที่ยวด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด” เด็กสาวแย้งเสียงเรียบ คำสั่งข้อแรกบอกแค่ว่าเดท และเธอจะใช้ตรงช่องโหว่นี่บอกปัดเรื่องอื่นไปให้หมด ให้เหลือแค่เดินกับหาอะไรกินด้วยกันก็พอ
ฮิโซกะกะพริบตาปริบ ก่อนจะทำตาโตเหมือนนึกอะไรออก มือยกกำปั้นทุบมือทีนึง
“จริงด้วยสินะ! มาเดทก็แค่ไปเที่ยวกันเฉย ๆ” ใบหน้าแต้มสีหยดน้ำและดวงดาวยิ้มแป้น ร่างสูงเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ นัยน์ตาเรียววาววับมีเลศนัย
“ถ้าอย่างงั้น...คำสั่งข้อสอง”
คุเรฮะเลิกคิ้ว ไม่วางใจ
“เธอต้องเป็นเหยื่อล่อแมลงให้ฉัน”
ร่างของเด็กสาวตัวสูงนั่งเท้าคางอยู่ในร้านอาหารกลางแจ้ง ด้านหน้าคือนักสู้ฉายามัจจุราชจอมอู้ยิ้มร่า เจ้าตัวดูพอใจกับชุดแฟชั่นที่ยัดเยียดมาให้เธอใส่เหลือเกิน
ในมือฮิโซกะควงยางรัดผมสีดำของเด็กน้อยไปมา
“โพนี่เทลน่ะซ้ำซากไปแล้ว เปลี่ยนใหม่ดีกว่า~”
เรือนผมสีดำขลับยาวถึงกลางหลังพลิ้วไหวเบา ๆ ตามแรงลม คุเรฮะปิดปากหาวจนน้ำตาเล็ดเล็กน้อย เอ่ยต่อเสียงเนือย “ซ้ำซากแต่ทำง่าย”
“ถ้าไม่อยากให้ยุ่งยากก็ตัดผมสั้นซะสิ ♣”
“เคยคิดอยู่…” ร่างเล็กกว่าค่อย ๆ ไถแขนลงไปกับโต๊ะ หัวก้มลงไปนอนซบอย่างเอื่อยเฉื่อยและเกียจคร้าน “แต่พอถึงเวลาก็สนใจเรื่องกลับไปนอนมากกว่า”
สายตาหลายคู่จับจ้องมาด้วยความสนใจ ดวงตาสีแดงเสี้ยวทองอำพันหรี่ลง ไร้คอนแทคเลนส์เพราะคนตรงหน้าสั่งให้ถอดออก ฝั่งฮิโซกะหัวเราะเอ็นดู มือสองข้างประสานกันเท้าคางมอง
“จะให้เป็นเหยื่อล่อทั้งทีก็ต้องทำให้เด่น ถักเปียก็ดี ดังโงะก็ได้ ปล่อยยาวก็ไม่เลว ♥” ตัวตลกทำหน้าใช้ความคิด เหมือนถกเถียงกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นนนน เอาเป็นผมเปียก็แล้วกัน!”
เสียงมุบมิบอยู่ในลำคอ “...ไม่”
“เห— จะขัดคำสั่งผู้ชนะเหรอ?”
เสียงตวัดห้วนสูงในตอนท้าย แต่เจ้าของคำพูดกลับไม่ได้จริงจังเหมือนที่พูดไป --- เพราะเขารู้ว่าหากเขาอยากได้อะไร เขาต้องได้ กับเด็กตรงหน้าแม้จะฝีมือสูงกว่าคนอายุวัยเดียวกัน แต่ก็ยังเทียบชั้นไม่ได้อยู่ดี
ถึงเด็กมันดื้อไม่ทำ แต่เขาก็บังคับให้ทำได้ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
เรื่องคำสั่งอะไรนั่นเป็นแค่ลมปากเท่านั้นแหละ ♠
เด็กน้อยที่นั่งซบหน้าลงกับโต๊ะขดขาไขว้กันข้างใต้ ผมหน้าม้าบางส่วนที่ตกลงตามแรงโน้มถ่วงบดบังสีหน้าข้างใน และแน่นอน ผู้ใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสายตาดี เห็นแก้มนิ่มบี้ไปกับโต๊ะอีกทั้งดวงตาที่ส่องสว่างในที่มืดกำลังเลื่อนหลบไปทางอื่น
“...น”
เสียงอู้อี้ที่เบากว่าเสียงพนักงานในร้านทำให้คิ้วโก่งสูงเลิกขึ้น “ว่าไงคะ จะไม่ทำ?”
“..ไม่เป็น”
“หืม?”
“ทำ...ไม่เป็น”
เงียบ
...แค่สามวินาทีเท่านั้น
“อุ๊บ... ฮ่าฮ่าฮ่า—!!”
ร่างสูงของฮิโซกะหัวเราะก๊าก หัวเราะจนคนทั้งร้านหันมามอง หัวเราะจนหน้าสั่นตัวสั่น หัวเราะจนคนอ้าปากบอกมุดหัวลงกับโต๊ะหนักกว่าเดิม
ฮิโซกะกุมท้อง นิ้วปาดน้ำตาออกอย่างไม่มีแววจนหยุดง่าย ๆ
ไม่ได้ขำที่เด็กบอกว่าถักเปียไม่เป็น แต่ขำที่เด็กมันแสดงออกชัดเจนว่ารับไม่ได้ที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้ให้คนอื่นได้ยิน สำหรับเขานี่มันตลกสุด ๆ
ดูท่าทางฝืนใจนั่นสิ!!
“นี่--ฮ่า! หนักกว่าที่สลีปปี้เบลอแล้ววูบหลับอีกนะ! ฮะฮะ—”
“…”
ฝั่งคุเรฮะได้แต่ก้มหน้าแนบโต๊ะ ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาจนกว่าเสียงหัวเราะจะซาลง
สำหรับคนที่อยู่ในตระกูลผู้ดี การศึกษาและการฝึกฝนในฐานะมือสังหารดีเยี่ยมในสายตาใครหลายคน การมาตกม้าตายกับเรื่องขี้มดอย่างถักเปียง่าย ๆ ไม่เป็นนั้น -- ตัวเองยังไม่อยากจะยอมรับ
ตอนเห็นพี่สาวทำมันก็ง่ายอยู่หรอก แต่พอมาทำเองมันดันหลุดลุ่ยไม่เป็นทรงซะนี่
ควงมีดปาดบ๊อกเซอร์พ่อขาดยังง่ายกว่าเลย
—คุเรฮะได้แต่กัดปากด้วยความอับอาย
“โอเค โอเค ไม่หัวเราะล๊าว”
ฮิโซกะพยายามกลั้นขำจนหน้าเขียว ยิ่งเห็นคนตัวเล็กพยักหน้าหงึก ๆ แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาหน้ายิ่งเขียวขึ้นไปอีก จนกระทั่งคนทั้งร้านเลิกสนใจคนบ้าที่เอาแต่หัวเราะ เขาจึงลุกขึ้นอ้อมไปทางด้านหลังหน้าระรื่น
“ถ้าอย่างนั้น มามะ” เสียงนุ่มทุ้มกลั้วหัวเราะ “ฉันจะถักให้สลีปปี้เอง ♦”
ฝ่ามือขาวซีดสางไปตามเส้นผม ได้ยินเสียงคนฟุบหน้าถอนหายใจยาวราวกับทำใจอยู่แป๊บนึง ก่อนจะยอมเงยหน้าขึ้นมา ตีเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“...กี่วัน?”
เด็กสาวแหงนหน้าถามคนด้านหลัง ฝ่ามือหนารวบผมแบ่งเป็นช่อแล้วขยับไขว้ไปมาอย่างชำนาญ สายตาจากโต๊ะอื่นที่มองส่องมาแสดงออกชัดเจนว่าไอ้หมอนี่ควรไปผ่า ทั้งสีผมจัดจ้านและการสะดีดสะดิ้งล้วนดูถนัดถนี่กว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“จนกว่าฉันดักจับแมลงได้ ไม่ก็จนกว่าฉันจะพอใจ ♣”
คุเรฮะตอนนี้คือเหยื่อชั้นเลิศ ส่วนสำคัญคือดวงตาที่แสดงออกชัดเจนกว่าเป็นคราวน์สายหลัก พวกล่าของหายากต้องกระจายข่าวเพื่อสืบหาแล้วตามมาล่าแน่ ยิ่งเด่นเท่าไหร่ยิ่งดี
แมลงที่เขาอยากจะจับให้ได้ลึกลับใช่ย่อย การเดทของเขาอาจจะต้องยืดเยื้อไปเป็นวัน -- เป็นอาทิตย์ -- หรือเป็นเดือน ๆ จนกว่ามันจะโผล่หัวออกมา
อีกอย่าง กอร์นกับคิรัวร์คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เพื่อเรียนรู้เรื่องเน็นจากชายใส่แว่นคนนั้น
อา... สลีปปี้ต้องอยู่กับเขาไปอีกนานเลยล่ะ ♥
♜
ภาพของเด็กสาวนัยน์ตาสีแดงเสี้ยวที่เดินเคียงกับตัวตลกรอบลานประลองกลายเป็นเรื่องชินตาในเวลาไม่นาน ข่าวชั้นดีของพวกนักล่าของหายากแล่นไวเป็นไฟลามทุ่ง
บางวันก็มัดผมเปีย บางวันก็ดังโงะ และวันนี้ก็ทวิลเทล --- ดวงตาคมเหลือบมองคนตัวสูงข้างกาย มือขาวซีดไม่ต่างกันถูกดึงไปกุมไว้ระหว่างเดินเล่น ให้อารมณ์แบบพ่อกับลูกอย่างบอกไม่ถูก
(จู่ ๆ ก็เหมือนจะสำลักกับคำว่าพ่อลูก)
“วันนี้เอาเป็นไอศครีมก็แล้วกันเนอะ ♥”
คนตัวสูงดี๊ด๊า ผมเผ้าไม่ได้เสยขึ้นไปด้านหลังเหมือนปกติจนสาว ๆ หลายคนเหลียวหลังมอง ชุดฮิปเตอร์ตัวโคร่งที่ต่างออกไปจากชุดประหลาดตาดูโดดเด่นจนน่าแปลกใจ สิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนคือรอยแต้มสีข้างแก้ม
กลายเป็นฮิโซกะที่ไม่ใช่ฮิโซกะไปซะนี่
การล่อเหยื่อให้มาติดกับด้วยคำว่าเดทบังหน้า -- คุเรฮะแลบลิ้นเล็กเลียไอศครีมบนม้านั่ง มีคนเอาแต่ใจนั่งไขว่ห้างกดโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ ด้านหลังเป็นศพที่ถูกเชือดด้วยคมไพ่ใต้พุ่มไม้อย่างไร้จุดสังเกต
หากไม่ใช่เพราะตัวตลกเบื่อง่าย เจ้าตัวคงไม่ลากเธอมาให้เลือกชุดของตัวเองบ้าง การเป็นตัวตลกที่ดึงดูดสายตาบางครั้งก็จำเจ ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธอะไรถ้าเด็กข้าง ๆ จงใจเลือกชุดที่ประหลาดมากกว่านี้มาให้ใส่อีก
แต่ผิดคาดตรงที่เด็กสาวมีเซ้นส์ในการเลือกชุดดีอย่างน่าเหลือเชื่อนี่แหละ แม้ฝีมือการถักเปียจะห่วย แต่ทักษาการเลือกชุดกลับไม่ธรรมดาเลยซะงั้น บราโว่
“เดือนนึงแล้วนะ”
เด็กสาวเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะยัดไอศครีมคำสุดท้ายเข้าปากไป แก้มป่องเคี้ยวตุ้ยแล้วกลืนในเสี้ยววินาที “ไม่ใช่ว่าแมลงที่นายอยากจับไปติดเหยื่อตัวใหม่แล้วเหรอ” มือยกขึ้น ไล้ลิ้นเลียไปตามนิ้วที่เปื้อนขนม
ฮิโซกะเหลือบมองก่อนจะทำเป็นถอนหายใจ เอนหลังพิงพนักอย่างขี้เกียจ “ถ้าเป็นงั้นก็แย่น่ะซี ฉันหวังกับเหยื่อตัวนี้ไว้ไม่น้อยเลยนา ♦”
มือหนายื่นไปดึงแก้มเด็กอย่างมันเขี้ยว
เหยื่อตัวน้อยที่มาพร้อมกิตติศัพท์ของคราวน์สายหลัก ดวงตาหายากและฝีมืออันตรายขนาดเดินเคียงกับมัจจุราชจอมอู้อย่างเขาได้ ในตอนนี้ไม่มีข่าวใดแรงเท่าข่าวนี้อีกแล้ว
ลิ้นร้อนไล้เลียริมฝีปาก ของดีขนาดเขาบางครั้งยังอดใจหยอกด้วยแทบไม่อยู่แบบนี้
หมอนั่นต้องมาแน่
“เคยเจอหรือแค่อยากลองเจอ?”
คำถามสั้น ๆ ทำให้ฮิโซกะหัวเราะ “กำลังหาทางให้ได้เจอสองต่อสองอยู่ ♣”
“รอบคอบขนาดนั้นเลย?” คนตัวเล็กเลิกคิ้ว แต่จะระวังไว้ก็ไม่แปลก อีกฝ่ายเป็นถึงนักมายากรพันหน้า เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ ขืนปล่อยตัวตกหลุมพรางคงถูกเด็ดปีกเอาง่าย ๆ
ดวงตาสีอำพันสว่างเป็นประกายระยับ
“สุด ๆ เลยล่ะ ♦”
เสียงหอบหายใจและเสียงของเนื้อผ้าที่เสียดสีกันข้างใต้ดังเป็นระยะ ๆ คุเรฮะปรือตามองเพดาน โฟกัสใกล้และไกลตามจังหวะของคนใต้ร่างที่กำลังขมักเขม้นวิดพื้น
ตั้งแต่ข่าวของเธอกับฮิโซกะแพร่งพรายออกไป เธอก็ไม่คิดจะปิดบังเรื่องดวงตาสีผสมนี่อีก ฝีมือกอร์นกับคิรัวร์ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงหากมีพวกนักล่าค่าหัวและของหายากคิดจะดึงมาให้โดนลูกหลงด้วย
แต่ สิ่งตามมา เธอรู้สึกได้ว่ามันจะไม่ได้มีแค่นั้นน่ะสิ
เสียงฝีเท้าที่เบาจนแทบไม่ได้ยินดังขึ้นที่หน้าประตู ตามมาด้วยการผลักบานประตูแล้วเอ่ยเสียงดัง
“คุเรฮะ—”
คิรัวร์ทำหน้าเอ๋อมองภาพตรงหน้า
“อ้าว คิรัวร์ กำลังจะไปหาพอดีเลย” กอร์นตีลังกามายืนตัวตรงปกติ โดนที่คุเรฮะบนหลังโดดขึ้นไปแล้วร่วงตุ๊บมานอนต่อในอ้อมกอดอย่างพอดิบพอดี เธอปิดปากหาววอด
“กอร์น อาการบาดเจ็บของนายไม่เป็นอะไรแล้วเรอะ?” เด็กชายผมขาวมองทั้งคู่สลับกันไปมา
“อื้อ! สมบูรณ์แบบไร้ที่ ติดูเหมือนจะหายสนิทแล้วล่ะ!”
กอร์นโดดดึ๊งดั๊งเนียนใช้คุเรฮะเป็นดัมเบลยกน้ำหนัก เด็กสาวที่ถูกยกสูงหน้าตายทำมือโอเค
อาการบาดเจ็บที่ต้องใช้เวลารักษาร่วม 4 เดือน กลับหายสนิทได้แค่เดือนเดียว! —ตาสีฟ้าครามจ้องเขม็ง “ร่างกายของนายนี่มันยังไงกันแน่ พิลึกชะมัด!!”
“อย่างนายมีหน้ามาว่าคนอื่นด้วยเรอะ!”
จริง ๆ ทุกคนในห้องนี้ก็พิลึกพอกันนั่นแหละ
มีคนปกติด้วยเรอะ
“แล้วมานี่ มีธุระอะไรกับฉันเหรอคิรัวร์” กอร์นวางเด็กสาวลง คุเรฮะในชุดเสื้อคอเต่าแขนกุดขยี้ตาแล้วไถหน้าลงกับเตียงข้าง ๆ อย่างลื่นไหล
คิรัวร์มองภาพตรงหน้าด้วยแววตาชินชา ก่อนจะหัวเราะหึ มือหยิบแผ่นกระดาษยาวสองใบขึ้นมา
“นี่อะไรเอ่ย~”
ดวงตาคมที่นอนปรือกับเตียงลืมตาตื่น
ส่วนกอร์นเลิกคิ้วเอ่ย “ตั๋ว?”
“ไม่ใช่ตั๋วธรรมดาด้วย เป็นตั๋วเข้าดูการต่อสู้ของฮิโซกะยังไงล่ะ!”
♜
“นอกจากจะมีงานอดิเรกรับน้องแล้ว... นายยังมีรสนิยมแบบนี้ด้วยงั้นรึ ฮิโซกะ”
ก่อนหน้านี้ -- ก่อนที่มัจจุราชจอมอู้นามฮิโซกะจะถูกลงชื่อท้าประลอง การเดทล่อแมลงยังคงดำเนินไปด้วยความลั้ลลาเหมือนทุกครั้ง คุเรฮะในชุดแฟชั่นกระโปรงสั้นหันขวับไปมองเจ้าของเสียง
ร่างสูงของชายผมเทายาวคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ ผ้าคลุมตั้งแต่หัวไหล่จรดข้อเท้าดูราวตัวใหญ่โคร่ง เขาโน้มตัวลงมาหา “ถ้าโดนบังคับหรือไม่เต็มใจบอกฉันได้นะเด็กน้อย ฉันพร้อมช่วยเธอจากเจ้าคนวิปริตนี่เสมอ”
ช่วยยังไงวะคะ ช่วยเล่นไพ่แพ้แล้วสลับมาใส่กระโปรงแทนเธองี้เรอะ
“...” คุเรฮะทำหน้าตาย
ส่วนคนวิปริตทำหน้ายิ้มระรื่น มือคว้าเด็กสาวตรงหน้ามากอดไว้ราวกับแกล้งเย้ยหยัน
“เอ นายเป็นใครงั้นเหรอ?”
ท่าทางและคำพูดที่แสดงออกว่าไม่เคยรู้จักมักจี่กันทำเอาคนผมยาวหน้าสั่น นิ้วชี้ยกขึ้นมาแทบจะทิ่มหน้า
“อ—อย่ามาทำเป็นลืมนะ! นายเป็นคนรับน้องฉันบนชั้น 200 เองไม่ใช่เรอะ!” เขาตวาดเสียงดัง “ฉันเป็นคนทำให้นายดาว์นมากกว่าคู่ต่อสู้ที่ผ่านมาตั้งสามคะแนน ...สามคะแนนเชียวนะ!!”
“ม่ายรู้~ ม่ายชี้” ชายหนุ่มตัวสูงผิวปากล้อลม มือจับไหล่สองข้างดันเด็กน้อยที่ทำหน้าตายกับสถานการณ์ในตอนนี้ไปข้างหน้าแถ่ด ๆ ท่าทางกวนตีนช่างชวนให้รองเท้าบินเข้าหน้าอย่างยิ่ง
คนถูกเมินซึ่งหน้าอ้าปากค้างเติ่ง ก่อนจะตะเบ็งเสียง
“ฉันขอท้านายสู้ในอีกสามวัน!!” คนรอบข้างหันมามอง เจ้าตัวแหกปากจนหน้าหล่อเริ่มออกม่วง
“และถ้าฉันชนะ! —ฉันจะช่วยสาวน้อยคนนั้นจากเจ้าคนวิปริตอย่างนายเอง รับคำท้าฉันซะ! ฮิโซกะ!!!”
สาวน้อยคนนั้นหันมามองหน้าตาย
“อย่างที่แรกที่ช่วยได้คือหุบปากที หนวกหู”
วันนั้นฮิโซกะหัวเราะลากยาวตลอดวัน ยิ่งนึกถึงใบหน้าเหวอของเจ้าคนที่มาท้าสู้ชื่อ... เอ่อ คาสโทโร่มั้ง อ้าปากพะงาบ ๆ เป็นปลาขาดน้ำยิ่งหัวเราะ พ่อพระเอกที่ตั้งท่าจะช่วยนางเอก(?)หายสลายกลายเป็นควันในบัดดล
คุเรฮะที่เลือกเสื้อผ้าชุดใหม่ในร้านเสื้อผ้ากลอกตารำคาญ มือสุ่มชุดตัวใหญ่แถว ๆ นั้นขึ้นมาถือไว้แล้วเขวี้ยงใส่หน้าเจ้าคนจ่ายตังเส้นตื้นดังป้าบ
หมั่นไส้
“เซ้นส์เรื่องชุดของสลีปปี้ยังดูดีเหมือนเคย ♦”
“รู้นะว่าประชด”
“ไม่ได้ประชดซะโหน่ย ฉันชอบมันจริง ๆ นะ!”
ชุดมาสคอตไดโนเสาร์สีส้มตัวใหญ่โดดเด้งไปมา ปีกเล็กคู่หนึ่งบนหลังสะบัดฟึ่บ ๆ เข้าจังหวะ คุเรฮะทำสีหน้าตายด้านขณะถูกหัวมาสคอตถูไถเข้าห้างแก้ม
อารมณ์ตอนนี้เหมือนอยู่กับเด็กโข่งตัวไซส์บิ๊ก
ตอนแรกพวกกอร์นกับคิรัวร์ก็สงสัยว่าช่วงนี้เธอหายไปไหนบ่อย ปกติก็หลบสายตาไปมาได้ตลอด แต่มาวันนี้เหมือนฟ้าเล่นตลกไม่ก็คนในชุดมันจงใจ ทั้งสองคนมาเห็นตัวเธอจูงมือมาสคอตไปร้านขนมเข้าพอดี
แค่เพราะคนบางคนอยากจะซื้อหมากฝรั่ง…
“บางทีคุเรฮะก็คงอยากมีช่วงเวลาวัยเด็กเหมือนคนอื่น ๆ สินะ”
“หายากภาพแบบนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า! เอ้า —ชีส!”
ลงเอยด้วยการถูกคิรัวร์ถ่ายรูปตอนช็อกค้าง ส่วนคนในชุดขำจนแทบสำลักน้ำลาย
สุดท้ายเลยเทเลพอร์ตถีบก้นเจ้าไดโนเสาร์ปีกจิ๋วกลิ้งลงเนินสาธารณะไป ส่วนตัวเองหลบมานั่งแกะผมทวิลเทลสูงอยากยากลำบากด้วยสีหน้ายุ่งยาก
ถึงจะดูน่ารำคาญ แต่ก็สนุกดี... ในหลาย ๆ ความหมาย
เรื่องหลายเรื่องประเดประดังเข้ามาต่างจากคราวน์ ไม่ต้องรอป้อนคำสั่งและภารกิจ แค่เคลื่อนไหวไปตามใจชอบ หากตกหลุมพรางใครก็ต้องตะเกียกตะกายขึ้นมาเองในฐานะ คุเรฮะ
ไม่ใช่ในฐานะ คราวน์
ฟึ่บ!
“!!”
เสียงของมีคมบางอย่างเลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เด็กสาวที่เอี้ยวหน้าหลบทันท่วงทีหัวขวับไปมอง พอตกกลางคืนดวงตาคมสีแดงเสี้ยวยิ่งสว่างวาบขึ้นเป็นเท่าตัว รูม่านตาหดลงจนแทบเป็นเส้นตรง
“โทษที ๆ เห็นเธอแกะผมไม่ได้ซะทีเลยช่วยนิดหน่อยนะ”
ผมที่ถูกรวบแน่นด้วยหนังยางร่วงผล็อยยืนยันคำพูด คุเรฮะชะงักเล็กน้อยเมื่อตัวเองได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า นัยน์ตาหรี่ลงจ้องไปยังความมืดหลังม้านั่ง
มีดที่ปามายังคงปักอยู่ไม่ไกล
“ใคร?”
ร่างสูงของคนที่เกือบจะทั้งตัวเป็นสีดำรัตติกาลเคลื่อนตัวเข้ามา ยามหัวค่ำที่เริ่มมีแสงจันทร์แทนแสงแดดส่องตามจุดที่ไม่มีเงาบดบัง หากแต่ดวงตาคมยังคงจับจ้องคนในความมืดไม่ห่าง -- ราวกับรู้ตำแหน่งที่ยืนอยู่อย่างน่าแปลกใจ
เป็นชายหนุ่มตัวสูง สีผมและสีตาดำขลับลึกลับราวกับพญาอีกา หน้าผากมีผ้าพันแผลพันไว้
เขาหลับตายิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“นั่งด้วยได้ไหม?”
“...” คุเรฮะสังเกตและประเมินอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างรวดเร็ว ไม่มีจิตสังหาร แต่ก็ไม่น่าไว้วางใจ --- แต่ถ้าโชคดี ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นแมลงที่ฮิโซกะต้องการ
ในขณะที่คิดก็ขยับที่ว่างไว้อย่างไม่แย้งอะไร
น่าเสียดายที่ฮิโซกะไม่ได้อยู่ด้วยในตอนนี้ บางทีหมอนั่นอาจจะกำลังวุ่นวายอยู่กับชุดมาสคอตรุงรังอยู่ก็ได้ เธอถึงมาเจอคนที่มีออร่ารอบตัวแปลกประหลาดแบบนี้ตัวคนเดียว
เป็นออร่าที่เงียบสงบและก็เยือกเย็น...มาก
“ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กในข่าวลือสินะ คราวน์สายหลักที่ช่วงนี้มาป้วนเปี้ยนรอบลานประลองกลางหาวกับ— ตัวตลกคนนึง” คุเรฮะกะพริบตา คิดว่าตัวเองตาไม่ฟาดที่เห็นคนตรงหน้าคิ้วกระตุกกับคำสุดท้าย
“จะล่าเหรอ?”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตา ในตอนนั้นเองที่แสงจันทร์เคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าพอดี เปลือกตาเผลอหรี่หลบแสง ต่างจากกรอบหน้าที่อะไรหลาย ๆ อย่างที่ชัดเจนขึ้น
“...!”
ประสาทสัมผัสของเธอจับได้ว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังสูดหายใจลึก ชะงักค้างกับบางอย่าง
มือขาวซีดยกขึ้นขยี้ตาอย่างอดไม่ได้ “ถึงจะอยากล่าแต่คงไม่ยอมให้ล่าง่าย ๆ” ก่อนจะลืมตาขึ้น
หายไป
ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นหายไป
คุเรฮะขมวดคิ้ว
รีบผุดลุกขึ้นยืนแล้วหัวขวับมองส่ายขวา นัยน์ตาสีแดงเสี้ยวประหลาดใจเลื่อนมองไปมาเมื่อจู่ ๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ตรงม้านั่งคนเดียว รอบตัวเริ่มมีคนเดินผ่านแต่ก็ยังไม่มีใครน่าสงสัยเข้าตาเลยสักคน
มีดที่ปักพื้นเองก็หายไป เหลือไว้แค่ร่องรอยว่าเคยมี
ใครกัน?
“สลีปปี้~!”
มาสคอตตัวโตโถมเข้าใส่จากด้านหลัง คุเรฮะแทบหน้าคะมำกับน้ำหนักที่ทับมา
“ถีบเค้ากลิ้งแล้วหนีมาปล่อยผมแถวนี้ไม่รอเค้าได้ไง!”
“ถ้ายังง้องแง้งไม่เลิกฉันจะถีบนายอีกรอบนี่แหละ!”
“ใจร้าย!!”
ห่างจากบริเวณนั้นไปไม่ไกล ร่างที่หลบอยู่หลังต้นไม้อย่างแนบเนียนด้วยเซ็ทสึกำลังมองไปที่เด็กสาวกับมาสคอตตัวโตไม่วางตา ดวงตาสีดำสนิทไร้แววจนดูราวความมืดมิดไร้ก้นบึ้งจ้องแทบตาไม่กะพริบ
“เด็กนั่น...”
“มีอะไรงั้นเหรอ หัวหน้า?” สาวผมสั้นตัวสูงข้าง ๆ มองตาม --- เป้าหมายที่หัวหน้าเธอเข้าไปเอ่ยได้ไม่กี่คำก็ถอนตัวกลับมา ตอนนี้กำลังยื้อหยุดกับเจ้าคนในชุดมาสคอตเล็ก ๆ สุดท้ายก็ถูกหิ้วขึ้นบ่าเดินออกไป
รู้สึก— คุ้นเคยกับหน้าหงิกงอนั่นอย่างบอกไม่ถูก
“หึ”
เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ
“ยังหรอก ยังไม่ใช่ตอนนี้”
__________C H E C K M A T E__________
เริ่มเข้าช่วงจริงจังแล้วค่ะ! ตัวละครมาใหม่ล่าสุดไม่รู้จะแซงความแรงของเฮียฮิได้รึเปล่า มารอดูกัน!
มุกขำขันของซีซั่นนี้ :
. . .
เอ... ตัวเลข Fav.เลื่อนมาถึง 1978 แล้ว ไวมาก! นึกไม่ออกเลยว่าจะให้รางวัลเมื่อครบ 2000 คนยังไงดี --- มีคนอยากเสนออะไรน่าสนใจรึเปล่าคะ?
/ถ้าถึงนะ ;w;
ความคิดเห็น