ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงตาสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นกับความฝัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 62
      0
      7 มี.ค. 47

    สาวน้อย........

    สาวน้อยเอ๋ย........

    มาสิ.....  มาสิ.....  จงมาที่นี่......

    ความมืดรอเจ้าอยู่.....



    “ที่นี่ที่ไหนกัน ใคร ใคร เรียกเราน่ะ”

    ร่างเล็กๆ ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบๆ  แลเห็นต้นไม้มากมาย  ไม่มีอะไรเลยนอกจากต้นไม้และความมืดที่ปกคลุมไปทั่ว   หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ  แต่ก็วนกลับมาที่เดิม  

    ทันใดนั้นเองก็มีเงาดำๆ   เคลื่อนใกล้เข้ามา......ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ....... พร้อมกับเสียงหัวเราะที่โหยหวน

    ...ใคร  ใครกันน่ะ...

    ...น่ากลัว  น่ากลัวเหลือเกิน  อย่า...อย่าทำอะไรฉัน...

    หญิงสาววิ่งหนี   แต่ไม่ว่าวิ่งไปเท่าไหร่เงานั้นก็คงยังตามมา

    ไม่นานเธอก็สะดุดรากไม้และล้มลง  เงานั้นจึงตามมาทันและหยุดตรงหน้าเธอ  หญิงสาวจึงได้เห็นว่าแท้จริงแล้วเงาดำที่เธอเห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดสีดำ  ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นงดงาม    แต่ทว่า..น่ากลัว  เพราะนัยน์ตาและริมฝีปากของผู้หญิงคนนั้นแดงกำราวกับเลือด!  

    ผู้หญิงคนนั้นกระชากร่างของเธอขึ้นมา  และตวัดปลายดาบจ่อที่ลำคอของเธอ

    “ส่งดวงตาสวรรค์มาให้ข้า...แล้วข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า”  นางพูดอย่างเหี้ยมเกรียม

    “เร็วสิ รึว่าเจ้าอยากตาย.....”

    “ฉัน...ฉันไม่รู้.....  ดวงตาสวรรค์อะไร...ฉันไม่รู้จัก...”

    ระหว่างนั้นเองลมก็เริ่มพัดแรง

    “โกหก...  เจ้าโกหก...  มันอยู่กับเจ้า แต่ในเมื่อเจ้าไม่ยอมมอบให้ข้าดีๆ  ก็ตายซะเถอะ”นางกรีดร้อง  ใบหน้าของนาง

    เหี่ยวย่น  ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีแดงก่ำ   ไม่เหลือเค้าความงามอยู่เลย  

    “อย่า...อย่า...ได้โปรดเถอะ....”

    ฟิ้ว........  แคร้ง!  สายลมได้ทำลายอาวุธร้ายของนาง

    “ใคร!  มันเป็นใครกัน  บังอาจทำลายดาบของข้า”  นางกรีดร้องอย่างโกรธแค้น  

    สายลมพัดแรงขึ้นเรื่อย  ร่างของคนคนหนึ่งปรากฏขึ้น  และพูดเสียงดังก้อง

    “หยุดนะแกรเทีย!  อย่าทำร้ายนาง”

      

      



    กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    

    กริ๊ก

    มือเล็กๆ เอื้อมไปกดนาฬิกาปลุก    แล้วเลื่อนตัวลุกขึ้นนั่ง  เผยให้เห็นผมยาวสลวยถึงกลางหลังที่ค่อนขางยุ่ง  ตัดกับใบหน้าขาวซีดที่มีเหงื่อจับพราว  

    “ฝัน.....ฝันอีกแล้ว.......น่ากลัว น่ากลัวเหลือเกิน” หญิงสาวพูดกับตัวเอง

    “ไม่......ไม่.......มันเป็นความฝันเท่านั้น  เป็นเพราะเราอ่านเรื่องนั้นมากเกินไป”





    “มาย...มาย...”  

    หญิงสาวรีบลุกจากเตียงวิ่งไปเปิดประตู      

    “ค่ะพ่อ..... พ่อจะรีบไปไหนแต่เช้าคะ  วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”

    “พ่อต้องไปติดต่อธุรกิจน่ะลูก.......เดียวเคลียงานที่นี่เสร็จพ่อจะบินไปลอนดอน”ชายวัยกลางคนพูด พลางจัดเสื้อให้เรียบร้อย  “ลูกอยากได้อะไรล่ะ  กระเป๋าแพงๆ  รองเท้า”

    “ไม่ค่ะพ่อ  ว่าแต่จะไปนานมั้ยคะ  แล้วจะกลับมาทันวันเกิดหนูรึเปล่า”

    “คราวนี้คงจะต้องไปนานล่ะลูก    ประมาณสามอาทิตย์”

    “ไหนพ่อบอกว่าจะอยู่ฉลองวันเกิดกับหนูไงคะ” เสียงของเธอสั่นเครือ

    “พ่อจำเป็นต้องไปนะ    ลูกก็ชวนเพื่อนๆ มาที่ที่บ้านเราสิ แล้ว...”  

    เสียงของเขาขาดหายไป  เพราะเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น  เขากดรับ  

    มายจึงเดินกลับเข้าไปในห้อง  แล้วนั่งลงบนเตียง  น้ำตาไหลรินอาบแก้ม  

    .....ทำไมนะ  พ่อไม่มีเวลาให้เราเลย  ทำแต่งาน  

    .....เหงาจัง  ไม่... ไม่มี....ไม่มีใครเข้าใจเราเลย

    ....แม่  แม่ขา  หนูคิดถึงแม่จัง    ทำไม...ทำไมแม่ไม่อยู่กับหนู...  

    มายนึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้น   แม่ของมายเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเมื่อ  11  ปีก่อน

    ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็ทำงานหนัก  ไม่มีเวลาให้เธอเลย



    มายเดินลงบันไดมา   แล้วเข้าไปในครัว  “พ่อ พ่อเหรอคะ”

    “ไม่ใช่หรอกหนูมาย   พ่อเขาไปแล้วล่ะ   ฝากป้าบอกหนูด้วย ว่าเย็นนี้ก่อนเขาเดินทางเขาจะโทรมาหาหนู”  

    “มาทานข้าวก่อนเถอะหนู ป้าทำข้าวต้มปลาที่หนูชอบไว้ให้”

    “ขอบคุณค่ะ แต่หนูยังไม่หิว”

    “เป็นอะไรไปล่ะหนู หน้าตาหนูไม่ค่อยดีเลย”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” หญิงสาวตอบแล้วเดินออกไป



    ......ป้าไม่เชื่อหรอก   ป้าเห็นหนูมาตั้งแต่เด็ก.......  หญิงชราคิด  

    นางอยู่กับครอบครัวนี้ตั้งแต่มายยังมีชีวิตอยู่  ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น   แต่หลังจากที่แม่ของมาเสียชีวิต  ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป  พ่อของมายทำงานหนัก  เขาต้องการลืมเรื่องเหล่านั้น  แต่นางรู้ว่าเขาไม่เคยลืม  และหญิงสาวคนนี้  เด็กหญิงที่เธอเคยเลี้ยงดู  ให้การดูแล  นางรู้  มายเหงา  มายไม่มีเพื่อน..... ไม่มีเพื่อนคนไหนที่จริงใจกับมาย





    มายเดินเล่นอยู่ในบริเวณบ้าน  บ้านของเธอเป็นบ้านหลังไม่ใหญ่นัก   แต่มีสนามกว้าง   และปลูกต้นไม้มากมาย  นอกจากนี้บริเวณมุมหนึ่งนั้นก็ถูกจัดเป็นสวนหย่อม   ภายในสวนหย่อมมีสระน้ำเล็กๆ  เลี้ยงปลาสีสวยงาม  และริมสระน้ำก็มีรูปปั้นนางฟ้าตั้งอยู่ข้างๆ  ม้านั่ง  มายชอบมานั่งที่นี่มากเลย  เพราะมันเงียบสงบ

    มายเดินเล่นมาเรื่อยๆ  จนมาถึงริมสระน้ำ  ในมือของเธอถือหนังสือเล่มโปรดอยู่ด้วย

    มายนั่งลงบนม้านั่งริมสระน้ำ  วางหนังสือลงข้างตัว  แต่แล้วก็เปลี่ยนใจหยิบหนังสือขึ้นมา“ดวงตาสวรรค์.....  เราอ่านเรื่องนี้กี่รอบแล้วนะ....  แต่ยังไงนะเราก็ชอบเรื่องนี้มากเลยล่ะ.....” เธอเปิดหนังสือไปเรื่อยๆ อย่างเหม่อลอย    

    “อยากรู้จังว่าตอนจบของเรื่องนี้เป็นยังไง  เขาผู้นั้นจะได้พบ เมอา อีกหรือเปล่านะ”

    เป็นความจริงที่มายไม่รู้ว่าตอนจบของเรื่องนี้เป็นยังไง  เพราะมีคนฉีกมันออกไป  

    มายนึกถึงตอนที่เธอได้หนังสือเล่มนั้นมา   มายซื้อหนังสือเล่มนี้มาจากร้านขายหนังสือเก่าแห่งหนึ่ง  ในคราวที่เธอไปเที่ยวกับพ่อที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปิดเทอมปีที่แล้ว

    .....ร้านขายหนังสือเก่าแห่งหนึ่งมีหนังสือมากมายเลยล่ะ  เราชอบอ่านหนังสือเลยขอแวะดูร้านนี้  และเราก็เจอหนังสือเล่มหนึ่งเป็นหนังสือที่มีปกเป็นหนังสีดำและมีตัวหนังสือสีทองเขียนว่า  “ดวงตาสวรรค์”  

    “พ่อ  พ่อคะ ดูสิที่นี่มีหนังสือไทยด้วยล่ะค่ะ”  หญิงสาวร้องเรียกพ่อที่ยืนรออยู่หน้าร้าน

    “อะไรเหรอลูก หนังสือเล่มนี้นะเหรอ ใช่ล่ะมันแปลกดี แต่มันเก่าแล้วนะ ไว้เราไปดูเล่มใหม่ที่อื่นกันเถอะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองพ่อ   .....ท่าทางพ่อคงไม่ชอบแน่ๆเลย  

    “แต่หนูอยากได้นี่คะ”

    “ก็ตามใจนะ ถ้าลูกอยากได้พ่อก็จะซื้อให้” แล้วพ่อก็ซื้อหนังสือเล่มนี้ให้เรา

    หนังสือเล่มนี้มันไม่มีความโดดเด่นอะไรเลยจริงๆ   แต่ทำไมนะเราถึงรู้สึกว่ามันน่าสนใจ   หญิงชราเจ้าของร้านท่าทางดีใจมากที่พ่อซื้อหนังสือเล่มนี้ให้เรา  

    “Merci  Beaucoup. (ขอบคุณมากค่ะ)  

    เย็นวันนั้นเองเมื่อเราเปิดหนังสือดูจึงพบว่า หน้าบางหน้าได้ขาดหายไป  วันรุ่งขึ้นเราจึงแอบไปที่ร้านนั้นคนเดียว  เพราะร้านนั้นอยู่ใกล้กับที่พัก   เราไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปที่นั่นอีกทำไม    แต่เราก็ไปที่นั่นและก็พบว่า  บริเวณที่เคยเป็นร้านขายของเก่านั้น

    ได้กลายเป็นภัตตาคารไปแล้ว

    เมื่อกลับมาถึงที่พักมายจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พ่อฟัง  

    แต่พ่อกลับบอกเราว่า  “มายคงฝันไปน่ะลูก  ร้านหนังสือเก่าอะไรกัน   เมื่อวานนี้เราไปเดินห้างกันนี่นา  ลูกยังเลือกของฝาก

    ป้าลินกับเพื่อนๆด้วยนี่ลูก”  

    “นี่ไงคะพ่อ  หนังสือเล่มนั้น”  มายพูดพร้อมกับชูหนังสือให้พ่อดู

    “เล่นตลกอะไรกับพ่ออีกล่ะเรา  เตรียมไปเก็บของเถอะลูกจะได้ไปเที่ยวกันต่อ”

    พ่อมองไม่เห็นหนังสือเล่มนั้นทั้งๆ ที่เราถืออยู่

    ...........และเราก็ได้รู้ว่า  มีเราเพียงคนเดียวที่มองเห็นหนังสือเล่มนี้...............          





    เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป  ติดตามตอนหน้าค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×