ตอนที่ 1 : บทนำ
**บทนำ**
-การศึกษาคือสิ่งสำคัญ-
“อะไรกัน!!!!! นี่ป๊าให้หนูไปเรียนเอาคะแนนนะ ไม่ใช่ให้ไปเรียนเพื่อสนุก!!! ดู๊...ดูๆๆๆๆ!!!~ ทำไมคะแนนสอบถึงได้ออกมาน่าเกลียดเป็นแบบนี้!!!”
ป๊ะป๋าผู้ใจดีตะโกนด่าฉันกึกก้องไปทั่วบ้าน >_< ไอ้เราล่ะก็ได้แต่เงี่ยหูฟังอย่างไม่ค่อยตั้งใจซักเท่าไหร่
ฮึ! งานนี้โดนป๊ะป๋าเทศนาสุดฤทธิ์สุดเดชสิ ฉันก็ดันโง่สอบตกวิชาภาษาอังกฤษ(ครั้งที่หก)แม้จะพยายามเบียดเวลาว่างอันน้อยนิดไปร่ำเรียนยังโรงเรียนกรวดวิชาที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เป็นธรรมดาแหละที่ท่านจะขึ้นกับคะแนนสอบอันน้อยนิดของฉันจนบ้านแทบแตกแบบนี้
“โถป๊าก็~ ป๊าจะให้หนูทำยังไงล่ะคะ ก็หนูน่ะทำเต็มที่แล้วนี่นา~” ฉันทำเสียงน้อยเสียงใหญ่เรียกร้องความเห็นใจอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนอารมณ์ของป๊ะป๋าจะไม่ยอมลงง่ายๆ
“พยายามงั้นหรอ!!.....” อะไรกันคะป๊า!!~ หนูเพิ่งจะ 16 เองนะ ป๊าอย่าใจร้ายกับหนูมากนักเลย “เอาอีกลูก~ เอาอีก น้าา~ ป๊ะป๋าขอร้องนะลูกน้า พยายามอีกนิด” ป๊าเข้ามานั่งข้างๆ ฉันบนโซฟาตัวหรูพลางลูบเรือนผมหนาสีน้ำตาลเข้มของฉันอย่างปลอบโยน
“หนูจะพยายามให้ดีกว่านี้ค่ะ ขอเวลาหนูอีกหน่อย”
“ป๊าก็อยากจะเชื่อมั่นในตัวหนูนะ แต่ป๊าว่าป๊าเชื่อในความพยายามของหนูต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ ต่อไปนี้ป๋าจะจ้างครูสอนพิเศษมาสอนพิเศษหนูที่บ้านดีกว่า” ดีค่ะป๊า...
ฮ๊ะ!!!!! วะ ว่าไงนะคะ ให้หนูเรียนที่โรงเรียนกรวดวิชาแบบเดิมก็สนุกดีอยู่แล้วนะคะ ไหนจะได้ไปกินไอติมหลังสอบเสร็จแล้ว ยังได้เจอเพื่อนผู้ชายน่ารักๆ อีกด้วย อุ๊บส์!...ไม่สิ
“มะ ไม่ต้องหรอกค่ะป๊า ครูสอนพิเศษแก่ๆ ดุๆ แบบนั้นสอนหนูไม่เข้าใจหรอกค่ะ” ฉันทำหน้าร้องไห้โฮแล้วส่ายตัวไปมาเหมือนคนกำลังถูกผีเข้า ….ม่ายนะ ฉันต้องต่อต้านพ่อให้ได้สิ!!
“โอ๋ๆๆ ลูกสาวป๊า ลูกสาวสุดที่ร้ากกก~ อย่าทำแบบนี้ลูกอย่าทำ” ป๋าจับไหล่ฉันไว้ทั้งสองข้าง พยายามอธิบายให้ฉันเข้าใจถึงประโยชน์ของการเรียนพิเศษที่บ้าน ฮึ่ย!! ไม่มีทาง ยิ่งครูแก่หน้าเหี่ยว ดุก็ดุ โหดก็โหดแบบนั้น ฉันไม่มีทางเรียนด้วยเด็ดขาด เรียนแล้วต้องเครียดมากแน่ๆ
“ยังไงหนูต้องเรียน ป๊ารับรองได้ว่าคุณครูสอนพิเศษของหนูไม่ดุ ป๊าติดต่อเขาไว้แล้ว”
“ถึงงั้นก็เถอะค่ะป๊า ติดต่อได้ก็ยกเลิกได้นี่คะ หนูสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน แต่อย่าย้ายที่เรียนหนูเลยนะ”
“ไม่ๆๆ คราวนี้ป๊าจะไม่เชื่อในคำสัญญาลอยๆ ของลูกอีกต่อไปแล้ว ฟังนะคะ ลูกสาวสุดที่รักของป๊า ลูกสาวผู้สวยที่สุดในโลก” ป๊าง่ะ ไม่ต้องมายอเลย “ป๊าคุยกับเพื่อนป๊าไว้แล้ว เขาจะให้ลูกชายเค้ามาช่วยตริวหนู ลูกชายเขานี่เรียนเก่งสุดยอดเลยนะ ป๊าเคยเจอแล้ว เป็นคนน่าร้าก~ สุภาพ อ่อนโยน ป๊ารับรองว่าหนูต้องเรียนสนุกแน่ๆ”
โถ่ลูกชายเพื่อนป๊างั้นหรอ? ....เพื่อนป๊าแต่ละคนน่ะแก่พอกันทั้งนั้น -_- นับประสาอะไรกับลูกชายเพื่อนป๊า ในความคิดของฉันตอนนี้ฉันนะ อีตานั่นคงจะอายุปาเข้าไปสามสิบกว่าๆ แล้ว ใส่สูท ผูกไทน์ท่าทางจะดูวิชาการสุดๆ หรือไม่ก็เป็นเด็กเรียน ไว้ผมป้ายไปด้านใดด้านหนึ่ง สวมแว่นตาหนาเตอะ ท่าทางออกไปทางจะดูเอ๋อๆ วันๆ คุยแต่เรื่องเรียน เรียน และก็เรียน!
เบร๋อ!!!~ ไม่เอาหรอก แค่คิดก็ไม่อยากเรียนแล้ว
“ป๊าอ่ะ~ หนูไม่อยาก...”
“เปียโน ทำตามในป๊าเค้าหน่อยจะเป็นไรไปลูก” คุณแม่(ผู้ไม่ยอมแก่)ที่คิดว่าแอบฟังมานานแล้วก็ย่างกายจากชั้นสองของบ้าน ลงมาหาพวกเรา...
“แม่ก็เป็นกับพ่อไปอีกคน” ใช่ว่าไม่ใฝ่ต่อการเรียน แต่ไม่อยากย้ายที่เรียนต่างหาก
“เรียนไม่นานหรอก สองชั่วโมงหลังเลิกเรียน และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็เท่านั้นเองลูก เรียนเถอะนะ นี่คือความตั้งใจของป๊าเค้าเลยนะ” ....แม่อ่ะ เฮ้อ...เอาน่ะตามน้ำไปก่อนแล้วกัน ไว้ค่อยหาโอกาสชิ่ง
“ก็ได้ค่ะ เรียนก็เรียน” แล้วฉันก็เดินบิดก้นขึ้นห้องไป เฮ้อ...ยังไม่ทันไรก็หนักใจก่อนแล้วสิเรา
เกิดมาเป็นความหวังเดียวของครอบครัวก็แบบนี้สินะ นี่ฉันน่าจะมีพี่ หรือไม่ก็น้องไว้ช่วยสืบทอดกิจการของป๊ากับแม่บ้าง ฉันจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียนกรวดวิชาทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ไม่ต้องกลับมาท่องหนังสืออย่างหนักเพื่อให้สอบผ่านในแต่ละวัน และก็ไม่ต้องถูกบังคับให้เรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพิ่มเติมทุกเย็นแบบนี้!
โอ๊ย!!~ เครียดล่วงหน้า....
~ T_T~ ฮืออออ
.........
กริ๊ง!!!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ฉันกำลังนั่งดูคอนเสิร์ตของหนุ่มๆ ไอดอลเกาหลีอยู่ด้วยอารมณ์ฟินมาเต็ม ฉันนี่แทบจะโยนมันทิ้งเลยถ้าไม่หยิบมันมาดูหน้าจอเสียก่อน
ให้ตายสิเบอร์แปลก ไม่รู้ว่าใครที่ไหนโทรมาช่างไม่รู้บ้างเลยว่า 3 ทุ่มเป็นเวลาพักผ่อนของฉัน
“ฮัลโหล” ถึงยังไงก็เถอะ ฉันยังคงกดรับเบอร์แปลกที่คิดว่าน่าจะเป็นผู้ชายหลงโทรผิดมา
[เปียโนใช่มั้ย?]
ว๊าย O_O!!!! ผู้ชาย
ผู้ชายเสียงหล่อมากๆ เลยล่ะ กรี๊ด!!! ใครโทรมาจีบฉันงั้นหรอ? ให้มันได้แบบนี้สิ อย่าให้รู้นะว่ายัยเพื่อนคนไหนแอบเอาเบอร์ฉันไปให้ผู้ชายคนนี้อ่ะ ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย บ้าๆๆๆๆ
“ใช่ ฉันเอง! นั่นใครพูดน่ะ” ฉันทำเสียงแข็งใส่หมอนั่นอย่างวางมาด โทรมาจีบหรือไม่จีบไม่รู้ล่ะ เก๊กไว้ก่อน
[คีย์บอร์ด!]
เอ๋....คีย์บอร์ด!...?
‘Cute boys ก็คือแก๊งผู้ชายหล่อใส ที่ไปมากไปด้วยความสามารถ ประกอบไปด้วยหนุ่มหล่อทั้งห้าคน ตั้งใจฟังนะจะสาทยายให้ฟังทีละคนเลยละกัน >>> เรียนก็ดี ดนตรีก็ถนัด พี่ ‘เจนัส’ หนุ่มหน้าหวานยอดนักรักที่เขาลือกันนักหนาว่าจูบเก่งแบบสุดๆ
ถ้าพูดถึงสุดยอดสุภาพบุรุษ สูงยาวขาวล่ำต้องยกให้นักว่ายนน้ำสามเหรียญทองอย่างพี่ ‘ชอลลี’
ถ้าชอบแบบเฟรนลี่ คารมดีหน่อยก็ต้องรูปหล่อเพลย์บอยร้อยจูบอย่างพี่ ‘เฮลเชียล’
แต่ถ้าชอบน้ำตาลเลี่ยนๆ ก็ต้องหนุ่มหน้าหว้านหวานอย่างพี่ดราก้อน
แต่ถ้าชอบคนหล่อ ร้อน ซ่อนร้าย มาดคุณชายเย็นชาก็ต้องพี่ ‘คีบอร์ด’ ยอดนักวิชาการคนนี้!!’
“คะ คีบอร์ด!” จะใช่คนๆ เดียวกันรึเปล่านะ?
ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นคนๆ เดียวกันมีหวังฉันเลือดกำเดาพุ่งระหว่างเรียนแน่!!....เท่าที่ได้ยินเพื่อนๆ โม้ เขาน่าจะเป็นคนที่หล่อมากๆ คนหนึ่งเลยล่ะ
O_O!!!
[พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอที่บ้าน ห้าโมงเย็น ฉันเตรียมชีทและก็เอกสารทดสอบความรู้เบื้องต้นของเธอไว้แล้ว กรุณามาให้ตรงเวลาด้วย]
ดะ เดี๋ยวนะ!!
“ว่าไงนะ? ฉันไม่เข้าใจที่นายพูด นะ นายจะมาทำอะไรนะ”
[ฉันจะเป็นคนสอนภาษาอังกฤษเธอเอง หวังว่าเธอคงจะมีประโยคง่ายๆ ไว้สื่อสารกับฉันพรุ่งนี้นะ
I think you sure. Good bye baby.]
O_O!!! เดี๋ยวเซ่!!!
ป๊ะ ป๋าบอกจะจ้างครูสอนพิเศษมาสอนฉันเร็วๆ นี้ แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้นะ พรุ่งนี้แล้วหรอ?
ให้ตายเถอะ…หมอนั่นหวังว่าฉันคงจะพร้อมงั้นหรอ?
ไม่เลย!! หัวสมองฉันโล่งกลวง ไม่มีคำศัพท์ใดๆ บรรจุไว้ในคลังเลยซักนิด >_<!!
แล้วหมอนี่ก็ดูเจ้าระเบียบ จริงจัง และหวังว่าฉันจะตั้งใจเรียนมากเลย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็น ‘พี่คีย์บอร์ด’ สุดฮอตคนนั้น
.................................
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
