ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {SF/OS} IKON/WIN by KIWI's [NOW::BJIN]

    ลำดับตอนที่ #12 : BJIN - Silence 2 [DRAMA]

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 57





    [ .Silence. ]





    “ Don't wanna break your heart

    I wanna give your heart a break

    I know you're scared it's wrong

    Like you might make a mistake…”






     

    2ปีผ่านไป...

     

     

    เวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนตามเวลา...และนั้นไม่เว้นแม้กระทั่ง คิม จินฮวาน

     

     

     

    เมื่อฤดูหนาวเมื่อ2ปีก่อนเขายังเป็นพนักงานออฟฟิศโง่ๆคนนึง ตอนนี้เขาเปลี่ยยนมาเป็นนักเขียนbest seller ที่นักอ่านเกือบคนต้องรู้จัก

     

    เขาเอาความเจ็บปวดของตัวเองที่ต้องเสียคิมฮันบินไปเป็นรอบที่สองมารวบรวมแต่งจนเป็นนิยาย... และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตในฐานะนักเขียนของเขา

     

     

     

     

    จินฮวานชอบมองทะเล ตอนนี้เขาก็เก็บเงินจนซื้อบ้านริมทะเลได้แล้ว...มันเป็นความฝันของจินฮวานที่อยากมีบ้านริมทะเลสวยๆซักหลัง

     

    เขารักทะเล รักสีฟ้าของน้ำทะเล รักทรายสีทอง รักกลิ่นเค็มๆชื้นๆของทะเล

    แต่ก่อนเขามัวแต่ทำงานท่ามกลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวายจนเทบลืมปัจจัยที่เรียกว่า ความฝันไปซะแล้ว

     

    เมื่อเขาเคลียร์อะไรให้มันลงตัวได้ เขาจึงรีบลงมือทำตามความฝันของเขาก่อนที่มันจะสายไป อาจจะดูไร้สาระแต่มันทำให้จินฮวานมีความสุขจริงๆนั่นแหละ และตอนนี้เขาก็ได้มันมาครอบครองแล้ว

     

    ภาพตรงหน้าสวยจนทำให้เขาต้องยิ้มออกมา

    แต่ถ้ามีใครบางคนมาอยู่ข้างๆอาจจะดีกว่านี้

     

    นับตั้งแต่2ปีก่อน ร่างเล็กก็ไม่เคยคบกับใครอย่างจริงจังอีก มีแต่พวกคู่เดทที่ดงฮยอกกับบ๊อบบี้หรือแม่ของเขาพยายามยัดเยียดมาให้ เดทกันไม่เกิน4ครั้งก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก

     

     

    เพราะความรู้สึกมันไม่ใช่...และส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเขายังกลัวอยู่ล่ะมั้ง

     

     

     

    ใช่ว่าเวลาที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บปวดนั้นเบาบางลง แต่ถ้าถามว่ายังคิดถึงฮันบินอยู่ไม๊?

     

     

    มากที่สุด

     

     

    แต่เขา...ไม่อยากกลับไปเหมือนเดิม

     

    ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าฮันบินทำอะไรอยู่ที่ไหน เหมือนกับอยู่คนละโลกกับฮันบิน ตัวตนของคนคนนั้นถูกลบออกไปจากชีวิตเขาอย่างสิ้นเชิง

     

    ขนาดวันเปิดตัวหนังสือของเขาเองทุกเล่ม ก็ไม่เคยมีแม้กระทั่งเงาของร่างสูงที่คุ้นเคยนั้นมาให้เห็น..

     

    แต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าคิมฮันบินมา เขาเองก็คงไม่รู้จะทำหน้ายังไงเหมือนกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จินฮวานก้าวเท้าไปตามชายหาดช้าๆปล่อยความคิดให้ลอยไปกับสายลม...

     

    เขาทรุดนั่งลงริมชายหาดช้าๆและหยิบเอาสมุดโน๊ตและดินสอมาวาดรูปเล่นเหมือนที่ชอบทำบ่อยๆ...อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาไม่ว่างจนเกินไป

     

    “อ้าว จินฮวาน!”เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากข้างหลังทำให้จินฮวานต้องหันหลังไปองต้นเสียง

    “อ้าว แทฮยอน?”และเมื่อเขาหันไปก็พบเข้ากับเพื่อนสมัยมัธยมของตน

     

    “เฮ้ยยย มาเที่ยวอ๋อ???  เป็นไงๆๆๆ ไม่เจอกันตั้งนาน 3-4ปีเลย ตอนนี้เป็นนักเขียนดังแล้วหนิ~ ไม่ยอมมางานเลี้ยงรุ่นเลย”เพื่อนร่างสูงของจินฮวานว่าก่อนจะทรุดนั่งลงบนพื้นทรายข้างๆ

     

    “ป่าวๆๆฉันพึ่งซื้อบ้านแถวนี้อ่ะ กะจะมาอยู่ที่นี่เลย เบื่อโซล ที่ไม่ไปงานเพราะ...ขี้เกียจ555”ร่างเล็กตอบ

     

    “จริงดิ แล้วยังอยู่กะแฟนแกป่ะ?”

     

     

     

    “อ๊ะ...ฉันเลิกกับเขากันไปนานแล้ว  2ปีได้แล้วมั้ง”

     

    “หือ? อ่า... มิน่า ไม่เห็นมาให้รู้จัก ได้ยินแต่ว่ามีแฟนแล้ว”

     

    “อือๆ แล้วนี่มาไงวะ? พาหนุ่มที่ไหนมาอีกล่ะ 555

     

    “ไอ้บ้า! ก็มากับแฟนน่ะ ไปกินเบียร์กันป่ะล่ะ นั่งอยู่ที่บาร์ใกล้ๆนี้เอง”

     

    “เอาดิๆๆๆ อยากรู้จักคนที่จับคนอย่างแกอยู่หมัด 555555 เฮ้ย! อย่าถีบกันดิ!!

     

    “จะไปไม่ไป...”

     

    “ไปๆ แกเลี้ยงนะ”

     

    “ไอ้ - -+ เป็นนักเขียนดังแทนที่จะเลี้ยงเพื่อนฝูง”

     

    “ทีคุณนัมเป็นถึงเจ้าของร้านอาหาร5ดาว ยังไม่เคยเลี้ยงผมเลยนะ 555

     

    5555

     

    ทั้งสองคุยไปเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งเดินไปถึงบาร์เบียร์แห่งหนึ่ง บาร์ที่ถูกตกแต่งสไตล์อินเดียแดงดูชิคๆ พร้อมกับเพลงมันส์ๆที่เปิดเอาไว้ แม้จะไม่เท่าผับหรือคลับแต่ก็พอให้รู้สึกสนุกขึ้นไม่น้อย

     

    “ไหนวะ โต๊ะแก” จินฮวานถามคนที่พาตนมายังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มก่อน

     

    “พี่ๆ เอาCORONA มา 2... ”แทฮยอนสั่งก่อนจะหันมาตอบ “นั่งอยู่โต๊ะริมสุด หน้าสุด ติดกับเวทีอ่ะ”และหันไปคุยกับบาร์เทนเดอร์เรื่องเหล้าอะไรซักอย่าง

     

    ทันทีที่ได้คำตอบจินฮวานก็กวาดตามองไปตามที่เพื่อนบอกก่อนจะเจอกับโต๊ะที่แทฮยอนว่าก่อนจะพบกับคนที่ทำให้เขาขาอ่อนขึ้นมาเสียดื้อๆ..





    นั่นมัน...!

    ฮันบิน?

     

     

     

    ไม่ผิดแน่







     

    จินฮวานแทบจะหันหลังเข้าเคาน์เตอร์แทบทันที่เห็นว่าฮันบินหันมามองทางเขาราวกับรู้ยังไงอย่างงั้นว่าเขามองอยู่ก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ
      

    นี่ ฮันบินเป็นแฟนกับเพื่อนเขางั้นหรอ ทั้งโต๊ะนั่นมีแค่คนเดียวที่นั่งอยู่...

    เขารีบหันไปหาแทฮยอนก่อนจะโกหกออกไป พร้อมกับแกล้งหยิบมือถือออกมา

    “มีคนโทรมาว่ะ ออกไปคุยก่อนนะ”

    “อือๆ เดี๋ยวฉันไปนั่งที่โต๊ะก่อนแล้วกัน ”

    “อือ”

    จินฮวานรีบตรงไปยังประตูร้านทันที และเมื่อเดินออกมาก็รีบตรงกลับบ้าดยไม่ลืมจะส่งข้อความสั้นๆไปหาเพื่อนของตนที่ได้แลกเบอร์ไว้แล้ว

     

    ที่บ้านมีเรื่องด่วน ต้องกลับก่อนว่ะ

     

    ภาพของฮันบินยังคงติดอยู่ในหัวของเขา...และนั่นทำให้จินฮวานรู้สึกเหมือนรอยแผลในใจที่เขาฝังมันไว้กำลังปริช้าๆ

     

    ไม่ได้ล้นทะลักออกมาแต่มันกลับเจ็บหนืบไปหมด...

     

    โลกมันกลมขนาดนี้เลยรึไงนะ? แฟนแทฮยอนงั้นหรอ??

     

    เขาคิดว่าเขารู้แล้วล่ะว่าทำไมฮันบินถึงไม่เคยมางานแถลงเปิดตัวหนังสือของเขาซักครั้ง....หรือแม้กระทั่งมาให้เขาเห็นหน้า ก็แน่ล่ะ แทฮยอนน่ะ ดีจะตาย..เป็นถึงเจ้าของร้านอาหาร5ดาว เป็นลูกของเจ้าขอองโรงแรมชื่อดังของโซล รวยขนาดนั้น นิสัยก็ดี... เฟรนลี่มีสังคม

     

    ...ผิดกับเขาที่วันๆก็เอาแต่นั่งอยู่หน้าคอม คุยแต่กับเพื่อนที่สนิทจริงๆเท่านั้น

     

    ....ก็สมกันแล้วหนิ

     

    ยิ่งคิดมากมากไปเท่าไหร่ดูเหมือนว่ารอยแผลในใจก็เหมือนปริขึ้นเรื่อยๆ...

    ...ยิ่งคิดเจ็บ แต่เขากลับสั่งให้ตัวเองลบภาพฮันบินออกไปได้เลยแม้แต่นิด

     

    จินฮวานไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เขาแค่ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง อีกครั้ง โดยปราศจากเสียงสะอื้นหรือคำพูดใดๆ

     

     

    แค่เดินไปตามทางช้าๆโดยไม่รับรู้อะไร

     

     

     

    จริงๆ...เขาว่าเขาไม่ได้รู้สึกเกลียดหรือ เสียใจ แต่น้ำตานี้เป็นเหมือนเครื่องแสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเหงาและว้าเหว่แค่ไหนมากกว่า

     

    ทุกความรู้สึกที่กัดกร่อนเขามาตลอด2ปีถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตาจนหมด

     

    ความรู้สึกที่มีต่อฮันบินที่เขาพยายามจะปฏิเสธมันมาตลอด...

     

    แต่หลังจากจบวันนี้ไป...

    คิม จินฮวานคนนี้จะเข้มแข็งกว่าเดิม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ไปไหนมา? หายไปนานเชียว” ฮันบินพูดกับนัมแทฮยอนที่พึ่งเดินมาถึงโต๊ะ

     

    “เจอเพื่อนเก่าอ่ะ แต่เขามีธุระเลยกลับไปแล้ว เสียดาย ไม่งั้นจะพามาแนะนำให้รู้จัก คึ”

     

    “อ่าฮะ..”

     

    “เพื่อนฉันคนนี้น่ารักมานะ ตัวเล็กๆผอมๆขาวๆ โสดอีกต่างหาก ไม่รู้รอดมาได้ไง 555

     

                “อือ”ฮันบินยกเบียร์ของตัวเองขึ้นมาจิบเล็กน้อยก่อนจะฟังนัมแทฮยอนโม้เรื่องเพื่อนที่เจ้าตัวไปเจอมาไปเรื่อยๆโดยไม่ใส่ใจอะไรมากนัก

     

    “ว่าแต่นี้มิโนไปไหน?”

     

    “ไปเลื่อนรถมั้งเมื่อกี้เห็นมีคนมาบอกให้ไปอ่ะ ทำไมมันไปไม่ถึง5นาที คิดถึงแล้วหรอ?”

     

    “บ้าและ -///-

     

    “อิจฉาคนเป็นแฟนกันชะมัด เฮ้อ”

     

    นั่นแหละ...นัม แทฮยอนเป็นแฟนกับมิโน ไม่ใช่ฮันบินแบบที่จินฮวานเข้าใจ...

     

    “นายก็หาซักคนดิ รู้จักกันมา2ปี ไม่เห็นเคยควงใครซักคน”

     

    “เอาหน่า...”

     

    เช่นเดียวกับจินฮวาน ฮันบินไม่เคยคบใครนับตั้งแต่เลิกกับร่างเล็ก

     

    หลังจากวันนั้นเขาก็ทำใจอยู่นานทั้งๆที่เป็นคนบอกเลิกจินฮวานเอาแท้ๆ และนับตั้งแต่วันนั้นมันก็กลายเป็นว่าเขาเป็นคนชินชาไปแล้วที่จะไม่มีใครมาอยู่ข้างๆ พอใจที่จะอยู่คนเดียวมาตลอด

     

    มีเพียงคนเดียวเท่านั้นจริงๆที่ใจลึกๆของเขายังคงต้องการอยู่ แต่ฮันบินก็ทำได้แค่จับเอาความรู้สึกเหล่านั้นฝังลงไปยังส่วนที่ลึกสุดของหัวใจ ไม่ปล่อยให้มันเล็ดลอดออกมา

     

    เหลือไว้แต่ความทรงจำที่เบาบางลงไปตามเวลา....ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คิดถึงมันก็ทำให้ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

     

    หลายครั้งที่เขาถามตัวเองว่ารอจินฮวานอยู่รึเปล่า

    อาจจะใช่และไม่ใช่

     

    เขายังคงก้าวไปข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังพยายามหลอกตัวเองว่ามันคงจะมีซักวันจินฮวานจะกลับมาหาเขา หรือไม่ก็เป็นเขาเองที่กล้าพอที่จะกลับไปหาจินฮวาน

    ถึงแม้เขาไม่ได้ติดต่อกับจินฮวานอีกตั้งแต่วันนั้น แต่ก็พอได้ยินมาว่าจินฮวานกลายเป็นนักเขียนชื่อดังไปแล้ว

                   

    ฮันบินยกเบียร์ขึ้นจิบอีกเล็กน้อยก่อนจะหันไปเห็นเพื่อนของตนที่พึ่งเดินกลับเข้ามา

     

    “เมื่อกี้ฉันเห็นจินฮวานว่ะ”ซง มิโน รุ่นพี่ของฮันบินกระซิบ

    “จินฮวานฮยอง?”

     

    มิโนนั้นรู้จักกับจินฮวานมานาน ก่อนที่เขาจะรู้จักกับจินฮวานด้วยซ้ำ

     

    “อือ เห็นเดินงุดๆออกไปตะกี้ ทักไม่ทัน”มิโนว่าก่อนจะหันไปสนใจห้ามแทฮยอนที่กำลังจะสั่งเบียร์ขวดที่4แทน

     

    มาที่นี่งั้นหรอ?

     

    ฮันบินย้ายมาอยู่บ้านที่นี่ตั้งแต่เลิกกับจินฮวานได้เกือบครี่งปี บ้านที่นี่เป็นบ้านพักที่พ่อเขาซื้อไว้ตั้งแต่เขายังเด็ก

    ตอนนี้ฮันบินเป็นเจ้าของร้านอาหารทะเลชื่อดังของเมืองนี้ จริงๆจะบอกว่าเป็นของเขาก็ไม่ถูก เพราะที่นี่แม่ขอฮันบินเป็นเจ้าของ เขาแค่มาช่วยสานต่อจนมีชื่อเสียงขึ้นมาเท่านั้น

     

    ว่าแต่...จินฮวานมาแถวนี้จริงๆน่ะหรอ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    4วันผ่านไป...

    ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเหลือบมองไปยังนาฬิกาหัวเตียง

    นี่ก็เกือบ9โมงแล้ว

    ....จินฮวานลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะบิดตัวเล็กน้อยและตรงไปยังครัว

     

     

    ช่วงนี้เขารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว

    ดีกว่าสามสี่วันก่อนมากทีเดียวเลยล่ะ...

     

     

    จินฮวานเริ่มลงมือทำข้าวเช้าง่ายๆ

    จู่ๆก็มีเสียงเห่าของหมาใหญ่ลอดเข้ามาจากหน้าต่าง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมองออกนอกหน้าต่างไปยังบ้านข้างๆ....จะว่าไปเขายังไม่ได้ไปทักเพื่อนบ้านเลยนี่หน่า...

    และเมื่อคิดได้ดังนั้นร่างเล็กก็เริ่มวางแผนอะไรบางอย่างทันที

     

    บางทีเขาน่าจะทำสปาเกตตี้ิอร่อยๆซักจานไปแนะนำตัวบ้านข้างๆซักหน่อย ไหนๆก็ย้ายมาใหม่ทั้งที

    จินฮวานเหลือบมองไปยังตู้เย็นของตัวเองก่อนจะต้องถอนหายใจออกมา

     

    ให้ตายสิ เขาแทบไม่เหลืออะไรในตู้เลย

     

    ครั้งสุดท้ายที่ออกไปซื้อของก็อาทิตย์ที่แล้ว ไม่แปลกหรอกที่ของจะเกลี้ยงตู้แบบนี้

    ร่างบางรีบจัดการอาหารเช้าของตนก่อนจะเดินกลับไปยังห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้ิอ

     

     

    รอก่อนนะคุณเพื่อนบ้าน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กลิ่นหอมอ่อนของสปาเก็ตตี้ซอสครีมลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องครัว

     

    ฝีมือของจินฮวานไม่เคยตกแม้จะไม่ได้ทำอาหารแบบจริงๆจังๆมานานแล้วก็ตาม

     

    จินฮวานนำสปาเก็ตตี้มาจัดวางลงจานให้ดูสวยงาม ก่อนจะจัดการยกมันไปให้เพื่อนบ้าน ฝั่งซ้ายของบ้านหลังใหม่เป็นร้านอาหาร ดังนั้นเขาจึงมีเพื่อนบ้านแบบรั้วชิดกันเเค่บ้านเดียวเท่านั้น

    ในหัวของร่างเล็กพยายามนึกถึงคำพูดแนะนำตัวสารพัดอย่าง ในขณะที่ขาเรียวก้าวจนมาถึงหน้าประตูของบ้านข้างๆแล้ว

     

    จินฮวานรวบรวมสติเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกดกริ่งที่ติดอยู่หน้าประตูเบาๆ

    ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมาประตูไม้ของบ้านหลังนี้ก็ถูกเปิดออก

    "อันยองครับ...อ้าว จินฮวาน?"

     

    และนี่เป็นอีกครั้งที่จินฮวานพบกับเพื่อนเก่าอย่างเหนือความคาดหมาย... ครั้งนี้เขาได้เจอกับซง มิโน รุ่นพี่สมัยมหาลัย

     

    และคนตรงหน้าก็ทำให้เขานึกถึงใครอีกคนขึ้นมาอีกแล้ว

    มิโนกับฮันบินมักจะชอบแอบไปทำเพลงด้วยกันบ่อยๆตอนที่ทั้งสองคนยังอยู่มหาลัย

     

     

    "อะ..อันยอง^^ ผมพึ่งย้ายมาอยู่บ้านข้างๆน่ะ ไม่นึกเลยนะว่าฮยองนี่เองที่เป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของผม ฉันทำสปาเก็ตตี้มาด้วย...."

     

    "อันที่จริง..ฉันไ..."

     

    "มิโน! ใครมาน่ะ?"เสียงของใครบางคนที่คุ้นเคยอย่างประหลาดดังขึ้นขัด

     

    "เอ่อ...เพื่อนบ้านน่ะ"ทันทีที่มิโนพูดจบ จู่ๆก็มีร่างของใครปรากฏตัวขึ้น

     

     

     

    นัม แทฮยอน?

    แทฮยอนมาทำอะไรที่นี่????

     

     

    "จินฮวาน??"

     

    นัมแทฮยอน... เขามาทำอะไรกับรุ่นพี่สมัยมหาลัยของผมกัน

     

    "เข้ามาก่อนดิ.."

     

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้จินฮวานตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นอย่างว่าง่ายตาคำเชื้อเชิญของมิโน

    อาจจะเป็นเพราะคำถามว่า ซง มิโนกับนัมแทฮยอนเป็นอะไรกันล่ะมั้ง...

     

     

     

    "พวกนาย...เป็นอะไรกัน?"

     

    "หืม? อ่อ ใช่ นายยังไม่ได้เจอมิโนหนินะ อ่า..จะพูดไงดี มิโนเป็นแฟนของฉันเอง:)"

     

     

     

    แฟน?

    เเป็บนึงนะ... มิโนเป็นแฟนกับแทฮยอน?

    แล้วฮันบินที่เขาเจอวันนั้นล่ะ???

     

     

     

    วันนั้นจินฮวานมั่นใจว่าเขามองไม่ผิดแน่ๆ

     

    "แล้วคนที่บาร์วันนั้น?"จินฮวานหลุดปากถามออกไปโดยลืมนึกไปว่ามีใครอีกคนกำลังยืนฟังอยู่

     

    ดูเหมือนว่ามิโนพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้แล้ว..

     

    ที่แน่ๆ จินฮวานยังชอบ...ไม่สิ..รักฮันบินแน่ๆ

     

    "อ๋อ...คนนั้นชื่อฮันบิน...เพื่อนของมิโนเขาน่ะ เขามา..ฮืม? อะไรมมิโน?"

     

    "เปล่าๆ เออใช่ ฉันกับจินฮวานน่ะ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันสมัยมหาลัยด้วยแหละ โลกกลมเน๊อะ?"มิโนเอ่ยขัดขึ้นมา

     

    "จริงหรอจินฮวาน?"

     

    "อะ..อือ"

     

    "แล้วนั่นสปาเก็ตตี้? เห้ย! มากินด้วยกันป่ะล่ะ??? ฉันกำลังจะทำอาหารเที่ยงพอดี"

     

     “อ..อะ ก็ได้...มั้ง”ร่างบางว่าก่อนจะส่งยิ้มแกนๆให้ทั้งสอง

     

    จินฮวานมองไปรอบๆภายในบ้านที่ถูกตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ... ดูคล้ายกับบ้านของจินฮวานที่อยู่ถัดไปอย่างบอกไม่ถูก...

    และบ้านหลังนั้นจินฮวานก็ตกแต่งตามห้องชุดเดิมที่เคยอาศัยอยู่เมื่อ 2ปีก่อน...

     

    ร่างเล็กเลือกจะมองข้ามความคิดนั้นไปก่อนจะวางสปาเก็ตตี้ของตนไว้บนโต๊ะอาหารกลางห้องรับแขก เดินไปนั่งลงบนโซฟาและหันไปมองมิโนกับแทฮยอนที่เดินไปคุยกันไม่ไกลมาก ก่อนจะรีบเดินมาหาเขา

     

    “จินฮวานนายตามสบายนะ ฉันขอไปดูอาหารเที่ยงแป็บ มิโน!นายมาอยู่เป็นเพื่อนจินฮวานก่อนมา”


    ว่าแล้วคนร่างสูงก็เดินมานั่งตามคำบอกของแฟนตัวเองทันที

     

    “..ฮยองคบกับแทฮยอนมานานแล้วหรอ?”เป็นจินฮวานที่เริ่มเปิดประเด็นพูดก่อน

     

    “ก็ราวๆเกือบ2ปีเห็นจะได้ครับ”

     

    “อ่อ~

    .

    .

    .

    .

    “เมื่อไหร่จะกลับไปหาไอ้ฮันบินล่ะ?”จู่ๆมิโนก็เอ่ยขึ้นมา

    “....!!!

    “แค่มองก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนคิดอะไร ปากแข็ง ใจแข็ง ทนเจ็บกันไปทั้งสองล่ะฝ่ายแบบนี้ให้อะไรเล่า?”

     

     

    นั่นสินะ...แต่เพราะรู้ว่าทั้งสองคนคิดอะไรนั่นสิ มันเลยยากมากขึ้น

    เพราะต่างคนต่างกลัว

    “ไม่รู้หรอกนะ ว่านายกับเจ้านั่นกลัวอะไรกัน แต่นี่มันก็ผ่านมาตั้ง2ปีแล้ว ถ้าไม่คิดจะกลับมาคบกัน ก็ลืมๆกันไปซะดีกว่า ปล่อยกันไปซักที ถ้ามัวแต่รอกันไปรอกันมาอย่างงี้นายกับฮันบินก็ก้าวต่อไปไม่ได้หรอก เลิกเอาตัวไปผูกไว้กับอดีตพวกนั่นได้แล้วล่ะ”

    “....”

    “พี่เป็นแค่คนอื่น แต่อยากเตือนพวกแกด้วยความเป็นห่วง ฉันไม่รู้หรอกว่านายกับมันทะเลาะไรกัน ถึงได้เลิกกันทั้งๆที่ยังรักกันขนาดนี้ แค่มองก็เห็นไปถึงไหนถึงไหนแล้ว แต่ก็จะยังทรมานตัวเองกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพื่ออะไรกันวะ เอาแต่หนีกันไปเรื่อยๆ ชาตินี้ทั้งนายแล้วก็มันได้ตายไปพร้อมความเจ็บปวดกับบาดแผลในใจนั่นแหละ...”

     

     

     

    “...นั่นสิ บางครั้งผมก็อยากทำอย่างนั้นนะ”ร่างเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

     

    “ฮึ?”

     

    “...แต่พอนึกถึงวันที่ผมกะฮันบินเหมือนจะหมดรักกันแบบนั้น เจ็บแบบนี้มันยังดีซะกว่า โอเค! ฉันรักคิมฮันบินคนนั้นมาก มากเท่ากับชีวิตเลยด้วบซ้ำ ไม่สิบางทีมากกว่าด้วย... เขาเคยเปรียบเหมือนโลกทั้งใบของผม แต่สุดท้ายเราไปกันไม่ได้หรอก... ผมเลิกกับเขามาสองครั้งแล้วนะ! ผมไม่อยากกลับไปเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว “

     

    จินฮวานพูดออกมาก่อนที่น้ำตาจะไหลออกจากดวงตาคู่สวยอีกครั้ง

     

    “แล้วนายไม่คิดว่าฮันบินกำลังเจ็บบ้างหรอ? ตอนนี้เขาก็ทำได้แค่มีชีวิตไปวันๆและเฝ้ามองนายมีความสุข มีความทุกข์อยู่จากที่ไกลๆแบบนั้น”

     

    “....พี่น่ะ..ไม่เข้าใจอะไรซักนิด”

    “พี่ว่านั่นแหละที่ไม่เข้าใจ หัดคิดอะไรน้อยๆ แล้วทำตามที่หัวใจของตัวเองบ้างเถอะ จินฮวานอา”

     

    “...ก็เพราะรักมาก ถึงได้กลัวมากไงล่ะ...ฮึก”

     

    “...”

     

     

     

    ร้องไห้อีกแล้ว

    อ่อนแอจังนะ คิม จินฮวาน...

     

     

     

    จินฮวานลุกขึ้นและรีบตรงไปยังทางออกจากกบ้าน

     

    มือเรียวคว้าลูกบิดประตูเย็น บินเปิดมันเบาๆก่อนจะต้องชะงักเมื่อเจอกับร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่ที่ประตู

     

    ....คนที่แค่สบตาก็ทำให้ของเขาใจอ่อนยวบ

     

    แค่วินาทีเดียวเท่านั้นที่ผมสบตากับคนคนนั้นก่อนที่จะโดนกระชากเข้าไปในอ้อมกอดที่ทั้งคิดถึงและโหยหา..ง

     

    และนั่นก็ป็นวินาทีที่จินฮวานได้รับรู้ว่าเขาคิดถึงฮันบินมากกว่าที่เขาคิดไว้เยอะทีเดียว

    คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือ คิม ฮันบิน ตัวเป็นๆ

     

     

     

     

    หัวใจของจินฮวานเต้นรัวจนเกือบจะหยุดนิ่ง

     

    “ใครอนุญาติให้ฮยองร้องไห้เพราะผมกัน? หืม? ฮยองต้องมีความสุขสิ...”ฮันบินพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอบอุ่นแต่กลับดูรวดร้าวในขณะเดียวกัน

     

    “...ขอโทษ”

     

    “ผมขอโทษ...เมื่อวันนั้นผมคิดอะไรไม่ออกจนสุดท้ายเลยเลือกจะบอกเลิกฮยองไป ผมคิดถึงฮยองนะ...ถ้าฮยองหายกลัวเมื่อไหร่...ผมจะรอตรงนี้เสมอ”

     

    “...”

     

     

     

     

    “ตลอดไป...เพราะคิม ฮันบินคนนี้เป็นของคิมจินฮวาน แค่คนเดียว”

     

     

     

     

    จินฮวานปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของฮันบินอีกพักใหญ่ก่อนที่อ้อมกอดจะถูกคลายออก

     “ขอเวลาฉันหน่อยนะ ฮันบินอา อีกไม่นาน...ฉันจะมาหานาย..”

    จินฮวานพูดเบาๆกับฮันบินก่อนจะเดินกลับไปที่ที่ของตน

     

     

     

    ...อีกไม่นาน เราจะได้เจอกันอีก

     

     

     

     

     

     

     

     

    บางทีความรักก็เป็นเรื่องของเวลา

    ปล่อยให้เวลาได้เยียวยาบาดแผลจนหายสนิท

    .       ...จนกว่าคุณจะพร้อมที่จะรักใครได้อีกครั้ง

    บางทีเวลานั้นสำหรับบางคนอาจจะมาถึงเร็ว

    แต่สำหรับบางคนอาจจะนานแสนนาน

    และบางคน ชั่วชีวิตของเขา....

    การลบความรู้สึกกลัวที่จะรักออกไปไม่ใช่เรื่องง่าย

    แต่หากคุณยังกลัวที่จะรักอยู่แล้วล่ะก็ คุณก็ไม่สามารถก้าวไปกับคนรักของคุณได้อย่างมั่นใจหรอก

    ณ ช่วงเวลาหนึ่ง...

    คุณจะเป็นคนค้นพบมันเอง...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เฮ้...เอ่อ..ฉัน..ฉันกลับมาหานายแล้วฮันบิน นายยังรอฉันอยู่รึเปล่า?”

     

     

     

    Talk

    มาต่อให้แล้วนะ J

    เรื่องนี้หน่วงรุนแรง 55

    รอโมเม้นก่อนนะทุกคน เราจะมาแบบใสๆให้ #เป็นบุคคลที่ต้องมีโมเม้นก่อนถึงจะมีฟีลแต่งมุ้งมิ้ง

    ช่วงนี้คู่อื่นเขามาแรงส์...TT

    นี่ก็กบฎไปวันละหลายรอบ #แหม่ .______.

    ถ้าบีจินยังไม่คัมแบ็คเร็วๆนี้เกรงว่าเรื่องหน้าที่ทุกคนได้อ่านกันน่าจะเป็นจุนจิน 55555 #ขำๆนะคะทุกคน เรายังยึดมั่นถือมั่นในลัทธิบีจินเสมอว์

    ใครชอบอ่านงานเราเม้น/ติดแท็กด้วยนะ :D #StepOfBJIN










     

     

    ขอพื้นที่ฝากฟิคโปรเจ็คนิดนึง อิอิ

    ชื่อว่า THE PRISON PROJECT

    เเค่ชื่อเรื่องก็บอกเเนวเเละ 555 เป็นเเนวดาร์กๆนะคะะะะ

    จะมาให้ติดตามเร็วๆนี้

    อัพตอนเเรกวันที่25 นะเคิ้บบบบ

    บีจินจะมาเป็นคู่ที่สอง  ส่วนคู่เเรกอะไรยังไงโปรดติดตาม






    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×