คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [OS] BJIN - LONG TIME NO SEE [SWEET]
LONG.TIME.NO.SEE
at least we did intend
จินฮวานสัมผัสได้ถึงเหงื่อออกมาเต็มมือของตัวเอง
รวมถึงร่างกายที่สั่นน้อยๆด้วยความประหม่า
มือของผมที่กำลังกำพวงมาลัยดูจะลื่นกว่าปกติจนตัวเองรู้สึกรำคาญ
การเจอคิมฮันบินอีกครั้งในรอบหลายปีมานี้ยังคงทำให้ผมตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่น ทั้งๆที่เวลาควรจะทำให้ความรักจืดจางไปแล้ว
ตลอดเวลา4ปีที่ ฮันบินไปเรียนต่อ ผมไม่ปฏิเสธว่าคิดถึงฮันบินอยู่บ่อยๆ
ผมกับเขา เราเป็นแฟนกันอยู่หลาบปีก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยการตัดสินใจของตัวเอง ไม่ได้มีใครบังคับ
และผมก็เคยคิดจะห้ามเขา
หลายคนบอกว่าคนเราต้องเผชิญกับเรื่องราวแย่ๆบ้างในบางจังหวะชีวิต และผมว่าการที่ฮันบินไปเรียนต่อเป็นจุดย่ำแย่หนึ่งของผม
ผมกับฮันบินติดต่อกันบ้างในช่วงแรกๆก่อนจะพบว่านั่นไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราดีขึ้น
ซ้ำกลับยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกยึดติดกับอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก
ผมกำลังเรียนอยู่ปี4 เเค่งานที่มหาลัยก็แทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ แถมยังต้องไปทำงานพิเศษอีก เรียกได้ว่าเเค่เวลานอนยังไม่มี
จะเอาเวลาไหนไปคุยกับฮันบินที่นานๆก็จะว่างตรงกัน
สิ่งที่สำคัญคือ ความรักจะงดงามเมื่อได้รับการดูแล แต่ในเมื่อระยะทางที่ห่างไกลทำให้เขาไม่สามารถทำมันได้อีกแล้ว ความรักก็เหี่ยวเฉาลงได้อย่างง่ายดาย
ผมยุ่ง ผมเหนื่อย แต่ก็ยังเหงา....
รักแท้เเพ้ระยะทาง.....
นั่นคือเรื่องจริงที่สุด
หลังจากชีวิตรักดูจะทุลักทุเล สุดท้ายพวกเขาจึงถอยไปคนละก้าว
หลายคนมองว่ามันก็คือการเลิกกันนั่นเเหละ แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันเป็นการให้ตัวเองพักหัวใจบ้างมากกว่า
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการเลิกกับฮันบินแบบที่ต้องทะเลาะกัน ต้องเกลียดกัน โกรธกัน สุดท้ายผมจึงตัดสินใจที่จะพักมันไว้ก่อนจนกว่าจะถึงวันที่เหมาะสมจริงๆ
ผมกับฮันบินติดต่อกันบ้าง ส่วนใหญ่จะเเค่เเชทกันเท่านั้นเพื่อให้รู้ความเป็นไปของกันเเละกัน ลดความสัมพันธ์กลับไปเป็นคนสนิทมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ให้พื้นที่ว่างระหว่างกัน ได้ไปเจอสังคมใหม่ๆและคนที่หลากหลายมากขึ้น เปิดโอกาสให้คนใหม่ๆเข้ามาทำความรู้จักตัวเอง
แต่แน่นอนว่าไม่มีใครมาแทนที่ฮันบินได้
เพียงเเต่ผมเลือกที่จะมองข้ามตัวตนของฮันบินไปปและก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปเรื่อยๆเท่าที่จะมีได้เท่านั้นเอง
มันไม่ใช่ว่ารอหรือไม่รอฮันบิน แต่ผมกำลังลองที่จะใช้ชีวิตแบบไม่มีฮันบินดูต่างหาก และก็ทำมันได้ด้วย
ถึงแม้มันจะดีกว่าเมื่อมีฮันบินก็เถอะ
ผมขับรถตามป้ายบอกทางไปยังสนามบินอินชอนตามที่ได้นัดหมายเวลาเอาไว้พลางองนาฬิกาของรถ
เหลืออีกราวๆ10นาทีเท่านั้น จะถึงเวลาแลนดิ้ง คงเพราะวันนี้รถมากกว่าปกติถึงทำให้ผมมาถึงช้ากว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้
ผมหาที่จอดรถอย่างไวก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกฟอร์เก็ตมีน็อทช่อเล็กๆที่แวะซื้อมาขึ้นมาถือไว้ในมือ
จริงๆความหมายมันไม่ได้เข้าท่าสำหรับการต้อนรับใครซักคนกลีบบ้านเท่าไหร่หรอก เพียงเเต่มันเป็นดอกเดียวกับที่ฮันบินให้ผมไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางไปเท่านั้นเอง
ผมเดินไปตามทางเชื่อมเข้าสนามบินที่พุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย
ความสุขที่เอ่อล้นในหัวผมทำให้บรรยากาศดูสดใสไปซะหมด
ผมเดินไปยังเกตที่ฮันบินบอกมาในแชทก่อนจะมุ่ฃหน้าตรงไป ก่อนที่มันจะพาเขามาเจอกับครอบครัวของฮันบินที่ยืนอยู่เเถวนั้น
ทั้งพ่อเเม่เเละน้องสาวตัวเล็กของฮันบิน
“แม่... จินโอปป้ามา” น้องฮันบยอลพูดก่อนจะเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของคุณแม่ไว้
“อันยองครับคุณแม่”ผมพูดพลางทักทายตามปกติ เมื่อก่อนผมค่อนข้างสนิทกับครอบครัวฮันบินมากทีเดียว เข้าออกบ้านของฮันบินเป็นประจำ
“อ่า มารับฮันบินด้วยหรอเรา? เห็นหายไปนานเชียว”คุณแม่ฮันบินพูดก่อนจะระบายยิ้มที่อบอุ่นให้ผม
“ครับ พอดียุ่งๆ ผมพึ่งเริ่มทำงานน่ะครับ แต่เห็นฮันบินแชทมาว่าจะกลับเลยมา”
“อ่อ มานั่งด้วยกันไม๊ ดูเหมือนเครื่องน่าจะลงช้ากว่ากำหนดนิดหน่อยนะ”
ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรจู่ๆน้องฮันบยอลก็ปล่อยคุณแม่และวิ่งตรงไปยังทางที่ผู้โดยสารเดินออกมา
เพียงแค่ผมหันหลังไปก็เจอกับคนที่ผมกำลังรออยู่
คิม ฮันบิน
ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นมองคุณแม่ ครอบครัว และเพื่อนๆเดินไปกอดฮันบินทีละคนพร้อมทักทายกันอย่างคิดถึง
ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นและกำช่อดอกไม้ไว้แน่นกับหัวใจที่เริ่มเต้นดังขึ้นเรื่อยๆ
ฮันบินดูเปลี่ยนไปมากทีเดียว ฮันบินสูงขึ้นเยอะ แถมผมของเขายังเป็นสีแดงอีกต่างหาก ที่เด่นชัดที่สุดคงจะเป็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขที่ได้อุ้มน้องสาวไว้อีกครั้งล่ะมั้ง
ผมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะรวบรวมความสติของตัวเองที่กระเจิงหายไปก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ฮันบินเรื่อยๆ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เขาหันมามองหน้าผม ผมลึกเข้ามาดวงตาโดยไม่พูดอะไรก่อนจะวางฮันบยอลลงกับพื้นและเดินเข้าใกล้ผมอีก
ผมรู้สึกได้ถึงความคิดถึงที่เขาส่งมาผ่านสายตาคู่นั้น
เพียงไม่เสี้ยววิต่อมาผมก็พบว่าตัวเองถูกฮันบินกอดเอาไว้แน่นๆซะแล้ว
“คิดถึงผมล่ะสิ หึ?”
“ใครจะไม่คิดถึงกัน ไม่เจอตั้ง 4 ปี” ผมพูดก่อนจะปาดน้ำตาที่เริ่มไหลมาตอนไหนไม่รู้ออกจากหางตาในตอนทื่เขาคลายอ้อมกอดออก
“โอ๋ ไม่เอานะตัวเล็ก กลับมาแล้วไง..”
“อือ...”
“จะไม่ไปไหนแล้วครับ J ”ฮันบินพูดก่อนจะชูนิ้วก้อยขึ้นมาและจับมือผมขึ้นมาทำสัญญาเกี่ยวก้อยกันเหมือนที่เด็กเล็กๆชอบทำกัน
“ผมสัญญา”
Talk
ขอมาสั้นๆ แต่นี้เพราะอารมณ์ชั่ววูบล้วนๆ 555
คงเพราะนั่งฟัง Long time no see มากไป TT
ตอนนี้กำลังพิจรณาเรื่องแต่ง DAY DREAM 3 หลังจากมีคนหลังไมค์มารีเควสเยอะ 55
เอาเป็นว่าเรามาลุ้น M&M กันก่อนเถอะ
มารอผลไปด้วยกันนะ ._____. !
OT6
ความคิดเห็น