ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {SF/OS} IKON/WIN by KIWI's [NOW::BJIN]

    ลำดับตอนที่ #1 : BJIN - LOVE AT FIRST SIGHT [COMEDY]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 57



    = my first bjin fiction =


    “Love life, live your best life.” 
     
    LOVE AT FIRST SIGHT




     
    ***รอEDIT คำผิด***


    LOVE AT FIRST SIGHT




    ชายหนุ่มสัญชาติเกาหลีคนนึงกำลังเดินเข้าไปใน Regent Park สวนสาธารณะใจกลางกรุงลอนดอนเมืองหลวงของสหราชอาณาจักร

    เขาว่ากันว่าสวนแห่งนี้สวยที่สุดในลอนดอนแล้ว

    ร่างหนาทิ้งเป้สีครีมลงบนพื้นหญ้าโดยไม่กลัวว่ามันจะเปื้อน ก่อนจะถอดเสื้อโค้ตของตัวเองออกวางลงบนพื้นข้างๆต้นซากุระต้นใหญ่

    คิม ฮันบิน ค่อยๆหลับตาลงช้าๆก่อนจะพ่นลมหายใจด้วยความเซ็ง

    จริงๆเขาควรจะกลับบ้านไปนอนพักหลังจากเรียนที่มหาลัยเสร็จมาสดๆร้อนๆ แต่เมื่อตอนเช้าดันลืมเอากุญแจบ้านออกมาจากบ้าน แล้วไอ้คุณรูมเมทตัวดีก็ดันไปหาเพื่อนถึงแคมบริชอีก2ชม.ถึงจะกลับ

    คอนโดของเขาอยู่ใจกลางเมือง ในขณะที่คนอื่นๆที่เขาสนิทมันจะพักอยู่โซน 2-3กัน... ถ้าจะให้ไปนั่งเล่นบ้านคนอื่นก็กว่าจะไปกว่าจะมาก็เสียเวลาด้วย เหนื่อยอีกต่างหาก

    ส่วนถ้าจะให้ไปนั่งร้านกาแฟก็ดันลืมเอาเงินมาจากห้องนอน เพราะนึกว่าจะไปเรียนอย่างเดียวเลยเอาเงินไปแค่ 20 ปอนด์ ตอนกลางวันก็ดันไม่เจียมไปกินร้านนอกมหาลัยโดนไปเกือบ 18 ปอนด์

    ตอนนี้ร่างสูงเหลือเงินติดตัวอยู่แค่เหรียญสองปอนด์กับเศษเหรียญเพนอีก 3-4เหรียญเท่านั้น

    ฮันบินเลยตัดสินใจที่จะมานั่งเล่นมือถือที่สวนสาธารณะที่ห่างจากห้องพักป้ายบัสนึงแทน

    โชคดีที่วันนี้พอจะมีแดดอยู่บ้าง ถึงจไม่ถึงกับว่าแดดดีอะไรมากมายแต่ก็ดีกว่าต้องทนนั่งหนาวคนเดียว

    ปกติเขานั้นแทบจะไม่เคยมานั่งชิลที่พาร์คเหมือนที่ชาวลอนดอนส่วนมากทำกันเป็นประจำ

    ฮันบินมาเรียนที่นี่ได้ปีกว่าแล้ว เขามาเพื่อนเรียนทำเพลงด้วยทุนการศึกษาบ้าๆบอๆอะไรซักอย่าง เอาจริงๆเขาไม่ค่อยแคร์เรื่องทุนหรอก ครอบครัวของเขามีแผนจะให้เขามาเรียนที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วหากแต่ให้เขาไปลงชิงทุนเผื่อติดจะได้มีโปรไฟล์มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าไม่ติดพ่อแม้เขาก็ควักตังค์มาจ่ายให้เขาอยู่แล้ว

    ก็แน่ล่ะ คิมฮันบินน่ะ เป็นถึงลูกของนักแต่งเพลงอันดับ1ของเกาหลีเชียว

                ..เขาค่อยๆหลับตาลงช้าๆกะจะพักผ่อนซักเล็กน้อยเพื่อคลายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน

    เมี้ยว~

    เสียงลูกแมวดังขึ้นในจังหวะที่ความมืดกำลังครอบคลุประสาทสัมผัส และเมื่อลืมตาขึ้นก็พบกับเงารางๆที่กำลังร่วงลงมาจากต้นไม้!

    เพียงแต่ว่าสิ่งที่ร่วงลงมานั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นแมวหลายเท่า และแน่นอนว่าหนักกว่าแมวด้ว

    เพราะมันคือคนน่ะสิ!

    ฮันบินมองร่างบางที่หล่นลงมาทับตนอย่างอึ้งๆ

    ร่างเล็กๆของชายหนุ่มคนนึงที่หน้าออกไปทางเอเชียอย่างชัดเจน หน้าตาคล้ายๆคนเกาหลีอยู่นะ....

    แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ประเด็น! เพราะตอนนี้ชายหนุ่มปริศนาหน้าอยู่ห่างจากเขาไม่ถึง 2นิ้ว

    ร่างผอมบาง ตัวเล็กๆ ผิวอันโคตรขาว ที่กำลังหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัวกับปากสีชมพูอ่อนๆ นั่นทำเอาเขาแทบหยุดหายใจเลยทีเดียว

    ตึกตัก....ตึกตัก...ตึกตัก...

    เสียงหัวใจของร่างสูงเต้นดังขึ้นมาอย่างเร็วและรัวโดยไม่สามารถควบคุมได้

    หอมจัง...

    o..h i..i’m sorry…”เสียงหวานๆของคนตรงหน้าดังขึ้นเรียกฮันบินออกมาจากภวังค์ของตัวเองด้วยสำนียงเปร่งๆเหมือนคนเอเชีย ก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้น

    no problem. Are you ok?” ร่างสูงว่าก่อนจะมองร่างเล็กไม่วางตา

    Yes yes I’m fine .”ว่าแล้วร่างบางตรงหน้าเขาก็รีบอุ้มแมวตัวสีขาวสะอาดที่นอนแผ่อยู่บนพื้นขึ้นมาอุ้มก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

    ...ทิ้งให้ฮันบินยืนมองตาค้างอยู่นานเลยทีเดียว

    เขาได้สติในอีกนาทีต่อมาก่อนจะทรุดนั่งลงที่เดิม และ นึกถึงร่างบางอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบมองไปรอบๆและพบเข้ากับจดหมายฉบับหนึ่งที่ตกอยู่บนพื้น

    ของคนคนนั้นงั้นหรอ? ฮันบินเก็บจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาก่อจะจ้องมันซักพักและในที่สุดก็ตัดสินใจคลี่จดหมายออก...

    ภาษาเกาหลี?

    น่าแปลกนะที่จู่ๆก็มาเจอคนเกาหลีในสถานการณ์แบบนี้

    เนื้อหาคร่าวๆของมันไม่มีอะไรมากไปกว่าจดหมายจากเพื่อนธรรมดาๆ ไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับคนที่เขาเจอนอกจากชื่อ

    คิมจินฮวานคือชื่อของชายคนนั้น

    สงสัยเขาจะได้มาที่นี่บ่อยๆซะแล้ว

     

     
     

                LOVE AT FIRST SIGHT

     

     

     

    คิม ฮันบินมาที่นี่เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว

    แต่ก็ไม่เจอเหมือนเดิมนั่นแหละ = =

    เขาเดินไปยังร้านค้าที่ตั้งอยู่ในพาร์กก่อนจะสั่งติมแท่งมากินเล่นๆ ตอนนี้ลอนดอนเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้วแล้ว แดดค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

    แต่ก็นะคนลอนดอนนะบ้าแดดยิ่งกว่าอะไร ช่วงนี้คนก็เลยเยอะกว่าอะไร ยั้วเย้ยไปหมดเผมือนกับมดตอมน้ำตาลเลยล่ะ

    โอกาศที่เขาจะได้เจอคนคนนั้นอีกน่ะน้อยยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรซะอีก

    สงสัยเขาจะต้องตัดใจซะแล้วล่ะมั้ง ยังไงตั้งแต่พรุ่งนี้เขาคงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว...

    เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เขาจะไปแคมป์กับพวกเพื่อนในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะเดินทางกลับไปเกาหลีในช่วงปิดเทอมในอีก3วันที่จะถึง

    น่าเศร้าเนอะ แต่นั่นแหละก็ดีแล้ว เขาจะได้ลืมๆคนคนนั้นไปซักที...

    หวังว่านะ

     

     

     

    LOVE AT FIRST SIGHT

     

     

     

    “เฮ~

    เสียงของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่เกือบ40คน นั่งรอบกองไฟ ชนแก้วเบียร์กันอย่างเมามันส์

    คนที่มาเข้าร่วมแคมป์ครั้งนี้นอกจากคนในมหาลัยของฮันบินแล้วยังมีคนจากอีกจากหลากหลายมหาลัยเลยทีเดียว ทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จักมาก่อน แคมป์นี้ตอนกลางวันต่างกลุ่มต่างเที่ยวกันกระจัดกระจายส่วนตอนเย็นๆกลางคืนถึงจะมาทำกิจกรรมร่วมกัน

    จริงๆแล้วมันก็เหมือนนัดบอดกลายๆนั่นแหละ และแน่นอนว่าสำหรับเขาแล้ววันนี้หลายคนสะดุดตาทีเดียว

    แต่คืนนี้...คงไม่ใช่คืนที่ดีสำหรับเขาที่จะเริ่มคุยกับใคร

    มะรืนนี้เขาจะต้องกลับเกาหลีแล้ว แถมคราวนี้กลับไปตั้งเกือบเดือน และเขาก็ไม่นิยมความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์อะไรพวกนั้นด้วย

    ดังนั้นคืนนี้คงไม่ใช่การเริ่มต้นที่ดีแน่นอน

    เขาเริ่มปลีกตัวออกจากกลุ่มช้าๆ ไม่ใช่เพราะอยากอยู่คนเดียวหรอกนะ แต่ดูเหมือนทุกคนจะเริ่มจับคู่กันแล้ว เขาไม่อยากอยู่เป็นเหยื่อให้เพื่อนเป็นแม่สื่อพ่อสื่อกันเท่าไหร่

    ร่างสูงเดินเล่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

    เสียงกีต้าร์เบาๆที่คลอด้วยเสียงหวาน

    มันดังมาจากริมลำธารเล็กๆที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแคมป์ที่พวกผมอยู่ เมื่อกลางวันพวกผมยังไปเล่นน้ำกันอยู่เลย ว่าแต่นี่มันก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว ใครจะยังไม่นั่งอยู่ตรงนั่นอีกล่ะ?

    ...ถึงแม้มันจะน่าขนหัวลุกอยู่นิดหน่อยแต่สุดท้ายแล้วฮันบินก็ตัดสินใจเดินไปตามเสียงที่ลอยมา

    แต่จู่ๆเสียงเพลงนั่นก็หยุดไปเสียดื้อๆและในอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีลูกแมวสีขาววิ่งมาหยุดที่ปลายเท้าของฮันบิน

    ร่างสูงมองมันอย่างงุนงงเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมา

    มันดูคุ้นๆนะ...

    “สโนว์...สโนว์...อยู่ไหนน่ะ? เฮ้ ออกมาเถอะ สโนว์ รู้งี้ปล่อยแกไว้หอก็ดีสิ สโนว์!” เจ้าลูกแมวตัวที่เขาอุ้มอยู่ร้องดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงของใครบางคนที่เขาคิดไม่ถึงว่าจะมาปรากฎที่นี่

    และแล้วร่างของใครบางคนที่ยังตรวตรึงอยุ่ในหัวของฮันบินก็เดินเข้าในระยะสายตา

    คิม จินฮวาน?

    หลังจากตามหามาเป็นอาทิตย์ๆจู่ๆจะมาเจอง่ายๆแบบนี้เนี้ยนะ?

    “อะ..อ่าว.. I’m sorry. Well… Is that my cat?”ร่างบางตรงหน้าเอ่ยถามเขาอย่างเขินๆพลางลูบต้นคอตัวเองไปด้วย

    เขาคงไม่รู้ว่านั่นทำให้ตัวเองยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่

    “พูดเกาหลีก็ได้ครับ ผมเป็นคนเกาหลี ลูกแมวตัวนี้ไม่รู้ของคุณรึเปล่า แต่ผมเห็นมันวิ่งมาเลยจับไว้”

    “อ่อ...ครับ ขอบคุณนะครับ คุณ...?”

    “ผมบีไอหรือจะเรียกว่าฮันบินก็ได้”

    “ผมจินฮวาน”

                ฮันบินกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนจู่โจมด้วยความรู้สึกประหม่าแปลกๆ.... มือเริ่มไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน แล้วนี่เขาแทบไม่ได้เซ็ตผมออกมาด้วยซ้ำ... สาบานได้ว่ามันต้องดูสะเหร่อมากๆแน่ๆ

                โอเค ... บางทีเขาอาจจะผิดไป....

                บางทีคืนนี้อาจจะเป็นคืนที่ดีสำหรับการเริ่มต้นกับใครบางคนก็ได้

    “มาแคมป์หรอ?”เขาเอ่ยถามไปเพราะในเขตอนุรักษ์วันนี้แค่กลุ่มผมเท่านั้นที่ค้างคืนที่นี่

    ก็ประมาณนั้นแหละ จริงๆคือโดนลากมากกว่า ฮ่าๆๆ

    “บังเอิญนะที่มาเจอคนเกาหลีที่นี่ มาเรียนต่อหรอ?”

    “จะว่างั้นก็ได้ ว่าแต่มาอยู่ที่นี่นานรึยัง?”

    “...ก็ราวๆปี2ปีได้แล้วล่ะมั้ง นายล่ะ?

    “ก็....เกือบ5ได้แล้วมั้ง...

    “เดือน?”

    “โนววว ปีต่างหาก”

    “จริงดิ? โหย มานานจัง มาอยู่ตั้งแต่ม.ปลายเลยสินะ”

    “อื้อ นานมากเลย คิดถึงบ้านสุดๆเลยล่ะ ครั้งสุดท้ายที่ได้กลับบ้านก็ตั้งเกือบ4ปีมาแล้ว”

    “ทำไมงั้นอ่ะ ปกติคนอื่นส่วนใหญ่ก็เห็นกลับกันทุกปีเลยหนิ”

    “ที่บ้านฉันมันวุ่นวายน่ะ บางทีกลับไปก็เหมือนอยู่คนเดียวอยู่ดี”

                “อ่อ...”

                “นี่ นายมาจากมหาลัยไหนอ่ะฮันบิน?”

                “ผมมาจาก มหาลัย A น่ะ ปี2แล้ว

    “งั้นหรอ... ฉันมาจากมหาลัยBน่ะ อยู่ปี4แล้ว~

    “จริงดิ? งั้นผมต้องเรียก ฮยองป่ะเนี่ย 555

    “ฉันไม่ถืออ่ะ อยากเรียกไรก็เรียกไปเหอะ”

    และหลังจากนั้นเขาสองคนก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่นานทีเดียว... จากที่ยินคุยกันก็เริ่มมหาที่นั่งคุยกัน นั่งคุยกันเรื่องเพลงที่ทั้งสองคนต่างก็ให้ควาสนใจเหมือนๆกันนานจนเมื่อพวกเขาเดินกลับมาที่แคมป์ คนส่วนใหญ่ก็นอนกับไปหมดแล้ว

    กองไฟและโต๊ะสำหรับงานปาร์ตี้ถูกเก็บกวาดไปเรียบร้อย รวมถึงผู้คนที่ต่างกลับเต้นท์กับไปหมดแล้วทำให้สถานที่นี้ดูร้างไปทันทีเมื่อเทียบกับเสียงอึกทึกก่อนหน้า

    “นี่ เราคุยกันนานขนาดนี้เลยหรอเนี้ย” จินฮวานพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

    “นั่นสิ... นี่พี่พักเต้นท์ไหนอ่ะ ให้ไปส่งป่าว?”

    “บ้า ไม่ต้องๆ อยู่ใกล้แค่นี้เอง” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ฮันบิน....

    “อ่า...งั้น good night ครับ”

    good night ฮันบิน”

                ในตอนที่จินฮวานกำลังหันหลังเดินจากฮันบินไปนั้นเอง จู่ๆอะไรก็มาดลใจเขาก็ไม่รู้ และก่อนที่ฮันบินจะได้ไตร่ตรองให้ดี เขาก็คว้ามือออกไปจับข้อมือของร่างเล็กๆนั้นไว้

                จินฮวานชะงักเท้าตัวเองเล็กน้อยก่อนจะหันมามองฮันบินที่รีบปล่อยมือจินฮวานเหมือนจับของร้อน

                “เอ่อ.....”

                “มีอะไรรึเปล่าฮันบิน?”

                โอเคบีไอ...กล้าๆหน่อยไหนๆก็ได้เจอพี่เขาทั้งที

                “คือ...พรุ่งนี้...ผมจะออกจากแคมป์ไปตั้งแต่เช้า...แล้วคงจะกลับลอนดอนไปเลย... ผมแค่...เอ่อ...อยากจะขอ..” ฮันบินรวบรวมควากล้าก่อนจะเอ่ยออกไป

                “เบอร์โทร?”

                สาบานได้ว่าฮันบินไม่ได้อยากจะเขินแบบนี้แต่รอยยิ้มของพี่จินฮวานมันน่า...รักเป็นบ้า แถมแก้มขาวๆที่เริ่มมีรอยแดงๆขึ้นมานั่นอีก

                “ดูออกง่ายจังนะเด็กน้อย จะจีบฮยองหรอ? ฮ่าๆๆ” จินฮวานพูดเสียงใสก่อนจะเดินกลับมายืนใกล้ๆฮันบินอีกรอบและเอื้อมมือไปขยี้หัวฮันบินเบาๆ

                “...แล้วให้ผมได้ไม๊ครับ?”

                “คิดว่าได้ป่ะล่ะ?” จินฮวานพูดก่อนจะถอยหลังกลับไป2-3ก้าว ส่งยิ้มทะเล้นให้ฮันบินก่อนจะหันหลังกับไปทางเดิมและเริ่มวิ่งเหยาะๆกลับเช้าเต้นท์ของตนไป ทิ้งฮันบินให้ยืนนิ่งแบบงงๆ

                “..สงสัยจะแห้วว่ะ”ฮันบินพูดกับตัวเองเบาๆ

                ร่างสูงเดินไปเรื่อยๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ และเมื่อเขาเดินมาถึงเต้นท์ตัวเองก็เข้าไปเงียบๆและทรุดนั่งลงที่นอนของตัวเอง

                “เฮ้ย บีไอ?”เสียงของบ๊อบบี้ รูมเมทของเขาดังขึ้น ทำให้ฮันบินต้องหันไปมองบ๊อบบี้อย่างงงๆ

                ทำไมเฮียบ๊อบแม่งต้องทำหน้างั้นวะ

                “มึง...ใครเอาโพสอิทมาแปะหัวมืงวะ? ฮ่าๆๆ”

                “ห้ะ??”

                โพสอิท? ที่หัว?

                ฮันบินเอื้อมมือไปลูบหัวตัวเองเบาๆก่อนจะสัมผัสได้ถึงกระดาษแผ่นเล็กๆที่ติดอยู่บนหัวตัวเอง เขาหยิบมันออกมาก่อนจะหยิบมาอ่าน

                Jinhwan 07X-XXX-XXXX  J

     

     

                ขอประมวลผลแปป

     

                1…

     

                2….

     

    3…

     

    ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

                ฮันบินได้เบอร์พี่จินฮวานแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    LOVE AT FIRST SIGHT

     

     

    SPECIAL - Kim jinhwan’s side

                คิม ฮันบินเป็นเด็กโง่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองป๊อปขนาดไหน

                ขนาดที่ถึงแม้จินฮวานที่ไม่ค่อยได้สนใจใครเท่าไหร่ยังพอจะรู้จักชื่อและหน้าตาของฮันบินมาบ้าง

                แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้ไปหลงไหลคลั่งไคล้อะไรฮันบินมากขนาดนั้น จนกระทั่งวันที่เขาแอบโดดเรียนไปนั่งเล่นที่พาร์ก

                วันนั้นเขาดันหอบเอาเจ้าสโนว์แมวขี้ตกใจของเขาไปด้วยโดยลืไปว่าไอ้ตัวยุ่งนั้นโดนอะไรนิดอะไรหน่อยจะตกใจจนวันนั้นปีนหนีเสียงหมาเห่าขึ้นไปติดอยู่บนต้นไม้ ลำบากเขาต้องปีนขึ้นไปลากมันลงมา

                แต่เผอิญก็ลืมไปว่าตัวเองก็ปีนต้นเก่งมากเลย...ปีนเก่งจนตกลงมาซะได้

                ถึงแม้ต้นไม้จะไม่สูงมาก แต่ตกลงมาก็น่าจะเจ็บเอาการอยู่ถ้ามีฮันบินผู้โชคร้าย นอนเล่นอยู่ตรงที่เขาตกลงไปพอดี

                เขาจำฮันบินได้ตั้งแต่แรก และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กนี่ถึงได้ดังในหมู่นักเรียนมากนัก ถึงแม้จะเป็นคนเอเชียในหมู่ฝรั่ง

                เด็กคนนี้อะไรที่ทำให้คิมจินฮวานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กมัธยมที่พึ่งตกหลุมรักครั้งแรกจริงๆ

                เขาเองไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกยังไงกับฮันบินกันแน่ แต่เด็กนั่นก็ทำให้เขาต้องมาแอบนั่งอยู่ที่พาร์กทุกวันเพื่อมองฮันบินที่มานอนที่เดิมทุกๆวัน

                ฮันบินคงจะชอบมาที่นี่มาก ถึงได้มาทุกวันเวลาเดิมๆอย่างงี้

                จนกระทั่งเขาได้ยินฮันบินคุยโทรศัพท์เรื่องแคป์ของนักศึกษาที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไปด้วย ทำให้จินฮวานถึงกับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

                ก็เพื่อนของเขามันลากเขาไปแคมป์นี่ด้วยน่ะสิ

                แค่นั้นก็ทำให้จินฮวานนั่งนับวันรอที่จะได้ไปเลยทีเดียว

                จริงๆพอเขามามันก็น่าผิดหวังนิดหน่อย เพราะดูเหมือนฮันบินจะมัวแต่เฮฮากับเพื่อนๆจนไม่ได้มองเห็นเขาเลย ทั้งๆที่พยายาหาเรื่องไปเดินแวบๆให้ผ่านตาบ้างแล้วแท้ๆ

                จนเขาแทบจะถอดใจไปแล้วด้วยซ้ำ ถึงขั้นหนีปลีกวิเวกไปนั่งเซ็งคนเดียวที่แถวริมลำธารในค่ายเลยล่ะ

                แต่ในที่สุดดูเหมือนพระเจ้าก็เริ่มจะเข้าข้างเขานิดๆ เพราะเจ้าสโนว์ดันวิ่งไปหาคิมฮันบินซะได้

                สงสัยกลับไปจะต้องซื้ออาหารดีๆให้มันกินซะหน่อยซะแล้ว

                ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่าน่ะ ตกหลุมรักไอ้เด็กนี้เต็มๆเลย #เขินแปปครับ

     

     

                จบเถอะครับ -//////////////-

               

     

     

    END


     

    จบแล้วกะฟิคบีจินเรื่องแรกของกีวี่

    แต่งเล่นๆ กากๆหลังจากวางปากกาไปเป็นปี...

    และคงจะมีเรื่องต่อๆไป....มั้ง 555

    เรื่องนี้ดองพล็อตไว้....ประมาณปีกว่าๆๆๆๆ....ในที่สุดก็ได้แต่งซะที

    มารอทีมบี...และไอคอนไปด้วยกันนะ..!

     
     
    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×