คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ 1.1
บทนำ
“อีข้าวทางนี้”
เสียงแหลมระดับแปดสิบเดซิเบล ไม่ทำให้พาขวัญที่กำลังสอดส่ายสายตาหากลุ่มเพื่อนสนิทท่ามกลางแสงวิบวับของไฟดิสโก้ได้ยิน แต่เป็นเสื้อสีเขียวสะท้อนแสงของคนเรียกต่างหากที่สะดุดตา และเป็นเข็มทิศให้ร่างแบบบางเดินลึกเข้าไปยังโซนวีไอพีด้านใน
“โทษทีนังนุ ทุกคน พอดีฉันต้องเข้าประชุมแทนเจ้านายที่ติดธุระด่วน กว่าจะออกจากบริษัทก็เกือบค่ำแล้ว ไหนจะฝ่ารถติดไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดฯ แล้วไหนจะฝ่ารถติดมาที่นี่อีก”
พาขวัญรีบขอโทษขอโพยเพื่อนเป็นอันดับแรกหลังหย่อนสะโพกผายลงบนโซฟาบุหนังอย่างดี สีหน้าและแววตาของคนพูดฉายชัดว่ารู้สึกผิด ประกอบกับรู้นิสัยใจคอของเพื่อนชะนีนางนี้ดีว่าเป็นคนตรงเวลามากแค่ไหน ถ้าไม่เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น คำว่าสายก็จะไม่มีในพจนานุกรมของพาขวัญ เจ้าของวันเกิดอย่างภานุจึงรีบโบกไม้โบกมือไม่ถือสา
“แค่แกมาได้ ฉันก็ดีใจมากแล้วย่ะ และดีใจหนักมากเมื่อเห็นว่าแกสลัดชุดเลขาฯ ป้าๆ ทิ้งไป แล้วใส่ชุดยั่วๆ มางานวันเกิดฉันแทน”
พาขวัญค้อนขวับให้กับคำพูดนั้น
“ถึงช่วงนี้งานฉันจะยุ่งมาก” หญิงสาวลากเสียงยาว บอกให้เพื่อนทุกคนรู้ว่าตลอดทั้งสัปดาห์เธอยุ่งมากจริงๆ “แต่ก็ยังมีเวลาอ่านไลน์กลุ่มย่ะ”
จริงอยู่ว่าธีมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ยี่สิบห้าของภานุ ซึ่งเจ้าหล่อนได้ส่งข้อความบอกไปทางไลน์กลุ่ม เธอเพิ่งได้เปิดอ่านไปเมื่อสองวันก่อน โดยย้ำให้เพื่อนชะนีทุกคนที่ผ่านการเทรนออกกำลังกายและเรียนลดไขมันกับตัวเองใส่เดรสยั่วๆ ส่วนสีเอาที่ทุกคนถนัด เพื่อมาถ่ายรูปอัปลงเฟสบุ๊กและอินสตราแกรมเรียกยอดไลก์และเป็นการโปรโมตผลงานไปในตัว
สำหรับพาขวัญไม่มีปัญหา ชุดแบบนี้เธอใส่บ่อยยามออกมาแฮงเอาต์กับเพื่อนๆ จึงมีติดตู้อยู่หลายตัวและหลากหลายแบบ ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อให้เสียเวลา แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะใส่ไปงานเลี้ยงบริษัทหรือแม้แต่ออกไปตรวจงานหรือพบลูกค้ากับเจ้านาย
และเพราะว่าได้สร้างโลกเอาไว้สองใบ ทำให้เธอถูกเพื่อนร่วมงานตั้งฉายาให้ว่าเลขาฯ แม่ชี
แต่นั่นไม่ร้ายเท่าฉายาสมศรี 422R เลขาฯ โรบอตที่เจ้านายหนุ่มตั้งให้เธอ!
ดังนั้นการที่เธอแต่งตัวป้าๆ แล้วจะทำให้เธอรอดพ้นจากพวกเสือ สิงห์ กระทิงเปลี่ยวในที่ทำงาน เลขาฯ มากฉายาอย่างพาขวัญจึงแกล้งหลับหูหลับตาทำเป็นไม่ได้ยินเสียงนินทาว่าร้ายเหล่านั้น รวมถึงคำพูดเหน็บแนมของเจ้านายหนุ่มตัวดีด้วย
หญิงสาวรอให้เพื่อนๆ หยุดหัวเราะหลังจากที่เธอโต้ตอบออกไป ก่อนจะควักกล่องของขวัญวันเกิดในกระเป๋าสะพายยื่นให้กับภานุเพื่อนรัก
“สุขสันต์วันเกิดนะนุ ขอให้แกมีความสุขมากๆ เรื่องสุขภาพฉันไม่ห่วงแก เพราะแกเป็นเทรนเนอร์ย่อมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่จะขอให้แกเฮงๆ รวยๆ และขอให้อิทธิฤทธิ์ด้ายแดง ส่งให้แกได้หลัวสมใจในปีนี้นะเพื่อนเลิฟ”
เจ้าของวันเกิดฟังคำอวยพรด้วยความซาบซึ้งใจ หากไม่วายหยอกเพื่อนสาวให้กลอกตาเล่น
“กล่องแบบนี้หวังว่าจะเป็นปาเต็ก ฟิลิปป์”
“อย่างแกแค่แอปเปิลวอตช์ก็หรูแล้วนังนุ” เพื่อนชะนีนางหนึ่งพูดดับฝัน ทำให้เจ้าตัวค้อนปะหลับปะเหลือก พาขวัญเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนคะยั้นคะยอให้ภานุแกะกล่องของขวัญ
“แกแกะเลยสิ บางทีอาจจะร้อยเก้าเก้า ขายบนทางเท้าหน้าที่ทำงานฉันก็ได้”
“ว้ายแม่! เลขาฯ เงินเดือนสูงอย่างแกเนี่ยนะจะซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนร้อยเก้าเก้า” พูดพร้อมทำท่าตกอกตกใจด้วยจริตสาวสองสวนทางกับร่างกายกำยำบึกบึนของเจ้าหล่อน เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้อีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่พาขวัญ
“ก็เดือนนี้กรอบไงแก พ่อโทร.มายืมเงินเป็นค่าผ่าตัดย่า”
“อีกแล้วเหรออีข้าว” ภานุถามด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้นแทนเพื่อนรัก
“อือ ช่างเถอะ อย่าพูดให้เสียบรรยากาศเลยดีกว่า”
คนที่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับชีวิตของเพื่อนรักอย่างพาขวัญดีรีบพยักหน้า
“โอเคๆ ไม่พูดก็ไม่พูด ฉันแกะของขวัญดีกว่า” คำพูดนั้นทำให้พาขวัญกลับมายิ้มได้อีกครั้ง “ตอนแรกหวังปาเต็ก พออีแจงพูดว่าแอปเปิลวอตช์ก็หรูแล้ว ฉันก็ได้แต่แอบปลอบใจตัวเองก็ได้วะ พอรู้ว่าอีข้าวกรอบไปอีก ณ จุดจุดนี้ร้อยเก้าเก้ากูก็เอาแล้วค่ะ”
ทุกคนหัวเราะคิกขึ้นมาอีกครั้งกับคำบ่นที่ไม่จริงจังนักของภานุ ด้วยรู้ดีว่าถึงแม้ภานุจะชวดของขวัญราคาแพง แต่ก็มีกำลังซื้อข้าวของพวกนี้โดยไม่สนว่าตัวเลขในบัญชีจะลดเหลือเท่าไร ส่วนที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพื่อที่จะสร้างสีสันและเปลี่ยนบรรยากาศให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้งเท่านั้นเอง
“ว้าย! โรแล็กซ์จ้าแม่” ถึงแม้จะมีกำลังซื้อ แต่พอภานุรู้ว่าของขวัญที่ได้จากเพื่อนรักเป็นนาฬิกาแบรนด์หรูก็อดที่จะกรีดร้องด้วยความดีใจไม่ได้ “ไหนบอกว่ากรอบไงยะ”
พูดพลางค้อนยิ้มๆ เพราะในใจยังไม่สร่างความตื้นตันระคนดีใจ หากไม่ใช่เพราะว่าได้ของหรู แต่การได้รับของมีค่าราคาแพงจากพาขวัญย่อมสะท้อนให้เห็นว่าคนให้ได้ผ่านจุดตกต่ำของชีวิตมาแล้ว แม้ตอนนี้ทั้งเธอและพาขวัญจะห่างไกลจากคำว่ารวย แต่ก็มีกำลังซื้อของมีค่าเก็บสะสมไว้เปลี่ยนเป็นตัวเงิน ในยามที่ชีวิตกลับมาพลิกหงายพลิกคว่ำอีกครั้ง
ตามสัจธรรมที่ว่าชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน วันหนึ่งเธอหรือพาขวัญอาจจะตกงานเพราะถูกเลิกจ้างกลางคัน แต่ที่แน่นอนคือไม่อดตาย
“โบนัสครึ่งปีออกพอดี” พาขวัญว่ายิ้มๆ อันที่จริงเธออยากซื้อข้าวของราคาแพงมากกว่านี้ให้ภานุด้วยซ้ำ เป็นการตอบแทนที่อีกฝ่ายให้การช่วยเหลือและมอบมิตรภาพดีๆ ให้กับเธอมาตลอด แต่อย่างที่บอกไปว่าเธอเพิ่งโอนค่าผ่าตัดย่าให้คนเป็นพ่อไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
ย้อนกลับไปตอนที่เรียนจบมัธยมปลายเธอสอบติดมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ พร้อมกับภานุที่อยู่โรงเรียนมัธยมเดียวกันแต่คนละห้อง พอรู้ว่าเธอจะขอสละสิทธิ์ ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง อีกฝ่ายก็โวยวายเสียงดังทันที ทั้งที่ตอนนั้นก็ใช่ว่าจะสนิทสนมกันมาก
อีกทั้งยังพูดให้คิดว่าคนเราอย่าเพิ่งถอดใจ ในขณะที่ยังไม่ดิ้นรนหรือพยายามให้มากพอ หลังจากวันนั้นภานุก็แนะนำให้เธอทำเรื่องขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาอย่างที่เจ้าตัวเคยขอมาตลอดสามปีที่เรียนมัธยมปลาย ซึ่งเธอมารู้ทีหลังว่าสถานะทางบ้านของภานุย่ำแย่กว่าเธอเสียอีก
กระทั่งได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ สมความตั้งใจ ถึงได้รู้ว่ามันไม่ง่าย... ไม่ง่ายเลยสักนิดเดียวสำหรับเด็กที่ขาดการสนับสนุนจากครอบครัว เมื่อมีค่าใช้จ่ายจิปาถะเข้ามาในแต่ละวัน ทั้งที่ค่าห้องก็ช่วยกันแชร์คนละครึ่งหรือแม้แต่อาหารก็แบ่งกันกินแล้ว
เมื่อชักหน้าไม่ถึงหลัง สุดท้ายเด็กบ้านนอกสองคนก็กอดคอกันร้องห่มร้องไห้ ตัดพ้อชีวิต หากไม่นานก็คิดได้ว่าไม่มีประโยชน์ ก่อนชวนกันพูดปลอบใจว่าเราจะไม่ย่อท้อหรือยอมแพ้ เป็นการเติมกำลังใจให้กันและกัน กระทั่งได้บทสรุปว่าเธอทั้งสองต้องทำงานพร้อมกับเรียนไปด้วย สามวันต่อมาภานุและเธอก็ได้เข้าทำงานที่ยิมแห่งหนึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย จากนั้นความเป็นอยู่ของเธอทั้งสองก็ดีขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้ แค่ชักหน้าถึงหลังให้ได้ในแต่ละเดือนเท่านี้นับว่าบุญแล้ว
เธอและภานุทำงานที่นี่จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี ด้วยสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจึงยังไม่คิดเปลี่ยนงานใหม่ ภานุใช้ประสบการณ์ครูพักลักจำจนได้อัปตำแหน่งงานจากเด็กเช็ดถูเครื่องออกกำลังกายมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของยิมเงินเดือนขยับขึ้นแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่เจ้าตัวก็พอใจไม่น้อยดีกว่าลาออกแล้วไปเดินย่ำฝุ่น เช่นเดียวกับเธอที่ยังคงทำงานในยิมแต่เป็นตำแหน่งเดิมคือแผนกต้อนรับลูกค้า เพิ่มเติมคือได้เป็นหัวหน้างาน เงินเดือนที่ได้ก็เท่ากับเรตเด็กจบใหม่
แต่ปัจจุบันนี้กลับตรงกันข้ามภานุกลายเป็นเทรนเนอร์ชื่อดังเมื่อเปิดรับลูกค้าเรียนลดไขมันทางออนไลน์ มีทั้งดารา นางแบบที่อยู่ในสภาวะหลังคลอดหรือต้องการฟิตหุ่นเพื่อถ่ายละครและถ่ายแบบ ที่ไม่อาจสลัดไขมันหน้าท้อง ต้นขาและก้นออกไปได้ด้วยตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ลูกค้าทั่วไปที่มีหุ่นอ้วนฉุที่อยากมีหุ่นเหมือนดารา นางแบบในดวงใจ ภานุก็สามารถปั้นหุ่นใหม่ให้กับสาวๆ เหล่านั้นได้ราวกับเสกด้วยเวทมนตร์คาถา
เนื่องจากบางคนลดมาเป็นปีๆ นอกจากน้ำหนักจะไม่ลดแล้วกลับเพิ่มขึ้นมาซะงั้น จนเริ่มถอดใจ ก่อนจะเยียวยาสภาพจิตใจด้วยชานมไข่มุก ปิ้งย่างและชาบู แต่พอลงคอสเรียนออนไลน์กับภานุเท่านั้นแหละ แค่หนึ่งเดือนก็เปลี่ยนไซซ์กางเกงกันทุกคน พอปากต่อปาก บวกกับรีวิวที่แชร์ลงโซเชียลเป็นกระแสขึ้นมา จากภานุที่เป็นเทรนเนอร์ธรรมดาคนหนึ่งก็กลายเป็นเทรนเนอร์ชื่อดังในบัดดล
ในขณะที่เธอจับพลัดจับผลูได้งานใหม่และจุดเริ่มต้นในอาชีพเลขาฯ ของเธอก็เกิดจากยิมแห่งนี้ เมื่อลูกค้าวีไอพีที่เพิ่งเข้ามาเป็นเมมเบอร์ได้ไม่นานเห็นหน่วยก้านในการทำงานของเธอแล้ว ก็เอ่ยทาบทามให้ไปเป็นเลขาฯ ของผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ด้วยข้อเสนอสุดเร้าใจ นั่นคือเงินเดือนที่เธอจะได้รับสูงกว่าที่นี่อยู่หลายเท่า แล้วไหนจะสวัสดิการเลอเลิศที่อีกฝ่ายเสนอมา มีคอนโดฯ หรูให้อยู่ มีรถประจำตำแหน่งให้ขับ เป็นที่ล่อตาล่อใจยิ่งนัก อีกทั้งยังได้รับเสียงสนับสนุนจากภานุ เธอจึงไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนงาน
แม้จะอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์บางอย่างที่อีกฝ่ายตั้งมาก็ตาม...
‘เจ้านายของเธอมีคู่หมายแล้ว ถ้าไม่อยากตกงานก็ห้ามมีใจให้กับเจ้านายเด็ดขาด!’
ความคิดเห็น