ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Moon shadow love theme ( บทเพลงแห่งรัก)

    ลำดับตอนที่ #6 : เจ้าพ่อ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 52





                     “เชิญครับพี่สะใภ้ สวัสดีหนูริคกี้  

                             ซุนเต๋อทักทายสองแม่ลูกอย่างยินดี เขาเลื่อนเก้าอี้ให้คุณนายเฉินอย่างสุภาพ เอริก้า

    ถามชายชราอย่างสุภาพ 

                     “
    ซันนี่ละคะคุณลุง 

                              
    เขาไปทำธุระให้ลุงน่ะ ว่าไงละหนู เรียนอยู่ปีอะไรแล้ว  

                     “
    ปีหนึ่งค่ะคุณลุง เอ้อ เรื่องที่จะให้หนูแต่งงานกับหลานชายคุณลุงน่ะค่ะ  หนูยัง

    อยากจะเรียนจนจบ ไม่คิดจะแต่งงานหรอกค่ะ คุณลุง
      

                             ซุนเต๋อหัวเราะชอบใจ  

                     “
    เป็นอันว่าหนูปฏิเสธแน่นอน 

                              
    ค่ะ            เอริก้ารับคำอย่างหนักแน่น 

                              
    แน่ะ ซันนี่มาแล้ว พาใครมาด้วยน่ะ วิเศษจริงๆ 

                             ซุนเต๋อลุกขึ้นยืนเขาสัมผัสมือกับชายวัยใกล้เคียงกับเขาอย่างยินดี  

                     “
    สวัสดีเจคอบ  

                     “
    อาเต๋อ สบายดีหรือ 

                     “
    สบายดี ดูสิว่าใครมากินข้าวกับเราด้วย  

                             เจคอบเหลือบตามองสองแม่ลูกดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างยินดี   เขาทักทาย

    หญิงต่างวัยทั้งสอง  

                     “
    อี้เหวิน  ริคกี้   

                             เอริก้ามองชายหนุ่มอย่างกล่าวหา    เธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของบิดาอย่าง

    ไม่เต็มใจนัก 


                     “
    อาซันหรือ เข้ามาสิ  

                             ซุนเต๋อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในห้อง 

                     “
    จัดการเรื่องมาร์คหรือยัง  

                     “
    เรียบร้อยแล้วครับลุง 

                                
    ดี นั่งสิ  

                     “
    ครับ  

                             ชายหนุ่มขยับเก้าอี้นั่งตรงข้ามชายชรา  

                     “
    คุณนายเฉินกับริคกี้ย้ายไปอยู่กับเจคอบเรียบร้อยแล้วหรือยัง   

                     “
    ย้ายเรียบร้อยแล้วครับ คุณเจคอบให้ลูกน้องไปขนข้าวของหมดแล้ว  

                     “
    อืม...งั้นเราก็หมดหน้าที่ดูแลพวกเธอแล้วสินะ แกจะได้มีเวลามากขึ้น  ไอ้มาร์ค

    ก็ไม่อยู่แล้วแกจะได้ช่วยบริหารให้บริษัทเจริญขึ้นหน่อยนะ
      

                             ซันนี่อมยิ้ม รับคำอย่างอ่อนโยน

                     “
    ผมจะพยายามครับลุง 

                                       ..............................

                     “
    ที่นี่อย่างหรูเลยนะริคกี้  

                             เมย์มองสวนหน้าบ้านที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม คนรับใช้ยกถาดน้ำชาออกมาวาง

    ไว้ให้ที่ชิงช้าซึ่งสองสาวนั่งคุยกันอยู่  

                     “
    ฮื่อ 

                             เอริก้ารับคำเธอทำหน้านิ่วมองชายฉกรรจ์สองสามคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก  

                     “
    รู้สึกเหมือนฉันแล้วละสิ เธอต้องทำใจหน่อยนะ  พ่อของเธอเป็นเจ้าพ่อตัวจริง

    นะยะ
     

                              
    เมย์พูดอย่างขบขัน 

                     “
    ดีนะว่าพ่อเราหากินกันคนละเขตไม่งั้นคงได้เป็นเรื่องแน่ แล้วเราสองคนจะทำ

    ยังไง
     

                              
    เราก็หนีไปอยู่ที่อื่นเป็นไง 

                             เอริก้าเสนอความเห็น เธอรินน้ำชาให้เพื่อนด้วยท่าทางเซ็งๆ 

                     “
    ซันนี่เป็นยังไงบ้างละ  

                     “
    ไม่รู้ เขาคงจะตายไปแล้วมั๊ง 

                              
    เด็กสาวตอบอย่างโกรธๆ เมย์หัวเราะคิก 

                     “
    ถ้าฉันเป็นเขานะ ฉันก็คงคิดหนักเหมือนกันละ  พ่อเธอน่ะจะยอมยกเธอให้เขา

    ง่ายๆหรือเปล่าก็ไม่รู้
     

                     “
    ไม่เกี่ยวกับพ่อสักหน่อย ชีวิตของฉันนะ  

                             เอริก้าสะบัดเสียงเล็กน้อย 

                              
    เอาละ ในเมื่อเธอโกรธเขาจริงๆฉันก็จะบอกข่าวของเขาให้ฟังเอาไหม  

                             เมย์ทำท่าราวกับว่าได้กำความลับสำคัญไว้  

                     “
    ข่าวอะไรละ  

                     “
    ทำท่าอย่างกับไม่อยากรู้ เขาไปเมืองไทยตั้งแต่สามวันก่อน    พ่อเล่าให้ฉันฟังว่า

    หลานของลุงเต๋อที่ชื่อมาร์คไปมีเรื่องกับคนงานที่นั่นเลยถูกฆ่าตาย   เขาไปรับศพกลับมาทำพิธี 

    เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่ได้ติดต่อเธอเลยไงละ
       

                     “
    ถึงติดต่อก็คงไม่ได้ พ่อโยนมือถือที่เขาให้ไว้ทิ้งไปแล้ว  

                             เอริก้าสารภาพ 

                     “
    กรรม 

                              
    เมย์อุทานอย่างเห็นใจ เอริก้าหน้าบึ้ง 

                     “
    แต่เขาต้องรู้สิว่าจะติดต่อฉันได้ยังไง เขาไม่ยอมติดต่อเองนั่นแหละ แล้วเธอละ

    โจอี้เขายังตื๊อเธออีกหรือเปล่า
     

                              
    เอริก้าถามจิบน้ำชาอย่างอารมณ์ดีขึ้น    

                     “
    ก็ยังมีบ้างแต่คนของฉันจัดการได้ 


                             เมย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก การกระทำของโจอี้ทำให้เมย์ไม่อยากคบกับเขาอีก เธอ

    เห็นจริงดังที่ซันนี่พูดว่า การที่โจอี้ไม่ช่วยและไม่ห้ามปรามเพื่อนของเขา   เท่ากับเป็นการร่วมมือ

    กันเพื่อทำร้ายเธอกับพวกของซันนี่ในคืนนั้น ดังนั้นเธอจึงเลิกคบกับโจอี้อย่างเด็ดขาด มิหนำซ้ำ

    ยังสั่งให้ลูกน้องของบิดาที่ตามคุ้มครองเธอจัดการสั่งสอนโจอี้ทุกครั้งที่เขามาตอแย จนบัดนี้โจอี้

    จึงตัดสินใจหายหน้าไปจากสายตาของเมย์โดยไม่มาตามตื๊อเธออีก

    ...........................................

                             ซันนี่จิบกาแฟขณะที่ซุนเต๋อละเลียดกับชาของโปรด  

                     “
    ขอบใจนะอาซัน เรื่องงานศพเจ้ามาร์คน่ะ  

                     “
    ครับคุณลุง             ซุนเต๋อถอนหายใจยาว 

                     “
    ลุงคิดอยู่เหมือนกันว่าไอ้เจ้านี่น่าจะอายุไม่ยืน   แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเป็นคน

    ทำศพมัน เออ เย็นนี้ลุงมีนัดกับเจคอบ
      

                     “
    ครับ 

                             ชายหนุ่มรับคำดวงตาไหววูบด้วยความรู้สึก 

                     “
    แกไปกับลุงด้วย เจคอบเขาอยากรู้จักแกให้มากกว่านี้  

                     “
    ครับ 


                     “ซุนเต๋อเพื่อนรัก เข้ามา เข้ามา  

                     “
    พี่สะใภ้ละ เจคอบ  

                             เจคอบพยักหน้าเข้าไปในคฤหาสน์หรูของเขา 

                     “
    อยู่ข้างใน เขาดูแลเรื่องอาหารเองเลยนะ ว่าไงหลานชาย 

                             เขายื่นมือให้ชายหนุ่มขณะที่ทักทาย  ซันนี่จับมือเจ้าพ่อใหญ่อย่างนุ่มนวล 

                     “
    สวัสดีครับ คุณเจคอบ  

                             เจคอบยิ้มอย่างใจดี 

                     “
    หลานริคกี้ไปไหนละ เจคอบ  

                     “
    วันนี้เขามีสอบ วันสุดท้ายแล้วละ    ไม่รู้ว่าจะไปฉลองกับเมย์เขาหรือเปล่า
     
    ไงหลานชายได้เจอกับริคกี้บ้างหรือเปล่า
      

                     “
    ไม่ค่อยได้เจอครับ ผมเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย  

                             ซุนเต๋อหัวเราะ 

                     “
    ซันนี่เขาเป็นคนดูแลยายหลานมาตลอดละเจคอบ  

                     “
    งั้นหรือ ขอบใจมากนะหลานชาย    มาเราเข้าไปนั่งที่โต๊ะกันเลยดีกว่านะ 

    ไปหลานชาย


                             รถสีดำเงาวับที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถทำให้เด็กสาวใจเต้นแรงขึ้นมาเล็กน้อย   เธอลง

    จากรถโดยไม่แยแสตำราเรียนซึ่งคนรับใช้ที่คอยเปิดประตูต้องหอบเข้าไปในบ้านให้  

                             ริคกี้มาแล้วหรือลูก มากินข้าวเร็ว ลุงเต๋อกับซันนี่ก็มาด้วยนะ  

                     “
    สวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีค่ะซันนี่  

                             เอริก้านั่งลงที่เก้าอี้ซึ่งซันนี่เลื่อนให้อย่างเอาใจ 

                     “
    ขอบคุณค่ะ” 

                             เด็กสาวทำท่าห่างเหินอย่างจงใจ 

                     “
    ได้ข่าวว่าศพของมาร์คหลานแกไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยหรืออาเต๋อ 

                             เสียงของบิดาที่ชวนซุนเต๋อคุยทำให้เอริก้าถือช้อนค้าง  

                     “
    ต้องถามซันนี่ แต่อย่าเพิ่งเล่าตอนนี้ดีกว่า ยายหลานจะรับไม่ได้  

                     “
    ทำไมหรือคะคุณลุง น่ากลัวหรือคะ ว่าไงคะซันนี่คุณเล่ามาสิคะ  

                             เอริก้าออกคำสั่ง ซันนี่อึกอักเล็กน้อยก่อนจะเล่าสั้นๆ  

                     “
    เขาถูกเผานั่งยางจำศพไม่ได้ผมต้องรอพิสูจน์ศพเป็นอาทิตย์ถึงรับกลับมาได้   

                             เอริก้าหน้าเผือดไปเล็กน้อย ชายหนุ่มส่งแก้วเหล้าของเขาให้เธอ 

                     “
    ดื่มหน่อย 

                             เอริก้าดื่มอึกใหญ่ก่อนจะสำลักเต็มแรง ใบหน้าแดงสร้านขึ้นมาทันที  เจคอบกับ

    ซุนเต๋ออดหัวเราะไม่ได้  บรรยากาศในห้องอาหารดีขึ้นมากเมื่อคุณนายเฉินมาสมทบที่โต๊ะอาหาร
     
    เอริก้ายอมที่จะพูดกับชายหนุ่มบ้าง

    ..........................................

                     “พี่ซัน คิดจะทำอะไรฉันน่ะ 

                              
    เสียงถามกระเส่าด้วยความหวาดเกรงจากชายร่างท้วม ใบหน้าของเขาซีดเผือด

    และมีเหงื่อไหลโทรมหน้า  เขาถูกนำตัวมาอย่างชนิดที่ลูกสมุนของเขาไม่สามารถจะป้องกันได้

    แม้แต่น้อย ความคิดที่ว่าซุนเต๋อซึ่งถอนตัวจากวงการจะหมดเขี้ยวเล็บเริ่มทำให้เขาลังเล ยิ่งชายหนุ่ม

    ผู้ช่วยของซุนเต๋อปรากฏตัวขึ้นมายิ่งทำให้เขารู้สึกว่าหนทางของเขามืดมนไปถนัด 

                              
    เจียง เอาวิสกี้ให้เสี่ยหน่อย เสี่ยไม่ต้องตกใจนะครับ พอรู้ว่าเสี่ยจะไปมาเก๊าหลาย

    วันผมก็เลยคิดว่าถึงเวลาเสียทีที่เราจะต้องเชิญเสี่ยมากินเหล้ากันหน่อยรำลึกเมื่อวันงานแต่งงาน

    ลูกชายเจ้าสัวไงครับ
      

                     “
    แล้วทำไมต้องจับฉันมาอย่างนี้  

                     “
    เด็กๆที่ไปเชิญคงเสียมารยาทกับเสี่ยไปหน่อย มาคาราวะเหล้าขอโทษเสี่ยเขาซิ  

                     “
    ครับพี่ซัน เสี่ยครับ
     

                             ลูกน้องของชายหนุ่มรินเหล้าส่งให้เสี่ยด้วยท่าทางสำรวม    เสี่ยเล็กรับเหล้าไปดื่ม

    อย่างกระหาย แต่ก็ยังสั่นสะท้านไม่เลิก ซันนี่ยิ้มน้อยๆ   

                     “
    เอาละ นายมีอะไรจะพูดหรือ อาซัน  

                             เสี่ยแข็งใจถามด้วยเสียงที่พยายามจะให้เรียบ 

                     “
    ก็ไม่มากหรอกครับเสี่ย ผมอยากจะบอกเสี่ยว่าลุงเต๋อที่วางมือจากวงการก็คือ

    เลิกจริงๆ  แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องงอมือให้คนมารังแก เพียงต้องการความสงบในชีวิต

    เท่านั้น  ถ้าหากทำไม่ได้.....
     

                             ชายหนุ่มยกไหล่ใบหน้าเหี้ยมขึ้น    ลูกน้องทุกคนของเขาก็มีสีหน้าเหี้ยมเกรียม

    ขึ้นมาทันควัน เสี่ยเล็กเย็นสันหลังวาบ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น 

                     “
    เอาละ เรื่องเมื่อสองอาทิตย์ก่อน     ฉันฝากขอโทษลุงเต๋อด้วยก็แล้วกันที่ทำให้

    ตกใจ
      

                     “
    โอเคครับ ดื่มอีกนิดสิเสี่ย  

                     “
    ไม่ละ ฉันจะกลับแล้ว  

                    
    เสี่ยฝืนใจพูดเสียงเรียบ ชายหนุ่มพยักหน้า

                     “
    เจียงไปส่งเสี่ยด้วย สวัสดีครับเสี่ย


                     “พี่ซันครับ  

                             ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเดินเข้ามากระซิบข้างหูชายหนุ่ม เมื่อเจียงนำตัวเสี่ยเล็ก

    ออกไป ซันนี่หน้าเครียดเล็กน้อย  

                     “
    ตอนนี้อยู่ที่ไหน อาเซี่ย  

                     “
    ทางนี้ครับพี่ 

                             ชายหนุ่มเดินตามลูกน้องไปตามทางเดินในภัตตาคาร  จนถึงหน้าห้องจัดเลี้ยง

    ห้องหนึ่ง 

                     “
    ห้องนี้ครับพี่  

                     “
    อาเซี่ย บอกให้คนของเรากลับไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันกลับเอง 

                     “
    แต่ว่า...พี่ซัน  

                             อาเซี่ยท้วงอย่างไม่เห็นด้วย ซันนี่โบกมือ 

                     “
    ไม่ต้องห่วงน่ะ  

                     “
    ได้ครับ  

                             ซันนี่ผลักประตูห้องเข้าไป คนเฝ้าประตูด้านในยื่นมือมายึดแขนเขาไว้  ชายหนุ่ม

    เบี่ยงตัวหลบได้อย่างไม่ยากนัก แต่ก็มีอีกมือหนึ่งยื่นออกมากันไว้อีก ซันนี่ปัดมือนั้นออก  

                     “
    พี่ซัน  

                     “
    พี่ซัน  

                             คนทั้งสองทักทายเมื่อเห็นหน้าผู้บุกรุกชัดเจน 

                     “
    สวัสดี ขอโทษนะที่บุกเข้ามา  

                     “
    ต้องขอโทษพี่ซันด้วยครับ พวกผมไม่รู้ว่าเป็นพี่  

                     “
    ไม่เป็นไร คุณหนูมากับใครน่ะ  

                     “
    เพื่อนๆน่ะครับพี่ ยังดีว่ายอมมาที่นี่นะครับ พวกเรายังพอมีเวลาเคลียร์สถานที่ 

    พี่ซันจะเข้าไปไหมครับ
    ผมจะไปรายงานให้เธอทราบ  

                     “
    เอ้อ  อย่าดีกว่า ฉันแค่แวะมาดูเท่านั้นเอง ไปละ 

    ...........................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×