คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อันธพาล
เอริก้ามองเขาอย่างยอมจำนนเมื่อเห็นสายตาของเขาถนัดตา ริมฝีปากสมชายของเขา
ที่เธอนึกอยากลิ้มรสบดเคล้าลงมาอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดื่มความหวานจาก
ปลายลิ้นของเธออย่างตั้งใจ เขากระซิบเสียงนุ่ม
"อีกทีนะ ได้ไหม”
"พอเถอะค่ะ เมย์มานั่นแล้ว”
เด็กสาวเสียงแหบไปเล็กน้อยผลักเขาเบาๆ
“งั้นก็ได้ เย็นนี้พบกันนะ”
เขากดริมฝีปากกับหน้าผากเธอ
“ค่ะ”
เด็กสาวลงจากรถด้วยใจเต้นระทึก
“มัวทำอะไรอยู่น่ะหือ ฉันเห็นจอดรถเป็นนานไม่ลงมาสักที”
เมย์เอามือท้าวสะเอวแกล้งถามยิ้มๆ
“จูบกัน”
คำตอบที่ได้รับทำให้เมย์ต้องอึ้งไปพักหนึ่งอย่างนึกไม่ถึง ก่อนจะทำเสียงตำหนิ
“เธอนี่ กล้าหาญชาญชัยมากนะริคกี้ รู้จักเขาแค่สองวันเองก็ไปยอมให้เขาจูบแล้ว
หรือ”
เอริก้าหัวเราะเสียงใส ท่าทางเขินนิดๆของเธอทำให้เมย์ต้องผลักศีรษะเธออย่าง
เอ็นดู ก่อนจะถามยิ้มๆ
“แล้วเป็นยังไงบ้างละ”
“ดี ฉันชอบให้เขาจูบนะ”
“ยายเด็กใจแตก”
เพื่อนสาวแกล้งว่า เอริก้าย้อนถามอย่างสนใจ
“เธอละ เคยจูบกับโจอี้หรือเปล่า”
“ไม่ย่ะ ฉันคบกับโจอี้เล่นๆเท่านั้น อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ไวไฟเหมือนเธอหรอกนะ
ยะ”
เอริก้าทำหน้านิ่วเล็กน้อย
“ท่าทางของโจอี้เขาไม่เล่นกับเธอนะเมย์ เขาคบพวกอันธพาลอยู่ด้วย เธอนี่ยังไงกัน
นะไปคบกับเขาได้”
เมย์ย่นจมูกใส่เอริก้า
“อยากแกล้งคนของพ่อให้มีงานทำบ้างเท่านั้นแหละ เธอรู้หรือเปล่าว่าพ่อสั่งคน
ตามฉันตลอดเวลา เธอเองก็เถอะ ซันนี่เขาส่งใครมาคุ้มกันก็ไม่รู้”
เอริก้านิ่งอึ้ง บิดาของเธอหรือไม่ก็ลุงซุนเต๋อคงจะให้คนมาคอยคุ้มกันเธอเช่นกัน
ซันนี่เองก็บอกแล้วว่าเขารู้จักเธอมานานกว่าที่เธอคิด
“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ”
เธอพึมพำเบาๆ เมย์หัวเราะ
“ฉันคุยกับพ่อแล้ว ซันนี่เขาเป็นมือขวาของซุนเต๋ออดีตเจ้าพ่อ ถึงเขาจะเป็น
ผู้จัดการบริษัทขายคอมพิวเตอร์ก็จริง แต่เขาก็มีอิทธิพลเหมือนกันนะจะบอกให้”
เอริก้ากลั้นยิ้ม ย้อนถามเสียงเรียบ
“แล้วเธอมาสนใจอะไรผู้ชายของฉันมากมายละ เมย์”
“อุ้ยหมั่นไส้ ผู้ชายของเธอ เขาน่ะจะสามสิบแล้วนะยะ คงผ่านผู้หญิงมาเยอะแล้ว
ฉันว่า”
“ก็คงต้องผ่านมาอยู่แล้วละถ้าเขาไม่ใช่กระเทยนะ แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ชายของ
ฉันย่ะ”
เด็กสาวหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวทำท่าคันไม้คันมือขึ้นมาทันควัน
...........................................
เสียงเพื่อนสาวคุยกับแฟนหนุ่มเป็นระยะประกอบกับเสียงเกมคอมพิวเตอร์ที่คน
ทั้งสองเล่นอย่างสนุกสนานทำให้เด็กสาวอดยิ้มไม่ได้ เอริก้าเล่นเครื่องคอมพิวเตอร์ของเธอสายตา
ก็มองกวาดรอบร้านอย่างสนใจ เพื่อนๆของโจอี้นั้นเป็นวัยรุ่นอันธพาลที่มีท่าทางหลุกหลิกไม่น่า
คบอย่างยิ่ง ถึงตัวโจอี้เองก็ดูเป็นอันธพาลไร้อันดับ พวกนั้นนั่งเล่นเครื่องคอมพิวเตอร์ตรงข้าม
กับเธอและพยายามที่จะหยอกล้อเธออย่างน่ารำคาญที่สุด ทางด้านข้างของเธอทั้งซ้ายและขวา
เป็นชายหนุ่มที่เปิดจอคอมพิวเตอร์ แช๊ทไปเรื่อยๆราวกับจะฆ่าเวลาไปพลางๆมากกว่า แต่พวกเขา
ก็ไม่มีท่าทางเบื่อหน่ายแต่อย่างใด สองคนนี้จะเป็นผู้คุ้มกันของเมย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ความคิดนี้
ทำให้เธออดยิ้มไม่ได้
“เล่นคนเดียวไม่สนุกหรอกนะริคกี้”
เพื่อนของโจอี้สองคนลากเก้าอี้มานั่งชิดเธออย่างถือวิสาสะ
“เกมนี้เล่นคนเดียวได้ ฉันกำลังทำลายสถิติอยู่”
เอริก้าตอบเรื่อยๆพยายามเบี่ยงตัวหนี
“โจอี้มันคั่วเพื่อนของเธออยู่ เธอก็มาเป็นแฟนเราสองคนดีไหม”
เสียงหยอกล้อดังไปทั่วร้าน เมย์รีบเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ พูดเสียงดุเล็กน้อย
“โจอี้ บอกให้เพื่อนของเธอออกมาห่างๆริคกี้ อย่าไปยุ่งกับเขา”
“ไม่เป็นไรหรอกน่าเมย์ พวกมันแก้เบื่อไปอย่างนั้นเอง”
โจอี้ตอบยิ้มๆ เมย์กระแทกเสียง
“เพื่อนฉันไม่ใช่ของแก้เบื่อของใครนะ โจอี้”
“โอเค เฮ้ยทอม พวกแกออกมาอย่าไปยุ่งกับริคกี้เขานะ”
“แกอี๋อ๋อกับเมย์แล้วจะมากีดกันเพื่อนได้ยังไงวะ โจอี้”
เพื่อนเขาท้วงเสียงดุดัน โจอี้ยกไหล่เล็กน้อย
“งั้นก็ตามใจแก”
“กดไปซ้ายสิน้อง”
เสียงแนะนำอย่างไม่จำเป็นดังอยู่ข้างหู มือหยาบๆวางทาบลงบนมือของเอริก้า
อย่างย่ามใจ เอริก้าดึงมือหนีอย่างโมโห
“อย่าทำท่ารังเกียจพี่อย่างนั้นสิน้อง”
มันทำเสียงราวกับสำราก มือหยาบๆของเจ้าทอมคว้าหมับที่ข้อมือเด็กสาว แต่มือ
ของเขาก็ถูกบีบด้วยมือที่หยาบกว่าและแกร่งกว่า
“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
เสียงเหี้ยมไม่เกินเสียงกระซิบ เอริก้าเงยหน้ามองคนพูด เขาคือชายคนที่นั่งแช๊ทอยู่
ข้างๆเธอนั่นเอง ทอมหน้าเหยด้วยความเจ็บปวด เขายอมปล่อยมือเอริก้าแต่โดยดี ขณะที่เพื่อนข้างๆ
ทอมขยับตัว แต่เพียงแค่เขาขยับตัวเท่านั้น คอเสื้อด้านหลังของเขาก็ถูกกระชากจนตึงวูบรัดลำคอ
ของเขาจนอ่อนเปลี้ยหายใจไม่ออก
“เฮ้ย อะไรกันวะ”
โจอี้กำลังจะผลุดลุกขึ้นยืน แต่เมย์กดไหล่เขาไว้ก่อน
“อย่ายุ่งนะโจอี้ ปล่อยให้ทอมเขาแก้ปัญหาเอง ฉันบอกแล้วไงละว่าอย่ายุ่งกับ
ริคกี้เขา”
“ผมขอโทษครับ” ทอมเสียงเครือ
“นายไม่ต้องมาขอโทษฉัน ขอโทษคุณผู้หญิงเสีย เดี๋ยวนี้”
เสียงกรรโชกอย่างดุดัน ทอมเสียวหน้าท้องวูบด้วยความหวาดเกรง
“ครับพี่ ริคกี้ พวกเราขอโทษนะ แค่ล้อเล่นน่ะ”
เอริก้าสบตาชายหน้าสี้ยม เขามีท่าทีรอฟังเธอ
“ไม่เป็นไร”
เธอพูดเบาๆ เขาพยักหน้าเล็กน้อย บิดมือทอมจนเขาต้องเขย่งตัว เสียงกระซิบฟังดู
โหดเหี้ยม
“อย่าทำอย่างนี้กับผู้หญิง เข้าใจไหม รู้จักให้เกียรติด้วย”
“ครับ” ทอมระล่ำระลักอย่างเจ็บปวด
“ดี”
ชายทั้งสองผลักวัยรุ่นทั้งคู่ให้ออกไปให้พ้นก่อนจะกลับไปเล่นคอมพิวเตอร์
ของตนเองตามเดิม เอริก้าสบตากับเมย์อย่างงงๆ ชายทั้งสองไม่มีท่าทีว่ารู้จักกันแม้แต่น้อยแต่เขา
ก็ร่วมมือกันช่วยเธอ
ประตูร้านเน็ตเปิดออกก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาด้วยท่าทางสบายๆ เขาสวมกางเกง
ตัดเย็บปราณีต เสื้อเชิร์ตแขนยาวพับแขนสูงเสมอข้อศอกเห็นท่อนแขนสีคล้ำที่มีขนอ่อนๆขึ้นเรียงตัว
ปกคลุมอยู่บางเบา เอริก้าลุกขึ้นยืนอย่างยินดี
“ซันนี่”
เสียงเรียกอย่างยินดีอย่างยิ่ง ทำให้ชายหนุ่มก้าวยาวๆมาที่เธอโดยเร็ว เขารับร่าง
เด็กสาวที่โผเข้าหาอย่างอัตโนมัติ
“มีอะไรหรือเปล่า”
เขาถามขณะที่จูบขมับชื้นเหงื่อของเอริก้าอย่างอ่อนโยน
“คุณตกใจอะไร เอริก้า”
เขากวาดตามองทั่วร้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจ้องเขม็งที่ทอมกับเพื่อนของเขา
“มันจบแล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันดีใจจังที่คุณมา รู้จักเมย์ก่อนค่ะ”
ชายหนุ่มก้มศีรษะให้เด็กสาว ทักเธออย่างสุภาพ
“สวัสดีครับคุณหนู”
“สวัสดีค่ะ” เมย์ทักทายตอบอย่างแจ่มใส
“ฉันกำลังเล่นค้างอยู่ มาค่ะซันนี่”
เอริก้าเอ่ยชวน ชายหนุ่มลากเก้าอี้มานั่งข้างเด็กสาว มองเธอเล่นอย่างสนใจ
...........................................
“ฉันขับรถมาเอง ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ซัน”
เมย์ปฏิเสธอย่างแจ่มใส เมื่อชายหนุ่มอาสาไปส่งเธอที่บ้าน
“พี่ไปส่งยายริคกี้เถอะค่ะ”
ที่จอดรถค่อนข้างเงียบสงัดเมื่อคนทั้งสามไปถึงรถของเมย์ ซึ่งซันนี่ยืนกรานว่า
จะต้องส่งเธอขึ้นรถก่อน ในความมืดสลัวของบรรยากาศรอบข้าง มีชายสี่คนยืนแฝงอยู่ในเงามืด
ท่าทีของเขามุ่งร้ายหมายขวัญชัดเจน ชายหนุ่มยกแขนกันสองสาวไว้
“คุณหนูระวังนะครับ เอริก้าคุณมาอยู่ทางนี้”
“ทอม แกคิดจะทำอะไรวะ”
โจอี้ถามด้วยความประหลาดใจ
“เพื่อนเธอคิดจะทำร้ายพวกเราน่ะสิ โจอี้”
เมย์พูดเสียงขุ่น เธอมองท่าทางเยือกเย็นของซันนี่อย่างเลื่อมใส
“โจอี้แกถอยออกไป”
เสียงทอมตวาดเบาๆ โจอี้ถอยกรูดจากคนทั้งสาม
“โจอี้ เธอไม่เคยคิดจะช่วยฉันหรือ” เมย์ถาม รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
“เอ้อ....ฉันกำลังจะเข้าแก๊งค์นะเมย์ ขอโทษจริงๆ”
“บ้าเอ๊ย”
เมย์พึมพำอย่างโกรธๆ ประตูรถสีดำของซันนี่ที่อยู่ใกล้ๆเปิดออก ชายคนหนึ่ง
ก้าวลงมาจากรถด้วยท่าทางเรียบเรื่อย ขณะชายฉกรรจ์อีกสี่คนออกมาจากรถสีแดง ล้อมกรอบ
คนทั้งสามไว้ สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันทำให้ทอมกับพวกหน้าเสีย
“พวกแกคิดจะรุมเราอย่างนั้นหรือ”
ทอมอุทานขณะที่ซันนี่ให้สัญญาณกับคนของเขาด้วยใบหน้าเฉยเมย เสียงตุบตับ
ที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเงียบฟังดูน่ากลัว คนทั้งห้ามีฝีมือที่ร้ายกาจยิ่ง ไม่นานนักทอมกับพรรคพวก
ก็นอนสงบนิ่ง
“เฮ้ยอย่านะ ผมเปล่า”
โจอี้ร้องลั่นเมื่อคนของซันนี่รวบคอเสื้อเขาไว้แน่น
“ปล่อยนะ เขาเป็นเพื่อนฉัน”
เสียงเมย์ร้องกรี๊ด ชายคนนั้นผลักโจอี้กระเด็นไปในกลุ่ม ชายทั้งสี่คน มีเสียงตุบตับ
ดังสองสามที โจอี้ก็เงียบเสียงไป เมย์มองชายทั้งสี่อย่างขุ่นใจก่อนจะมองซันนี่อย่างโกรธๆ
“ทำไมพี่ซันไม่ห้ามลูกน้องคะ โจอี้เป็นเพื่อนฉันนะคะ”
“มันสมควรได้รับการสั่งสอนเสียบ้างนะครับ ไม่ช่วยก็เท่ากับร่วมมือทำร้ายนะครับ
คุณหนู”
เมย์นิ่งอึ้งไป เธอยอมรับเหตุผลของเขาอย่างง่ายดาย
“ก็ได้ ฉันจะกลับแล้วค่ะ”
เจียงเปิดประตูรถให้เด็กสาวอย่างรวดเร็ว เมย์มองเจียงอย่างขุ่นใจ
“ขอบใจ ริคกี้ ฉันกลับก่อนนะ”
“สวัสดี” ซันนี่พยักหน้าให้เจียง
“เอารถตามคุณหนูไป ส่งให้ถึงหน้าบ้านนะเจียง”
“ได้ครับพี่ซัน”
เจียงกับชายฉกรรจ์ทั้งสี่ขึ้นรถสีแดงตามเมย์ไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มปิดประตูรถ
เมื่อเอริก้าเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว
“ไปหาอะไรกินก่อนนะครับ ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ วันนี้ประชุมจนเย็น”
“อย่างนั้นก็ไปสิคะ”
...........................................
ความคิดเห็น