คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แม่เสือ
เอริก้าเดินไปที่รถคันงามเงาวับนั้น เธอก้มลงมองเข้าไปในรถที่ติดฟิล์มกรองแสง
สีทึบ เธอไม่เห็นข้างในจึงเคาะหน้าต่างรถ ไม่นานหน้าต่างรถก็เลื่อนลง
“ขอโทษครับ ผมหลับเพลินไปหน่อย ขึ้นรถสิครับ”
“นอนดึกหรือคะ”
เด็กสาวถาม ซันนี่พยักหน้า
“นอนคิดถึงคุณจนดึก”
“โกหก หน้าตาคุณเป็นกังวล เครียดเรื่องงานหรือคะ”
เด็กสาวทำเสียงรู้ทัน ชายหนุ่มหัวเราะ
“ก็มีส่วน แต่คิดถึงคุณจริงๆนะ ไปดูหนังกันนะผมจองตั๋วไว้แล้ว”
เอริก้าทำหน้าดุเล็กน้อย
“คุณควรจะต้องถามความสมัครใจของฉันก่อนนะคะ เกิดฉันไม่ว่างจะว่ายังไง”
“แสดงว่าวันนี้ว่าง ไปหาอะไรกินกันก่อนไหมหิวหรือยัง”
“ยังค่ะ แม่ให้ฉันหาซื้อของกลับบ้านด้วย”
“งั้นไปหาซื้อของกันก่อน ยังมีเวลา”
เด็กสาวมองเขาอย่างสงสัย
“คุณมีเวลาว่างพอที่จะมาทำอย่างนี้ด้วยหรือ” ซันนี่หัวเราะ
“ทำไมละ ผมทำงานบริษัทนะ ก็มีเวลาว่างเหมือนคนอื่นนั่นแหละ ”
“ฉันแค่สงสัยว่าคนที่มีพฤติกรรมเป็นเจ้าพ่อแบบคุณน่ะ มีเวลาว่างด้วยหรือไง
น่าจะต้องมีเรื่องเจรจากับคนโน้นคนนี้แบบในหนังไง หรือไม่คุณก็ต้องคุมการขนของเถื่อน
อะไรพวกนี้”
“ถึงไม่ว่างยังไงก็ต้องพาคุณไปดูหนังได้บ้างละ”
เอริก้าเหลือบมองท่าทางค่อนข้างเป็นกังวลของเขาอย่างสนใจ และแม้เขาจะมีท่า
ทางกังวลอยู่ลึกๆ แต่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับเธอเป็นอันดับแรก และทำให้เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่
น่ารักไม่น้อย
รถสีดำเป็นเงาแล่นเข้ามาจอดที่ป้ายห้ามจอดพอดี แต่เพราะค่อนข้างดึกจึงไม่มี
ตำรวจอยู่แถวนั้น เขาพูดเบาๆอย่างแจ่มใส
“ผมขึ้นไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณรีบไปเถอะนี่มันป้ายห้ามจอดนะ” เอริก้าปฏิเสธ
“ผมไปส่งน่ะดีแล้ว อีกอย่าง ตอนนี้ก็ไม่มีตำรวจแล้วด้วย”
เขาเปิดประตูรถลงไปก่อนจะเปิดประตูให้เธอ เอริก้าถอนใจยาวยอมลงจากรถเดิน
ตามเขาเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มกดเรียกลิฟท์เขากดชั้นโดยไม่ต้องถาม เอริก้าเหลือบตา
มองเขาเล็กน้อย
“คุณรู้หรือว่าฉันอยู่ชั้นไหน”
ชายหนุ่มยิ้มโดยไม่ตอบเขาเดินนำเธอไปจนถึงห้องพัก
“ฉันมีกุญแจห้อง”
เด็กสาวร้องบอกก่อนที่เขาจะกดกริ่ง เธอส่งกุญแจให้เขาเป็นคนไขเปิดประตูให้
ซันนี่รวบมือเด็กสาวไว้ เอริก้าพยายามบิดมือแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากอุ้งมือแข็งแรงนั้น
“กู๊ดไนท์คิสได้ไหม”
เขาถามด้วยท่าทางจริงจัง เอริก้าสั่นหน้า
“ไม่ได้”
“มันเป็นเรื่องปกติจะตายไปที่หลังจากจบเดทแล้วต้องมีการจูบลากัน”
“ฉันเป็นคนจีนย่ะ ไม่ใช่ฝรั่ง”
เอริก้ากระแทกเสียงเล็กน้อยแต่ก็แอบกลั้นยิ้มไว้
“เป็นคนจีนก็จูบได้”
เขาก้มหน้าหาเธออย่างมุ่งมั่น เอริก้าเบือนหน้าหลบในนาทีสุดท้าย ปากอุ่นของเขา
จึงประทับอยู่ข้างแก้มของเธอ
“ก็ได้ ฝันดีนะ”
เขายอมรับเท่าที่เธอให้อย่างง่ายดายและไม่มีท่าทีคุกคามให้เธอต้องอึดอัดใจ เอริก้า
ใจเต้นแรงขณะที่ปิดประตู เธอเริ่มอยากรู้ว่าปากของเขาจะมีรสชาดเป็นอย่างไร
...........................................
“หนูเปิดเองค่ะแม่”
เสียงกริ่งประตูดังกังวานทำให้เด็กสาวซึ่งออกมาจากห้องน้ำพอดีร้องบอกมารดา
ที่อยู่ในห้องครัวเล็กๆ เธอแง้มประตูออกดูก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนยิ้มแจ่มใสอยู่หน้า
ประตู
“มาทำไมแต่เช้า”
เธอเบี่ยงตัวให้เขาเข้ามาในห้องก่อนแกล้งถามเสียงขุ่น
“ก็คิดถึงคุณ คุณสวยจัง”
เขามองเสื้อนอนตัวโคร่งของเธอด้วยดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะยิ้มกริ่มสืบเท้า
เข้าหา เอริก้าเอามือดันหน้าอกเขาไว้ดุเบาๆ
“อย่ามาทำบ้าๆนะ คุณรออยู่ที่นี่ ฉันจะไปแต่งตัวก่อน”
“แต่งอย่างนี้ก็น่ามองอยู่แล้วนี่”
เขาพูดยิ้มๆทำตาวาว เด็กสาวทำตาเขียวเมื่อซันนี่เดินเข้ามาชิดเกินไป
“ใครมาน่ะลูก ริคกี้” เสียงคุณนายเฉินถามออกมาจากครัว
“ซันนี่ค่ะแม่”
เอริก้าตอบอึกอักเล็กน้อยเมื่อเขากักเธอไว้ได้ที่ผนังห้อง เด็กสาวเบือนหน้าหลบจมูก
ปากของเขา กระซิบเสียงดุ
“เดี๋ยวแม่ออกมาเห็นหรอก”
เธอออกแรงผลักเขาแรงๆหนีเข้าห้องปิดประตูดังโครม
“อ้าว”
หญิงวัยกลางคนที่เดินถือชามออกมาจากครัวอุทานเบาๆเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนเกะกะ
อยู่กลางห้อง ซันนี่รับชามร้อนกรุ่นนั้นไปวางบนโต๊ะอาหารตัวเล็กๆ
“สวัสดีครับคุณน้า ผมซื้อกับข้าวมาสองสามอย่างด้วย”
“ขอบใจนะ ริคกี้ละ”
คุณนายเฉินรับถุงกับข้าวไปถือ
“แต่งตัวครับ” ชายหนุ่มตอบ
“คุณทำงานอะไร ทำไมรู้จักริคกี้ได้”
เธอถามเพราะดูท่าทางแล้วชายหนุ่มแบบเขาไม่น่าจะมารู้จักบุตรสาวเธอได้
“ผมทำงานกับลุงเต๋อครับ”
คุณนายเฉินอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะถามเบาๆ
“ริคกี้รู้แล้วหรือยัง”
“ยังครับ คุณลุงให้ผมมาเชิญคุณน้ากับคุณเอริก้า ไปทานข้าวเย็นวันศุกร์นี้ด้วย
ครับ”
“ก็ได้นี่ แต่ต้องนัดเวลากับริคกี้เขา เพราะเขามีเรียน ว่าแต่...ทำไมคุณซุนไม่เลิกคิด
เรื่องจับริคกี้แต่งงานนะ”
“ต้องให้คุณเอริก้าปฏิเสธเองดีกว่าครับ”
“ปฏิเสธอะไรคะ”
เอริก้าเปิดประตูออกมาทันได้ยินประโยคสุดท้ายของซันนี่พอดี จึงถามอย่างแจ่มใส
“เอ้อ...ริคกี้ คุณลุงซุนอยากกินข้าวเย็นกับเราน่ะลูก”
เอริก้าตาวาววับเธอหันขวับมาทางชายหนุ่มราวกับแม่เสือ
“คุณ...คุณหลอกฉัน”
“ผมเปล่า” ชายหนุ่มปฏิเสธทันที
“แม่เอากับข้าวไปใส่จานให้ก่อนนะ”
คุณนายเฉินเลี่ยงเข้าไปในครัว ริคกี้คว้าไม่เบสบอลมาเดาะเล่นในมือ ตาวาวด้วย
อารมณ์โกรธ
“เหมาะเลย ฉันเพิ่งซื้อไม้มา กะจะหวดคนแบบคุณนี่ละ”
เด็กสาวมีเวลาเพียงเงื้อไม้ เธอก็ถูกชายหนุ่มดันไปติดผนังห้องเสียก่อน มือแข็งๆ
ของเขาดึงไม้ออกมาจากมือเธออย่างง่ายดาย ความโกรธทำให้เอริก้าพยายามเตะหว่างขาของเขา
ซันนี่จุปากเบาๆ
“เอริก้า ฟังผมก่อนสิ”
“ฟังคุณชวนฉันไปแต่งงานกับไอ้บ้า หลานลุงซุนน่ะหรือ”
เอริก้าหอบน้อยๆ เธอยังพยายามจะทุบเขาแต่เขาไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
“ผมเคยพูดหรือเปล่าว่าจะให้คุณไปแต่งงานกับคนอื่น ผมไม่โง่อย่างนั้นหรอกน่า
ผมรักคุณแล้วก็ไม่มีทางปล่อยให้คุณไปแต่งกับคนอื่นด้วย”
เอริก้าชะงัก เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปยืนในตำแหน่งที่เธอจะเตะเขา
ไม่ได้อีก เขารวบมือเธอไว้เหนือศีรษะใช้น้ำหนักตัวของเขาดันเธอไว้ติดผนังจนกระดิกตัวไม่ได้
“คุณโกหกฉัน เราเพิ่งจะรู้จักกันคุณจะมารักฉันได้ยังไง ตาบ้า”
“ผมไม่ได้โกหก คุณต่างหากที่เพิ่งจะรู้จักผม อย่าลืมสิว่าผมทำงานให้ลุงเต๋อ
เขารักเอ็นดูคุณเท่าไหร่ ผมมีหน้าที่ดูแลคุณมาตั้งนานแล้ว ผมเห็นคุณเกือบทุกวันนะ”
“งั้นหรือ”
เอริก้าเลิกคิ้วเธอเริ่มรู้สึกอึดอัดกับน้ำหนักตัวของเขา พยายามดึงมือจากการ
ตรึงของเขา ชายหนุ่มยอมปล่อยมือเธอแต่โดยดี
“ฉันหายใจไม่ออกแล้ว ตัวคุณหนักนะ”
เธออุทานพยายามผลักเขาให้ออกห่าง เสียงคุณนายเฉินดังมาจากครัว
“ริคกี้ มายกกับข้าวไปหน่อยลูก”
“ค่ะแม่” เด็กสาวรับคำ
“ผมไปเอง”
ซันนี่ยอมปล่อยเด็กสาวเป็นอิสระ เขาถือไม้เบสบอลเข้าไปในครัวด้วยเพราะเกรงว่า
เอริก้าจะเปลี่ยนใจหันมาฟาดหัวเขาจริงๆ
“ไหนครับคุณน้า ผมยกให้”
“ส่งไม้มาเถอะ เกิดยายหนูฟาดคุณจริงๆล่ะก็แย่แน่”
“ผมก็กลัวเหมือนกันครับ”
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เขายกจานอาหารออกไปตั้งโต๊ะอย่างรวดเร็ว
“นั่งสิคุณ” คุณนายเฉินร้องเชิญชายหนุ่ม
“หนูตักข้าวให้เองค่ะ”
เอริก้าตักข้าวต้มให้มารดาก่อนที่จะตักให้ชายหนุ่มและตนเอง
“ตามสบายนะคุณ”
“ขอบคุณครับคุณน้า”
เด็กสาวคีบอาหารให้เขา พูดเสียงเรียบ
“ศุกร์หกโมงเย็นนี้ฉันกับแม่จะไปกินข้าวกับคุณลุง คุณให้คนมารับเราด้วย อ้อ
แล้วคุณบอกว่าคุณไม่ได้จัดการเรื่องให้คนมาคุยกับฉันใช่ไหม”
ชายหนุ่มอึกอักเล็กน้อย
“ผมไม่ได้พูดอย่างนั้น ไว้ค่อยคุยกันที่หลังเถอะนะคุณน้าจะไม่สบายใจเปล่าๆ”
“งั้นก็ได้”
เด็กสาวสะบัดเสียงยังขุ่นใจไม่หาย
“ขอกาแฟผมถ้วยสิ ได้ไหม”
เขาทำเสียงออดนิดๆ คุณนายเฉินขยับตัว แต่เอริก้าลุกขึ้นยืนอย่างเต็มใจ
“หนูจัดการเองค่ะแม่”
...........................................
“คุณมีเรียนกี่โมง”
ชายหนุ่มถาม เขาเหลือบตามองเด็กสาวที่นั่งหน้าขรึมอยู่ข้างๆ
“คุณเล่ามาให้ฉันรู้เรื่องดีกว่าซันนี่ ถ้าฉันไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจละก็ รับรองว่า
คุณได้เจอดีแน่”
“ก็..คุณลุงท่านสั่งให้ผมมาจัดการเรื่องคุณ ผมตามดูคุณอยู่ตลอดเวลาพักหนึ่งแล้ว
ผมก็ตัดสินใจว่า ผมจะไม่พูดกับคุณเรื่องมาร์คหรอก”
“คุณแก้ตัวใช่ไหม” เด็กสาวถามเสียงแข็ง
“ผมพูดจริงๆ คุณทำให้ผมภูมิใจในตัวคุณมากเลยนะที่คุณฟาดทนายหวังกระเจิง
ไปอย่างนั้นน่ะ”
“ฉันจะฟาดคุณด้วย ระวังตัวไว้เถอะ” เธอขู่จริงจัง
“ทนายหวังคงติดต่อมาอีกครั้ง ผมอยากให้คุณบอกคุณลุงให้รู้เรื่องไปเลยว่า
ไม่ตกลง”
“ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย คุณก็หลอกฉันเหมือนกัน”
“ผมไม่ได้หลอก ผมรักคุณผมก็บอกว่ารัก”
“พูดจาเพ้อเจ้อ” เอริก้าทำเสียงเขียว
“ผมพูดจริงๆนะคุณ ยังคิดอยู่ว่าจะต้องตามแอบดูคุณไปอีกนานเท่าไหร่กันแน่
ผมไม่ใช่คนที่มีความอดทนเท่าไหร่หรอกนะ ดีที่เจอคุณในงานวันนั้นผมค่อยสบายใจหน่อยว่า
ในที่สุดคุณก็รู้แล้วว่ามีผมอยู่ในโลกอีกคน”
เขาจอดรถตรงจุดที่เคยจอด
“เย็นนี้ผมจะมารับนะ”
“ฉันจะไปร้านเน็ตกับเมย์เย็นนี้”
“ร้านเน็ตหรือ” ซันนี่ทำหน้านิ่ว
“ค่ะ เมย์เขานัดพบแฟนที่นั่น ฉันไปเป็นเพื่อนเขา”
“คุณจะไปขัดคอเขาทำไมละ”
เขานิ่วหน้าถาม เอริก้าทำตาดุ
“พวกเขาไปเล่นเกมส์กัน ไม่ใช่ไปจู๋จี๋กันนะ จะได้ไปขัดคอ”
“ผมจะไปรับที่ร้านเน็ตก็แล้วกัน”
เขาตัดสินใจก่อนจะวางมือลงบนมือเล็กที่กำลังจะเปิดประตูรถออกไป
..........................................
ความคิดเห็น