คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สาวน้อยแสนสวย
เสียงเพลงที่คึกคักเปลี่ยนเป็นเพลงบรรเลงแผ่วเบาเด็กสาวทั้งกลุ่มเฮกลับมานั่งโต๊ะ
ซึ่งมีชายสูงวัยท่าทางเป็นสง่านั่งจิบไวน์ชั้นหนึ่งอยู่ เด็กสาวพยักหน้าไปที่เก้าอี้ว่างที่มีการเตรียม
พร้อมเพื่อให้คนมานั่ง
“พ่อคะ ที่นั่งตรงนั้นพ่อเตรียมไว้ให้ใครคะ”
เด็กสาวถามด้วยเสียงสดใส ชายสูงวัยหัวเราะเบาๆ
“พ่อจะมีแขกมาคุยด้วยน่ะลูก แต่ไม่นานหรอกคุยเสร็จเขาก็จะไป”
เด็กสาวหันมาทางเพื่อนของเธอ
“ได้ยินไหมริคกี้ พ่อจะมีแขก เธอคิดว่าแขกของพ่อจะเป็นพวกมาเฟียไหม”
“ไม่รู้สิ เธอว่าใช่ไหมละ”
เด็กสาวสั่นหน้าทำท่าไม่สนใจ
“เขาเป็นมาเฟียหรือเปล่าคะพ่อ”
ชายสูงวัยหัวเราะหึๆ
“เรียกได้ว่าใช่นะ เขาเป็นเจ้าพ่อน้อยก็ว่าได้ ซุนเต๋อลุงของเขาออกจากวงการแล้ว
เขาเป็นผู้คุ้มกันลุงเขา”
เด็กสาวหันมาทางเพื่อนรัก
“ไง ได้ยินหรือยัง เขาเป็นเจ้าพ่อเหมือนกันนะ”
“งั้นฉันจะคอยดู อยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้าพ่อจะหน้าตาเป็นยังไง”
เอริก้าตอบยิ้มๆ รอยยิ้มของเธอเลยไปถึงผู้ที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็ทำ
ให้เขารู้สึกดีที่เห็นรอยยิ้มนั้น
“ซันนี่ นั่งสิ”
ชายสูงวัยร้องทัก ชายหนุ่มละสายตาจากเด็กสาวอย่างยากเย็นเขายิ้มนิดๆก้มศีรษะ
ทักทายชายสูงวัยอย่างอ่อนโยน
“สวัสดีครับคุณโจว”
“จะมาเรื่องไอ้อันธพาลคนนั้นละสิ แล้วซุนเต๋อรู้เรื่องนี้หรือยัง”
“ยังครับ คุณลุงพักนี้ไม่ค่อยสบายผมก็เลยยังไม่บอกท่าน”
“แล้วนายคิดจะจัดการยังไงกับเรื่องนี้ละ”
คุณโจวถามอย่างท้าทาย ซันนี่ยิ้มนิดๆ
“ก่อนมาที่นี่ผมไปเยี่ยมคุณโจนาสมา เขาฟื้นแล้วอยากกลับบ้านคนของคุณไปส่ง
แล้วละครับ”
“งั้นหรือเป็นข่าวดีจริงๆนะ นายก็เลยจะมาขอโทษแทนไอ้บ้านั่นหรือไง”
“ครับ หากคุณโจวจะยอมเว้นโทษสักครั้ง มาร์คคงจะต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วละครับ
หากคุณลุงทราบเรื่องนี้”
คุณโจวพยักหน้านิดๆ
“ความจริงมันควรได้รับการตอบโต้เสียบ้างนะซันนี่ มันถึงจะยุติธรรม”
“จริงครับ แต่ผมทราบมาว่ามาร์คโดนตำรวจจับขังอยู่ยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วตอนที่
ทนายไปประกันตัว”
“งั้นก็ได้ ถ้าต่อไปมันมายุ่งกับคนของฉันอีก นายจะมาออกหน้าอย่างนี้ไม่ได้แล้ว
นะ ซันนี่”
“ครับผม วันนี้คุณคงไม่รังเกียจถ้าผมจะเป็นคนรับภาระเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เอง”
คุณโจวยกไหล่เล็กน้อย
“ก็ได้นี่ กินอะไรด้วยกันก่อนดีไหม”
“ได้ครับ”
ซันนี่รับคำเขารับแก้วไวน์จากเจ้าพ่อไปจิบน้อยๆ อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปยัง
เด็กสาวสองคนที่นั่งถัดไปจากเจ้าพ่อใหญ่ และจับจ้องเป็นพิเศษที่เด็กสาวซึ่งนั่งสบตาเขาอย่าง
ไม่สะทกสะท้านทุกครั้งที่เขามองเธอ
“ให้ตายเถอะริคกี้ เธอเล่นหูเล่นตากับเขาตลอดเวลาเลยนะ”
เมย์อุทานใส่เพื่อนรักเมื่อชายหนุ่มขอตัวจากไป
“เธอนี่กล้าดีจริงๆเลยนั่งจ้องตากับเขาอยู่ได้ เห็นหรือเปล่าว่าตาของเขาเวลาที่มอง
เธอน่ะอย่างกับเสือหิวแน่ะ เขามองเธอราวกับเธอเป็นขนมหวานน่ากินไม่มีผิดเลย”
เด็กสาวหน้าแดงเรื่อแต่ก็ยังยิ้ม
“เขาดูน่ารักมากกว่าน่ากลัวนะ ฉันว่า”
“เธอนี่มันพิลึกจริงริคกี้ นี่ แม่พวกข้างหลังน่ะเธอจะหยุดเจี้ยวจ้าวบ้างได้ไหมเนี่ย”
เมย์แกล้งหันไปดุเพื่อนๆทางด้านหลัง ทำให้รถที่เธอขับแฉลบออกนอกเส้นทาง
วูบหนึ่งเสียงเด็กสาวทั้งกลุ่มที่นั่งเบียดกันอยู่ด้านหลังร้องกรี๊ดกร๊าดสลับด้วยเสียงหัวเราะสดใส
“เมย์ ขอฉันลงตรงร้านหนังสือหน่อย”
เอริก้าสะกิดเพื่อนรัก
“นี่มันจะสองทุ่มแล้วนะ เธอจะกลับยังไง”
เมย์มองนาฬิกาที่หน้ารถก่อนท้วงอย่างไม่เห็นด้วย
“ฉันจะเรียกแท็กซี่กลับเอง ยังไม่ดึกซักหน่อย เธอไปส่งยายพวกนี้เถอะ”
“ก็ได้ สี่ทุ่มฉันจะโทรหานะ”
“โอเค”
เอริก้าเดินดูหนังสือได้ไม่นานก็รู้สึกว่ามีคนเดินตามอย่างจงใจ เด็กสาวหันขวับไป
มองอย่างเคืองๆ ดวงตาที่มีรอยยิ้มนิดๆของเขาสบตาเธออย่างจัง
“คุณตามฉันมาหรือ”
เด็กสาวถามเสียงขุ่น
“ผมตามมาตั้งแต่ภัตตาคารแล้ว ใช่เล่มนี้หรือเปล่า”
เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นสูงสุดส่งให้เธอ
“ทำไมคุณรู้ละ”
“ก็ตาคุณบอก”
เด็กสาวตวัดตามองเขาอย่างหมั่นไส้นิดๆ เธอเปิดออกดูหลายหน้าก่อนจะส่งให้
ชายหนุ่ม
“เก็บเถอะ”
“อ้าว ไม่ซื้อหรือคุณ”
“ยังไม่อยากซื้อวันนี้”
“ซื้อเถอะคุณ งบจัดเลี้ยงยังเหลือผมซื้อให้คุณเอง”
เขาเสนอ เด็กสาวสั่นหน้า
“ไม่ละ ขอบคุณ”
“แต่ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะซื้อให้คุณเอง”
ซันนี่หยิบหนังสือที่เอริก้าหมายตาไว้ออกมาจากชั้นหนังสือสองสามเล่ม
“จะทำอะไรน่ะ คุณอย่ามายุ่งได้ไหม”
เด็กสาวผลักเขาอย่างเริ่มอารมณ์เสีย เธอเริ่มรู้สึกว่าเขาค่อนข้างน่ากลัว เพราะเขารู้ใจ
เธอมากเกินไป ชายหนุ่มไม่มีท่าทางว่าจะสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย เอริก้ากวาดตามองหาอาวุธ
“อย่านะคุณ คิดจะทำร้ายผมหรือ”
เขาถามยิ้มๆ
“ฉันป้องกันตัวย่ะ คุณเป็นนักเลงนี่จะมาลวนลามฉัน ฉันก็ต้องป้องกันตัวสิ”
“ถ้าอย่างนั้น ลวนลามจริงๆซักทีดีไหม”
เขาแกล้งถาม
“อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ไม่งั้นคุณต้องรับผิดชอบกับทางร้านเองด้วย”
เด็กสาวขู่เสียงเขียว เธอเงื้อหนังสือเตรียมขว้างหน้าตาเอาจริงเอาจัง แต่สำหรับ
ชายหนุ่มแล้ว เธอสวยจับใจในเวลาที่โกรธจริงๆจังๆเช่นนี้ เขารีบห้าม
“อย่านะคุณ ผมจะบอกให้นะว่าคุณจะมีโอกาสขว้างมันใส่ผมได้แค่เล่มนี้เล่มเดียว
เท่านั้น จากนั้นผมไม่รับประกันความขายหน้าของคุณนะ เพราะผมหลบได้อยู่แล้ว”
เขาแกล้งขู่ยิ้มๆ เอริก้าหน้างอ เธอกระแทกหนังสือกลับลงบนชั้นอย่างฉุนเฉียว
ตวัดเสียงดุ
“ไปให้พ้น”
ซันนี่หัวเราะเบาๆ มองเด็กสาวด้วยดวงตาเป็นประกาย ทำให้เธอต้องมองเมินไป
ทางอื่นเพราะไม่อยากสบตากับเขาตรงๆ เสียงเขาคล้ายล้อเลียนน่าโมโห
“ไปไม่ได้หรอก ก็ผมจะพาคุณไปส่งบ้าน”
“ไม่ได้ขอนะ”
“ไม่เป็นไร เป็นบริการจากผมเอง”
เด็กสาวเม้มปากเล็กน้อย
“คุณอยากได้หนังสืออะไรอีกไหม”
ซันนี่ถามเสียงนุ่ม แต่ก็ได้รับคำตอบห้วนๆ
“ไม่”
“งั้นเอาแค่นี้นะ ไปจ่ายเงินกันดีกว่า”
เขาเดินลิ่วไปจ่ายเงิน เด็กสาวเดินแกมวิ่งตามเขาไปอย่างจนปัญญา ท่าทางสบายๆ
ของเขาดูจะห่างไกลจากคำว่าเจ้าพ่อหรือนักเลงมากมายนัก ถ้าเธอไม่เห็นเขาเจรจากับบิดาของเมย์
เธอคงไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนในวงการแน่ๆ ชายหนุ่มเปิดประตูรถด้านหลังให้เด็กสาวที่ยืนมองรถ
คันงามของเขาอย่างสนใจ เธอขึ้นนั่งทางด้านหลังและเห็นคนขับรถหน้าขรึมนั่งอยู่
“เจียงนี่คุณเอริก้า นี่เจียงครับเป็นเพื่อนผมเอง”
“สวัสดีครับคุณหนูริคกี้”
เจียงทักทายอย่างอ่อนโยน เด็กสาวทักตอบ
“ผมอยากกินกาแฟไปเป็นเพื่อนผมก่อนนะได้ไหม”
ซันนี่ถาม เด็กสาวสั่นหน้า
“นี่มันดึกแล้วนะคุณ แม่ฉันจะเป็นห่วง ฉันบอกท่านว่าจะกลับไม่เกินสี่ทุ่ม”
“งั้นคุณจะชงกาแฟให้ผมกินหรือเปล่า”
ซันนี่แกล้งถาม เอริก้าทำหน้าบึ้ง
“ไม่”
“งั้นก็ไปนั่งกินกาแฟกับผมก่อนนะ ผมจะโทรบอกคุณแม่คุณให้”
“คุณไม่ต้องยุ่งได้ไหม ฉันโทรเอง”
“บอกคุณแม่คุณนะว่าจะกลับไม่เกินเที่ยงคืน”
เขาแนะนำ เอริก้าทำหน้านิ่ว
“พรุ่งนี้ฉันต้องไปเรียนนะ”
“งั้นคุณก็ชงกาแฟให้ผมกิน”
เด็กสาวเหลือบตามองชายหนุ่มก่อนจะพยักหน้า
“ก็ได้ แต่เอาไว้คราวหน้านะ ได้ไหมคะ”
เด็กสาวเผลอตัวทำเสียงอ้อนนิดๆเหมือนที่เคยทำกับมารดา และมีผลต่อเขาอย่าง
ช่วยไม่ได้
“ก็ได้”
เขายอมรับปากตามใจเธออย่างง่ายดายจนเธอออกจะประหลาดใจไม่น้อย
“ผมลงไปส่งคุณนะ”
ซันนี่อาสา เด็กสาวสั่นหน้า
“ไม่ต้องหรอก ที่ตรงนี้ห้ามจอดรถ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
เขามองตามร่างระหงที่เดินเข้าไปในอาคาร เจียงส่งโทรศัพท์ให้กับเขาจากทาง
ด้านหน้า
“พี่ซันครับ ผมจิมมี่นะครับ”
“มีอะไรหรือจิมมี่”
“ไอ้เสี่ยเล็กมันจะไปมาเก๊าครับอาทิตย์หน้าครับพี่”
“เอาตัวมันมาให้ฉันก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยกับมัน”
“ได้ครับพี่”
“ระวังอย่าให้พลาดบาดเจ็บนะ ลุงเต๋อต้องการวางมือแต่โดยดี ”
“ครับพี่”
เสียงตอบมาอย่างเคร่งครัด
“ดี ได้ตัวเมื่อไหร่โทรมาทันทีนะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มส่งโทรศัพท์คืนให้เจียง พูดเบาๆ
“กลับบ้านดีกว่าเจียง ฉันมีบัญชีของมาร์คต้องตรวจอีก”
“ครับพี่ซัน”
เจียงรับคำมองท่าทางเซ็งสุดขีดของชายหนุ่มอย่างเห็นใจ
...........................................
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เด็กสาวหน้านวลออกมาจากห้องน้ำ
“หนูรับเองค่ะแม่ เมย์บอกจะโทรมา”
“เขาโทรมาหนนึงแล้วตอนสี่ทุ่ม แม่จะเข้านอนก่อนละนะ อย่าคุยให้ดึกนักละ
พรุ่งนี้มีเรียน”
“ค่ะ”
เด็กสาวตอบ มองมารดาที่ปิดหนังสือเดินเข้าห้องนอนไป
“เธอไปไหนมาริคกี้กลับมาจนป่านนี้”
เสียงของเมย์โวยวายมาตามสาย
“ฉันกลับมาได้พักใหญ่แล้ว มาถึงช้าไปห้านาทีเอง”
“เธอดูหนังสืออยู่ที่ร้านหรือ”
เมย์ถามคาดคั้น เอริก้ายิ้มซุกซน
“ฮื่อใช่ มีคนดูหนังสือเป็นเพื่อนฉันด้วยนะ”
“ใครน่ะ”
“พรุ่งนี้ค่อยเล่าก็แล้วกันนะ ง่วงนอนแล้ว”
“ก็ได้แล้วก็นอนหลับนะ อย่ามัวฝันหวานถึงคนอื่นละ”
“ราตรีสวัสดิ์เมย์”
เอริก้าหัวเราะเสียงใส ดวงตาเป็นประกายพราว แว่บหนึ่งเธออดไม่ได้ที่จะคิดถึง
ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะหลับฝันดีตลอดคืน
เสียงโทรศัพท์ที่เรียกดังตลอดเวลา ทำให้คุณนายเฉินซึ่งกำลังทำอาหารในครัวเล็กๆ
ร้องเรียกบุตรสาว
“ใครโทรศัพท์มาน่ะ ริคกี้รับโทรศัพท์หน่อยลูก”
“ค่ะแม่”
เด็กสาวรับคำเธอยกหูโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“สวัสดีครับ”
เสียงทุ้มจากปลายสายอีกด้านหนึ่งทำให้เด็กสาวเบิกตาโต
“คุณโทรมาทำไมแต่เช้า”
เอริก้าเหลือบตามองมารดาที่กำลังเฝ้าอาหารอยู่หน้าเตา
“ผมหิว มารอคุณตั้งแต่หกโมงแล้ว”
“แล้วใครใช้ให้มารอละ”
เด็กสาวกระซิบถาม
“ไปหาอะไรกินกันนะ”
เขาชวน
“เดี๋ยวแปดโมงตำรวจก็จะมาจับรถแถวนี้แล้วนะคุณ”
“คุณนี่ยุ่งจริงๆ แม่กำลังทำกับข้าวอยู่ด้วย”
เด็กสาววางโทรศัพท์ เธอทำเสียงขุ่นใส่เขาทางโทรศัพท์ก็จริง แต่ใบหน้าของเธอ
กลับมีรอยยิ้มแจ่มใสขณะที่ร้องบอกมารดา
“แม่คะ เพื่อนหนูโทรมาชวนไปกินข้าวเช้าด้วยหนูไปเรียนเลยนะคะ”
...........................................
ความคิดเห็น