ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Moon shadow love theme ( บทเพลงแห่งรัก)

    ลำดับตอนที่ #17 : 16....ทำงานไกลบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 52





    ตอนที่สอง
    ฟังเจิ้ง  - ไอรีน

                             อย่าให้ฉันทุกข์ทนหม่นหมองและรอคอยเธออย่างเดียวดาย เธอคือสุดปรารถนาของฉัน และฉันจะไม่ทำให้เธอต้องเศร้าโศกอาดูร  มารักฉันในคืนนี้เถิด...รักฉันในคืนนี้...

                                                                   ................................

                             น้ำใสในสระแตกกระจายเมื่อชายหนุ่มร่างเล็กกระโจนลงสระอย่างไม่มีพิธีรีตอง เขา

    แหวกว่ายอยู่ครู่ใหญ่ก็ปีนกลับขึ้นจากสระมานั่งข้างชายหนุ่มร่างสูงที่นอนเอกเขนกอยู่อย่างสบายใจ  

    ผิวของเขาค่อนข้างคล้ำด้วยแดดลมของทะเล ผมของเขาตัดสั้นเกรียนอย่างทันสมัย รูปร่างแข็งแกร่ง

    ด้วยกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมันส่วนเกิน กางเกงว่ายน้ำสีดำรัดรูปโชว์ท่อนขาที่ได้รูปแข็งแรง ผิว

    พรรณของเขาสะอาดสะอ้านแม้จะคล้ำแดดแต่ก็ปิดไม่มิดถึงความขาวแต่เดิมของเชื้อชาติที่มีมาแต่

    กำเนิด เขาจิบไวน์ด้วยท่วงท่าละเมียด ขณะที่ชายหนุ่มร่างเล็กคว้าแก้วไวน์ที่วางอยู่ไปดื่มอึกหนึ่ง 

    ก่อนจะถามอย่างสนใจ   


                     “
    แกไม่คิดจะกลับบ้านหรือไง อาเจิ้ง 

                             เขาถามอย่างอยากรู้ เหลือบตามองเพื่อนรักที่วางแก้วไวน์ลงอย่างบรรจง  

                     “
    ไม่คิด ที่นี่สบายดีจะตายไปจะกลับไปทำไมละ  หรือแกไม่ชอบที่นี่ละ  โรเจอร์  

                     “
    ชอบน่ะชอบหรอก แต่จะให้อยู่ตลอดไปก็คงไม่เอาด้วยหรอกนะ  คนเรามีบ้านที่

    จะต้องคิดถึงเหมือนกันนะ  ที่นี่มันไม่ใช่บ้านนี่หว่า
      

                             โรเจอร์พูดจบก็หัวเราะชอบใจ  

                     “
    อีกอย่าง ฉันก็คิดถึงแฟนฉันด้วย  พี่ชายแกกำลังป่วยหนักนะอาเจิ้ง แกน่าจะกลับ

    ไปแสดงตัว พี่แกก็ไม่ได้มีลูกเมียนี่
      

                     “
    ช่างหัวมันเถอะ ที่นี่คุณเจอรี่ก็ให้เงินเดือนฉันเหลือกินเหลือใช้แล้ว ไม่ต้องดิ้นรน

    ไปรอรับมรดกของเขาหรอก
      

                     “
    แล้วแกไม่คิดจะมีลูกมีเมียบ้างหรือไง

                           
                             ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  

                     “
    ยังไม่คิด  ว่าแต่แกเถอะโรเจอร์ จะมาฮันนี่มูนที่นี่จริงๆหรือเปล่า 

                     “
    จริงสิ   

                     “
    ก็ดี ฉันจะกันห้องสูทไว้ให้ เดือนหน้าคนจะเต็มเพราะเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม

    ใหญ่ พ่อแม่จะพาลูกๆมาเที่ยวกันมาก
      

                     “
    พ่อก็มาเล่นการพนัน เผลอๆแม่อาจจะเล่นด้วย  

                             โรเจอร์ต่อให้ เจิ้งหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นยืน  

                     “
    แกก็พูดเกินไป กลางวันที่นี่เราจัดกิจกรรมสำหรับครอบครัว   อย่างไต่เขานั่นไง   

    หรือจะลองเก็บรังนก ปีนขึ้นไปเก็บได้เท่าไหร่ที่นี่ยกให้เลย หรือจะไปเที่ยวถ้ำ ดำน้ำชมปะการัง 

    ที่นี่สถานที่ท่องเที่ยวไม่เลวนักหรอกจะบอกให้
      ฉันต้องไปตรวจงานหน่อย ค่ำนี้ค่อยเจอกันที่โต๊ะ

    อาหารก็แล้วกันนะ 
    โรเจอร์  

                     “
    โอเค ฉันจะว่ายน้ำแล้วก็อาบแดดอีกนิด จะได้ดำแล้วดูแมนขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง


                               ภาพจากส่วนต่างๆภายในโรงแรมปรากฏอยู่บนหน้าจอนับสิบ   แต่ละจอภาพมี

    พนักงานประจำที่คอยตรวจตราทุกจุด เจิ้งนั่งทอดอารมณ์บนเก้าอี้พนักสูง เขากวาดสายตามองภาพ

    ทุกจออย่างสนใจ 

                     “
    น้ำครับพี่เจิ้ง  

                     “
    ขอบใจ  

                             ชายหนุ่มหยิบแก้วน้ำจิบเล็กน้อย 

                     “
    โทรศัพท์ครับพี่ จากคุณเจอรี่  

                             ชายหนุ่มยกหูโทรศัพท์กรอกเสียงลงไปอย่างสุภาพ 

                     “
    เจิ้งครับ  

                     “
    เจิ้ง กลับมาด่วนนะ  จองตั๋วเครื่องบินให้แล้ว 

                     “
    ครับ

                                                              ..................................

                             โรเจอร์โยนกระเป๋าเข้าไปในรถแท๊กซี่ก่อน เขาโบกมือให้ชายหนุ่ม ตะโกนบอกก่อน

    ที่รถแท็กซี่จะเคลื่อนตัวออก 

                     “
    เย็นนี้จะมารับไปกินข้าวนะอาเจิ้ง จะแนะนำให้รู้จักเอมมี่ด้วย  

                     “
    โอเค  

                             ชายหนุ่มโยนกระเป๋าเดินทางใบเล็กของเขาลงบนโซฟาร์ตัวยาวอย่างไม่ใส่ใจนัก  

    เขารับโทรศัพท์ที่กรีดเสียงดังกังวาน  

                     “
    เจิ้งหรือ ฉันส่งรถไปรับแล้วนะ  

                             เสียงเจอรี่ดังมาจากปลายสาย เจิ้งทำหน้านิ่วเล็กน้อย อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดเจอรี่

    จึงต้องทำเรื่องเช่นนี้  เขาลงมาจากบ้านก็เห็นเจอรี่กวักมือเรียก  

                     “
    สวัสดีครับคุณเจอรี่  

                     “
    ขึ้นรถเร็วเข้า ฉันจะพานายไปโรงพยาบาล  

                     “
    โรงพยาบาลไหนครับ มีใครเป็นอะไรหรือครับคุณเจอรี่  

                     “
    ก็คุณเจี้ยนพี่ชายของนายไงละ 

                              
    เจิ้งนิ่งอึ้ง  เจอรี่ถอนหายใจยาว  

                     “
    อย่าว่าฉันยุ่งเรื่องของนายเลยนะเจิ้ง แต่ฉันสงสารคุณเจี้ยนจริงๆ เขาอยากพบนาย

    มากเลยละ
      

                     “
    ครับ 

                             เจิ้งรับคำอย่างขอไปที  
    ชายหนุ่มนึกถึงเรื่องที่เขาต้องไปทำงานที่ดาวน์ตัน  หาก

    พี่ชายของเขาให้ความสนใจเขาบ้าง  โดยรั้งเขาไว้เมื่อเขาจะออกจากบ้านและเจอรี่ไม่เสนองานดูแล

    ที่ดาวน์ตันให้กับเขา ชีวิตของเขาคงไม่มีความสุขที่ดาวน์ตันมาจนถึงทุกวันนี้  ความจริงพ่อแม่ของ

    เจิ้งสร้างฐานะมาอย่างบากบั่น พวกเขาทิ้งมรดกให้เขากับพี่ชายไม่น้อยรวมโรงงานทอผ้าและบริษัท

    ส่งออกผ้าทอซึ่งพี่ชายของเขาอ้างว่าเป็นผู้รับช่วงบริหารงานสมควรที่เขาจะได้เป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว  

    พี่ชายของเขามีอายุมากกว่ากันถึงแปดปี  ในขณะที่เขาอายุเพียงสิบแปดเมื่อครั้งที่รับมรดกจากพ่อแม่ 

    เจิ้งยังเป็นเพียงเด็กอายุสิบปีเท่านั้น   โชคดีที่เจิ้งได้รับเงินส่วนที่พ่อแม่เก็บออกไว้ให้เขาโดยเปิดบัญชี

    ธนาคารส่วนตัวให้กับเขาถึงสิบปี เขาจึงมีเงินก้อนใหญ่ไว้ใข้จ่ายทั้งในเรื่องส่วนตัวและการเรียนของ

    ตนเอง   แม้ว่าพี่ชายจะไม่เคยดูดำดูดีกับชีวิตของเขาและไม่สนใจต่อความเป็นอยู่ของเขาเลยก็ตาม 

     
    แต่เขาก็มีชีวิตอยู่ได้ เพราะมีแม่บ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่คอยดูแลเขามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย  ทั้งยังคอย

    จัดการเรื่องการเรียนของเขา   จนกระทั่งเขาเริ่มโตขึ้นเขาจึงย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่ที่พี่ชายครอบ

    ครองอยู่  โดยย้ายมาอยู่เพียงลำพังและชวนเจ๊ชุนมาคอยดูแลเขาด้วย  โดยที่พี่ชายของเขาไม่เคยคิด

    ที่จะสนใจถึงความเป็นอยู่ของเขาแม้แต่น้อย  ในระหว่างที่เรียนหนังสือเขาก็ทำงานไปด้วย เริ่มจาก

    การเป็นพนักงานเดินเอกสารในบริษัทของเจอรี่  เมื่อได้รับปริญญาทางด้านบริหารจัดการโรงแรม 

    เป็นเวลาพอดีกับที่เจอรี่เป็นเจ้าของดาวน์ตัน  เขาถามความเห็นพนักงานเป็นการระดมสมองว่าควร

    จะจัดการกับที่ดินที่เป็นเกาะอย่างไร  และเจอรี่ก็ชอบกับแนวความคิดของเจิ้ง  เขาเดินทางไปที่เกาะ

    กับเจอรี่หลายครั้ง  เจอรี่เองก็ไว้วางใจในตัวเขาอย่างมาก และตั้งให้เขาเป็นผู้จัดการที่ดาวน์ตัน เขา

    เดินทางไปอยู่ที่เกาะนั้นด้วยความเต็มใจ เขาเองก็ไม่เคยติดต่อกับพี่ชายของเขามานานนับสิบปีแล้ว  

    จึงคิดไม่ถึงว่าพี่ชายของเขาจะนึกถึงเขาขึ้นมาได้ว่ายังมีน้องร่วมสายเลือดอีกคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่บน

    โลกนี้ โลกใบที่เขากำลังจะต้องอำลาจากไปในเวลาอีกไม่นาน


                     “
    อาเจิ้ง แกมาแล้วหรือ  

                             คนเจ็บที่นอนบนเตียงขยับตัวอย่างปิติยินดี  เจิ้งเข้าประคองคนเจ็บด้วยท่าทางเป็น

    ปกติ  

                     “
    ดีใจที่แกมาได้ อาเจิ้ง  

                     “
    พี่เป็นยังไงบ้าง 

                              
    เพลียมาก ฉันมีเวลาอีกไม่นาน อยากพบแกก่อนที่จะตายไป  ฉันเสียใจที่ไม่เคย

    ดูแลแกอย่างที่ควรจะทำ ฉันเสียใจจริงๆอาเจิ้ง
      

                     “
    ไม่เป็นไรนี่พี่ ผมก็อยู่มาจนอย่างนี้แล้วนี่ ผมหัวแข็ง  พี่ก็พักผ่อนให้มากๆนะ จะได้

    แข็งแรงเร็วๆ
      

                             ฟังเจี้ยนถอนหายใจยาว 

                     “
    แข็งแรงคงเป็นไปไม่ได้แล้ว อาเจิ้ง อยู่ด้วยกันก่อนนะ  

                     “
    ผมจะอยู่จนพี่หลับ 

                              
    เจิ้งแอบถอนหายใจยาว สภาพของฟังเจี้ยนทำให้เขาอดสะท้อนใจไม่ได้  
     คนเราที่

    ดิ้นรนเพื่อให้ตนเองสมบูรณ์เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ เมื่อถึงเวลาที่ต้องมานอนซมด้วยโรคร้าย

    เช่นนี้เงินทองที่สะสมก็ช่วยไม่ได้แม้แต่น้อย


                     “พี่ชายแกเป็นยังไงบ้าง  

                             โรเจอร์จิบเหล้าเขามองรอบๆบริเวณห้องอาหารอย่างสนใจ  

                     “
    อาการหนักกว่าที่ฉันคิด  

                             เจิ้งตอบเนือยๆ   เขาทอดสายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่กับชายหนุ่มผู้หนึ่งที่มุมห้อง 

    เป็นที่นั่งที่ดูน่าสบายที่สุดในห้อง ท่าทางของหญิงสาวสดใสและรื่นเริงอย่างมาก เธอหัวเราะจนเขา

    คิดว่าได้ยินเสียงใสๆของเธอ  

                     “
    สวยนะ แกว่าไหม บนเกาะที่แกไปจำศีลน่ะไม่มีอะไรแบบนี้ให้แกได้ดูหรอก  

                             โรเจอร์หยอกเมื่อเห็นเจิ้งมองอย่างสนใจจริงๆ 

                     “
    สวย แต่หมอนั่นคงไม่ชอบนักที่มีคนมาสนใจแฟนตัวเอง  

                     “
    คิดอย่างนั้นก็ใจแคบว่า คิดดูสิแฟนเราสวยเราต้องภูมิใจสิวะ ฉันยังชอบเลยที่มี

    หนุ่มๆมามองแฟนฉันน่ะ
      

                             เจิ้งหัวเราะ เขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นคนทั้งสองเดินออกจากร้านอาหารไป  

                     “
    เสียดายจริงๆนะ  

                             โรเจอร์พึมพำ  เจิ้งหัวเราะเบาๆ  

                     “
    เสียดายทำไมวะ ผู้หญิงสวยๆมีเกลื่อนโลกนี้   

                     “
    เออ ฉันภาวนานะว่าให้แกเจอคนสวยที่เกลื่อนเมืองของแกเร็ว ไปฟังเพลงกัน

    ไหมแก
      

                     “
    ไม่เอาว่ะ ฉันทำงานที่ดาวน์ตันนะแก ทั้งเสียงเพลงทั้งเหล้าทั้งการพนัน ฉันเห็น

    จนเบื่อตายแล้ว ฉันจะไปเดินเล่นหน่อย
      

                     “
    งั้นฉันจะเดินเป็นเพื่อนแกเอง รู้ไหมว่าเสน่ห์ของฮ่องกงอยู่ที่ไหน  

                     “
    ไฟจากเรือประมงที่จอดอยู่ในอ่าว ไปกันเลยดีกว่า พูดแล้วอยากเห็นว่ะ

                             ชายหนุ่มมีท่าทางสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้มาเดินเล่นที่สวนริมทะเลแห่งนี้ แสงไฟ

    วิบวับจากเรือประมงในที่ไกลตาสร้างความรู้สึกที่ห่างไกลจากจากแสงสีของไฟนีออนที่คลุกคลีอยู่

    มากมายนัก  เขาชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงอึกอักดังมาจากหลังพุ่มไม้  ชายหนุ่มเดินอ้อมพุ่มไม้ก่อนจะ

    เบิกตากว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มสองคนกอดรัดกันอยู่บนพื้น  หญิงสาวผู้หนึ่งยืนเบิกตากว้างอย่างตกใจ

    อยู่ข้างๆ  เธอหันมามองเขาด้วยดวงตาตื่นตระหนก  

                     “
    ช่วยด้วยค่ะ เพื่อนฉันกำลังแย่แล้ว  

                             เจิ้งมองชายร่างเล็กที่กำลังเสียเปรียบ เขากระชากคอเสื้อด้านหลังชายที่กำลังคร่อม

    ร่างที่เล็กกว่าและอัดกำปั้นใส่อย่างดุดันนั้น  

                     “
    เขากระชากกระเป๋าฉันค่ะ  

                             หญิงสาว ร้องบอก เจิ้งกำหมัดต่อยโครม  ร่างชายคนนั้นถลาล้มโครม เขาตะเกียก

    ตะกายลุกขึ้นมาได้ก็วิ่งหนีไปทันที  เจิ้งหยิบกระเป๋าสีดำใบเหมาะมือส่งคืนให้หญิงสาว เขาจำได้ว่า

    เธอคือหญิงสาวแสนสวยที่ร้านอาหาร เพียงแต่ว่าหนุ่มที่มากับเธอตอนนี้เป็นคนละคนกับหนุ่มที่เขา

    เห็นเมื่อตอนเย็น  

                     “
    ขอบคุณมากนะคะ  

                             เขาช่วยเพื่อนหนุ่มของเธอให้ลุกขึ้นยืน  

                     “
    ไม่เป็นไรครับ 

                              
    เฮ้ยเจิ้ง แกทำอะไรอยู่วะ เอ้อ  

                             โรเจอร์ซึ่งย้อนกลับมาเมื่อเห็นว่าเจิ้งไม่ได้เดินไปกับเขาทำท่าอึกอักเล็กน้อย เขาเอง

    ก็จำหญิงสาวแสนสวยผู้นี้ได้เช่นกัน  

                     “
    ไม่มีอะไร คุณผู้หญิงเขาโดนชิงกระเป๋าน่ะ ไปกันเถอะโรเจอร์ ผมไปนะครับ  

                             เจิ้งบอกลาหญิงสาวซึ่งยิ้มหวานให้  เขาหันหลังให้แอบถอนหายใจอย่างเสียดาย
                                                                     ..........................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×