คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : 15...เรื่องสมหวัง
ชายหนุ่มยืนมองรถคันงามของเอริก้าที่แล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้านพัก เขาเปิดประตู
รถให้เธอ
“จะไปไหนคะ”
หญิงสาวถาม เธอมองเสื้อทีเชิร์ตสีเขียวอ่อนที่เขาสวมใส่อยู่ก่อนจะมองที่เป้หลังของ
เขานิ่งนาน
“มิคซ์ชวนไปออกกำลังที่โรงยิม
“ฉันจะไปดูคุณออกกำลังกับเพื่อนด้วย”
“ได้ครับ ซ้อมเสร็จก็คงจะไปหาอะไรกินกันก่อนกลับเข้ามา”
“กินเหล้า ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวหัวราน้ำ” เอริก้าต่อให้อย่างรู้ทัน
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”
“ไม่รู้ละ ไม่ว่าคุณจะไปไหนฉันจะไปด้วย” ซันนี่หัวเราะ
“ไม่ต้องคุมผมขนาดนั้นก็ได้ ไม่มีใครมาสนใจผมหรอก”
“ฉันจะรู้ได้ยังไง เห็นยายไอรีนมองคุณตาเป็นมัน เกิดนึกอยากกินคุณขึ้นมาจะทำ
ยังไง”
หญิงสาวเกี่ยวนิ้วที่หูกางเกงของเขาลากจนเขาต้องก้าวเข้าหาเธอก้าวหนึ่ง ซันนี่
กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เมื่อก้มลงมองเธอและสบตาที่เต็มไปด้วยแววแห่งการท้าทาย แต่
ความคิดที่จะตอบโต้การท้าทายของเขาก็มีอันต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงกระแอมกระไอดังขัดจังหวะ
ขึ้นมาเสียก่อน ก่อนที่เสียงห้าวของโดมินิคจะพูดอย่างแจ่มใส
“ไม่ได้คิดจะขัดคอหรอกนะ แค่จะบอกว่าฉันมาแล้วเท่านั้น”
“มิคซ์นั่งรอก่อน คุณเอริก้าจะไปด้วย ให้ผมแนะนำหน่อย เอริก้า นี่โดมินิค มิคซ์
คุณเอริก้า”
“สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวยิ้มหวาน โดมินิคถึงกับงงไปครู่หนึ่ง เขาเขย่ามือเธออย่างสุภาพ
“รอครู่เดียวค่ะ”
เธอบอกก่อนจะหายเข้าไปในห้อง ซันนี่ถอนหายใจเฮือก
“แกจะทนการยั่วยวนแบบนั้นได้แค่ไหนนะ ซันนี่ ฉันอยากรู้จัง”
โดมินิคถามอย่างโหดร้าย เขาจุดบุหรี่สูบพ่นควันอย่างสบายใจ ซันนี่ส่ายหน้า
ใจยังเต้นแรงอยู่
“ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ สวยหยาดเยิ้มไปทั้งตัวแบบนี้ ต่อให้ตบะแก่กล้าแค่ไหนก็คง
ถูกตีแตกแน่”
ซันนี่เม้มปาก พยายามสงบสติอารมณ์เต็มที่
“คุณหนู ดีใจจังครับที่ได้พบคุณหนูอีก”
อากังซึ่งเคยเป็นบอร์ดี้การ์ดให้เอริก้ามีใหน้าปลื้มปิติที่เห็นหญิงสาวเดินเคียงมากับ
ซันนี่ เอริก้าทักเบาๆ
“อากัง สบายดีหรือ”
“สบายดีครับ” ซันนี่พยักหน้าให้ลูกน้องเก่าของเจคอบ
“อากัง ดูแลคุณหนูด้วยนะ อย่าให้เบื่อละ นี่ผู้พันโดมินิค ฉันพามาสมัครเป็นสมาชิก
ที่นี่ด้วย”
“สวัสดีครับผู้พัน เชิญครับ”
เอริก้าเดินตามอากังเข้าไปในห้องทำงานของเขา ซึ่งเป็นห้องกระจกมองออกไป
เห็นคนที่กำลังออกกำลังกายกับเครื่องมือต่างๆ
“ที่นี่ดูดีนะ อากัง” หญิงสาวพูดอย่างชื่นชม
“ไอเดียพี่ซันนั่นแหละครับ พี่ซันให้ทุนผมกับอาฟู่คนละก้อน แนะนำให้ผมเปิด
เป็นฟิตเนส แล้วพี่ซันก็สมัครเป็นสมาชิกด้วย”
“ซันนี่เขามาเล่นกับใครละ”
เสียงถามเรื่อยๆเหมือนไม่ได้สนใจมากนัก แต่สายตาที่มองลูกน้องเก่าเหมือนจะ
รอฟังคำตอบ
“มากับคุณเม่ยกับพี่เจียงครับ น้ำชาครับคุณหนู”
“ขอบใจ” หญิงสาวจิบน้ำชาน้อยๆ
“แล้วกิจการเป็นยังไงบ้างละ”
“ดีมากเลยครับ นายทหารลูกน้องพี่ซันมาเป็นสมาชิกกันเยอะมาก ผมอยู่ได้
สบายๆละครับ”
“แล้วอาฟู่ละ”
“อาฟู่มันเปิดร้านอาหารไทย ไม่ไกลจากที่นี่หรอกครับ มันแต่งงานกับผู้หญิงไทย
เธอทำอาหารเก่งมากฝีมือดี อาหารอร่อยเชียวครับ”
“อย่างนั้นพอซันนี่ออกกำลังเสร็จ เราไปกินข้าวร้านอาฟู่กัน”
.........................
“แกควรจะตั้งใจหน่อยนะ ซันนี่ ซ้อมไม่จริงจังระวังจะเสียท่าฉันตลอดนะ”
โดมินิคทำเสียงคำราม เขาล๊อคคอซันนี่อย่างแน่นหนา ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงตัวหนี
แต่ก็ไม่สามารถหลุดจากการล๊อคที่แน่นหนานั้นได้
“โอ้ย ยอมแพ้แล้ว”
ซันนี่ตบพื้นข้างตัว โดมินิคยอมปล่อยมือแต่โดยดี ชายหนุ่มเห็นรอยยิ้มของอาเม่ย
และเจียงเมื่อหลุดจากการล๊อกของโดมินิคออกมาได้
“เช็ดหน้าหน่อยค่ะ ผู้พัน”
“ขอบใจนะ”
ซันนี่เช็ดหน้าเช็ดตา รับน้ำไปดื่มอย่างกระหาย
“ผู้พันสู้ผู้พันมิคซ์ไม่ได้จริงๆด้วยนะคะ”
ซันนี่พยักหน้าอย่างยอมรับ ชายหนุ่มผลักประตูห้องทำงานอากังเข้าไปก่อนจะยิ้ม
ให้หญิงสาวที่นั่งหน้าขรึมอยู่ เขาถามอย่างเอาใจ
“ห่างซ้อมไปนิด เบื่อไหมคุณ”
“ไม่ทันเบื่อหรอกค่ะ ฟังอากังเล่าอะไรหลายอย่าง เพลินดีค่ะ ฉันอยากไปกินที่ร้าน
อาฟู่ค่ะ”
“ได้สิ ต้องโทรไปจองที่ก่อน”
“ผมจัดการให้ครับพี่ซัน คุณหนูให้ผมไปด้วย” อากังรับอาสา
“เชิญครับคุณหนู พี่ซัน”
อาฟู่ต้อนรับทุกคนอย่างยินดี เขาพาภรรยาคนไทยของเขามาแนะนำให้รู้จักกับเอริก้า
อาหารเลิศรสอย่างที่อากังคุยไว้ คนเข้าร้านค่อนข้างแน่น อาเม่ยสะกิดสามีเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง
เดินมาที่โต๊ะอาหาร
“ริคกี้ มาเที่ยวเหมือนกันหรือ”
เสียงทักทายอย่างยินดีของแอนดี้ ทำให้เจียงลุกขึ้นยืน เขาทักทายอย่างอ่อนน้อม
“สวัสดีครับคุณแอนดี้”
“สวัสดีเจียง”
ชายหนุ่มผู้มาใหม่ทักทายเจียงอย่างแจ่มใส
“ซันนี่เมื่อไหร่จะไปเซ็นต์ชื่อที่บริษัทละ”
“ยังเคลียร์เวลาไม่ได้เลยครับคุณแอนดี้ เพราะผมต้องสอนพวกนายทหาร
ขอแนะนำให้รู้จักเพื่อนผมก่อนนะครับ”
แอนดี้ทักทายโดมินิค ก่อนจะหันมาทางเอริก้า
“ริคกี้พรุ่งนี้ไปบริษัทเช้าหน่อยนะ อย่าลืมว่าลูกค้าจะมาจากอเมริกา”
“ค่ะพี่แอนดี้” เอริก้ารับคำเบาๆ
“เดี๋ยวเราไปฟังเพลงกันดีกว่านะ ไปนะ ทุกคนเลย ฉันเป็นเจ้ามือเอง”
แอนดี้ชวนอย่างแจ่มใส
“เป็นคู่ที่เหมาะสมจริงๆแกว่าไหม ซันนี่”
โดมินิคเอนตัวถามชายหนุ่มอย่างโหดร้าย ซันนี่พยักหน้า มองภาพหนุ่มสาวที่เต้นรำ
กันอยู่กลางฟลอร์
“ฮื่อ แกพูดถูก”
“ผู้พันยอมได้ยังไงคะ”
อาเม่ยแทบเต้นด้วยความสงสารซันนี่
“อาเม่ย อย่าทำฉันคิดว่าตัวเองน่าสมเพทขนาดนั้น ฉันทนรับความสงสารไม่ไหว
หรอกนะจะบอกให้”
อาเม่ยทำหน้าเศร้า
“ขอโทษค่ะผู้พัน แต่ว่า....คุณเอริก้าก็ทำเกินไปจริงๆ ฉันว่าคุณไอรีนยังจะน่ารัก
กว่านะคะ”
ซันนี่ตบหลังมืออาเม่ยเบาๆอย่างปลอบโยน
“ขอบใจที่เดือดร้อนแทน แต่สี่ปีมานี้ฉันก็พอทำใจได้บ้างแล้ว ส่วนเรื่องไอรีนอย่า
เอามาพูดเลย ฉันเห็นเขาเหมือนอาเฟยมากกว่า”
ซันนี่หมายถึงลี่เฟยน้องสาวคนเล็กของเขา
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ฉันเชียร์แกกับหลานสาวลุงจางดีไหม รับรองว่าแฮปปี้แน่”
“อย่าน่ามิคซ์ มันจะยุ่งไปกันใหญ่น่ะสิ”
“ผู้พันจะไม่ชวนฉันเต้นรำสักเพลงหรือคะ”
อาเม่ยขยับตัวอย่างอดไม่ได้ หน้าตาเป็นทุกข์เป็นร้อน
“อย่าเลยอาเม่ย เจียงจะกลุ้มใจเปล่าๆนะ เจียง พาอาเม่ยไปเต้นรำสิไป มานั่งเศร้ากัน
อยู่ได้นี่ ตลกจริงๆพวกนี้”
เขาฝืนหัวเราะ ดื่มเบียร์อึกใหญ่พยักหน้าขอเบียร์จากพนักงานซึ่งรินเติมให้จนเต็ม
“แก้วสุดท้ายแล้วนะ ขี้เกียจจะเมา เดี๋ยวจะเป็นภาระให้เอริก้าอีก”
“กลัวกันเข้าไป ทำให้เขาได้ใจ คิดว่าแกอยู่ใต้อำนาจเขาก็เลยรังแกกันใหญ่”
โดมินิคพูดเยาะๆ ซันนี่ยิ้ม
“แกยังไม่เคยมีความรักละสิ ก็เลยไม่รู้ว่าแกจะยอมให้คนที่แกรักยังไงมิคซ์”
..........................................
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้านพัก เธอมองบ้านพักของเขาที่แทบจะไร้
เฟอร์นิเจอร์อย่างไม่ชื่นชมนัก
“ฉันตัดสินใจแล้วนะคะซันนี่ คุณต้องไปอยู่ที่บ้านแทนการอยู่บ้านพักนายทหาร
แบบนี้”
เอริก้าพูดเสียงเรียบ ชายหนุ่มชะงักเท้าไปเล็กน้อย
“ผมยังไม่มีบ้าน ถ้าจะให้ไปอยู่กับแม่ผมก็คงต้องรออีกหน่อย”
“คุณลุงก็อยากให้คุณไปอยู่ด้วยทำไมคุณไม่ไปละคะ แต่ที่บอกให้ไปอยู่บ้านนี่ฉัน
หมายความว่าคุณต้องไปอยู่บ้านฉันเข้าใจไหมคะ”
ชายหนุ่มมองหน้าตาเอาจริงเอาจังของเอริก้า ก่อนจะถามอย่างกังขา
“แล้วคุณเจคอบละ”
“พ่อก็อยากให้คุณไปอยู่ด้วยเหมือนกันแหละค่ะ”
เขาถอนหายใจยาว ท่าทางลำบากใจไม่น้อย
“ผมว่ามันคงจะ....”
เอริก้าโบกมือ ท่าทางไม่พอใจนัก
“คุณอย่ามาอ้างเลยซันนี่ หรือว่าอยากให้ยายไอรีนมาหาคุณที่นี่ทุกวัน ใช่หรือเปล่า”
“เปล่าไม่ใช่อย่างที่คุณคิด กับไอรีนผมไม่ได้คิดว่าเขาเป็นอะไรมากไปกว่าน้องสาว
คนหนึ่งเท่านั้น คุณก็รู้นี่ว่าผมคิดยังไง”
“อย่างนั้นคุณจะรออะไรอีกละคะ”
“รอให้ผมกลับจากราชการก่อนดีไหมค่อยคุยกันอีกครั้ง เผื่อว่าคุณยังอยากมีเวลา
คิดให้ดีอีกที ผมไม่มีอะไรที่เหมือนคุณแอนดี้หรอกนะคุณ ถ้าไม่ได้ทำงานกับลุงเต๋อตั้งแต่แรก
ผมก็เป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น”
เอริก้าถามเสียงเย็น
“แล้วคุณคิดว่าฉันต้องการให้ผู้ชายของฉันเป็บแบบไหนละคะ”
“อย่างน้อยก็ต้องมีความทัดเทียมกับคุณหน่อยสิ คุณกับคุณแอนดี้ต่างก็เป็นลูก
อดีตเจ้าพ่อนะ ยังไงอยู่กับเขาคุณก็จะสุขสบายกว่าอยู่กับผม”
“เรื่องนี้ฉันคิดเอง ว่าแต่คุณจะไปราชการที่ไหนคะ”
“ผมต้องไปราชการที่เมืองไทยออกเดินทางคืนนี้ ยังไม่รู้ว่านานเท่าไหร่จะได้
กลับมา”
“ถ้าอย่างนั้นก็รับปากมาเลยว่าจะไปอยู่กับฉัน เดี๋ยวจะให้ยายเม่ยเก็บข้าวของให้
เขาจะได้ไม่แอบค้อนฉันตลอดเวลาแบบนั้น น่ารำคาญชมัด”
ชายหนุ่มหัวเราะ
“อาเม่ยเขาเป็นห่วงผมเท่านั้นเอง ถ้าคุณจะกรุณารับผมไว้ ผมก็ตกลง”
“ดีค่ะ พวกนั้นมากันแล้ว”
หญิงสาวมองรถจิ๊ปทหารที่เจียงเป็นคนขับ แล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้านพัก เธอเดิน
ไปที่รถพูดกับอาเม่ยไม่นาน สองสาวก็หายเข้าไปในห้องพักของชายหนุ่ม โดมินิคตบบ่าชายหนุ่ม
อย่างยินดี
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะ”
“ขอบใจ แต่คืนนี้ฉันต้องเดินทางไปราชการที่เมืองไทย ยังไม่ได้เข้าหอวันนี้หรอก”
เขาพูดยิ้มๆ โดมินิคหัวเราะ
“แต่ก็เรียกได้ว่าสมหวัง จะแต่งงานเมื่อไหร่ก็บอกด้วยก็แล้วกัน”
“คงต้องขึ้นอยู่กับเอริก้าว่าเขาต้องการยังไง”
ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ เขาระบายลมหายใจยาว ความสุขซึบซาบไปทั่วกาย เขาไม่เคย
รู้สึกอย่างนี้มานานเกือบจะเท่ากับเวลาสี่ปีที่เธอจากไป สี่ปีกับความคิดที่ว่าเขาอาจจะสูญเสียเธอไป
ตลอดกาล ชายหนุ่มสบตาคู่งามเมื่อเธอออกมาจากห้อง ดวงตาคู่สวยที่กำลังมองเขาอย่างอ่อนโยน
เขาไม่เห็นอาเม่ยที่ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาให้เจียงก่อนจะควงแขนอีกข้างหนึ่งของสามีเดินไป
ด้วยกัน
“คุณไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านก็แล้วกันนะคะ ฉันจะตามไปส่งคุณขึ้นเครื่องด้วย”
“ครับผม”
เขารับคำอย่างแจ่มใสเดินตามเธอไปขึ้นรถด้วยความเต็มใจ
..........................................
ความคิดเห็น