คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : 14..... สาวต่างขั้ว
ซันนี่วางปากกาลงบนโต๊ะ ซุนเต๋อและเจคอบเรียกตัวเขามาเพื่อให้ลงนามรับโอน
หุ้นบริษัทขายคอมพิวเตอร์จากพวกเขาทั้งสอง ซึ่งเจียงและอาเม่ยก็มีหุ้นส่วนอยู่ด้วย
“เอาละ เธอจะมาช่วยงานกันได้เมื่อไหร่ซันนี่ แอนดี้เขาก็จะกลับอเมริกาอยู่แล้ว”
เจคอบถามยิ้มๆ ซันนี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ผมยังต้องทำงานใช้ทุนอยู่ครับคุณเจคอบ คงต้องรอให้ใช้ทุนจบก่อน”
“เออ ไอรีนเขาฝากเบอร์โทรศัพท์ของเขาไว้ให้เธอด้วย บอกว่าคราวที่แล้วลืมให้ไว้
ถ้าว่างก็โทรไปคุยกับเขาบ้างนะ”
“ได้ครับ”
ซันนี่ยื่นมือไปรับกระดาษสีชมพูสวย แต่เอริก้าคว้าไปดูเสียก่อน เธอถามเสียงแข็ง
“คุณรู้จักไอรีนตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ ก็รู้จักวันที่มากินข้าวกับท่าน คุณทำอะไรน่ะ”
เขาเบิกตามองเมื่อเอริก้าฉีกกระดาษแผ่นนั้นทิ้งลงตะกร้าผงหน้าตาเฉย ก่อนที่
เธอจะมองหน้าเขาอย่างท้าทาย
“ริคกี้ ทำอะไรน่ะลูก”
เจคอบอุทาน มองเศษกระดาษในตะกร้าผงอย่างตกใจปนขบขัน ซันนี่มองเศษ
กระดาษในตะกร้าผงโดยไม่มีคำพูดหลุดจากปากแม้แต่น้อย
เสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดทำให้ชายหนุ่มโผล่หน้าออกมามอง เขาเช็ดหน้าก่อนจะ
โยนผ้าขนหนูพาดกับเก้าอี้เดินลงไปหาหญิงสาวที่เปิดประตูรถลงมายืนมองซ้ายมองขวาอยู่
“สวัสดีครับ”
ไอรีนถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งใจ
“ในที่สุดก็เจอที่พักคุณจนได้ หาไม่ยากหรอกนะคะท่านผู้พัน” ซันนี่หัวเราะ
“มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีหรอกค่ะ คิดถึงคุณก็เลยอยากมาคุยด้วย”
ท่าทางตอบของหญิงสาวช่างกล้าหาญชาญชัยจนซันนี่ต้องหัวเราะ เขามอง
หญิงสาวอย่างเอ็นดู ท่าทางของไอรีนนั้นห่างไกลกับลี่เฟยน้องสาวของเขาค่อนข้างมาก แต่เธอก็
ทำให้เขานึกถึงน้องสาวเล็กๆของเขาได้
“จะไปไหนคะ ซันนี่”
หญิงสาวถาม เธอมองเขาที่แต่งตัวเหมือนคนจะออกนอกบ้าน
“นัดเพื่อนไปกินข้าวฟังเพลง ไปด้วยกันไหมครับ”
ชายหนุ่มชวนอย่างเต็มใจ ไอรีนรับคำอย่างยินดี
“ไปสิคะ อ้าวนั่นใครมา”
“เจียงกับอาเม่ย เดี๋ยวผมจะแนะนำให้รู้จัก”
อาเม่ยมองหญิงสาวที่ลากซันนี่ออกไปเต้นรำด้วยใบหน้าเข็ดฟัน เจียงหัวเราะหึๆ
ถามความเห็นภรรยาอย่างอดไม่ได้
“ต่างกับคุณเอริก้าเหมือนคนละขั้วเลยนะคุณ”
“ฮื่อ ถ้าไม่สวยอย่างนี้คงจะมีคนชังน้ำหน้าบ้างละ”
อาเม่ยวิจารณ์ เจียงกลั้นยิ้ม
“คิดว่าพี่ซันจะตามเขาทันไหมคุณ” อาเม่ยสั่นหน้าดิก
“ถ้าจะยากค่ะ ผู้พันเขาเป็นคนเก่งจริงๆนะคะ แต่เรื่องผู้หญิงนี่ถ้าจะลำบาก
โดยเฉพาะคุณไอรีน เธอเหมือนกวางสาวที่ปราดเปรียว เปรียวเกินกว่าที่ผู้พันจะยึดไว้ได้ คุณคิดดู
สิคะ ขนาดคุณเอริก้ายังทำให้ผู้พันเจ็บปวดได้ขนาดนี้ คุณไอรีนเปรียวกว่าคุณเอริก้าหลายเท่า”
อาเม่ยถอนหายใจยาว
“แต่ฉันว่าผู้พันลองคบคุณไอรีนบ้างก็ดีนะคะ ดีกว่าจมอยู่กับความรักเลื่อนลอย
ของคุณเอริก้า”
“แต่คุณเอริก้าเธอรักพี่ซันนะ ผมรู้”
เจียงแย้งอย่างไม่เห็นด้วย อาเม่ยยกไหล่เล็กน้อย
“ไม่รู้สิคะ แต่ฉันเห็นแล้วว่าคุณไอรีนสนใจผู้พัน”
“อย่าเชียร์ให้ออกนอกหน้านักเลยคุณ ปล่อยให้พี่ซันตัดสินใจเองดีกว่า”
เจียงอดเตือนไม่ได้ จะอย่างไรเขาก็เห็นว่าซันนี่ไม่มีทางดิ้นหลุดจากเอริก้าได้อย่าง
แน่นอน
“แน่ะ คนที่จะชังน้ำหน้าคุณไอรีนมานั่นแล้วคนหนึ่ง”
เจียงขยับตัวอย่างเริ่มรู้สึกจะหายใจไม่ออก เมื่อเห็นเอริก้าเดินเข้ามากับแอนดี้
คนทั้งสองเห็นกลุ่มของเจียงในทันที เอริก้าเดินฉับๆมาที่โต๊ะใบหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ขณะที่อาเม่ย
ยิ้มให้ผู้ที่มาใหม่ทั้งสองคนราวกับไม่เห็นความไม่พอใจของเอริก้าแม้แต่น้อย
“สวัสดีค่ะ ดื่มอะไรดีคะคุณเอริก้า”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เสียงที่ตอบแสดงถึงอารมณ์ที่ไม่ผ่องใสนักของผู้พูด ดวงตาคู่สวยดุวาบเมื่อเห็น
ซันนี่กับไอรีนที่กำลังเต้นรำอยู่กลางเวที
“ผู้พันเต้นรำไม่ได้เรื่องหรอกค่ะ”
อาเม่ยพูดขำๆ เมื่อเห็นท่าทางขัดๆของซันนี่ จนเสียงเพลงเปลี่ยนเป็นจังหวะช้า
ชายหนุ่มจึงพาไอรีนกลับโต๊ะ
“สวัสดีริคกี้ พี่แอนดี้สวัสดีค่ะ”
ไอรีนทักคนทั้งสองอย่างแจ่มใส เธอดึงมือซันนี่ให้นั่งเคียงข้างส่งเบียร์ให้เขาอย่าง
เอาใจ ชายหนุ่มจิบเล็กน้อยก่อนจะวางแก้ว
“ซันนี่ วันไหนว่างไปเซ็นต์รับปันผลที่บริษัทหน่อยสินะ ริคกี้เตรียมเอกสารไว้ให้
นายหลายวันแล้ว”
“ครับคุณแอนดี้”
เขารับคำทอดสายตามองหญิงสาวที่ใบหน้าบึ้งตึง
“ซันนี่พาฉันไปเต้นรำหน่อยสิคะ”
เอริก้าพูดห้วนๆเดินฉับๆเข้าไปกลางฟลอร์เต้นรำอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน
เดินตามร่างระหงไปอย่างไม่เกี่ยงงอน ทั้งที่เมื่อครู่เขาเป็นคนชวนไอรีนกลับมานั่งโต๊ะด้วยข้ออ้าง
ว่าไม่สันทัดการเต้นรำจังหวะช้า
“เมาหรือเปล่าคะ”
เอริก้าถามเมื่อเข้าไปอยู่ในวงแขนอบอุ่นของเขา
“เปล่า”
เขาตอบเบาๆ สองมือของเธอยกขึ้นคล้องคอเขาไว้เดินไปตามจังหวะเพลง เขา
สังเกตเห็นว่าเธอสูงขึ้นจากเดิม จากที่เคยสูงเพียงหัวไหล่ของเขา บัดนี้เธอสูงจนเกือบถึงปลายคาง
ของเขาแล้ว
“กอดแน่นอีกนิดสิคะ”
หญิงสาววางคางบนไหล่แข็งแรงของเขาเมื่อชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
“เดี๋ยวคุณแอนดี้ก็เข้าใจผิดหรอก” ซันนี่ท้วง ทำตัวแข็งเล็กน้อย
“ก็ทำให้เขาเข้าใจให้ถูกสิ ทำให้ยายไอรีนรู้ด้วยว่าคุณเป็นผู้ชายของฉัน”
หญิงสาวเคลียริมฝีปากกับปากบางได้รูปสมชายอย่างกล้าหาญ และท้าทายก่อนจะ
ไล่ไปตามแก้มสากระคายอย่างนุ่มนวล
“อย่าน่า เอริก้า”
เขาห้ามเสียงเครียด แต่ก็ไม่ได้เบือนหน้าหนี หญิงสาวถามอย่างท้าทาย
“ทำไมคะ คุณจะปฏิเสธฉันงั้นหรือ”
“เปล่า คุณไม่กลัวคุณแอนดี้เข้าใจผิดหรือไง ”
“ใครแคร์ ก็บอกแล้วไงว่าไม่เคยรักพี่แอนดี้ แล้วคุณละ กลัวไอรีนเข้าใจผิด
หรือเปล่า”
“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขานี่ เห็นเขาน่ารักเหมือนอาเฟยเท่านั้น”
“แล้วฉันละ”
เอริก้าถามอย่างท้าทาย ลมหายใจหอมละมุนของเธอเป่ารดใบหน้าเขา ชายหนุ่ม
ใจเต้นแรง ปากนุ่มๆที่เคลียคลอชิดริมฝีปากของเขากำลังจะทำให้เขาหมดความอดทน เขาทำท่า
จะเลิกเต้นดื้อๆ
“กลับโต๊ะดีกว่า คุณทำผมคอแห้งไปหมดแล้ว ให้ตายสิ” เขาสบถเบาๆ
“ยัง”
หญิงสาวทำเสียงดื้อดึงแอบยิ้มที่เห็นเขาทำหน้าบึ้ง เขาเองเคยเผยจุดอ่อนให้เธอรู้
และเอริก้าก็ไม่ลังเลที่จะใช้จุดอ่อนนี้แกล้งทรมานเขาอย่างใจร้ายที่สุด ซันนี่กระชับอ้อมแขนให้
แน่นขึ้นอีกเขาไม่สนใจสิ่งอื่นอีกนอกจากปากนุ่มๆที่เคลียคลอไม่ห่าง เขาพยายามจะจูบเธอ แต่แล้ว
จู่ๆหญิงสาวก็ดันเขาให้ออกห่าง
“ไปนั่งดีกว่าค่ะ ฉันหิวน้ำแล้ว”
ชายหนุ่มถอนใจใบหน้าบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“คุณเอริก้านี่ร้ายจริงๆนะคะ”
อาเม่ยแอบกระซิบกับชายหนุ่มเบาๆ ซันนี่หน้าเครียด
“ฮื่อ” เขาทำเสียงเหมือนคำรามในลำคอเขาคว้าแก้วเบียร์ไปดื่มจนหมดแก้ว
“เบาค่ะ เดี๋ยวก็เมาเละหรอก คุณไอรีนดูจะชอบคุณอยู่เหมือนกันนะคะ ผู้พัน”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
ซันนี่ดื่มเบียร์อีกอึกใหญ่ด้วยความรู้สึกหงุดหงิด อาเม่ยอดยิ้มไม่ได้ เจียงก็จริงจัง
เหมือนลูกพี่ของเขาไม่มีผิด ดูท่าว่าจะไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ เอริก้าดึงแก้วจากมือชายหนุ่มเมื่อเห็น
เขามีท่าทางงุ่มง่ามเล็กน้อย
“คุณเมาแล้วนะ ซันนี่ กลับกันดีกว่า พี่แอนดี้คะ ฉันจะไปส่งซันนี่ เจียง จัดการส่ง
คุณไอรีนด้วย”
“คุณไอรีนจอดรถที่บ้านพักครับ”
“งั้นเธอก็ไปส่งคุณไอรีนที่บ้านพักก่อน”
“ครับคุณเอริก้า”
เอริก้าจอดรถก่อนจะเหลือบมองชายหนุ่มที่พยายามฝืนนั่งตัวตรง เธอโบกมือให้
ไอรีนที่ขับรถออกไป
“ให้ผมประคองพี่ซันดีไหมครับ คุณเอริก้า”
“ไม่ต้องหรอก เธอกลับไปเถอะ ฉันจัดการกับซันนี่เอง”
“ครับคุณเอริก้า”
เจียงขับรถกลับออกไป เอริก้าจึงเขย่าตัวชายหนุ่มเบาๆ
“ซันนี่คะ ถึงแล้วค่ะ”
เธอลงจากรถไปเปิดประตูด้านที่เขานั่งอยู่
“ลงมาค่ะซันนี่ ระวังหน่อย คุณก็รู้ว่ากินมากก็จะเมายังจะกินอยู่ได้”
หญิงสาวทำเสียงดุ
“ก็มันคอแห้ง คุณทำผมคอแห้ง”
เขากล่าวโทษ งุ่มง่ามลงจากรถก่อนจะเซแซ่ด เอริก้าใช้ตัวกันเขาไว้ได้ทันควัน
“ดีๆสิคะ ยืนดีๆซันนี่ ตัวคุณหนักนะ”
เธอหยิกเขาเบาๆ
“ขอโทษ มันกลุ้มใจอยากเมา”
“กลุ้มอะไรนักหนานะ ยายเม่ยไม่หนักตายหรือนี่ที่ต้องคอยประคองคุณอย่างนี้
อย่าทิ้งน้ำหนักตัวอย่างนี้สิคะ”
“ไม่เคยทำตัวเป็นภาระให้คนอื่นต้องมาประคองหรอก”
เขาเถียงลิ้นพันกันเล็กน้อย โอบแขนบนไหล่หญิงสาว ทิ้งน้ำหนักตัวอย่างจงใจ
รั้งเอริก้าให้ล้มตามลงไปบนเตียงนอน หญิงสาวทั้งผลักทั้งดันจนพาตัวเองพ้นออกมาจากเตียงได้
เธอส่ายหน้าที่เห็นชายหนุ่มนอนหลับไปในทันที หญิงสาวหาผ้ามาเช็ดตัวให้เขาอย่างนุ่มนวล
เสยผมที่เริ่มยาวออกมาเล็กน้อยของเขามองใบหน้าคมคายอย่างพินิจ ไล้มือไปตามริมฝีปากได้รูป
ชายหนุ่มคว้ามือบางไว้ หญิงสาวสะดุ้ง
“ซันนี่ คุณทำฉันตกใจนะ”
“ขอโทษ”
“คุณตื่นมาทำไมละ”
“ทหารก็นอนไวอย่างนี้ละ นอนเถอะง่วงจัง”
“อยากอาบน้ำก่อนค่ะ”
“แค่นี้ก็หอมพอแล้วละ นอนเถอะนะ”
เขาอ้อนวอน โอบร่างบางไว้ในวงแขนก่อนจะหลับไปอีกครั้ง หญิงสาวเบียดตัว
ซบหน้ากับซอกไหล่ของเขา หลับตาอย่างสบายใจ
ชายหนุ่มลืมตาอย่างยากเย็น ที่นอนข้างๆเขาว่างเปล่าแต่ยังทิ้งความหอมหลงเหลือ
ไว้ให้ชื่นใจ เขาคว้าหมอนที่เอริก้าหนุนนอนมากอดอย่างครุ่นคิด เสียงฝีเท้าหนักๆที่หน้าห้องทำให้
ซันนี่ลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน
“ซันนี่ ไปวิ่งกันเร็วเข้า”
เสียงโดมินิคตะโกนอยู่ด้านนอก เขาเปิดประตู
“ขอเวลาเดี๋ยวเดียว”
“เห็นรถแม่เสือขับออกไปเมื่อกี้ ตกลงกันได้แล้วหรือ”
โดมินิคถามหอบๆ ซันนี่เร่งฝีเท้าขึ้นอีกนิด
“ยังไม่ลงตัวหรอก พรุ่งนี้ฉันจะต้องเดินทางไปราชการที่เมืองไทย ยังไม่รู้ว่าจะ
เสร็จงานเมื่อไหร่เลย”
“เป็นห่วงแม่เสือทางนี้หรือไง”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาโบกมือให้เจียงและอาเม่ยที่ขับรถจี๊ปเข้ามาในค่าย
“เย็นนี้ไปออกกำลังกันไหม”
โดมินิคชวนเมื่อวิ่งกลับมาถึงบ้านพัก
“ได้”
ชายหนุ่มรับปากโดมินิคโบกมือทักทายเจียงสองสามีภรรยาอย่างแจ่มใส ตะโกน
ทักคนทั้งสอง
“ ไฮ้เจียง อาเม่ย เย็นนี้ค่อยพบกันนะ”
..........................................
ความคิดเห็น