คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 12 การพบหน้า
“อาซัน คิดถึงแกจริงๆ”
ซุนเต๋อกอดร่างสูงไว้แน่น ซันนี่ขยับตัวถอยออกมาอย่างนุ่มนวล
“ลุงเต๋อสบายดีหรือครับ คุณแอนดี้มาด้วยหรือเปล่าครับ”
“มา แต่นี่เห็นขับรถออกไปแต่เช้าแล้วละคงจะไปเที่ยวกับริคกี้เขา นี่ เขาเตรียม
จะกลับอเมริกาอีกนะ เขาว่าขอไปดูแลกิจการบริษัทที่นั่นดีกว่า ลุงกับเจคอบเปิดบริษัทขาย
คอมพิวเตอร์ แอนดี้เขาอาสาดูแลบริษัทที่นั่น ริคกี้เขาดูแลทางด้านบัญชีให้ ลุงอยากให้แกมาช่วย
งานด้วย”
“ตอนนี้คงยังไม่ได้หรอกครับลุง เพราะเขาให้ทุนผมไปอบรมที่อังกฤษสองปี ผมต้อง
ทำงานใช้ทุนให้เขา”
“ลุงเข้าใจ ถ้าใช้ทุนเสร็จแล้วก็มาช่วยกันทำงาน ตกลงไหม”
“ได้ครับ”
ชายหนุ่มรับคำ เขารินน้ำชาร้อนกรุ่นส่งให้ซุนเต๋อด้วยท่าทางนุ่มนวล
“ลุงต้องขอบใจที่แกช่วยดูแลบ้านช่องให้”
“อ๋อ เจียงกับภรรยาของเขาช่วยดูแลมาตลอดครับลุง”
“ลุงขอบใจเขาไปแล้ว กินข้าวกลางวันด้วยกันนะ”
“ได้ครับ”
“เจอริคกี้หรือยังละ อาซัน”
“ยังครับคุณลุง ทานนี่นิดนะครับ เจ๊ฉินคงดีใจที่คุณลุงกลับมา จะได้ทำของโปรด
ของคุณลุง”
“งั้นก็หมายความว่าเธอยังไม่ได้พบเจคอบเหมือนกันละสิ”
”ครับ คุณเจคอบมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
ซุนเต๋อหัวเราะ
“ไม่มีอะไรหรอก เจคอบเขาอยากจะขอบใจแกที่ช่วยเขาไว้คราวนั้น”
“ผมไม่คิดมากหรอกครับ ถ้าว่างผมจะคาราวะคุณเจคอบแน่นอนครับ”
.........................................
น้ำทะเลสีครามตรงหน้าค่อยซึมซาบเข้ามาในความรู้สึกของชายหนุ่มทีละน้อย
สายลมเย็นพัดแรงจนผมปลิวยุ่งเหยิง การไปพบซุนเต๋อทำให้เขาต้องใช้กำลังใจอย่างมาก แต่ก็
ยังน้อยกว่าการพูดถึงเอริก้า เขาขับรถเตลิดจนมาถึงชายทะเลตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ชายหนุ่ม
เปิดเบียร์กระป๋องดื่มอึกๆอย่างกระหาย เขาต้องนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างเล็กได้สัดส่วนคุ้นตา
เดินมาทางเขา เธอเปลือยเท้าเปล่า ใส่กางเกงขาสั้นเห็นท่อนขาเรียวงาม เธอมองหน้าเขาราวกับ
มองคนแปลกหน้า
“สวัสดีค่ะ”
เธอทักทายด้วยท่าทางห่างเหิน
“สวัสดีครับ”
เขาทักตอบ จิบเบียร์อีกอึกใหญ่ เวลาเกือบสี่ปีเปลี่ยนให้เด็กสาวแสนสวยกลายเป็น
สาวสวยหยาดเยิ้มได้ถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยน
“เบียร์ไหมคุณ รถคันนี้มีแต่เบียร์น่ะ”
“ก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวตอบ มองเขาเปิดท้ายรถหยิบเบียร์จากกระติกส่งให้เธอ
“ไม่มีกับแกล้มนะคุณ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
หญิงสาวจิบเบียร์เย็นเฉียบก่อนจะถามเรียบๆ
“คุณสบายดีหรือคะ ซันนี่”
“สบายดีครับ นั่นคงเป็นเพื่อนคุณ”
เขามองไปทางชายหนุ่มที่เดินเหลียวหน้าเหลียวหลังมาตามชายหาด หญิงสาว
ถอนหายใจยาว
“ใช่ค่ะ พี่แอนดี้ไงคะ”
เขาลุกขึ้นยืน เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นเดินใกล้เข้ามา
“เฮ้ ซันนี่ ดีใจจริงที่ได้พบนาย”
ชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าประพิมพ์ประพายคล้ายซุนเต๋อ ดวงตาของเขาแจ่มใสขณะที่
ทักทายซันนี่
“สวัสดีครับคุณแอนดี้”
“ฉันต้องขอบใจนายมากนะ สำหรับเรื่องที่ผ่านมา”
ชายหนุ่มยิ้มฝืนๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อลุงเต๋ออยู่แล้ว เอ้อ ผมต้องไปแล้ว
แล้วพบกันใหม่นะครับ”
ชายหนุ่มกล่าวลาคนทั้งสอง เขาขบกรามกระแทกเท้าเหยียบคันเร่งจนรถพุ่งไป
ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ความปวดร้าวที่จู่โจมขึ้นมาวิ่งพล่านไปทั่วร่างอบ่างช่วยไม่ได้ อารมณ์ยัง
ร้อนรุมแม้จะเลี้ยวเข้ามาในเขตทหาร อาเม่ยยืดคอมองรถที่ตีวงเข้ามาจอดในบริเวณบ้านอย่าง
น่ากลัวชน และมันก็กระแทกกระถางต้นไม้แตกกระจายจนได้
“เมาหรือเปล่าคะ ผู้พัน”
ซันนี่ลงจากรถหน้าขรึมเคร่ง
“แค่มึนๆน่ะ เจียงมาด้วยหรือเปล่า เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
“มาค่ะ เจียงเขาก็มีเรื่องจะเล่าให้ผู้พันฟังด้วย”
“ขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะเดี๋ยวเดียว”
เจียงถอนหายใจยาว เขามองลูกพี่กินอาหารแบบไร้รสชาติอย่างกลัดกลุ้ม ซันนี่มีสีหน้า
เรียบเฉยเมื่อเขาเล่าว่าพบเอริก้า และเขาก็พูดเสียงเรียบๆ
“เจอเขาแล้วที่ชายหาด เขาไปเที่ยวกับเพื่อน”
ชายหนุ่มออกจะเน้นคำว่าเพื่อนมากเกินความจำเป็นไปเล็กน้อยในความรู้สึกของ
ผู้ฟังทั้งสองซึ่งมองตากันอย่างหนักใจ
“ไฮ้ซันนี่”
เสียงห้าวที่ทักทายทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้า
“เฮ้ตาฉันฝาดไปหรือเปล่านี่ มิคซ์ แกมาได้ยังไง ไม่ได้มาเที่ยวใช่ไหม”
เขามองเพื่อนรักในชุดทหารเต็มยศ อย่างยินดี
“มาประจำที่นี่ตามโครงการแลกเปลี่ยนครูฝึก”
ซันนี่เลิกคิ้วเล็กน้อย
“นับว่าเป็นโชคดีของทหารเราที่จะได้ครูฝึกชั้นยอดมาช่วยฝึกให้”
“ฝึกตำรวจต่างหาก นี่รายงานตัวเสร็จแล้วก็เลยมาหา”
“แล้วพักที่ไหนละ”
“บ้านพักในนี้ละ งานเอกสารน่าเบื่อจะตาย มันไม่เหมาะกับแกหรอกซันนี่”
ชายหนุ่มหัวเราะ
“มันน่าเบื่อจริงๆนั่นแหละ แต่มันก็ต้องสะสาง แกจะมาอยู่นานเท่าไหร่มิคซ์”
“สามเดือน”
“แล้วจะพาเที่ยว”
“ขอบใจ”
“เย็นนี้จะพาไปเลี้ยง เจียงมาพอดีรู้จักผู้พันโดมินิคหน่อย มิคซ์นี่เป็นเพื่อนร่วมตาย
ของฉันเอง เจียง”
เจียงทำความเคารพก่อนจะจับมือผู้พันโดมินิคที่ยื่นส่งให้
“เย็นนี้ไปออกกำลังกันหน่อยดีกว่าซันนี่”
“ก็ได้ เย็นนี้เจอกัน”
ผู้พันโดมินิคออกไปจากห้อง ซันนี่มองเจียงที่ยืนทำหน้านิ่วอยู่
“มีอะไรหรือเจียง”
“ลุงเต๋อให้มาบอกพี่ซันครับว่าคุณเจคอบอยากพบพี่ ให้พี่บอกมาว่างเมื่อไหร่
แล้วให้ไปหาทันที”
“กำลังเคลียร์เวลาอยู่เหมือนกันละ เย็นนี้ไปออกกำลังกันดีกว่า บอกอาเม่ยด้วยนะ”
“ครับพี่ซัน”
ผู้พันโดมินิคเข้ากับเจียงและหวังเม่ยได้อย่างรวดเร็ว เมื่ออาหารเย็นเริ่มไปได้ไม่นาน
“เขาน่าจะให้ผู้พันมาฝึกให้กับพวกเรานะคะ”
อาเม่ยเอ่ยปากเมื่อผู้พันรับเบียร์แก้วใหญ่ไปดื่มหลายอึก เขาพยักหน้าไปทางซันนี่
“ซันนี่ไง เก่งจะตายไป”
“แต่ยังแพ้แกอยู่ครึ่งขั้นมาแต่ไหนแต่ไร”
ชายหนุ่มสารภาพ ผู้พันโดมินิคหัวเราะชอบใจ
“อย่าถ่อมตัวมากไปน่า”
เขาต่อยใส่คางซันนี่เล่นๆ ชายหนุ่มเบือนหน้าหลบปัดมือผู้พันซึ่งเบนทิศทางของหมัด
พยายามต่อยคางชายหนุ่มอีกครั้ง ซันนี่ปัดกำหมัดนั้นอีกครั้ง คนทั้งสองชั่วเดี๋ยวเดียวแสดงท่าทาง
การต่อสู้ออกมาอย่างงดงาม โดยไม่ได้มีการประมือกันแม้แต่น้อย หวังเม่ยกับเจียงปรบมืออย่าง
ชื่นชม โดมินิคชูแก้วชวนทุกคนดื่ม ซันนี่ร้อนท้องวาบเมื่อดื่มเบียร์ลงท้องไป
“ชักมึนแล้วแฮะ”
เขาพึมพำ โดมินิคหัวเราะเสียงดัง
“คออ่อนไม่เอาไหนเหมือนเดิมเลยแก”
เสียงหัวเราะของโดมินิคทำให้โต๊ะข้างๆต้องหันมามองอย่างสนใจ
“กลับกันดีกว่า ซันนี่ท่าจะไม่ไหว”
โดมินิคพูดปนหัวเราะ เขาหัวเราะเสียงดังมากขึ้นเมื่อซันนี่มีอาการหัวทิ่มไปข้างหน้า
แต่เขาก็ทรงตัวได้อย่างรวดเร็ว
“เพิ่งจะกินกี่แก้วเอง ไม่ได้เรื่อง”
โดมินิคพึมพำ อาเม่ยหัวเราะ
“ไม่เคยเห็นผู้พันดื่มได้เกินสามขวดสักทีค่ะ”
เธอประคองชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกอาเม่ย”
“ประคองไว้อย่างนั้นแหละ อาเม่ย”
เจียงพูดเบาๆ
“นั่นซันนี่เมาหรือไง”
เสียงถามเย็นชาจากทางด้านหลังทำให้เจียงสดุ้งเล็กน้อย
“คุณหนูเอริก้า”
“เจียงประคองซันนี่สิ เกิดล้มไปจะว่ายังไง”
เสียงออกคำสั่งทำให้เจียงรีบเข้าไปประคองลูกพี่ เขาพยักหน้าให้กับภรรยาซึ่งทำท่า
ไม่เห็นด้วย
“ไม่เป็นไรน่าเจียง ฉันเดินเองได้ แค่มึนนิดเดียวเอง”
ซันนี่โบกมือไม่ยอมให้เจียงประคอง
“แล้วขับรถไหวหรือเปล่าคะ”
เสียงถามดุๆ ซันนี่พยักหน้าพยายามหยีตามองหญิงสาวเพื่อให้เห็นหน้าชัดขึ้น
“ไหวสิ”
“ฉันว่า เจียงพาไปที่รถฉันเลยดีกว่า”
เอริก้าพูดเสียงเด็ดขาด เจียงรับคำ เขาประคองซันนี่เดินตามหญิงสาวไปที่ลานจอดรถ
หลังจากส่งซันนี่ขึ้นรถเอริก้าแล้วเขาจึงหันมาทางโดมินิคที่เดินตามมาอย่างงงๆ
“คุณมิคซ์ไปกับผมเถอะครับ”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันน่ะ”
โดมินิคมองหญิงสาวที่ขึ้นไปบนรถสีแปลกตาและติดเครื่องรอ
“ไว้ถามพี่ซันเองเถอะครับ”
เจียงตัดบท อาเม่ยทำหน้านิ่ว
“คุณแน่ใจแล้วหรือคะเจียง ว่าเธอจะปลอดภัยพอสำหรับผู้พันน่ะ”
เจียงหัวเราะเบาๆ
“คุณเอริก้าตัวเล็กแค่นั้นเอง จะทำอะไรพี่ซันได้ อีกอย่างเธอก็รักพี่ซันออกไม่ต้องห่วง
หรอกน่า”
หญิงสาวเลี้ยวรถตามรถเจียงเข้าไปในบริเวณบ้านพักนายทหาร
“ซันนี่พักอยู่ที่นี่หรือ”
เธอมองรอบๆอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“ครับคุณเอริก้า อาเม่ยประคองพี่ซันหน่อยเร็วเข้า”
“ไม่ต้อง ซันนี่ถึงแล้ว ลงมาค่ะ”
หญิงสาวตวัดเสียงดุ หวังเม่ยมองเจียงอย่างงงๆ ผู้พันโดมินิคยิ่งงงหนัก
“ฉันกลับก่อนดีกว่านะ เจียง”
เขาเดินกลับบ้านพักไป ขณะที่ซันนี่พยายามหาทางลงจากรถได้สำเร็จ เขาพยายาม
บังคับตัวเองให้ยืนตรง เสยผมที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งหนักขึ้นไปอีก
“เดินไหวไหมคะ ซันนี่”
“ไหวสิครับ”
ซันนี่เซเมื่อเริ่มออกเดิน หญิงสาวรั้งแขนเขาไว้ได้ทันควัน หวังเม่ยทำท่าจะเข้าไป
ช่วยประคอง แต่เจียงรั้งตัวไว้ เขาพูดกับหญิงสาวอย่างเกรงใจ
“เอ้อ ให้อาเม่ยดูแลพี่ซันสักหน่อยดีไหมครับ คุณเอริก้า”
หญิงสาวทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
“ก็ได้”
เธอนั่งมองอาเม่ยที่หาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าและแขนให้ชายหนุ่ม เมื่ออาเม่ยปลดกระดุม
เสื้อให้เขาได้สองเม็ดก็ต้องหยุดมือ เมื่อคนที่นั่งจ้องอยู่ถามเสียงดุ
“จะทำอะไรน่ะ”
“เปลี่ยนเสื้อให้ผู้พันค่ะ”
“ไม่ต้องเปลี่ยน ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ”
หญิงสาวดุเสียงเขียว ซันนี่ลืมตาขยับลุกขึ้นนั่ง
“ขอบใจนะอาเม่ย กลับไปพักผ่อนเถอะ เอ้อ ขอน้ำให้คุณเอริก้าหน่อย”
“ได้ค่ะ ผู้พัน”
หวังเม่ยหยิบน้ำเย็นมาส่งให้เอริก้า ก่อนจะส่งให้ชายหนุ่มที่รับไปดื่มอย่างกระหาย
“คุณก็กลับไปพักผ่อนเถอะ เอริก้า”
“คุณไล่ฉันหรือ”
ชายหนุ่มสั่นหน้า
“ไม่ได้ไล่ แต่นี่มันดึกแล้วนะคุณ เจียง”
“ครับพี่ซัน”
“ดูแลคุณเอริก้าด้วยนะ”
“เจียงไม่ต้องยุ่ง”
น้ำเสียงดุและเอาจริงทำให้ซันนี่เหลือบตามองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ก่อนจะ
ถามเบาๆ
“ขอกาแฟกินสักถ้วยได้ไหม”
“ฉันจะชงให้”
เอริก้าขยับตัว อาเม่ยรีบพูด
“ฉันจัดการให้ดีกว่าค่ะ คุณต้องการด้วยไหมคะ คุณเอริก้า”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณ”
เอริก้าพูดเสียงเย็น ชายหนุ่มจิบกาแฟควันขึ้นกรุ่น อาการมึนศีรษะค่อยจางลง
เขาเหลือบตามองเอริก้าที่นั่งหน้าบึ้งเม้มปากอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเหลือบมองเจียงที่พยายาม
ระงับอาการกระวนกระวายและหวังเม่ยที่มองเอริก้าอย่างไม่ไว้ใจนัก เขาอดหัวเราะไม่ได้
“เจียง อาเม่ย ไปพักผ่อนไป คุณเอริก้าเขาไม่ฆ่าฉันหรอกน่า”
“งั้นก็ได้ครับ เรากลับกันเถอะ ผมกลับก่อนนะครับ คุณหนู”
“สวัสดีเจียง”
เอริก้ามองตามอาเม่ยไปอย่างหมั่นไส้
“ปรนนิบัติเอาใจกันเหลือเกินนะคะ แม่นั่นน่ะ”
“นั่นน่ะ เมียเจียงเขานะคุณ”
ชายหนุ่มท้วงเบาๆ
“เมียเจียงแล้วทำไมห่วงคุณนักหนา”
“โอยผมปวดหัว แฮะ”
หญิงสาวทำเสียงดุ
“ไม่ต้องทำเฉไฉนะซันนี่”
.........................................
ความคิดเห็น