ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Moon shadow love theme ( บทเพลงแห่งรัก)

    ลำดับตอนที่ #13 : 12 การพบหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 52


     

     

                     “
    อาซัน  คิดถึงแกจริงๆ  

                            ซุนเต๋อกอดร่างสูงไว้แน่น ซันนี่ขยับตัวถอยออกมาอย่างนุ่มนวล 

                     “
    ลุงเต๋อสบายดีหรือครับ คุณแอนดี้มาด้วยหรือเปล่าครับ  

                     “
    มา แต่นี่เห็นขับรถออกไปแต่เช้าแล้วละคงจะไปเที่ยวกับริคกี้เขา นี่ เขาเตรียม

         จะกลับอเมริกาอีกนะ   เขาว่าขอไปดูแลกิจการบริษัทที่นั่นดีกว่า ลุงกับเจคอบเปิดบริษัทขาย

         คอมพิวเตอร์ แอนดี้เขาอาสาดูแลบริษัทที่นั่น ริคกี้เขาดูแลทางด้านบัญชีให้  ลุงอยากให้แกมาช่วย

         งานด้วย
      

                     “
    ตอนนี้คงยังไม่ได้หรอกครับลุง เพราะเขาให้ทุนผมไปอบรมที่อังกฤษสองปี ผมต้อง

         ทำงานใช้ทุนให้เขา
      

                     “
    ลุงเข้าใจ ถ้าใช้ทุนเสร็จแล้วก็มาช่วยกันทำงาน ตกลงไหม  

                     “
    ได้ครับ  

                            ชายหนุ่มรับคำ  เขารินน้ำชาร้อนกรุ่นส่งให้ซุนเต๋อด้วยท่าทางนุ่มนวล  

                    “
    ลุงต้องขอบใจที่แกช่วยดูแลบ้านช่องให้   

                    “
    อ๋อ เจียงกับภรรยาของเขาช่วยดูแลมาตลอดครับลุง   

                     “
    ลุงขอบใจเขาไปแล้ว กินข้าวกลางวันด้วยกันนะ  

                     “
    ได้ครับ   

                     “
    เจอริคกี้หรือยังละ อาซัน  

                     “
    ยังครับคุณลุง  ทานนี่นิดนะครับ เจ๊ฉินคงดีใจที่คุณลุงกลับมา จะได้ทำของโปรด

         ของคุณลุง
      

                     “
    งั้นก็หมายความว่าเธอยังไม่ได้พบเจคอบเหมือนกันละสิ  

                     ”
    ครับ คุณเจคอบมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ  

                             ซุนเต๋อหัวเราะ  

                     “
    ไม่มีอะไรหรอก เจคอบเขาอยากจะขอบใจแกที่ช่วยเขาไว้คราวนั้น  

                     “
    ผมไม่คิดมากหรอกครับ ถ้าว่างผมจะคาราวะคุณเจคอบแน่นอนครับ

    .........................................

                             น้ำทะเลสีครามตรงหน้าค่อยซึมซาบเข้ามาในความรู้สึกของชายหนุ่มทีละน้อย 

         สายลมเย็นพัดแรงจนผมปลิวยุ่งเหยิง การไปพบซุนเต๋อทำให้เขาต้องใช้กำลังใจอย่างมาก แต่ก็

         ยังน้อยกว่าการพูดถึงเอริก้า เขาขับรถเตลิดจนมาถึงชายทะเลตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน  ชายหนุ่ม

         เปิดเบียร์กระป๋องดื่มอึกๆอย่างกระหาย เขาต้องนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างเล็กได้สัดส่วนคุ้นตา

         เดินมาทางเขา เธอเปลือยเท้าเปล่า ใส่กางเกงขาสั้นเห็นท่อนขาเรียวงาม
     เธอมองหน้าเขาราวกับ

         มองคนแปลกหน้า  

                     “
    สวัสดีค่ะ  

                             เธอทักทายด้วยท่าทางห่างเหิน 

                     “
    สวัสดีครับ  

                             เขาทักตอบ จิบเบียร์อีกอึกใหญ่ เวลาเกือบสี่ปีเปลี่ยนให้เด็กสาวแสนสวยกลายเป็น

         สาวสวยหยาดเยิ้มได้ถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยน  

                     “
    เบียร์ไหมคุณ  รถคันนี้มีแต่เบียร์น่ะ  

                     “
    ก็ได้ค่ะ  

                             หญิงสาวตอบ มองเขาเปิดท้ายรถหยิบเบียร์จากกระติกส่งให้เธอ  

                     “
    ไม่มีกับแกล้มนะคุณ  

                     “
    ไม่เป็นไรค่ะ  

                             หญิงสาวจิบเบียร์เย็นเฉียบก่อนจะถามเรียบๆ  

                     “
    คุณสบายดีหรือคะ ซันนี่   

                     “
    สบายดีครับ นั่นคงเป็นเพื่อนคุณ  

                             เขามองไปทางชายหนุ่มที่เดินเหลียวหน้าเหลียวหลังมาตามชายหาด หญิงสาว

         ถอนหายใจยาว 

                     “
    ใช่ค่ะ พี่แอนดี้ไงคะ  

                             เขาลุกขึ้นยืน เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นเดินใกล้เข้ามา  

                     “
    เฮ้ ซันนี่ ดีใจจริงที่ได้พบนาย   

                             ชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าประพิมพ์ประพายคล้ายซุนเต๋อ
    ดวงตาของเขาแจ่มใสขณะที่

         ทักทายซันนี่  

                     “
    สวัสดีครับคุณแอนดี้   

                     “
    ฉันต้องขอบใจนายมากนะ สำหรับเรื่องที่ผ่านมา  

                             ชายหนุ่มยิ้มฝืนๆ  

                     “
    ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อลุงเต๋ออยู่แล้ว  เอ้อ  ผมต้องไปแล้ว 

         แล้วพบกันใหม่นะครับ
      

                             ชายหนุ่มกล่าวลาคนทั้งสอง เขาขบกรามกระแทกเท้าเหยียบคันเร่งจนรถพุ่งไป

         ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ความปวดร้าวที่จู่โจมขึ้นมาวิ่งพล่านไปทั่วร่างอบ่างช่วยไม่ได้ อารมณ์ยัง

         ร้อนรุมแม้จะเลี้ยวเข้ามาในเขตทหาร  อาเม่ยยืดคอมองรถที่ตีวงเข้ามาจอดในบริเวณบ้านอย่าง

         น่ากลัวชน และมันก็กระแทกกระถางต้นไม้แตกกระจายจนได้  

                     “
    เมาหรือเปล่าคะ ผู้พัน  

                             ซันนี่ลงจากรถหน้าขรึมเคร่ง  

                     “
    แค่มึนๆน่ะ เจียงมาด้วยหรือเปล่า เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันดีกว่า  

                     “
    มาค่ะ เจียงเขาก็มีเรื่องจะเล่าให้ผู้พันฟังด้วย  

                     “
    ขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะเดี๋ยวเดียว  

                             เจียงถอนหายใจยาว เขามองลูกพี่กินอาหารแบบไร้รสชาติอย่างกลัดกลุ้ม ซันนี่มีสีหน้า

         เรียบเฉยเมื่อเขาเล่าว่าพบเอริก้า และเขาก็พูดเสียงเรียบๆ 

                     “
    เจอเขาแล้วที่ชายหาด เขาไปเที่ยวกับเพื่อน 
        

                             ชายหนุ่มออกจะเน้นคำว่าเพื่อนมากเกินความจำเป็นไปเล็กน้อยในความรู้สึกของ

         ผู้ฟังทั้งสองซึ่งมองตากันอย่างหนักใจ

                      “
    ไฮ้ซันนี่  

                               เสียงห้าวที่ทักทายทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้า  

                     “
    เฮ้ตาฉันฝาดไปหรือเปล่านี่ มิคซ์ แกมาได้ยังไง ไม่ได้มาเที่ยวใช่ไหม  

                             เขามองเพื่อนรักในชุดทหารเต็มยศ อย่างยินดี 

                     “
    มาประจำที่นี่ตามโครงการแลกเปลี่ยนครูฝึก  

                             ซันนี่เลิกคิ้วเล็กน้อย  

                     “
    นับว่าเป็นโชคดีของทหารเราที่จะได้ครูฝึกชั้นยอดมาช่วยฝึกให้  

                     “
    ฝึกตำรวจต่างหาก นี่รายงานตัวเสร็จแล้วก็เลยมาหา  

                     “
    แล้วพักที่ไหนละ  

                     “
    บ้านพักในนี้ละ งานเอกสารน่าเบื่อจะตาย มันไม่เหมาะกับแกหรอกซันนี่  

                             ชายหนุ่มหัวเราะ  

                     “
    มันน่าเบื่อจริงๆนั่นแหละ แต่มันก็ต้องสะสาง แกจะมาอยู่นานเท่าไหร่มิคซ์  

                     “
    สามเดือน  

                     “
    แล้วจะพาเที่ยว 

                     “
    ขอบใจ   

                     “
    เย็นนี้จะพาไปเลี้ยง เจียงมาพอดีรู้จักผู้พันโดมินิคหน่อย   มิคซ์นี่เป็นเพื่อนร่วมตาย

         ของฉันเอง เจียง
      

                             เจียงทำความเคารพก่อนจะจับมือผู้พันโดมินิคที่ยื่นส่งให้  

                     “
    เย็นนี้ไปออกกำลังกันหน่อยดีกว่าซันนี่  

                     “
    ก็ได้ เย็นนี้เจอกัน  

                             ผู้พันโดมินิคออกไปจากห้อง ซันนี่มองเจียงที่ยืนทำหน้านิ่วอยู่  

                     “
    มีอะไรหรือเจียง  

                     “
    ลุงเต๋อให้มาบอกพี่ซันครับว่าคุณเจคอบอยากพบพี่ ให้พี่บอกมาว่างเมื่อไหร่ 

         แล้วให้ไปหาทันที
       

                     “
    กำลังเคลียร์เวลาอยู่เหมือนกันละ เย็นนี้ไปออกกำลังกันดีกว่า บอกอาเม่ยด้วยนะ  

                     “
    ครับพี่ซัน

                             ผู้พันโดมินิคเข้ากับเจียงและหวังเม่ยได้อย่างรวดเร็ว  เมื่ออาหารเย็นเริ่มไปได้ไม่นาน

                             
    เขาน่าจะให้ผู้พันมาฝึกให้กับพวกเรานะคะ  

                             อาเม่ยเอ่ยปากเมื่อผู้พันรับเบียร์แก้วใหญ่ไปดื่มหลายอึก  เขาพยักหน้าไปทางซันนี่ 

                     “
    ซันนี่ไง เก่งจะตายไป  

                     “
    แต่ยังแพ้แกอยู่ครึ่งขั้นมาแต่ไหนแต่ไร  

                             ชายหนุ่มสารภาพ ผู้พันโดมินิคหัวเราะชอบใจ  

                     “
    อย่าถ่อมตัวมากไปน่า  

                             เขาต่อยใส่คางซันนี่เล่นๆ ชายหนุ่มเบือนหน้าหลบปัดมือผู้พันซึ่งเบนทิศทางของหมัด

         พยายามต่อยคางชายหนุ่มอีกครั้ง ซันนี่ปัดกำหมัดนั้นอีกครั้ง  คนทั้งสองชั่วเดี๋ยวเดียวแสดงท่าทาง

         การต่อสู้ออกมาอย่างงดงาม โดยไม่ได้มีการประมือกันแม้แต่น้อย หวังเม่ยกับเจียงปรบมืออย่าง

         ชื่นชม  โดมินิคชูแก้วชวนทุกคนดื่ม ซันนี่ร้อนท้องวาบเมื่อดื่มเบียร์ลงท้องไป  

                     “
    ชักมึนแล้วแฮะ  

                             เขาพึมพำ โดมินิคหัวเราะเสียงดัง  

                     “
    คออ่อนไม่เอาไหนเหมือนเดิมเลยแก  

                             เสียงหัวเราะของโดมินิคทำให้โต๊ะข้างๆต้องหันมามองอย่างสนใจ  

                     “
    กลับกันดีกว่า ซันนี่ท่าจะไม่ไหว  

                             โดมินิคพูดปนหัวเราะ เขาหัวเราะเสียงดังมากขึ้นเมื่อซันนี่มีอาการหัวทิ่มไปข้างหน้า 

         แต่เขาก็ทรงตัวได้อย่างรวดเร็ว  

                     “
    เพิ่งจะกินกี่แก้วเอง ไม่ได้เรื่อง  

                             โดมินิคพึมพำ อาเม่ยหัวเราะ  

                     “
    ไม่เคยเห็นผู้พันดื่มได้เกินสามขวดสักทีค่ะ  

                             เธอประคองชายหนุ่ม  

                     “
    ไม่เป็นไรหรอกอาเม่ย   

                     “
    ประคองไว้อย่างนั้นแหละ อาเม่ย  

                             เจียงพูดเบาๆ  

                     “
    นั่นซันนี่เมาหรือไง  

                             เสียงถามเย็นชาจากทางด้านหลังทำให้เจียงสดุ้งเล็กน้อย  

                     “
    คุณหนูเอริก้า  

                     “
    เจียงประคองซันนี่สิ เกิดล้มไปจะว่ายังไง  

                             เสียงออกคำสั่งทำให้เจียงรีบเข้าไปประคองลูกพี่ เขาพยักหน้าให้กับภรรยาซึ่งทำท่า

         ไม่เห็นด้วย  

                     “
    ไม่เป็นไรน่าเจียง ฉันเดินเองได้ แค่มึนนิดเดียวเอง  

                             ซันนี่โบกมือไม่ยอมให้เจียงประคอง 

                     “
    แล้วขับรถไหวหรือเปล่าคะ  

                             เสียงถามดุๆ ซันนี่พยักหน้าพยายามหยีตามองหญิงสาวเพื่อให้เห็นหน้าชัดขึ้น   

                     “
    ไหวสิ  

                     “
    ฉันว่า เจียงพาไปที่รถฉันเลยดีกว่า  

                             เอริก้าพูดเสียงเด็ดขาด เจียงรับคำ เขาประคองซันนี่เดินตามหญิงสาวไปที่ลานจอดรถ 

         หลังจากส่งซันนี่ขึ้นรถเอริก้าแล้วเขาจึงหันมาทางโดมินิคที่เดินตามมาอย่างงงๆ   

                     “
    คุณมิคซ์ไปกับผมเถอะครับ  

                     “
    แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันน่ะ  

                             โดมินิคมองหญิงสาวที่ขึ้นไปบนรถสีแปลกตาและติดเครื่องรอ   

                     “
    ไว้ถามพี่ซันเองเถอะครับ   

                             เจียงตัดบท อาเม่ยทำหน้านิ่ว  
      

                     “
    คุณแน่ใจแล้วหรือคะเจียง ว่าเธอจะปลอดภัยพอสำหรับผู้พันน่ะ  

                             เจียงหัวเราะเบาๆ  

                     “
    คุณเอริก้าตัวเล็กแค่นั้นเอง จะทำอะไรพี่ซันได้ อีกอย่างเธอก็รักพี่ซันออกไม่ต้องห่วง

         หรอกน่า”  

                             หญิงสาวเลี้ยวร
    ถตามรถเจียงเข้าไปในบริเวณบ้านพักนายทหาร  

                     “
    ซันนี่พักอยู่ที่นี่หรือ  

                             เธอมองรอบๆอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก  

                     “
    ครับคุณเอริก้า  อาเม่ยประคองพี่ซันหน่อยเร็วเข้า  

                     “
    ไม่ต้อง ซันนี่ถึงแล้ว ลงมาค่ะ  

                             หญิงสาวตวัดเสียงดุ  หวังเม่ยมองเจียงอย่างงงๆ ผู้พันโดมินิคยิ่งงงหนัก  

                     “
    ฉันกลับก่อนดีกว่านะ เจียง  

                             เขาเดินกลับบ้านพักไป ขณะที่ซันนี่พยายามหาทางลงจากรถได้สำเร็จ  เขาพยายาม

         บังคับตัวเองให้ยืนตรง เสยผมที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งหนักขึ้นไปอีก  

                     “
    เดินไหวไหมคะ ซันนี่  

                     “
    ไหวสิครับ  

                             ซันนี่เซเมื่อเริ่มออกเดิน หญิงสาวรั้งแขนเขาไว้ได้ทันควัน หวังเม่ยทำท่าจะเข้าไป

         ช่วยประคอง แต่เจียงรั้งตัวไว้ เขาพูดกับหญิงสาวอย่างเกรงใจ  

                     “
    เอ้อ  ให้อาเม่ยดูแลพี่ซันสักหน่อยดีไหมครับ คุณเอริก้า  

                             หญิงสาวทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า  

                     “
    ก็ได้ 

                              
    เธอนั่งมองอาเม่ยที่หาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าและแขนให้ชายหนุ่ม เมื่ออาเม่ยปลดกระดุม

         เสื้อให้เขาได้สองเม็ดก็ต้องหยุดมือ เมื่อคนที่นั่งจ้องอยู่ถามเสียงดุ  

                     “
    จะทำอะไรน่ะ  

                     “
    เปลี่ยนเสื้อให้ผู้พันค่ะ  

                     “
    ไม่ต้องเปลี่ยน ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ  

                             หญิงสาวดุเสียงเขียว  ซันนี่ลืมตาขยับลุกขึ้นนั่ง  

                     “
    ขอบใจนะอาเม่ย กลับไปพักผ่อนเถอะ เอ้อ  ขอน้ำให้คุณเอริก้าหน่อย  

                     “
    ได้ค่ะ ผู้พัน  

                             หวังเม่ยหยิบน้ำเย็นมาส่งให้เอริก้า ก่อนจะส่งให้ชายหนุ่มที่รับไปดื่มอย่างกระหาย  

                     “
    คุณก็กลับไปพักผ่อนเถอะ เอริก้า 

                              
    คุณไล่ฉันหรือ  

                             ชายหนุ่มสั่นหน้า  

                     “
    ไม่ได้ไล่ แต่นี่มันดึกแล้วนะคุณ  เจียง  

                     “
    ครับพี่ซัน  

                     “
    ดูแลคุณเอริก้าด้วยนะ   

                     “
    เจียงไม่ต้องยุ่ง  

                            น้ำเสียงดุและเอาจริงทำให้ซันนี่เหลือบตามองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ก่อนจะ

         ถามเบาๆ  

                     “
    ขอกาแฟกินสักถ้วยได้ไหม  

                     “
    ฉันจะชงให้ 

                              
    เอริก้าขยับตัว อาเม่ยรีบพูด  

                     “
    ฉันจัดการให้ดีกว่าค่ะ คุณต้องการด้วยไหมคะ คุณเอริก้า  

                     “
    ไม่ค่ะ ขอบคุณ  

                             เอริก้าพูดเสียงเย็น   
    ชายหนุ่มจิบกาแฟควันขึ้นกรุ่น อาการมึนศีรษะค่อยจางลง 

         เขาเหลือบตามองเอริก้าที่นั่งหน้าบึ้งเม้มปากอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเหลือบมองเจียงที่พยายาม

         ระงับอาการกระวนกระวายและหวังเม่ยที่มองเอริก้าอย่างไม่ไว้ใจนัก เขาอดหัวเราะไม่ได้  

                     “
    เจียง อาเม่ย ไปพักผ่อนไป คุณเอริก้าเขาไม่ฆ่าฉันหรอกน่า  

                     “
    งั้นก็ได้ครับ เรากลับกันเถอะ ผมกลับก่อนนะครับ คุณหนู 

                     “
    สวัสดีเจียง  

                             เอริก้ามองตามอาเม่ยไปอย่างหมั่นไส้  

                     “
    ปรนนิบัติเอาใจกันเหลือเกินนะคะ แม่นั่นน่ะ  

                     “
    นั่นน่ะ เมียเจียงเขานะคุณ  

                             ชายหนุ่มท้วงเบาๆ  

                     “
    เมียเจียงแล้วทำไมห่วงคุณนักหนา  

                     “
    โอยผมปวดหัว แฮะ” 

                             หญิงสาวทำเสียงดุ
     

                     “
    ไม่ต้องทำเฉไฉนะซันนี่  

    .........................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×