ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Moon shadow love theme ( บทเพลงแห่งรัก)

    ลำดับตอนที่ #11 : ปฏิบัติการกวาดล้าง

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 52





                             ร่างผอมเกร็งของมือดำเฮยโสว่นอนสงบอยู่บนเตียง มีสายระโยงระยางจนดูเกะกะ

    ไปหมด ซันนี่มองร่างที่เคยผงาดอยู่ในวงการนักเลง ซึ่งบัดนี้มีแสงชีวิตริบหรี่เต็มที ร่างที่นอน

    สงบนิ่งขยับตัวเล็กน้อยชายหนุ่มปราดเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว  

                     “
    พี่ปัง        มือดำปังเฮยโสว่เหลือบตามองซันนี่  ดวงตาจุดประกายวูบหนึ่งก่อน

    จะมืดมัวลงตามเดิม  

                     “
    มังกรทองมันเป็นใคร พี่รู้ไหมครับ  

                             ชายหนุ่มถามอย่างไม่มุ่งหวังมากนัก อาการของมือดำเฮยโสว่หนักกว่าที่คาด

    ไว้มากนัก 

                              
    จอห์น ฮุ่ย   

                             เสียงมือดำกระซิบออกมาจากหน้ากากอ๊อกซิเจนที่กระชับอยู่กับปากจมูก แต่เสียง

    นั้นก็กังวานเข้าไปในหูชายหนุ่มอย่างปราศจากข้อสงสัย เขาตบหลังมือเจ้าพ่ออย่างปลอบโยน 

                     “
    พักผ่อนมากๆนะครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ รักษาตัวให้แข็งแรงนะครับพี่ปัง   

                     “
    จัดการมันให้ด้วย   

                             เจ้าพ่อกระซิบเสียงแผ่ว ดวงตาของเขาหลับสนิทท่าทางอ่อนเพลียชัดเจน ชายหนุ่ม

    กดกริ่งเรียกพยาบาลเมื่อเห็นอาการของ
    เฮยโสว่ไม่ดีนัก  หมอและพยาบาลตรวจอาการของเขาอย่าง

    กังวล  ซันนี่หายใจสะท้อนขณะที่เดินจากห้องผู้ป่วยหนัก    ทิ้งให้หมอและพยาบาลวุ่นวายอยู่กับ

    การพยายามที่จะยื้อชีวิตของปังเฮยโสว่จากเงื้อมมือของมัจจุราชไว้เบื้องหลัง


                     “
    โอ้ย พูดไปใครจะเชื่อ ดาราชื่อดังอย่างจอห์น ฮุ่ย  นี่นะคะจะกลายเป็นเป็นบิ๊ก

    ของมังกรทองไปได้
      

                             หวังเม่ยร้องอย่างไม่เชื่อ เมื่อชายหนุ่มบอกเล่าเรื่องที่มือดำเฮยโสว่บอกให้เธอและ

    เจียงฟัง  

                     “
    ผมก็เห็นใจคุณนะอาเม่ย  จอห์น ฮุ่ย เป็นดารายอดนิยมออกจะอย่างนั้น แต่เขาก็มี

    สิทธิจะเป็นบิ๊กมังกรทองได้เหมือนกันนะ ผมว่าทางที่ดีให้คนคอยติดตามดูพฤติการณ์ของเขาอย่าง

    ใกล้ชิดสักระยะหนึ่งให้แน่ใจก่อนดีกว่า ค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
      

                     “
    ได้ค่ะ รับรองว่าใช้เวลาไม่นาน   ถ้าเป็นจอห์น ฮุ่ย จริง เราจะทำอย่างไรดีคะ
     
    ผู้กอง
      

                             เสียงถามเหมือนไม่ค่อยแน่ใจของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้    

                     “
    ก็ทำอย่างที่ต้องทำ หน่วยเหนือสั่งว่าถ้าจับกุมไม่ได้ก็เก็บ  

                             เขาตอบก่อนจะทวนคำสั่งหน่วยเหนืออย่างขึงขัง ชายหนุ่มซ่อนสีหน้าขบขันไว้เมื่อ

    เห็นหญิงสาวทำท่าไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจนัก


                                                                    ........................................

                             ซันนี่ถอนหายใจยาว เขาทอดสายตามองทิวทัศน์เบื้องหน้าอย่างเคร่งขรึม เขาดื่ม

    เบียร์เย็นเฉียบในกระป๋องอย่างใจลอยอยู่บ้าง เสียงเครื่องยนต์ดังแว่วมาเข้าหูทำให้เขาต้องเบน

    สายตาก้มลงมองไปที่ถนนด้านล่าง และเห็นรถจี๊บทหารที่กำลังขับตะบึงขึ้นเขามาตามทางคดเคี้ยว

    ที่เบื้องล่างด้วยความเร็ว ไม่นานรถจี๊บคันนั้นก็จอดพรืดต่อจากรถของเขา  ชายหนุ่มมองหญิงสาว

    ที่กระโดดลงจากรถจี๊ปอย่างคล่องแคล่ว  เธออยู่ในชุดทหารรัดกุม 

                     “
    ผู้กองคะ ท่านนายพลให้ผู้กองรายงานตัวพรุ่งนี้นะคะ รายงานเรื่องจอห์น ฮุ่ย ถึงมือ

    ท่านเรียบร้อยแล้ว คงจะต้องลงมือกันแล้ว
      

                     “
    ถึงเวลาแล้วหรือ ก็ดี   

                             เขาพึมพัมมองหญิงสาวที่หยิบเบียร์ในถังไปดื่มอย่างกระหาย 

                              
    เจียงอยู่ไหนละหมวด   

                     “
    กำลังรวมพลอยู่ค่ะ ท่านนายพลอยากพบคุณก่อน คุณจะไปส่งฉันที่หน่วยได้

    ไหมละคะ ฉันจะได้ให้พลขับเอารถกลับไปก่อน
      

                     “
    ส่งอยู่แล้วละ เจียงจะมาสมทบกับเราไหมคุณ  

                     “
    มาสิคะ แต่ตอนนี้ต้องคอยรับคำสั่งก่อน  ที่นี่สวยนะคะ 
                              

                             หมวดหวังมองทิวทัศน์ตรงหน้าอย่างชื่นชม   

                     “
    ฮื่อ ผมเคยพาเอริก้ามาเที่ยวที่นี่ เขาชอบนะ   

                             หมวดหวังเหลือบตามองชายหนุ่มเล็กน้อย  

                     “
    ยังคิดถึงคุณเอริก้าอยู่หรือคะ มันจะเป็นปีแล้วนะคะ  

                     “
    ก็....นึกถึงสิ่งดีๆที่มีให้กัน มันเป็นสิ่งที่ดีนะคุณ   

                     “
    แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าคุณเอริก้าจะติดต่อมาบ้างจริงไหมคะ  

                              ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง  

                     “
    ผมก็ไม่ได้ติดต่อไปเหมือนกัน เรากลับกันดีกว่า รับเจียงไปกินข้าวแถวๆหน่วยด้วย  

                     “
    ก็ดีค่ะ คุณเมาหรือเปล่าคะฉันขับรถให้ดีกว่า  

                             ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  

                     “
    ก็ดีเหมือนกัน มึนหัวนิดๆเหมือนกันแฮะ  

                     “
    คออ่อน  

                             หมวดหวังทำเสียงดูหมิ่นเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะ  

                     “
    เจียงก็คออ่อนไม่ได้เรื่องพอกัน แต่ฉันชอบนะคะผู้ชายแบบนี้ 

    .........................................

                             ชายหนุ่มในชุดสนามรัดกุมกระโดดลงจากรถจี๊ปทหาร    เขาเพ่งตามองกองกำลัง

    ที่เข้าแถวรออยู่อย่างสงบที่กลางสนาม  

                     “
    สวัสดีค่ะผู้กอง  

                             หมวดหวังทำความเคารพชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเดินไปถึง  เจียงซึ่งอยู่ใน

    ชุดสนามทำความเคารพชายหนุ่มเช่นกัน  

                     “
    มีข่าวว่าชิวซิ่งหยางรวมคนกะถล่มมังกรทองคืนนี้ด้วย ท่านนายพลต้องการให้

    พวกเราถล่มทั้งสองพรรคให้หมดสิ้นโดยเร็ว   คืนนี้เราจะลุยขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังห้ำหั่นกัน 

    หมวดหวัง เตรียมกำลังพร้อมแล้วใช่ไหม
      

                     “
    ใช่ค่ะ  

                     “
    ดี เราจะแบ่งกำลังออกเป็นสองกลุ่ม หมวดกับเจียงคุมไปกลุ่มหนึ่ง  อีกกลุ่มหนึ่ง

    ผมจะเป็นคนคุม  หมวดกับเจียงคุมคนถล่มชิวซิ่งหยาง ผมจะจัดการจอห์น ฮุ่ย เอง
      ข่าวจากสาย

    รายงานว่า คืนนี้จอห์น ฮุ่ย  จะคุมการขนของเอง คาดว่าอาจจะเป็นการทิ้งทวนก่อนจะซ่อนตัว เรา

    จะถล่มทั้งสองกลุ่ม ถ้าทำสำเร็จภารกิจของพวกเราก็จะเสร็จสิ้น โชคดีนะทุกคน


                             กลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ลอยมาตามลมเข้าจมูกของเขาทำให้ชายหนุ่มขยับตัว  เขายืดตัว

    เพ่งตามองไปที่ท่าเรือซึ่งผู้ที่รอคอยเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อเรือขนาดกลางแล่นเข้าเทียบท่า
    ร่างสูงของ

    ชายในชุดรัดกุมซึ่งเดินไปมาแสดงแน่ชัดว่าข่าวกรองของท่านนายพลเซี่ยถูกต้อง เพราะเขาเป็น

    ดาราชื่อดัง จอห์น ฮุ่ย จริงๆ ถ้าหมวดหวังเม่ยเห็นเต็มตาคงพูดไม่ออกเหมือนกัน  ชายหนุ่มตรวจ

    ความเรียบร้อยของอาวุธอย่างใจเย็น  กองกำลังของเขาซุ่มกายอย่างสงบแต่เตรียมตัวพร้อม ทุกคน

    รอสัญญาณจากเขา  ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังแทบทุกทิศทุกทาง คนที่ท่าเรือแตกกระจาย ชายหนุ่ม

    โบกมือให้สัญญาณกองกำลังของเขา ก่อนจะนำไปที่ท่าเรืออย่างปราดเปรียว สายตาไม่คลาดจาก

    ร่างสูงของจอห์น  ฮุ่ย ซึ่งกราดปืนกลยิงอย่างบ้าคลั่ง พลางก็วิ่งหนีอย่างรวดเร็ว  ซันนี่วิ่งตามไป

    ติดๆร่างสูงหันกลับมาทางเขาปืนกลในมือยิงใส่เขาในทันที ชายหนุ่มพุ่งตัวหลบหลังกองกระสอบ

    ที่กระจุยตามแรงกระสุน ซันนี่ยิงสวนออกไป เขาเห็นฝ่ายตรงข้ามล้มลงนอนสงบนิ่ง เสียงปืนยังดัง

    ทั่วบริเวณชายหนุ่มยิงใส่ทุกคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของเขา เสียงปืนที่ยิงสนั่นหวั่นไหวดังอยู่เกือบครึ่ง

    ชั่วโมงก็เงียบสงบ  กลิ่นดินปืนยังลอยอ้อยอิ่งไปทั่วบริเวณ ซันนี่เดินตรวจรอบบริเวณด้วยใบหน้า

    สงบนิ่ง ร่างของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีมากอย่างคิดไม่ถึง  หวังเม่ยและเจียงเดินมาทางเขาก่อนจะ

    ทำความเคารพ  

                     “
    หมวด แจ้งไปทางหน่วยเหนือส่งคนไปหรือยัง  

                     “
    เรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้ตำรวจยึดพื้นที่และทรัพย์สินทั้งสามเขตเรียบร้อยแล้วค่ะ 

    มีการต่อต้านบ้างแต่ก็ถูกปราบปรามหมดแล้วค่ะ
     

    .........................................

                             เครื่องบินทหารวิ่งรันเวย์มาตามทางก่อนจะจอดนิ่งสนิท ร่างสูงในเครื่องแบบก้าว

    ลงจากเครื่องบินอย่างแจ่มใส   เขายิ้มอยู่ใต้หมวกเมื่อเห็นหวังเม่ยและเจียงยืนอยู่ด้วยกันข้างรถจิ๊ป


    ทหารที่มารอรับ  

                     “
    สวัสดีครับ  

                     “
    สวัสดีค่ะ  

                             ชายหนุ่มแตะกระบังหมวกรับความเคารพจากคนทั้งสอง  

                     “
    สองคนสบายดีหรือ            เขาถาม 

                     “
    สบายดีค่ะ ผู้พันละคะ  

                     “
    อ้วนขึ้นเยอะ อึดอัดไปหมดแล้ว  

                             เขาตอบยิ้มๆเมื่อเห็นอาเม่ยมองเขาอย่างพิจารณา 

                     “
    ไม่จริงหรอกค่ะ ทำไมผู้พันถึงเท่ได้ขนาดนี้ละคะ   ถ้าไม่มีนายเจียงฉันคงกรี๊ด

    สลบไปแล้ว
      

                             ชายหนุ่มหัวเราะ เขาหลิ่วตาให้เจียง  

                     “
    ไงเจียง พูดไม่ทันอาเม่ยตามเคยสินะ  

                     “
    ครับพี่ซัน   

                             ซันนี่มองสองหนุ่มสาวที่แต่งงานกันเมื่อปีที่แล้วอย่างชื่นชม หลังจากการปราบ

    ปรามบรรดาแก๊งมาเฟียจนสงบราบคาบแล้ว ซันนี่ก็ได้รับเลื่อนยศเป็นพันตรี   และทางการส่งเขา

    ไปอบรมเสนาธิการทหารที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลาสองปี   เจียงและหวังเม่ยรับเป็นคนดูแลบ้าน

    ของซุนเต๋อและเจคอบ ตลอดจนครอบครัวของซันนี่  จึงทำให้คนทั้งสองสนิทสนมกันและแต่งงาน

    กันในที่สุด
      

                     “
    ฉันต้องไปรายงานตัวก่อนนะเจียง  

                             เขาบอกเมื่อปีนขึ้นไปนั่งข้างเจียงที่อยู่หลังพวงมาลัยรถ 

                     “
    ครับพี่ซัน 

                              เจียงขับรถเข้าไปในกองบัญชาการ  

                     “
    เจียง อาเม่ย รอก่อนนะ ฉันรายงานตัวแล้วไปส่งที่บ้านพักหน่อย  

                     “
    ได้ครับพี่ซัน   

                             ชายหนุ่มหายเข้าไปไม่นานก็กลับออกมา 

                     “
    ไปบ้านพักเลยเจียง ฉันมีของฝากสำหรับนายสองคนกับพวกเราด้วย 

    .........................................

                                ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ทอดสายตามองทิวทัศน์ตรงหน้าซึ่งยังสวยงามเหมือนเดิม
       
       คลื่นซัดสาดเข้าหาฝั่งแตกเป็นฟองขาว  

                     “
    ลุงเต๋อกลับเมื่อปลายปีที่แล้ว คุณเจคอบกับครอบครัวก็กลับมาด้วย พี่ซันจะไปพบ

      ลุงเต๋อไหมครับ
      

                             เจียงรับเบียร์กระป๋องจากภรรยามาส่งให้ชายหนุ่ม  เขารับไปจิบเล็กน้อย  

                     “
    ก็คงต้องไป แต่อาจจะเป็นหลังจากที่กลับจากสิงคโปร์ก่อน  

                     “
    ผู้พันต้องไปเมื่อไหร่คะ  

                     “
    มะรืนนี้  ไปสอนพวกนายตำรวจจากหลายประเทศโครงการความร่วมมือระหว่าง
       
        ประเทศ
    เป็นโครงการที่ต้องทำตลอดทั้งปีเป็นช่วงๆ  

                     “
    ไปกี่วันคะ  

                              
    ครั้งละโครงการสามเดือน  

                               ชายหนุ่มกลืนเบียร์เย็นเฉียบที่บาดคอวาบ  

                     “
    เดี๋ยวฉันจะไปจัดของให้ค่ะ  

                     “
    ขอบคุณนะอาเม่ย   

                     “
    ความจริงผู้พันควรจะหาคนดูแลได้แล้วนะคะ  

                             อาเม่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง  ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  

                     “
    กลับมาแล้วจะหา  

                     “
    พูดจริงๆนะคะ  

                             อาเม่ยถามเหมือนจะคาดคั้น  เจียงสามีของเธอรักและเชื่อถือซันนี่มาตลอด   ทำให้เธอ

        รู้สึกรักและปรารถนาดีต่อซันนี่เช่นเดียวกัน  เมื่อเห็นเขาต้องทุกข์ทรมานใจจากเรื่องของเอริก้า

        ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยจะชอบเอริก้าสักเท่าไหร่ เธออยากจะให้เขามองผู้หญิงอื่นบ้าง   ชายหนุ่ม

        พยักหน้า  

                     “
    จริงสิฉันหาแน่ ถ้าหาได้ง่ายๆนะ  

                     “
    ก็มองๆบ้างสิคะ คนมีเสน่ห์อย่างผู้พันนี่นะจะหาไม่ได้ เจียงเขาเล่าว่ามีสาวๆมาชอบ

       ผู้พันเยอะแยะตอนทำงานอยู่กับลุงเต๋อน่ะค่ะ
       

                     “
    เจียงก็พูดเกินไปหน่อย ชักเมาแฮะ  

                             เขาโยนเบียร์กระป๋องที่หกที่เหลือเกือบครึ่งกระป๋องทิ้งไปอย่างไม่แยแส รู้สึกมึน

        ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ได้ยินเสียงอาเม่ยหัวเราะชอบใจ 

                              
    คออ่อนตามเคย เจียง พาผู้พันกลับดีกว่า

    .........................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×