คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ผู้คุ้มกัน
ปฐมบท.....ซันนี่ - เอริก้า
รอยยิ้มที่สดใสของเธอหวานราวน้ำผึ้ง คล้ายดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ
รอยยิ้มที่สนิทสนมแสนคุ้นเคยเช่นนี้ของเธอ ฉันเห็นได้ชัดเจนอยู่ในความฝันของฉัน........
............................
งานแต่งงานของลูกชายเจ้าสัวใหญ่ในวันนี้ครึกครื้นด้วยเสียงเพลงและเสียงพูดคุย
สรวลเสเฮฮา แต่แม้งานจะสนุกสนานครึกครื้นเพียงใด ชายในวัยชราอย่างซุนเต๋อกลับรู้สึกไม่
ค่อยจะสนุกสนานกับมันเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว เหล้าในแก้วของเขาก็แทบจะไม่พร่องเพราะ
เขาเพียงจิบเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อมีคนมาขอชนแก้วด้วย ในฐานะอดีตเจ้าพ่อ ทำให้เขาไม่สามารถ
ปฏิเสธได้ นั่นทำให้เขาต้องหันไปมองผู้ติดตามของเขาบ่อยครั้งขึ้นเมื่อต้องดื่มเข้าไปหลายอึก
ผู้ติดตามของเขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชา ชายหนุ่มอยู่ในชุดสากลที่ส่งรูปร่าง
ให้ดูสูงใหญ่และยืนอยู่เคียงข้างกับเขาตลอดเวลา ดวงตาคมกริบมองคู่บ่าวสาวในงานที่ยิ้มแย้ม
แจ่มใสทักทายแขกไปตามโต๊ะอย่างมีความสุข ไม่มีใครสังเกตเห็นที่มุมห้องซึ่งมีชายกลุ่มหนึ่ง
ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปืนในมือชายกลุ่มนั้นขึ้นลูกเลื่อนเสียงดังเข้าไปในโสตประสาทผู้ติดตามของ
ซุนเต๋อที่มองอยู่พอดี ชายหนุ่มทำสัญญาณให้ลูกน้องห้าคนเตรียมพร้อม สายตาทั้งสิบคู่จ้องเขม็ง
ที่ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น เขาแตะไหล่ซุนเต๋อก่อนจะพูดเบาๆอย่างอ่อนโยน
“ลุงเต๋อไปกันเถอะครับ”
ชายชราลุกขึ้นยืนเขาเดินตามแรงจูงไปอย่างเงียบๆ มีชายฉกรรจ์อีกห้าคนเดิน
ห้อมล้อมเขาไปอย่างแน่นหนา เสียงปืนที่ดังรัวอยู่ภายในงานดังแว่วออกมา แต่คนกลุ่มเล็กๆ
กลุ่มนี้ยังใจเย็นไม่มีท่าทางหวาดวิตก ในมือของพวกเขากำอาวุธคู่มือเตรียมพร้อมที่จะลั่นกระสุน
ใส่ทุกคนที่จะเข้ามาขวาง
“เจียง ไปบอกเรือให้เตรียมติดเครื่องไว้เลย”
“ครับ พี่ซัน”
ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ชื่อเจียงก้าวยาวๆไปทางกราบเรือซึ่งมีเรือเร็วลำเล็กจอดรออยู่
เจียงตะโกนลงไป เสียงเรือติดเครื่องดังสนั่น กลุ่มของชายชราลงเรือเล็กอย่างรวดเร็ว เรือยนต์
ลำเล็กแล่นฝ่าคลื่นเข้าฝั่งทิ้งงานแต่งงานที่จัดอย่างหรูหราบนเรือสำราญห่างออกไปทุกที
...........................................
“พี่ซัน”
ชายร่างใหญ่ที่ผลักประตูห้องทำงานเข้ามามีหน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่เงยหน้าจากกองเอกสารบนโต๊ะ เขารู้สึกขอบใจลูกน้อง
คนสนิทอยู่เหมือนกันที่มาขัดจังหวะ และฉุดเขาขึ้นมาจากกองเอกสารที่น่าเบื่อหน่าย ซึ่งกำลังสร้าง
ความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเขาอยู่พอดีนี้
“มีอะไรหรือ เจียง”
เขาถามเนือยๆ
“คุณมาร์คมาครับพี่ซัน กำลังจะมาถึงที่นี่แล้ว”
“ก็ดีสิ”
ชายหนุ่มเพิ่งจะลุกขึ้นยืน ประตูห้องก็เปิดผางเข้ามาด้วยแรงอารมณ์ของผู้มาใหม่
“ซันนี่ แกบังอาจยังไง ถึงมายุ่งกับงานของฉัน”
เสียงดุเหี้ยมเต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าค่อนข้างหล่อเหลาของเขาโกรธจน
น่ากลัว ชายหนุ่มยิ้มนิดๆอย่างใจเย็น
“ใจเย็นน่า มาร์ค คุณน่าจะเดาได้นี่ว่าทำไมผมต้องมายุ่งที่นี่”
“แล้วแกจะรายงานคุณลุงว่ายังไง”
มาร์คอึ้งไปก่อนที่จะขบกรามแน่น เขามองชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าอย่างเกลียดชัง
ก่อนกระชากเสียงถาม ชายหนุ่มยกไหล่เล็กน้อยด้วยท่าทางไม่แยแสในความเกลียดชังนั้น
“ผมก็ต้องรายงานตามความเป็นจริง”
“แกกล้าหรือ...”
มาร์คตวาดอย่างฉุนเฉียว
“ยังไงผมก็ปิดท่านไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเรื่องนี้ถึงหูท่านอย่างนี้ คุณคิดหรือว่าท่านจะ
ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง ท่านต้องการให้ผมรายงานผลเท่านั้น ถ้าจะให้ผมช่วยโกหกละก็........”
ชายหนุ่มหยุดไปนิดหนึ่ง เขามองใบหน้าที่มีความหวังเล็กน้อยของอีกฝ่าย ก่อน
จะยกไหล่อีกครั้ง
“ผมคงไม่ทำหรอก”
“ไอ้บ้าซัน แกตาย”
มาร์คตวาดลั่น เขาถลาเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างกริ้วโกรธ กำหมัดเงื้อง่าหมายมาดที่
ใบหน้าซึ่งสร้างความหมั่นไส้ให้กับเขามานานนั้น แต่ชายร่างใหญ่ที่อยู่ด้านข้างก็ก้าวเข้ามาขวาง
ไว้เสียก่อน กำหมัดของมาร์คอยู่ในอุ้งมือแข็งแกร่งของเจียง มาร์คกระชากมือออกจากการล๊อค
ของเจียงเต็มแรงจนร่างหนาของเขาเซถอยไปสองก้าว เขามองคนทั้งสองอย่างเคียดแค้น
“เจียง เก็บเอกสารพวกนี้ไปด้วย ฉันจะเอาไปอ่านที่บ้าน”
ชายหนุ่มสั่งเรียบๆ เจียงรับคำ
“ครับ พี่ซัน”
ชายหนุ่มเหลือบตามองมาร์คอย่างใจเย็น พูดอย่างเย็นชา
“ผมจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ก็แล้วกันนะ มาร์ค”
ชายหนุ่มหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู มองแม่บ้านที่จัดชุดน้ำชาให้ซุนเต๋อที่กำลังนั่งอ่าน
หนังสือพิมพ์อยู่
“อาซัน นั่งสิ”
“ครับ คุณลุง”
ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง เขารินน้ำชาให้ชายชราด้วยท่าทางอ่อนโยน
“อาซัน อ่านหนังสือพิมพ์หรือยัง นี่ไง”
ชายชราส่งหนังสือพิมพ์ให้เขา ชายหนุ่มรับหนังสือพิมพ์ไปก่อนจะวางลงบนโต๊ะ
เขาตักขนมใส่จานเล็กให้ชายชรา
“อ่านแล้วครับคุณลุง”
“ไอ้พวกเสี่ยเล็กถล่มงานแต่งจนเละ แกคิดว่ายังไงอาซัน”
“พวกมันหวังยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คิดจะทำร้ายลุงด้วย ผมรับรองว่ามัน
จะต้องเสียใจแน่ๆครับลุง”
ซุนเต๋อพยักหน้า
“ยังไงลุงก็วางมือแล้ว แกคิดจะสั่งสอนมันแค่ไหนก็ลองคิดดูนะ”
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ
“ครับลุง”
ซุนเต๋อมองเห็นความอ่อนโยนภายใต้ความเย็นชาของชายหนุ่ม ซันนี่เป็นเด็กที่
เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก พ่อของซันนี่เป็นลูกน้องเก่าที่เคยมีบุญคุณกับเขาอย่างมาก ลี่เหวินบิดาของ
ซันนี่สละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ โดยทิ้งเมียและลูกสามคนไว้ข้างหลัง เด็กชายที่มีใบหน้าเคร่งขรึม
เพราะต้องดูแลน้องเล็กอีกสองคนแทนแม่ที่ต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน ซุนเต๋อส่งเสียให้
ซันนี่และน้องของเขาได้ร่ำเรียนในโรงเรียนชั้นหนึ่ง ซันนี่มีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม เมื่อมีโอกาสเขา
เลือกเรียนเตรียมทหารและจบออกมาพร้อมกับยศร้อยตรี ซุนเต๋อส่งเขาไปเรียนต่อที่อเมริกาสี่ปี
เมื่อกลับมา ซันนี่ก็กลายมาเป็นผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายเขา ทำงานบริหารบริษัทให้กับเขาและยังเป็นผู้
คุ้มครองที่ดีเยี่ยม ฉลาด เต็มไปด้วยไหวพริบ แต่ค่อนข้างจะเอาจริงเอาจัง ลูกน้องทุกคนเชื่อฟัง
ซันนี่รองจากซุนเต๋อ ทุกคนรู้ดีว่าซุนเต๋อรักซันนี่ราวกับลูกของเขา อาจจะยิ่งกว่าลูกที่เอาแต่เสวย
สุขในต่างประเทศเสียด้วยซ้ำ ซันนี่วางถ้วยกาแฟ ขณะที่ซุนเต๋อยังละเลียดจิบชาของเขา
“ไอ้เจ้ามาร์คเป็นยังไงบ้าง อาซัน”
เขาถามถึงชายหนุ่มนิสัยเสีย ลูกของน้องชายร่วมสายเลือด หลานชายแท้ๆของเขา
“โมโหน่าดูเลยละครับ”
ซันนี่ตอบเรียบๆซ่อนแววขบขันไว้ลึกๆ
“ฉันรู้ว่าแกจัดการกับมันได้ มันถูกตามใจจนนิสัยเสียไปแล้ว จะสั่งสอนก็เป็น
ไม้แก่ที่ดัดยาก แกให้คนตามเฝ้ามันห่างๆ ถ้ามันทำเรื่องอีกที ลุงจะส่งมันไปไซบีเรียเลยคราวนี้
แล้วอย่าลืมเอาเอกสารที่มันโกงเงินบริษัทมาให้ลุงดูด้วยละ”
“ครับผม”
ซันนี่ลุกขึ้นยืน
“เอออาซัน เรื่องริคกี้ไปถึงไหนแล้วละ”
“ทนายหวังที่ไปพบเมื่อวานโดนเธอเอาไม้หวดออกจากบ้านแทบไม่ทันเลยครับ
ได้ยินว่าหัวแตกเย็บไปสามเข็มด้วยครับ”
ซุนเต๋อหัวเราะเบาๆ
“สมเป็นลูกสาวของเจคอบจริงๆ เออเจคอบเขาจะมาฮ่องกงนะเห็นบอกว่าจะมา
เอาตัวริคกี้ไปเรียนหนังสือที่อเมริกาด้วย ถ้าริคกี้ไม่ยอมลงเอยกับมาร์คก็คงต้องตามเจคอบไป”
ซันนี่ถอนหายใจเบาๆ
“คุณเอริก้าเป็นคนหัวแข็งที่สุด เธอจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับมาร์คเพื่อหนีหน้า
คุณเจคอบแน่ครับลุง อีกอย่าง มาร์คก็กำลังคั่วอยู่กับนักร้องคนหนึ่งอยู่ เขาไม่ได้สนใจเด็กอย่างคุณ
เอริก้าแน่”
“แล้วแกละเห็นว่าริคกี้เขาเด็กหรือเปล่า”
ซุนเต๋อย้อนถาม ซันนี่อึ้งไปเล็กน้อย เขาเกือบถอนหายใจโล่งอกเมื่อเจียงเดินเข้ามา
ขัดจังหวะพอดี
“ ลุงเต๋อ พี่ซันครับ มีโทรศัพท์จากเจ้าเซี่ยถึงพี่ครับ”
เจียงรายงานหลังจากที่ทักทายซุนเต๋อแล้ว
“ผมขอตัวก่อนนะครับลุง”
ซุนเต๋อพยักหน้าน้อยๆเขามองซันนี่ที่รับมือถือจากเจียงไปพูด สองหนุ่มเดินเคียง
กันออกจากห้องไป
“มีอะไร เซี่ย”
ซันนี่ถามเสียงขรึม
“พี่ซันครับ คุณมาร์คไปมีเรื่องกับลูกชายคุณโจวครับ ตอนนี้อยู่ที่โรงพัก”
“ติดต่อทนายหวังให้ส่งคนไปประกันตัวออกมาสิ แล้วเตรียมพาส่งโรงพยาบาลด้วย”
“ที่ไหนได้ละครับพี่ซัน คุณมาร์คเอาเก้าอี้ฟาดไอ้หมอนั่นสลบเหมือดไปเลย”
“ตายห่ะ”
ซันนี่อุทานอย่างตกใจปนโมโห
“แล้วฝ่ายโน้นเป็นยังไงบ้าง”
“นอนอยู่โรงพยาบาลครับ คุณโจวโกรธมากเลย”
“อย่าให้ลุงเต๋อรู้เรื่องนี้ คอยสังเกตุการณ์ว่าคุณโจวจะทำอะไรบ้าง ให้โทรมาบอก
ทุกระยะด้วย”
“ครับพี่ซัน”
ซันนี่นิ่วหน้าเล็กน้อย เขาหันมาทางเจียงที่ยืนสงบอยู่ข้างๆ
“เจียง แจ๊คติดต่อมาบ้างหรือเปล่า”
“ไม่ครับพี่ซัน”
“งั้นฉันจะไปดูให้รู้แน่”
“แต่.....”
เจียงทำท่าจะค้านแต่ซันนี่โบกมือเดินไปที่รถโดยไม่ฟังเสียงค้าน เจียงถอนหายใจ
ยาวเดินตามชายหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว ซันนี่จอดรถริมถนนเขามองขึ้นไปยังห้องพักเด็กสาวด้วย
ใบหน้าเฉยเมย แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างที่เจียงไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
“คุณเอริก้ายังไม่กลับหรอกครับพี่ซัน”
“งั้นหรือ เขาไปไหนละ นายรู้อยู่แล้วทำไมไม่บอกฉันละเจียง”
“ผมจะบอกพี่อยู่แล้วแต่พี่ไม่ฟังนี่ครับ”
เจียงพูดยิ้มๆ ความจริงเขาเป็นคนขรึมยิ่งกว่าซันนี่เสียอีก แต่ท่าทางเหมือนหนุ่มน้อย
ที่ริจะมีความรักของซันนี่ทำให้เขาอดขำไม่ได้จริงๆ เสียงมือถือดังกังวานเจียงรับโทรศัพท์สักครู่
ก็ส่งให้ชายหนุ่ม ซึ่งพูดสั้นๆ
“ดีแล้ว ขอบใจนะ”
ซันนี่ส่งโทรศัพท์คืนให้เจียง เขาพูดสั้นๆ
“ไปที่หอฟ้าหอม เจียง คุณโจวไปที่นั่น ลูกสาวเขาจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่นั่น”
“ครับพี่ซัน”
..........................................
ความคิดเห็น