ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Moon shadow love theme ( บทเพลงแห่งรัก)

    ลำดับตอนที่ #1 : ผู้คุ้มกัน

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 52





    ปฐมบท.....ซันนี่ - เอริก้า

    รอยยิ้มที่สดใสของเธอหวานราวน้ำผึ้ง  คล้ายดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ


    รอยยิ้มที่สนิทสนมแสนคุ้นเคยเช่นนี้ของเธอ  ฉันเห็นได้ชัดเจนอยู่ในความฝันของฉัน........ 

                                                                    ............................
                             งานแต่งงานของลูกชายเจ้าสัวใหญ่ในวันนี้ครึกครื้นด้วยเสียงเพลงและเสียงพูดคุย

    สรวลเสเฮฮา  แต่แม้งานจะสนุกสนานครึกครื้นเพียงใด  ชายในวัยชราอย่างซุนเต๋อกลับรู้สึกไม่

    ค่อยจะสนุกสนานกับมันเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว เหล้าในแก้วของเขาก็แทบจะไม่พร่องเพราะ

    เขาเพียงจิบเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อมีคนมาขอชนแก้วด้วย  ในฐานะอดีตเจ้าพ่อ ทำให้เขาไม่สามารถ

    ปฏิเสธได้   นั่นทำให้เขาต้องหันไปมองผู้ติดตามของเขาบ่อยครั้งขึ้นเมื่อต้องดื่มเข้าไปหลายอึก
     
    ผู้ติดตามของเขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชา ชายหนุ่มอยู่ในชุดสากลที่ส่งรูปร่าง

    ให้ดูสูงใหญ่และยืนอยู่เคียงข้างกับเขาตลอดเวลา  ดวงตาคมกริบมองคู่บ่าวสาวในงานที่ยิ้มแย้ม

    แจ่มใสทักทายแขกไปตามโต๊ะอย่างมีความสุข ไม่มีใครสังเกตเห็นที่มุมห้องซึ่งมีชายกลุ่มหนึ่ง

    ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปืนในมือชายกลุ่มนั้นขึ้นลูกเลื่อนเสียงดังเข้าไปในโสตประสาทผู้ติดตามของ

    ซุนเต๋อที่มองอยู่พอดี   ชายหนุ่มทำสัญญาณให้ลูกน้องห้าคนเตรียมพร้อม สายตาทั้งสิบคู่จ้องเขม็ง

    ที่ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น  เขาแตะไหล่ซุนเต๋อก่อนจะพูดเบาๆอย่างอ่อนโยน  

                             ลุงเต๋อไปกันเถอะครับ   

                             ชายชราลุกขึ้นยืนเขาเดินตามแรงจูงไปอย่างเงียบๆ   มีชายฉกรรจ์อีกห้าคนเดิน

    ห้อมล้อมเขาไปอย่างแน่นหนา  เสียงปืนที่ดังรัวอยู่ภายในงานดังแว่วออกมา   แต่คนกลุ่มเล็กๆ

    กลุ่มนี้ยังใจเย็นไม่มีท่าทางหวาดวิตก  ในมือของพวกเขากำอาวุธคู่มือเตรียมพร้อมที่จะลั่นกระสุน

    ใส่ทุกคนที่จะเข้ามาขวาง   

                     “
    เจียง ไปบอกเรือให้เตรียมติดเครื่องไว้เลย  

                     “
    ครับ พี่ซัน 

                             ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ชื่อเจียงก้าวยาวๆไปทางกราบเรือซึ่งมีเรือเร็วลำเล็กจอดรออยู่ 

     
    เจียงตะโกนลงไป เสียงเรือติดเครื่องดังสนั่น กลุ่มของชายชราลงเรือเล็กอย่างรวดเร็ว เรือยนต์

    ลำเล็กแล่นฝ่าคลื่นเข้าฝั่งทิ้งงานแต่งงานที่จัดอย่างหรูหราบนเรือสำราญห่างออกไปทุกที

    ...........................................

                     “พี่ซัน 

                             ชายร่างใหญ่ที่ผลักประตูห้องทำงานเข้ามามีหน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด  

    ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่เงยหน้าจากกองเอกสารบนโต๊ะ  เขารู้สึกขอบใจลูกน้อง

    คนสนิทอยู่เหมือนกันที่มาขัดจังหวะ  และฉุดเขาขึ้นมาจากกองเอกสารที่น่าเบื่อหน่าย ซึ่งกำลังสร้าง

    ความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเขาอยู่พอดีนี้ 
     

                     “
    มีอะไรหรือ เจียง 

                             เขาถามเนือยๆ 

                     “
    คุณมาร์คมาครับพี่ซัน กำลังจะมาถึงที่นี่แล้ว 

                     “
    ก็ดีสิ 

                             ชายหนุ่มเพิ่งจะลุกขึ้นยืน ประตูห้องก็เปิดผางเข้ามาด้วยแรงอารมณ์ของผู้มาใหม่ 

                     “
    ซันนี่ แกบังอาจยังไง ถึงมายุ่งกับงานของฉัน  

                             เสียงดุเหี้ยมเต็มไปด้วยความโกรธ   ใบหน้าค่อนข้างหล่อเหลาของเขาโกรธจน

    น่ากลัว  ชายหนุ่มยิ้มนิดๆอย่างใจเย็น  

                     “
    ใจเย็นน่า มาร์ค  คุณน่าจะเดาได้นี่ว่าทำไมผมต้องมายุ่งที่นี่   

                     “
    แล้วแกจะรายงานคุณลุงว่ายังไง  

                             มาร์คอึ้งไปก่อนที่จะขบกรามแน่น   เขามองชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าอย่างเกลียดชัง 

    ก่อนกระชากเสียงถาม ชายหนุ่มยกไหล่เล็กน้อยด้วยท่าทางไม่แยแสในความเกลียดชังนั้น  

                     “
    ผมก็ต้องรายงานตามความเป็นจริง  

                     “
    แกกล้าหรือ... 

                             มาร์คตวาดอย่างฉุนเฉียว 

                     “
    ยังไงผมก็ปิดท่านไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเรื่องนี้ถึงหูท่านอย่างนี้   คุณคิดหรือว่าท่านจะ

    ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง
    ท่านต้องการให้ผมรายงานผลเท่านั้น ถ้าจะให้ผมช่วยโกหกละก็........

                              ชายหนุ่มหยุดไปนิดหนึ่ง  เขามองใบหน้าที่มีความหวังเล็กน้อยของอีกฝ่าย ก่อน

    จะยกไหล่อีกครั้ง 

                     “
    ผมคงไม่ทำหรอก  

                     “
    ไอ้บ้าซัน  แกตาย 

                             มาร์คตวาดลั่น เขาถลาเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างกริ้วโกรธ กำหมัดเงื้อง่าหมายมาดที่

    ใบหน้าซึ่งสร้างความหมั่นไส้ให้กับเขามานานนั้น   แต่ชายร่างใหญ่ที่อยู่ด้านข้างก็ก้าวเข้ามาขวาง

    ไว้เสียก่อน  กำหมัดของมาร์คอยู่ในอุ้งมือแข็งแกร่งของเจียง มาร์คกระชากมือออกจากการล๊อค

    ของเจียงเต็มแรงจนร่างหนาของเขาเซถอยไปสองก้าว เขามองคนทั้งสองอย่างเคียดแค้น 
      

                     “
    เจียง เก็บเอกสารพวกนี้ไปด้วย ฉันจะเอาไปอ่านที่บ้าน  

                             ชายหนุ่มสั่งเรียบๆ เจียงรับคำ

                    “
    ครับ พี่ซัน  

                             ชายหนุ่มเหลือบตามองมาร์คอย่างใจเย็น พูดอย่างเย็นชา 

                     “
    ผมจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ก็แล้วกันนะ มาร์ค


                             ชายหนุ่มหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู มองแม่บ้านที่จัดชุดน้ำชาให้ซุนเต๋อที่กำลังนั่งอ่าน

    หนังสือพิมพ์อยู่    

                             อาซัน นั่งสิ   

                     “
    ครับ คุณลุง  

                             ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง เขารินน้ำชาให้ชายชราด้วยท่าทางอ่อนโยน 

                     “
    อาซัน อ่านหนังสือพิมพ์หรือยัง นี่ไง” 
                             
                             ชายชราส่งหนังสือพิมพ์ให้เขา  ชายหนุ่มรับหนังสือพิมพ์ไปก่อนจะวางลงบนโต๊ะ  

    เขาตักขนมใส่จานเล็กให้ชายชรา 

                     “
    อ่านแล้วครับคุณลุง 

                    “ไอ้พวกเสี่ยเล็กถล่มงานแต่งจนเละ แกคิดว่ายังไงอาซัน  

                     “
    พวกมันหวังยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คิดจะทำร้ายลุงด้วย ผมรับรองว่ามัน

    จะต้องเสียใจแน่ๆครับลุง
     

                             ซุนเต๋อพยักหน้า  

                     “
    ยังไงลุงก็วางมือแล้ว แกคิดจะสั่งสอนมันแค่ไหนก็ลองคิดดูนะ  

                             ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ 

                     “
    ครับลุง


                             ซุนเต๋อมองเห็นความอ่อนโยนภายใต้ความเย็นชาของชายหนุ่ม ซันนี่เป็นเด็กที่

    เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก พ่อของซันนี่เป็นลูกน้องเก่าที่เคยมีบุญคุณกับเขาอย่างมาก ลี่เหวินบิดาของ

    ซันนี่สละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ โดยทิ้งเมียและลูกสามคนไว้ข้างหลัง เด็กชายที่มีใบหน้าเคร่งขรึม

    เพราะต้องดูแลน้องเล็กอีกสองคนแทนแม่ที่ต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน ซุนเต๋อส่งเสียให้

    ซันนี่และน้องของเขาได้ร่ำเรียนในโรงเรียนชั้นหนึ่ง ซันนี่มีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม  เมื่อมีโอกาสเขา

    เลือกเรียนเตรียมทหารและจบออกมาพร้อมกับยศร้อยตรี ซุนเต๋อส่งเขาไปเรียนต่อที่อเมริกาสี่ปี 

    เมื่อกลับมา ซันนี่ก็กลายมาเป็นผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายเขา ทำงานบริหารบริษัทให้กับเขาและยังเป็นผู้

    คุ้มครองที่ดีเยี่ยม ฉลาด เต็มไปด้วยไหวพริบ แต่ค่อนข้างจะเอาจริงเอาจัง  ลูกน้องทุกคนเชื่อฟัง

    ซันนี่รองจากซุนเต๋อ ทุกคนรู้ดีว่าซุนเต๋อรักซันนี่ราวกับลูกของเขา อาจจะยิ่งกว่าลูกที่เอาแต่เสวย

    สุขในต่างประเทศเสียด้วยซ้ำ
    ซันนี่วางถ้วยกาแฟ  ขณะที่ซุนเต๋อยังละเลียดจิบชาของเขา 

                     “
    ไอ้เจ้ามาร์คเป็นยังไงบ้าง อาซัน  

                             เขาถามถึงชายหนุ่มนิสัยเสีย ลูกของน้องชายร่วมสายเลือด หลานชายแท้ๆของเขา
     
                     “โมโหน่าดูเลยละครับ  

                              ซันนี่ตอบเรียบๆซ่อนแววขบขันไว้ลึกๆ  

                     “
    ฉันรู้ว่าแกจัดการกับมันได้ มันถูกตามใจจนนิสัยเสียไปแล้ว จะสั่งสอนก็เป็น

    ไม้แก่ที่ดัดยาก แกให้คนตามเฝ้ามันห่างๆ  ถ้ามันทำเรื่องอีกที  ลุงจะส่งมันไปไซบีเรียเลยคราวนี้ 

    แล้วอย่าลืมเอาเอกสารที่มันโกงเงินบริษัทมาให้ลุงดูด้วยละ
      

                     “
    ครับผม  

                             ซันนี่ลุกขึ้นยืน  

                     “
    เอออาซัน เรื่องริคกี้ไปถึงไหนแล้วละ”  

                     “
    ทนายหวังที่ไปพบเมื่อวานโดนเธอเอาไม้หวดออกจากบ้านแทบไม่ทันเลยครับ 

    ได้ยินว่าหัวแตกเย็บไปสามเข็มด้วยครับ
      

                             ซุนเต๋อหัวเราะเบาๆ  

                     “
    สมเป็นลูกสาวของเจคอบจริงๆ   เออเจคอบเขาจะมาฮ่องกงนะเห็นบอกว่าจะมา

    เอาตัวริคกี้ไปเรียนหนังสือที่อเมริกาด้วย ถ้าริคกี้ไม่ยอมลงเอยกับมาร์คก็คงต้องตามเจคอบไป
       

                             ซันนี่ถอนหายใจเบาๆ  

                     “
    คุณเอริก้าเป็นคนหัวแข็งที่สุด เธอจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับมาร์คเพื่อหนีหน้า

    คุณเจคอบแน่ครับลุง อีกอย่าง มาร์คก็กำลังคั่วอยู่กับนักร้องคนหนึ่งอยู่ เขาไม่ได้สนใจเด็กอย่างคุณ

    เอริก้าแน่
      

                      “
    แล้วแกละเห็นว่าริคกี้เขาเด็กหรือเปล่า   

                             ซุนเต๋อย้อนถาม ซันนี่อึ้งไปเล็กน้อย เขาเกือบถอนหายใจโล่งอกเมื่อเจียงเดินเข้ามา

    ขัดจังหวะพอดี  

                     “
    ลุงเต๋อ  พี่ซันครับ มีโทรศัพท์จากเจ้าเซี่ยถึงพี่ครับ  

                             เจียงรายงานหลังจากที่ทักทายซุนเต๋อแล้ว  

                     “
    ผมขอตัวก่อนนะครับลุง   

                             ซุนเต๋อพยักหน้าน้อยๆเขามองซันนี่ที่รับมือถือจากเจียงไปพูด สองหนุ่มเดินเคียง

    กันออกจากห้องไป


                     “
    มีอะไร เซี่ย  

                             ซันนี่ถามเสียงขรึม  

                     “
    พี่ซันครับ คุณมาร์คไปมีเรื่องกับลูกชายคุณโจวครับ ตอนนี้อยู่ที่โรงพัก  

                     “
    ติดต่อทนายหวังให้ส่งคนไปประกันตัวออกมาสิ  แล้วเตรียมพาส่งโรงพยาบาลด้วย  

                     “
    ที่ไหนได้ละครับพี่ซัน คุณมาร์คเอาเก้าอี้ฟาดไอ้หมอนั่นสลบเหมือดไปเลย  

                     “
    ตายห่ะ  

                             ซันนี่อุทานอย่างตกใจปนโมโห 

                     “
    แล้วฝ่ายโน้นเป็นยังไงบ้าง 

                     “
    นอนอยู่โรงพยาบาลครับ คุณโจวโกรธมากเลย   

                     “
    อย่าให้ลุงเต๋อรู้เรื่องนี้ คอยสังเกตุการณ์ว่าคุณโจวจะทำอะไรบ้าง  ให้โทรมาบอก

    ทุกระยะด้วย
       

                     “
    ครับพี่ซัน  

                             ซันนี่นิ่วหน้าเล็กน้อย เขาหันมาทางเจียงที่ยืนสงบอยู่ข้างๆ  

                     “
    เจียง แจ๊คติดต่อมาบ้างหรือเปล่า  

                     “
    ไม่ครับพี่ซัน  

                     “
    งั้นฉันจะไปดูให้รู้แน่  

                     “
    แต่.....  

                             เจียงทำท่าจะค้านแต่ซันนี่โบกมือเดินไปที่รถโดยไม่ฟังเสียงค้าน  เจียงถอนหายใจ

    ยาวเดินตามชายหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว  ซันนี่จอดรถริมถนนเขามองขึ้นไปยังห้องพักเด็กสาวด้วย

    ใบหน้าเฉยเมย แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างที่เจียงไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก 

                     “
    คุณเอริก้ายังไม่กลับหรอกครับพี่ซัน   

                     “
    งั้นหรือ เขาไปไหนละ นายรู้อยู่แล้วทำไมไม่บอกฉันละเจียง  

                     “
    ผมจะบอกพี่อยู่แล้วแต่พี่ไม่ฟังนี่ครับ   

                             เจียงพูดยิ้มๆ ความจริงเขาเป็นคนขรึมยิ่งกว่าซันนี่เสียอีก แต่ท่าทางเหมือนหนุ่มน้อย

    ที่ริจะมีความรักของซันนี่ทำให้เขาอดขำไม่ได้จริงๆ เสียงมือถือดังกังวานเจียงรับโทรศัพท์สักครู่

    ก็ส่งให้ชายหนุ่ม ซึ่งพูดสั้นๆ 

                     “
    ดีแล้ว ขอบใจนะ  

                             ซันนี่ส่งโทรศัพท์คืนให้เจียง เขาพูดสั้นๆ  

                     “
    ไปที่หอฟ้าหอม เจียง คุณโจวไปที่นั่น ลูกสาวเขาจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่นั่น 
     
                              
    ครับพี่ซัน          

    ..........................................


                    
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×