ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS X YOU]​ Different Love

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 64


    วันที่อากาศค่อนข้างร้อนจัดที่แทบจะเผาไหม้ทุกอย่างให้หลอมละลาย จีมินได้พาเดซี่ไปเที่ยวเล่นที่ห้างสรรพสินค้า แน่นอนว่าการเดินภายในสถานที่ท่ี่มีเครื่องปรับอากาศล้อมรอบนั้นทำให้คนตัวเล็กมีความสุขมากกว่าการได้ออกไปเดินตากแดดตากลมที่สวนสาธารณะอยู่แล้ว 

     

    เนื่องจากเดินดูข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่หญิงสาวต้องการจนครบแล้ว เขาจึงเลือกพาเธอมานั่งพักอยู่ที่บริเวณลานกว้างที่ทางห้างได้จัดไว้สำหรับผ่อนคลาย วันนี้คนไม่เยอะมากนักอาจเพราะเป็นวันทำงานและนี่ก็ไม่ใช่เวลาพักอีกด้วยเลยทำให้บรรยากาศภายในห้างแห่งนี้ค่อยข้างสงบ มีเพียงเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเท่านั้น

     

    “พี่จีิมินวันพรุ่งนี้เดซี่ก็จะเรียนจบแล้วนะ”

    “หืมม ที่บอกให้พี่พาไปสมัครเมื่อสามเดือนที่แล้วน่ะหรอ”

    “ช่ายยยย เก่งมั้ยล่ะๆ”

    “เก่งครับ แล้วนี่กะว่าจะเปิดโรงเรียนสอนเลยมั้ย”

    “หนูจะไปหาเงินที่ไหนมาลงทุนเล่า”

     

    จีมินมองใบหน้าของเดซี่ที่กำลังพองลมอยู่ในแก้มแล้วเอื้อมมือไปบีบจมูกเล็กเบาๆจนคนตรงหน้านั้นย่นคิ้วต่อต้านเขา เสียงฮึดฮัดไม่พอใจสวนทางกับเสียงหัวเราะของจีมิน เดซี่เอียงคอมองผู้ชายตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะขยับไปซบเบาๆที่ไหล่ของเขา เจ้าของไหล่นั้นมีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เธอทำแบบนั้น

     

    “ทำไมครับ?" เขาก้มลงไปสอบถามอาการ
    “ใจหายเหมือนกันนะ เรียนจบมาแล้วก็ไม่รู้จะเอาเงินตรงไหนไปลงทุนให้เกิดธุรกิจได้เลย”

    “ชอบมากเลยใช่มั้ยล่ะ”

    “ชอบสิ พี่ก็รู้นี่นาว่าเดซี่น่ะชอบเรื่องวาดรูปอยู่แล้ว แล้วก็จะมีความสุขมากๆเวลาที่ได้สอนให้คนอื่นๆได้เรียนรู้ถึงความสวยงามของมัน"

    “งั้นเอางี้….พี่มีเงินเก็บอยู่ส่วนนึง เดี๋ยวจะลงทุนให้เราก่อน พอกิจการไปได้สวยเราก็ค่อยเอาเงินมาคืนพี่”

    “พี่จะบ้าหรอ เงินมันไม่ใช่ร้อยสองร้อยนะ เกิดมันเจ๊งขึ้นมา หนูจะหาตรงไหนมาคืนล่ะ” เดซี่ยกหัวขึ้นมาจากไหล่ของเขาพร้อมกับเถียงจนคอแข็ง

    “แต่พี่อยากให้นี่ รับไว้ไม่ได้หรอ พี่อยากสนับสนุนเดซี่ให้เราได้เริ่มต้นทำงาน”

    “ทำไมพี่ถึงกล้าเอาเงินตัวเองมาเสี่ยงกับหนู”

    “เพราะพี่ว่าพี่มั่นใจแล้วว่าเดซี่คือคนที่จะไม่ทำให้เงินก้อนนั้นของพี่สูญเปล่า รับเอาไว้เถอะนะ”

    “พี่จีมิน….ขอบคุณนะคะแต่เดซี่คิดเอาไว้อีกอย่างแล้ว”

    “คิดอะไรไว้หรอ?”

    “หนูคิดเผื่อแล้วว่าถ้าเปิดโรงเรียนสอนศิลปะไม่ได้ ก็จะไปสมัครเป็นติวเตอร์ตามที่เรียนพิเศษแล้วไม่มีใครรับ หนูจะสอนแบบออนไลน์หรือโพสต์ลงโซเชียลเพื่อหานักเรียนเอา”

    “แบบนั้นมันจะเวิร์คหรอครับ?”

    “ต้องเวิร์คสิ! ไม่มีอะไรมาหยุดเดซี่คนนี้ได้หรอกนะ”

    “โอเคคครับ แต่ถ้ามีปัญหาอะไรบอกพี่ได้ตลอดเลยนะ"

    "อื้อ!!!”

    "แล้วอยากไปไหนต่อมั้ย?”

    “ไปคอนโดพี่”

    “ไปทำไมครับ?”

    “Netflix and Chill” 

     

    ไม่เพียงแค่พูด เดซี่ขยับลงมาประทับริมฝีปากสวยลงบนอวัยวะส่วนเดียวกันกับของจีมิน ด้วยความซุกซนของเธอทำให้เขาคว้าร่างเล็กมาไว้ในอ้อมกอดไม่ทัน ยัยตัวแสบก็วิ่งหนีไปจากบริเวณลานกว้างเสียแล้ว ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเหลือเชื่อ แล้วเดินตามหญิงสาวที่เดินเร่งเท้านำไปที่ลานจอดรถก่อนแล้ว

     

     

    ตัดมาที่สวนสาธารณะ คงไม่มีใครมานั่งตากแดดให้ตัวเองผิวไหม้แถมเสี่ยงมะเร็งหรอกจริงไหม หากแต่สิ่งนี้ใช้ไม่ได้เลยกับผู้หญิงที่ชื่อว่า เซเชลล์ เสื้อฮู้ดสีดำคู่ใจถูกสวมทับร่างเล็กที่มีกางเกงขายาวช่วยบังแดดอยู่อีกชิ้น 

     

    ตอนนี้เวลากำลังย่างเข้าบ่ายสามของวัน แต่ไม่มีท่าทีว่ารังสีจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมานั้นจะมอดลงไป ปากเล็กขมุบขมิบตามเพลงที่ฟังอยู่ในหู ศีรษะโยกไหวเล็กน้อยตามจังหวะดนตรีของเพลง ดวงตาเรียวมองไปรอบๆธรรมชาติ 

     

    ‘ก็คุณพ่ออยากให้พี่เซลกับพี่เจโน่แต่งงานกันนี่ครับ’

     

    “หึ….แต่งงาน”

     

    ในชีวิตของเซเชลล์นั้นตั้งแต่เกิดมาจวนจะอายุ20ปี ไม่เคยได้รับการตามใจจากคนเป็นพ่อเลยสักครั้ง ส่วนมารดานั้นตั้งแต่ชีวิตเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นคุณหญิงคุณนายก็ไม่มีเวลามาใส่ใจลูกคนไหนๆเลย โชคดีของจีซองก็ตรงที่น้องเกิดมาก็เป็นผู้ชายและแน่นอนว่าพ่อของเธอมักจะใส่ใจลูกชายเป็นพิเศษ ถึงขั้นวางตำแหน่งประธานบริษัทคนต่อไปเอาให้อีกด้วย ส่วนลูกสาวแบบเธอแน่นอนล่ะว่าต้องไปดองกับครอบครัวลีของเจโน่ 

     

    “ถ้าเลือกได้ฉันก็คงไม่อยากเกิดมา แล้วเดินตามแผนของคนเป็นพ่อเป็นแม่หรอก”

     

    แค่เกิดมาไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่สมควรนั่นก็แย่มากพอแล้ว ในความรู้สึกลึกๆของเซเชลล์ ในหัวของเด็กสาวนั้นคิดเพียงแค่ว่า ถ้าจะไม่สนใจกันก็ไม่ต้องมายุ่งกันไปเลยสิ จู่ๆมาบังคับให้แต่งงานกับคนนู้นคนนี้ได้ตามใจ มันยุคไหนกันแล้วนะ

     

    “ไม่สนใจ ไม่ยอมรับ แล้วยังจะไม่ให้ออกความเห็นในเรื่องที่เป็นเรื่องของตัวเราเองอีก ประสาท!”

     

    มือเล็กคว้าบุหรี่ขึ้นมาจากซองที่เหน็บไว้ข้างลำตัว ก่อนจะจุดไฟที่ปลายมวน ไม่นานนักสิ่งๆนั้นก็ถูกแทนที่บนริมฝีปากของเซเชลล์ ลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้าสวยจนผ่อนคลาย นิโคตินที่มุ่งสู่ปอดถูกพ่นออกมาเป็นควันสีหม่นสู้กับอากาศดีๆตรงหน้า เธอใช้เวลาผ่อนคลายได้ไม่นาน บุหรี่มวนนั้นก็หมดลง เซเชลล์บี้มันลงกับพื้นจนมอดแล้วหยิบขึ้นมาโยนทิ้งใส่ถังขยะข้างๆตัว กายบางกระโดดลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งไปยังแดนซ์คลับที่นัดหมายเอาไว้ในทุกๆสัปดาห์ 

     

     

     

    “อ้าว น้องเซเชลล์ทำไมหอบขนาดนี้คะ?” โฮซอกทักทายคนที่เปิดประตูคลับด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ

    “วิ่งมา พอดีนั่งเล่นเพลินไปหน่อย”

    “อาา…ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวพี่จะได้เตรียมน้ำดื่มให้”

     

    เซเชลล์ไม่ได้ขานตอบเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ เธอรู้ว่าโฮซอกได้กลิ่นบุหรี่ที่ติดตัวเธออยู่เพียงแค่ไม่ได้พูดออกมา

     

    โฮซอกมองตามร่างเล็กที่เดินไปยังห้องเตรียมตัวได้ไม่นาน ก็ไปเตรียมน้ำดื่มให้กับลูกศิษย์คนนี้อย่างที่พูดไว้แล้วเข้าไปรอที่ห้องสอน หลังจากวันนั้นที่เขาเจอภาพเด็กสาวยืนสูบบุหรี่อยู่หลังตึก แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพียงแต่ตกใจเล็กน้อยที่ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ

     

    “หนูพร้อมเต้นเลยมั้ย?”

    “เต้น?”

    “ก็ที่พี่บอกว่าหนูต้องไปลองเต้นมาด้วยเพลงที่ให้สอนแล้ววันนี้มาเต้นถึงเท่าที่ได้ก่อน ถึงจะไปท่าใหม่ค่ะ”

    “โอเค งั้นเริ่มเลยก็ได้ เสียเวลามาเยอะแล้ว”

    “ค่ะ” ชายหนุ่มยิ้มรับแล้วกดเพลงเดิมที่เคยสอนเด็กสาวไว้

     

    เขานับจังหวะ จับจ้องทุกท่วงท่าที่เซเชลล์ขยับร่างกาย มีบ้างที่เจ้าตัวเองก็แอบเต้นผิดจังหวะแต่ตีหน้านิ่งไม่สนใจ โฮซอกนึกขำอยู่ลึกๆแต่ก็ไม่ได้เอ่ยดุออกไปเพื่อหวังดูพัฒนาการของเด็กที่สอนว่าไปถึงขั้นไหน รู้สึกตัวอีกทีโฮซอกก็เดินเข้าไปประกบหลังเพื่อจับจังหวะช่วยเซเชลล์ที่กำลังใช้ท่าผิด ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้

    "หนูต้องทำแบบนี้ค่ะมันถึงจะถูกตามแบบที่พี่สอน"

    “แบบนี้มัน...ก..ใกล้เกินไปหรือเปล่าคะ?” 

    “หนูอึดอัดหรอ พี่ขอโทษค่ะ”


    เมื่อนึกขึ้นได้และเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของหญิงสาวจึงทำให้โฮซอกรู้สึกตัว เขาผละมือที่กำลังกุมมือทั้งสองข้างของเซเชลล์ออก และถอยหลังออกมาโค้งศีรษะให้กับเธอ เซเชลล์พยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อยเป็นการตอบรับว่า เธอโอเคแล้ว 

     

    “คือ..เดี๋ยววันนี้เราจะมาต่อในช่วงเบรคแดนซ์นะคะ เพราะตอนนี้น้องเซเชลล์เต้นได้เกือบคล่องแล้ว”

    “ค่ะ ระหว่างที่เราซ้อมเบครแดนซ์ หนูขอเต้นทั้งเพลงทุกรอบเลยได้มั้ย?”

    “ได้สิ จะได้เป็นการทวนท่าด้วย”

    “ค่ะ”

    “เริ่มตรงนี้นะ นับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ห……”

     

    โฮซอกเริ่มขยับร่างกายตามจังหวะที่ได้เปิดดูมาแล้วออกท่าทางให้แก่นักเรียนคนเก่งได้ดู ในช่วงเบรคแดนซ์ที่มีในเพลงใช้เวลาเกือบนาที แน่นอนว่า ช่วงที่เน้นการเต้นเดี่ยวๆมักจะไม่มีจังหวะไหนให้หยุดพักได้เลย แต่ด้วยประสบการณ์ที่เขาเคยผ่านมาทำให้เขาสามารถแบ่งพาร์ทในการจับจังหวะให้กับเซเชลล์ได้ถึง3พาร์ทด้วยกัน หลังจากลองเต้นพาร์ทแรกจบ เซเชลล์จึงขอลองทวนทั้งเพลงใหม่หนึ่งรอบ เขาเองก็ยินดี

     

    หลังจากที่ทวนท่าไปจนครบสามครั้งแล้ว ไม่มีครั้งไหนเลยที่เซเชลล์จะพลาดจนเกือบบาดเจ็บเหมือนตอนแรก โฮซอกปรบมือให้กับเด็กนักเรียนคนใหม่ของเขาท่พึ่งมาเรียนได้แค่สองวันก็สามารถจบเพลงยากๆหนึ่งเพลงได้แล้ว และตอนนี้เวลาก็จวนจะครบตามตารางในคอร์สแล้ว

     

    “เก่งมากเลยนะคะเรา เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาทวนใหม่กันอีกรอบ ก่อนกลับเดี๋ยวเรามาเลือกเพลงกันก่อนดีกว่าว่ารอบต่อไปจะใช้เพลงอะไร”

    “เลือกเอาไว้แล้ว”

    “เลือกแล้วหรอคะ?” โฮซอกตาโตเล็กน้อย แต่ก็นั่งมองเพลงที่ปรากฏณ์บนหน้าจอโทรศัพท์

     

    เขาพยักหน้าทำความคุ้นเคยกับจังหวะเพลงซักพัก หน้าจอนั้นก็มีการเรียกเข้าจากใครสักคน เซเชลล์รีบดึงมันออกจากระดับสายตาของเขาแล้วรีบเดินออกไปรับโทรศัพท์นอกห้อง

     

    โฮซอกไหวไหล่เบาๆก่อนจะลุกขึ้นเก็บลำโพงแล้วดูแลความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องสอน ไม่นานเซเชลล์ก็เดินเข้ามา 

     

    “ขอโทษทีค่ะ”

    “ไม่เป็นไร รีบกลับหรอคะ?”

    “ประมาณนั้นค่ะ ถ้าไม่มีอะไร ขอตัวเลยแล้วกันนะคะ”

    “ค่ะ เอ้อจริงสิ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าที่เต้นเพลงนี้ พี่ขอถ่ายวิดีโอได้มั้ยคะ?”

    “วิดีโอ?”

    “อ๋อ เอาไว้ลงเพจของทางคลับน่ะค่ะ ที่ใช้โปรโมท แต่ถ้าน้องเซเชลลืไม่สะดวกไม่เป็นไรนะ”

    “ค่ะ หนูไม่สะดวก ขอโทษด้วยนะคะ”

    “ไม่เป็นไรๆๆ รีบกลับบ้านเถอะค่ะ พุธหน้าเจอกันใหม่นะคะ”

    “สวัสดีค่ะพี่โฮซอก”

     

    ลาครูสอนเต้นไปได้แล้ว เซเชลล์ก็รีบิิกจากตัวคลับโดยไว เพราะจีซองโทรเข้ามาว่าจะมารับ และตอนนี้ก็มาจอดรอที่หน้าคลับแล้วด้วย 

     

    รถยนต์ไม่คุ้นตาจอดตรงหน้าตึกก็มีอยู่แค่คันเดียว ถามจีซองว่าใช้รถคันไหนมารับเจ้าน้องชายตัวแสบก็ไม่ตอบ เซเชลล์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พลางเลื่อนหาเบอร์ของคนเป็นน้อง

     

    “พี่เซลล์ คันนี้ครับ” จีซองเปิดประตูลงมารับพี่สาว แล้วเปิดประตูให้ 

    “รถใครน่ะจีซอง?”

    “รถเราเอง”

    “เจโน่?”

    “ขึ้นมาก่อนสิ เดี๋ยวเราไปส่งทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ”

    “จีซองนั่งหน้าเถอะ”

    “ทำไมล่ะครับพี่เซลล์?”

    “คือพี่มีแต่เหงื่อน่ะ มันเหม็น”

    “งั้นก็ได้ครับ” จีซองพยักหน้าแล้วเปิดประตูด้านหลังให้คนเป็นพี่อีกครั้งก่อนจะปิดลงพร้อมกับหันไปขึ้นนั่งด้านหน้าเช่นเดิม

     

    รถยนต์เคลื่อนที่ออกจากตัวคลับไปได้ซักพัก ความเงียบระหว่างคนทั้งสามก็ปกคลุมไปทั่ว

     

    “แล้วนี่ ทำไมมาด้วยกันได้?” เซเชลล์ทนไม่ไหวเลยพลั้งถามออกไป

    “ก็จีซองน่ะสิ โทรบอกให้เรามารับที่โรงเรียน”

    “ก็เลยมารับง่ายๆเลยอะหรอ?”

    “อื้อ ทำไมอะ? เราอยู่แถวนั้นพอดี”

    “จีซองไปรู้ได้ไงว่า เจโน่อยู่แถวนั้น”

    “เอ่อ ผมจำได้ว่าเมื่อวันก่อนคุณพ่อบอกว่าจะไปทานข้าวกับคุณอาเจตแล้วก็พี่โน่แถวโรงเรียนน่ะครับ วันนี้ผมรอนานมากลุงชัยก็ยังไม่มา ผมเลยต้องบอกให้พี่โน่มารับ”

    “แปลว่าพ่อเรากับพ่อนายดื่มกันหรอ?”

    “อ่า….ใช่ เราเบื่อๆด้วยแหละเลยมารับน้องจีซอง ตอนแรกพ่อเธอก็ไม่ยอมให้มาหรอก”

    “จริงหรอครับ?” จีซองมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย 

    “อือ แต่พอพี่บอกว่่าเผื่อแวะมารับเซเชลล์ด้วย คุณอาแกเลยยอมให้มาน่ะ”

    “แบบนี้นี่เองง”

     

    เซเชลล์ปล่อยให้ทั้งสองคนคุยกันต่อโดยสังเกตอาการของจีซองอยู่เงียบๆ มีหลายครั้งที่เธอแอบเห็นว่าเจ้าน้องชายทำหน้าเง้างอเงียบๆเวลาที่เจโน่พูดถึงเธอ แต่สุดท้ายพอเจโน่หันไปยิ้มให้จีซองก็กลายเป็นลูกหมาไปเลยซะงั้น 

     

    ต้องรู้ให้ได้เลยว่าจีซองคิดอะไรอยู่?

     

    >>>คอมเม้นท์​และให้กำลังใจไรท์กันเยอะๆนะคะ<<<
    อย่าลืมมาเล่นแท็กใน Twitter กันนะ #ฟิคต่างรักHM
    สามารถติดต่อไรท์ส่วนตัวได้เลยนะคะ มาหวีดมาคุยกันนะ
    ช่องทางติดต่อไรท์
    IG : ppaiinttt
    Twitter : @Ppentara_twt

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×