คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 곰 세 마리 VI
ปึง!
“นายไปคุยอะไรกับพี่ฉัน”
เสียงทุ่มดังตะคอกใส่หูร่างบางจนสะดุ้ง พร้อมกับร่างหนาที่เข้ามาประชิดแบคฮยอน
หลังจากที่คริสและจงอินออกไปทำงาน แบคฮยอนก็เก็บจานชามและลงมือล้างพวกมัน เหลือแต่ชานยอลที่ไปทำงานช่วงเก้าโมง นี่ก็แปดโมงกว่าแล้ว
“ . .?”
“ไม่ต้องมาทำหน้างง นายทำอะไรพี่ฉัน”
ชานยอลใช้มือใหญ่จับหน้าแบคฮยอนให้หันมาสบตา บีบคางเล็กนั้นเบาๆเหมือนกับการให้อีกฝ่ายเปิดปากตอบ ดวงากลมมีเสน่ห์ของชานยอลกำลังจ้องไปที่ดวงตารีเล็กของแบคฮยอนเหมือนจะจับผิดอะไรบางอย่าง ซึ่งแบคฮยอนเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
“ผ. . ผมทำอะไร?”
“ทำอะไรงั้นเหรอ ถามตัวเองสิ ฉันไม่รู้ไงถึงถามนาย จิ๊! โง่จริง“
. . กวนตีน (。・ˇ_ˇ・。)
คำๆนี้ผุดเข้ามาในหัวแบคฮยอนทันที เขาไม่รู้หรอกนะว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แต่พูดจาแบบนี้มันหน้าเอายากันโรคพิษสุนัขบ้ายัดใส่ปากสะให้เข็ด แบคฮยอนเมื่อเห็นว่าชานยอลสะบัดหน้าไปทางอื่น จึงหันไปทำงานของตนต่อ ไร้สาระจริงๆ
แบคฮยอนรู้อยู่ตั้งแต่กลับมาจากซื้อของตอนเช้า คริสก็เงียบและไม่คุยกับใครเลย
“หยุดเลย ตอบคำถามฉัน”
นิ้วเรียวใหญ่จิ้มหน้าผากมนของแบคฮยอน หากแต่แบคฮยอนไม่ได้สนใจ ชายหนุ่มจึงดีดหน้าผากมนไปหนึ่งด้วยความหมันเขี้ยว
เปรี๊ยะ
“โอ้ย! อะไรของคุณเนี่ย!”
“ตอบคำถามฉันสิ”
“ผมไม่รู้ คุณไปถามพี่ชายคุณเส้!”
“หึ นี่นายโง่จริงหรือแกล้งโง่ ถ้าถามพี่ชายฉันแล้วได้เรื่อง ฉันคงไม่มาถามนายหรอก ใช้สมองน้อยๆของนายคิดหน่อยสิ”ร่างสูงหัวเราะเยาะคนตัวเล็กหน่อยๆ
“ย่าห์! งั้นก็ใช้สมองใหญ่ๆ ของคุณเนี่ยคิดสิ ฉลาดไม่ใช่เหรอ?!”
“. . .น นาย”
“อุ่ย ขอโทษครับ Σ(・艸・ ) “
ร่างสูงกำลังงงกับสถานการณ์นี้ ไม่ใช่ว่าเขาสตันหรืออะไร แต่เขางงกับบุคลิกแบคฮยอน ตอนแรกนอบน้อมแต่อยู่ๆกลับ . . และอาจจะเพราะชานยอลไม่ค่อยจะเคยโดนสวนเช่นนี้
“นายกล้าเถียงฉันงั้นเหรอ ฉันเป็นเจ้านายนายนะ กล้าดียังไงห๊ะ!”ด้วยความอีโก้สูงของเขา ตั้งแต่เกิดมาพี่น้องเขายังไม่เคยตอบโต้เขาแบบนี้เลย เด็กนี่เป็นใคร
“แหะ แหะ ผมลืมตัวครับ ขอโทษด้วยครับ”
“อย่ามาทำหน้าเจียม เมื่อกี้ยังเขม็งฉันอยู่เลย เดี๋ยวเถอะ”ชานยอลหน้าผากมนซ้ำๆ มืออีกข้างกอดอกไว้ มองไอ้เด็กที่ทำหน้าหมาหงอยเหมือนเวลาโดนเจ้าของดุ
“แล้วทำไมคุณต้องข่มผมด้วยเนี้ย”
“อย่าขึ้นเสียงกับฉัน ไอ้ขี้ข้าน้อย”สรรพนามใหม่ที่ชานยอลตั้งให้ ทำให้แบคฮยอนจ้องหน้าชานยอลเขม็งอีกครั้ง ชานยอลหัวเราะในลำคอด้วยความชอบใจ บุคลิกเยอะชะมัด อย่างว่าเด็กขนาดนี้ก็คงยังมีนิสัยเด็กๆอยู่นั้นแหละ เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กวันยังค่ำ จะไปดูแลใครได้ แม่เขาคิดอะไรอยู่เนี่ย
“. . ლ(◉◞౪◟◉ )ლ”แบคฮยอนแอบเบะปากนิดๆเมื่อชานยอลเผลอ ถ้าแม่ของพวกเขาไม่มาขอร้องแบคฮยอนมาดูแล เขาคงไม่มาหรอก แต่ละคนก็ใช่ย่อยสะที่ไหน
“อะไร ทำหน้าแบบนั้นทำไม ไม่พอใจอะไร”
“เปล่าครับ”
“เหอะ ช่างเถอะ ฉันไปทำงานละ อย่าลืมข้าวละ”ชานยอลใช้มือพลักหัวแบคฮยอนข้อหาทำหน้าทำตา เขาไม่อยากต่อความยาวกับเด็กดื้อ ชานยอลหยิบเอกสารบนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงไม่ได้ข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับพี่ชายเขาก็ไม่ได้สนใจแต่แรกอยู่แล้ว แต่แค่หาเรื่องคุยเฉยๆ
RRrrrrr
“สวัสดีครับ”
(แบคฮยอนเหรอลูก แม่เองนะ)
“ค. .ครับ”ถึงจะค่อนข้างจะเข้ากันได้กับคุณนายของทั้งสามพี่น้องแล้วก็เถอะ หากจะเรียกได้เต็มปากว่าคุณแม่มันก็กระดากอายนิดหน่อย เพราะไม่ได้ถึงขั้นสนิทกันมาก รู้จักกันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ถึงอีกฝ่ายจะบอกวารู้จักเขาตั้งแต่เด็กๆก็เถอะ
(คือแม่มีเรื่องอยากจะขอร้องและอยากจะบอกไว้ก่อนอีกอย่างนะ)
“อ้อ ครับ ว่ามาเลยครับ”
(คืออย่างงี้นะลูก ลูกของแม่ก็ไม่ค่อยจะเหมือนกันสักคน แม่จะขอร้องให้ . .)
เนื้อหาของการสนทนาเกี่ยวกับสามพี่น้อง ทำให้แบคฮยอนตั้งใจฟังยิ่งขึ้น การอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้จักกันมาก่อนทำให้การสื่อสารยากขึ้น และกับการไม่รู้นิสัยใจคอของทั้งสามมากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร ต้องการอะไร หรือไม่ต้องการอะไร แบคฮยอนจึงต้องตั้งใจฟัง
แบคฮยอนรู้เพียงนิสัยคราวๆของทั้งสาม เหมือนคนทั่วๆไปที่รู้จักทั้งสาม นิสัยที่แสดงออกมาบ่อยๆไม่ใช่ทั้งหมดของทั้งสาม มีอีกมากมายที่แบคฮยอนไม่ได้สัมผัส
และความจริงที่ทั้งสาม ‘ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ’ ก็เป็นอีกอย่างที่แบคฮยอนเคยไม่รู้
‘อี้ฟานเป็นคนโดดเดี่ยวนะลูก เอาใจใส่เขามากๆนะลูก เพราะคุณแม่จริงๆของฟาน เขาเสียไปตั้งแต่ฟานลืมตาเกิด กว่าเขาจะเปิดใจให้แม่ก็นานเลยละ ฟานเขาใส่ใจทุกอย่างรอบตัวแต่เขาไม่แสดงออกแค่นั้นแหละ . . .แล้วก็อีกอย่างนะลูก อยู่กับเขาเวลาที่เขาอ่อนแอหน่อยนะลูก . . เขา เคยจะฆ่าตัวตายมาแล้ว. .’
อี้ฟานหรือคริสนั้นแหละ คริสเคยจะฆ่าตัวตายมาก่อนแล้ว เพราะแฟนเก่า. . แต่คุณนายคิมมาห้ามไว้ทัน คริสเล่าทุกอย่างให้ท่านฟัง คริสรักคุณนายคิมเหมือนแม่แท้ๆของตน อาจจะเพราะความดีและอ่อนโยนของท่าน ในขณะที่พ่อแท้ๆไม่ค่อยสนใจใยดีคริสตั้งแต่เด็กๆ
‘ชานยอล เฮ้อ เด็กคนนี้ดื้อ ไม่ค่อยฟังใคร หน่อยนะแบคฮยอน ถึงเขาจะเป็นคนปากเสียแต่จริงเขาขี้อ้อนมากเลยนะแล้วก็ใจดี . .’
ไม่เชื่อ! เขาไม่เชื่อ ปากเสียขนาดนั้น อ้อนทีนสิไม่ว่า
‘อ้อ! แล้วก็อีกเรื่อง ชานยอลนะบ้างานมากเลย แม่ละเป็นห่วง ให้เขากินข้าวให้เป็นเวลาด้วยนะลูก’
คุณชายคิมและคุณนายคิมไม่ได้เป็นทั้งพ่อทั้งแม่แท้ๆของชานยอล พ่อและแม่ของชานยอลเกิดอุบัติเหตุเสียตั้งแต่อายุ10ขวบ คุณชายปาร์คเป็นเพื่อนของคุณชายคิมที่ตายแทนกันได้เลยด้วยซ้ำ เลยรับชานยอลมาเลี้ยง แต่ไม่แพ้การโดนล้อว่าเด็กกาฝาก
ชานยอลพยายามทำให้ทุกคนเห็นในความพยายามของเขา ทำให้คนอื่นยอมรับในตัวเขา กดดันตัวเอง เพราะเพื่อนล้อมากๆ จากเด็กที่สดใสกลับกลายเป็นเด็กที่ไม่ยอมใคร
‘แล้วก็คิมจงอิน แม่ละเหนื่อย ไม่รู้จะจัดการยังไง เอามันไม่อยู่จริงๆ ถ้าไอ้นี่มันแกล้งแบคฮยอน โทรมาฟ้องแม่เลยนะลูก’
จงอินเป็นคนที่เพียบพร้อมที่สุด แต่กลับ เถรไถลที่สุด เพราะโดนตามใจมากจนติดเป็นนิสัย แต่ไม่กับถึงขนาดที่ไม่เอาการเอางาน จงอินรับผิดงานทุกอย่าง เป็นคนกล้าทำ กล้ารับผิด กล้ารับผิดชอบ หากเขาทำอะไรผิดเขาจะยอมรับ
ถึงทั้งสามจะไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่สนิทกัน ทั้งสามนั้นสนิทกันอาจจะมากกว่าพี่น้องแท้บางครอบครัวด้วยซ้ำ
กว่าแบคฮยอนจะคุยโทรศัพท์เสร็จก็ปาไปครึ่งชั่วโมง ต้องรีบร้อนทำกับข้าวไม่งั้นถ้าไม่ทันโดนตัดหัวแน่
TBC
***************************************
-ทอล์ค คึ-
ตอนนี้ก็บอกนิสัยทั้งหมดของสามแสบเนอะ
แล้วที่แบคฮยอนไม่อยากให้คริสอบยู่คนเดียว
อิอิ
ความคิดเห็น