คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 곰 세 마리 IV
Older Brother Bear
ช่วงเช้าตรู่ อากาศกำลังดี เย็นสบายแบบนี้ไม่ค่อยมีที่จะตื่น มีแต่จะนอนหลับสบายฝันดีบนเตียงนุ่ม ยกเว้น สามพี่น้องหมีที่ตื่นแต่เช้าตรูเพื่อนปฏิบัติการแย่งซีนกันเอง
ในเวลาหกโมงเช้า สามพี่น้องหมีนั่งงัวเงียอยู่บนโซฟา รอเด็กน้อยแบคฮยอนที่ตื่นสายที่สุด กำลังอาบน้ำแต่งตัวอยู่ในห้องของตน
แกร็ก
เสียงเปิดประตูไม่ได้ทำให้สามพี่น้องตื่นแต่อย่างใด ตัวโงนเงนอยู่บนโซฟาแทบจะล้มลงไปนอน แบคฮยอนยกมือปิดปากขำกับภาพตรงหน้า หากไม่ได้มาอยู่ด้วยกันนี้คงไม่เห็นภาพเหล่านี้
มือบางยกโทรศัพท์สีขาวรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมา ถ่ายภาพตรงหน้าเก็บเอาไว้เป็นที่ระรึกที่สามพี่น้องหลับตาตัวเอนเข้าหากันจนแทบจะซบกันอยู่รอมร่อ
แชะ!
เสียงแชะทำให้สามพี่น้องสะดุ้งตื่น กะพริบตาไล่ความง่วง และบิดขี้เกียจ แบคฮยอนรีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงก่อนที่สามพี่น้องจะมองมา
“เสร็จแล้วเหรอ”คริสที่รู้ตัวคนแรกหันมาถามแบคฮยอนที่ยืมมองพวกเขาอยู่
“ครั..”
“ก็ต้องเสร็จแล้วดิเฮีย ไม่งั้นจะมายืนตรงนี้เหรอ”ชานยอลเจ้าเดิม
ปั่ก
แล้วก็โดนตบหัวไปเหมือนเดิม หากเปรียบชานยอลกับสัตว์ ชานยอลก็คงเป็น ตุ๊กแก กัดไม่ปล่อย คริสก็คิดนะ ว่าชาติก่อนไปทำอะไรให้มัน มันถึงกัดเช้ากัดเย็นแบบนี้
“เอ่อ ไปกันเถอะครับ”แบคฮยอนรีบเปลี่ยนบทสนทนาก่อนที่สองคนนี้จะทะเลาะกัน ชานยอลชี้หน้คริสเหมือนเคย ดโทษเอาไว้สุดท้ายก็ลืม คริสปัดมือชานยอลออกแบบไม่ใยดี ยักคิ้วให้ทีนึงตามสไตล์
“ฝากไว้ก่อนเถอะเฮีย”
“คุณจงอินครับ ตื่นเถอะครับ”เหลือแต่จงอินคนเดียวที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่น เมื่อกี้เห็นหัวเราะกับบทสนทนาของคริสละชานยอล แต่ตากลับปิดสนิท ให้ตายเถอะ จำศีลอยู่หรือไง
“อืม พยุงหน่อย”
แบคฮยอนทำท่าว่าจะไปพยุงจริงๆ แต่ชานยอลกันเอาไว้ก่อนและเดินตรงไปที่จงอิน ชานยอลพยุงจงอินขึ้นมา แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ จงอินที่งัวเงียไม่รู้ว่าใครเป็นคนพยุง
“...”
“อืมม ทำไมนายตัวใหญ่จังแบคฮยอน”จงอินรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ แบคฮยอนตัวใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ สูงด้วย แถมไหล่ใหญ่มาก มือก็หยาบกร้าน จงอินพยายามถ่าตาขึ้นมามองคนที่พยุง
“...”แบคฮยอนได้แต่ยืนยิ้มแหะๆ อยู่ข้างคริสที่ดูปฏิกิริยาของจงอิน
“เหี้*! เฮีย!”จงอิที่ตื่นเต็มตา ยื่นหน้าเข้าใกล้ชานยอลที่ตอนแรกคิดว่าเป็นแบคฮยอนเลยยื่นหน้าไปใกล้จนหน้าแทบชิดติดกัน
“ไอ้เหี้* จงอิน! ยื่นหน้ามาทำเหี้*ไรว่ะ!”ชานยอลที่ตอนแรกจะแกล้งทุ่มจงอินเล่น แต่จงอินกลับตื่นก่อนแถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกต่างหาก ไม่ได้แถมแกล้งยังจะขนลุกอีก
คริสกับแบคฮยอนเดินหนีออกมานอกห้องเพื่อหัวเราะ แต่กลับได้ยินถึงข้างใน เสียงหัวเราะที่มาจากด้านนอกทำให้ชานยอลและจงอินยิ่งอายไปใหญ่ คริสและแบคฮยอนมองแล้วยิ้มออกมา
ตลาดในรูปแบบห้างขนาดเล็กหรือที่รียกกันว่ามาร์กเก็ตนะแหละ หมีสามตัวกำลังเปิดโลกใหม่ หมีทั้งสามไม่มีใครเคยมาทั้งสามเดินไปรอบๆอย่างอยากรู้อยากเห็น ลำบากให้แบคฮยอนต้องเดินตาม
“ฉันอยากกินสุกี้อ่ะแบคฮยอน”จงอินเอาหน้าไปไถลไหล่แบคฮยอนจนคริสและชานยอลต้องกลอกตากับการกระทำนั้น
“ครับ เดี๋ยวทำให้ตอนเย็น ว่าแต่ที่ห้องมีหม้อไฟฟ้าไหมครับ”
“ไม่มีหรอก”ทุกวันนี้พวกเขาก็กินแต่นอกบ้านกัน ไม่มีใครมีคนทำกินเองหรอก
“งั้นก็ซื้อเลย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ว่ามันอยู่ที่ไหน”ชานยอลหันซ้ายหันขวาหาของที่ว่า แลดูเป็นคนใช้ตังเก่ง แต่จริงๆก็ไม่ขนาดนั้น ที่เขาซื้อเพราะไหนๆแบคฮยอนก็ต้องทำอาหารให้พวกเขาทุกวันอยู่แล้ว ซื้อไปเผื่อมันจำเป็นต้องใช้ทำงนอีก
“น่าจะอยู่ทางนั้นนะครับ”
“โอเค อยู่นี่นะ มึงมากับกู”ชานยอลลากจงอินไปด้วย ตรงไปที่ที่แบคฮยอนชี้ ทิ้งให้แบคฮยอนอยู่กับคริส
“...”แบคฮยอนลอบกลืนน้ำลายกับเหตุการณ์น่าอึดอัดนี่ คริสถึงจะพูดกับเขาบ้าง แต่อุปนิสัยที่เด่นชัดคือ เฉยชา ยิ่งสวายตานิ่งๆนั้นอีก
“อึดอัดเหรอ”
“เอ่อ..”จะให้ตอบว่ายังไงละ สายตานื่งๆนั้นเหมือนซ่อนอะไรไว้ ถึงคริสจะดูเฉยชาแต่จริงๆแล้วสังเกตคนอื่นตลอดเวลา
“ให้ฉันไปเดินที่อื่นก่อนไหม ถ้าอึดอัด”
“เดี๋ยว! ..ยะ อยู่นี้แหละครับ”
คริสทำท่าจะเดินออกไปจริงๆ คริสอยู่กับใครที่ไม่ค่อยสนิทคนๆนั้นก็มีแต่อึดอัด มันเป็นแบบนั้นเสมอ แบคฮยอนที่เห็นสายตาผิดหวังที่วูบไหวเพียงแป็ปเดียวก็กลับมาเป็นปกติ
สายตานั้นทำให้อยู่ๆแบคฮยอนก็เอือมมือไปจับมือคริส ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่มือมันไปเอง สายตานั้นทำให้แบคฮยอนรู้สึกแปลกๆ ไม่แน่ใจว่าตาฝาดหรือเปล่า
เพราะหน้านิ่งกับสายตานิ่งๆทำให้ความรู้สึกปิดตายไปหมด ไม่แสดงออกเลยสักนิดเดียว
“ไม่อึดอัดหรือไง”
“ไม่ค่อยครับ คุณก็ชวนผมคุยสิครับ!”แบคฮยอนเผลอตะโกนอย่างลืมตัว ยกมือปิดปากทันทีที่รู้สึกตัว ก้มหัวให้เล็กน้อยแทนคำขอโทษ
คริสหัวเราะกับการกระทำของแบคฮยอน แบคฮยอนโล่งใจนิดหน่อยที่เห็นคริสยิ้มและหัวเราะ อย่างน้อยก็ไม่หน้านิ่งแบบเมื่อกี้ แบคฮยอนใจเต้นตึกตักกับร้อยยิ้มของคริสที่ไม่ค่อยมีคนเห็นนัก
“คุณยิ้มน่ารักออก ทำไมไม่ค่อยยิ้มละครับ”
“ฮึ นายนี่แปลกดีนะ ฉันไม่ค่อยชอบยิ้มนะ”
“ทำไมละครับ คุณต้องยิ้มบ่อยๆสิ ไม่ใช่ทำแต่หน้านิ่ง น่ากลัวออก”คนตัวเล็กลืมตัวอีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าจะพูดแบบนั้นออกไป
“กลัวเหรอ ฉันทำแบบที่นายบอกไม่ได้หรอกนะ ขอโทษละกันที่ทำให้กลัว”แบคฮยอนตาโตทันทีที่คริสเปลี่ยนโหมด ไม่รู้ว่าไปจี้จุดอะไรหรือเปล่า
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ! คือ ผมก็แค่อยากให้คุณยิ้มเอง”คนตัวเล็กก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เหลือบๆมองคริสทีมองมาที่ตนเหมือนกัน
“ไม่ต้องรู้สึกผิดขนาดนั้นก็ได้”
“ผมขอโทษครับ หากผิดพูดอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ ผมขอโทษจริงๆ”แบคฮยอนก้มหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะรู้สึกผิดจริงๆ เขาไม่ได้สนิทกับคริสสักนิดแต่กลับทำให้อีกคนไม่สบายใจเสียแล้ว
คริสถอนหายใจเฮือกใหญ่ จ้องคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหัวให้เขา มันไม่ใช่ความผิดแบคฮยอนอะไรเลย เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คนตัวเล็กนี่สิทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่
“นี่ ฉันยังไม่ได้โกรธเลยนะ”
“ตะ แต่คุณ ..ผะ ผมทำให้บรรยากาศเสียเลย”
“ถ้าจะเสีย มันก็เสียเพราะฉันนี่แหละ เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว”คริสมองหน้าคนตัวเล็กที่ทำหน้าเป็นหมาหงอยเหมือนโดนเจ้านายดุ ตัดสินใจยื่นมือไปลูบหัวแบคฮยอนเบาๆ คนตัวเล็กสะดุ้งนิดนึงแต่ก็ปล่อยให้คนตัวสูงลืบหัวไปเรื่อยๆ
“ผมขอถามหน่อยอะไรได้ไหมครับ”
“ถามสิ”
“ทะ ทำไมคุณถึงไม่ยิ้มละครับ ถะ ถ้าคุณไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ!”คนตัวเล็กทำใจกล้าถามไปเมื่อเห็นว่าคริสไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว
“เพราะมันก็เหมือนเดิมนะสิ”
“เหมือนเดิม?”แบคฮยอนทวนคำตอบของคริส ไม่เห็นใจเลย อะไรคือเหมือนเดิน หล่อเหมือนเดิมเหรอ?
All I knew this morning when I woke
Is I know something now, know something now I didn’t before
And all I’ve seen since eighteen hours ago
Is green eyes and freckles in your smile
In the back of my mind making me feel right
เช้านี้ฉันรู้แค่ว่า มันมีบางอย่าง,
มีบางอย่างที่ฉันเพิ่งรู้, บางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน
และที่ฉันเห็นตลอดสิบแปดชั่วโมงที่ผ่านมา
คือดวงตาสีเขียวและกระบนหน้าเมื่อยามเธอยิ้ม
มันอยู่ในใจฉันตลอดเวลาและทำให้ฉันรู้ว่า…
I just wanna know you better, know you better, know you better now
I just wanna know you better, know you better, know you better now
I just wanna know you better, know you better, know you better now
I just wanna know you, know you, know you
อยากจะรู้จักเธอมากขึ้น, อยากจะรู้จักเธอมากกว่านี้
อยากจะรู้จักเธอมากขึ้น, อยากจะรู้จักเธอมากกว่านี้
(Everything has changed –Taylor Swift)
“น่าเบื่อไง เพราะว่าฉันน่าเบื่อไงละ ไม่รู้จะยิ้มไปทำไม”คริสยื่นหน้าไปใกล้แบคฮยอนก่อนจะตอบคำถามแบคฮยอน แล้วผละหนีเมื่อชานยอลและจงอินกลับมา ร่างสูงเดินไปหาน้องชายดดยไม่หันมาหาแบคฮยอนที่ทำหน้าตกใจและอึ้งอยู่
‘..หมีพี่ใหญ่ บอกความในใจเด็กน้อยไปแล้ว เด็กน้อยจะทำยังไงให้หมีตัวนี้มีความสุขละทีนี้’
*****************
-ทอล์ค คึ-
แฮ่ ขอบคุณสำรับทุกเม้นที่ให้กำลังใจนะค้าาาา
ความคิดเห็น