คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : TIME TO LOVE :: CHAPTER 1 [100%]
CHAPTER 1
Our Love
ดารัณตวัดสายตากลับไปมองเจ้าของใบหน้าคมคายที่บัดนี้หันหน้ามาเพื่อเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง
นัยน์ตาคมเข้มที่เป็นประกายสีดำสนิทราวกับท้องฟ้าในคืนที่ไร้ดวงดวงกำลังสบตากับเธอโดยไม่ละสายตาไปไหน
เธอเห็นเครื่องหน้าคมเข้มที่ผสานกันอย่างลงตัวราวกับพระเจ้าบรรจงปั้นแต่งกำลังแสดงออกถึงการหาเรื่องกันอย่างชัดเจน
เมื่อกี้ที่พูดออกมา...หมายความว่ายังไง
ถูกทิ้ง?
เธอไปทิ้งเขาตอนไหนกัน!
“เอาวะ...อยากรู้
เอ้ย!
อยากใส่ใจเลยนะเนี่ย” แน่นอนว่าเมื่อโอกาสได้ไขความลับที่ยังคงเป็นปริศนายิ่งสร้างความตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจให้กับหลายคนได้เป็นอย่างดี
“ถามเจ้าตัวดูสิ”
คล้ายกับเขากำลังหาเรื่องกัน
ตอบแบบนั้นมีแต่เธอที่กลายเป็นคนผิด?
“อย่ามาพูดมั่ว
เมาแล้วหรือไง” เธอหันไปส่งสายตาปรามคนเริ่มเมาที่เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง กล่าวหาว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งอย่างนั้นเหรอ
พูดมาได้ยังไงกัน
“ที่เลิกกัน
เพราะเธอขอเลิกไม่ใช่เหรอ” ‘ธาวิน’ เอ่ยถามพร้อมกับสบตาเธอด้วยแววตาท้าทาย
“ไม่เห็นจะจำได้เลยสักนิด”
เมื่อเขากำลังรวนเธอด้วยคำถาม เธอก็เลยตอบกลับด้วยคำตอบที่กวนอารมณ์เช่นกัน
ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายยิ่งเริ่มมีร่องรอยของความไม่พอใจแล้วนั้นเธอก็ได้รู้ว่าคำตอบของเธอมันคงไปจุดฉนวนความเกรี้ยวกราดของเขาราวกับน้ำมันที่เทเข้าสู่กองไฟ
“งั้นก็แสดงว่ายังไม่เลิกกัน?”
“แล้วเราเหมือนคนรักกันหวานชื่น?”
เอาสิ...ในเมื่อเขาอยากเล่นเกมกับเธอ
เธอก็อยากจะลองสู้ดูสักครั้ง
เพราะคนที่ความอดทนทางอารมณ์ต่ำยิ่งกว่าระเบิดที่ถูกปลดสลักแบบเขาจะสู้เธอได้แค่ไหนกันเชียว
“พอๆ
กูไม่อยากรู้แล้ว พวกมึงเลิกเล่นเกมแข่งความอดทนกันสักที แยกๆ เอาเหล้ามาเพิ่มสิ”
กลายเป็นคนอยากรู้ที่ยอมแพ้ไปก่อน
ดารัณสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติของตนเอง
ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น และเบนสายตาออกมาให้ความสนใจกับอย่างอื่นแทน
เมินเฉยแววตาหาเรื่องที่มองมาไปเสีย
“มาค่ะชะนี
รีบกระดกเดี๋ยวคนสวยคนนี้จะพาไปเฉิดฉาย”
แดนนี่ที่ยิ้มร่าสร้างบรรยากาศหันมายัดแก้วแอลกอฮอล์ใส่มือเธอ
ก่อนจะเริ่มเรียกคนอื่นมาชนแก้ว
“มึงต้องฉลองให้กับกูไม่ใช่เหรอแดนนี่”
เจ้าสาวเอ่ยทักท้วงด้วยรู้สึกว่าสิ่งที่เพื่อนกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง
มีอย่างที่ไหนลืมกันได้ว่าเพื่อนแต่งงานแล้ว
“กูจะฉลองให้กับคนที่ทิ้งเพื่อนไปมีผัวก่อนได้ยังไงกันคะ
มีผัวแล้วก็เชิญไปกกผัวค่ะ!” ไล่กันอย่างไม่ไว้หน้าคนจ่ายค่าเครื่องดื่มและเป็นเจ้าของงานแต่ง
เจ้าสาวที่เปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงหันมาส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับเธอ
พร้อมกับส่งสายตาถามด้วยความเป็นห่วง
เธอจึงขยับยิ้มแสดงออกว่าไม่เป็นไรเพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องมากังวลในวันนี้
ช่างมันเถอะ
เธอจะถือคติอย่าถือสาคนบ้า
อย่าว่าคนเมาก็แล้วกัน
สรุปเสร็จเรียบร้อยภายในใจก็เลิกให้ความสนใจกับสายตาดุที่จ้องหาเรื่องกันไม่เลิกและหันไปชนแก้วกับกลุ่มเพื่อนทันที
หลังจากเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสี่ทุ่มครึ่ง
ทุกคนก็เริ่มอยากออกสู่โลกกว้าง จึงตกลกกันว่าจะย้ายไปนั่งด้านในคลับของโรงแรมแทน
เจ้าบ่าวผู้แสนดี
หรืออีกนัยน์หนึ่งก็คืออยากสนุกกับเพื่อนเพื่อส่งท้ายความโสดจึงออกปากจัดการให้ด้วยตนเอง
เพียงไม่นานโซนที่นั่งด้านในสำหรับวีไอพีก็พร้อมสำหรับคณะใหญ่
เธอถูกแดนนี่ลากให้ตามเข้ามายังด้านในด้วยความไม่เต็มใจนักเพราะอยากกลับห้องไปนอนด้วยเริ่มมึนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วเช่นกัน
“อย่าทำหน้าเหม็นเบื่อค่ะชะนี
เพื่อนพาออกมาหาสามีในอนาคตอย่าทำหน้าอยากตายขนาดนั้น”
เธอลอบกลอกตาเมื่อได้ยินเช่นนั้น
มันยังไม่เลิกพูดเรื่องสามีอีกนะ
“เริ่มมึนแล้ว
ไม่กินแล้วแดนนี่” มือขาวดันแก้วแอลกอฮอล์สีเข้มที่ไม่ต้องชิมก็รู้ว่าเพื่อนชงมาแบบเข้มมากๆ
ให้ออกห่างตัว
“เดี๋ยวก็ได้เมาเป็นหมาหรอก”
แดนนี่มองค้อนเธอและยังคงยืนยันให้เธอฉลองให้กับความโสดของเพื่อนที่เพิ่งแต่งงานไป
ดารัณจึงตัดบทโดยการยอมรับแก้วมาถือเอาไว้
“ดีมากค่ะชะนี
ถ้ากูเมาแล้วเอากูไปเก็บห้องด้วยนะ”
แดนนี่หันมาออกคำสั่งกับฉันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มฉลองให้กับการสละโสดของเพื่อนสาวในครั้งนี้โดยมีเธอที่ดื่มบ้างเป็นบางครั้งเวลาโดนขอชนแก้ว
เธอส่ายหน้าเมื่อเห็นบรรดาเพื่อนๆ
เริ่มปล่อยความแก่โดยการลุกออกไปเต้น ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเมื่อหวนนึกถึงสมัยเรียน...เป็นช่วงวัยที่ไม่ต้องคิดหรือสนใจอะไรให้มากนักนอกจากใช้ชีวิตให้สนุกไปตามที่หัวใจตนเองต้องการ
อันที่จริงเธอในตอนนั้น...มีความสุขมากเลย
นัยน์ตากลมโตลอบเบนสายตาไปยังร่างสูงของธาวิน
เขายังคงเป็นผู้ชายที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเพื่อนฝูงอยู่เสมอเช่นเดียวกับสมัยเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
เราสองคนเรียนกันคนละคณะก็จริง...แม้จะดูเป็นไปได้ยากในการเจอกัน
แต่วิชาเรียนรวมในปีแรกของการเรียนในระดับอุดมศึกษานั้นทำให้เราทั้งสองคนรู้จักกัน
อีกทั้งกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอยังคงเป็นเพื่อนโรงเรียนเดิมกับเขา
จึงเป็นไปได้ที่เราจะเริ่มรู้จักกันและสนิทกันเป็นกลุ่มมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งเมื่อสิ้นสุดการสอบปลายภาคเทอมสุดท้ายของปีหนึ่งเธอและเขาจึงได้ตกลงเลื่อนสถานะความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นคนรัก
ด้วยความที่ธาวินเป็นที่รู้จักของบรรดารุ่นพี่ทั้งในและนอกคณะด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดี
รวมถึงหน้าตาจัดว่าดีมาก อีกทั้งยังเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย
เรื่องการคบกันของเธอและเขาจึงกลายเป็นที่พูดถึงของกลุ่มคนในมหาวิทยาลัย
โดยเฉพาะสาวๆ
ความสัมพันธ์ของเราสองคนถ้าจะให้นิยามมันก็คงจะนิยามได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
และสดใส เพราะความอ่อนวัย...การใช้ชีวิตโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใดนอกจากการเรียน
ไม่ต้องคิดให้มากเช่นวัยผู้ใหญ่
เราใช้หัวใจนำทางมากกว่าเหตุผลใดๆ
ในระหว่างที่คบกัน
เราทะเลาะกันบ่อยก็จริง แต่ทุกครั้งเราก็กลับไม่สามารถเลิกกันอย่างที่ปากบอกได้สักครั้ง
ต่อให้ทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นก็กลับมาคืนดีกันจนเพื่อนๆ
ต่างส่ายหน้า
เราไม่เคยคิดเลยว่าการทะเลาะกันและกลับมาคืนดีกันทุกครั้งนั้นในแต่ละครั้งมันกลับทิ้งรอยร้าวเล็กๆ
เอาไว้ นับวันมันก็กลายเป็นรอยร้าวมากเกินกว่าจะประคองไม่ให้มันแตกสลาย
“มึงไม่คิดจะออกไปเต้นรึไง”
“ไม่เอา”
ดารัณส่ายหน้าเมื่อเพื่อนเดินกลับมาออกปากชวน
“งั้นเฝ้าโต๊ะไปนะคะ”
เธอหยักหน้าตอบรับก่อนจะมองตามเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่วาดลวดลายเต้นกันอยู่บริเวณตรงกลาง
ครืน
โทรศัพท์เครื่องบางของเธอสั่นเตือนเมื่อมีข้อความเข้า
มือเรียวขาวเอื้อมไปหยิบมันมาก่อนจะเปิดดู
แล้วก็ต้องชะงักไปราวกับโดนสาปเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งมา
‘สรุป...นี่โดนบอกเลิกเพราะอะไรเหรอวะ’
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่ออ่านข้อความจากธาวิน
เธอเงยหน้าจากหน้าจอเพื่อกลับไปสบตากับเขาผ่านความสลัวของแสงไฟภายในสถานบันเทิง
นัยน์ตาคู่คมคู่นั้นเธอจดจำมันได้ดี
กลายเป็นเธอเองที่ยอมแพ้...เบนสายตาออกมาด้วยหัวใจที่สั่นไหว
ห้ามเด็ดขาดนะดารัณ
หลายปีที่ผ่านมาเธอทำมันได้ดีมาตลอด
‘ไม่ตอบ?’
ข้อความถูกส่งมาเรื่อยๆ
ทำเอาเธอนิ่วหน้า ก่อนจะเริ่มคิดว่าเขาน่าจะเริ่มเมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
‘คุยกันหน่อยไม่ได้รึไง
เธอแม่งใจร้าย’
เป็นอีกครั้งที่เธอเลือกที่จะเมินเฉยข้อความจากเขา
เช่นเดียวกันเมื่อหลายปีก่อนที่ธาวินเพียรพยายามในการง้องอน
‘ใจร้ายจริงๆ ด้วยว่ะ’
ข้อความสุดท้ายที่ส่งมาถูกเธอเปิดอ่าน
ก่อนที่ร่างสูงของเขาจะลุกขึ้น
และทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดนั่นคือการเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างกายเธอ
“ไทม์”
**************************
ยังรักเค้าแหละเลยไปหาเรื่องเค้า
ดูออก
:)
ความคิดเห็น