ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TIME TO LOVE ถึงเวลารัก

    ลำดับตอนที่ #3 : TIME TO LOVE :: CHAPTER 1 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 64





    CHAPTER 1

    Our Love



    ดารัณตวัดสายตากลับไปมองเจ้าของใบหน้าคมคายที่บัดนี้หันหน้ามาเพื่อเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง นัยน์ตาคมเข้มที่เป็นประกายสีดำสนิทราวกับท้องฟ้าในคืนที่ไร้ดวงดวงกำลังสบตากับเธอโดยไม่ละสายตาไปไหน


                เธอเห็นเครื่องหน้าคมเข้มที่ผสานกันอย่างลงตัวราวกับพระเจ้าบรรจงปั้นแต่งกำลังแสดงออกถึงการหาเรื่องกันอย่างชัดเจน


                เมื่อกี้ที่พูดออกมา...หมายความว่ายังไง


                ถูกทิ้ง?


                เธอไปทิ้งเขาตอนไหนกัน!


                “เอาวะ...อยากรู้ เอ้ย! อยากใส่ใจเลยนะเนี่ย” แน่นอนว่าเมื่อโอกาสได้ไขความลับที่ยังคงเป็นปริศนายิ่งสร้างความตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจให้กับหลายคนได้เป็นอย่างดี


                “ถามเจ้าตัวดูสิ” คล้ายกับเขากำลังหาเรื่องกัน


                ตอบแบบนั้นมีแต่เธอที่กลายเป็นคนผิด?


                “อย่ามาพูดมั่ว เมาแล้วหรือไง” เธอหันไปส่งสายตาปรามคนเริ่มเมาที่เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง กล่าวหาว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งอย่างนั้นเหรอ


                พูดมาได้ยังไงกัน


                “ที่เลิกกัน เพราะเธอขอเลิกไม่ใช่เหรอ” ธาวินเอ่ยถามพร้อมกับสบตาเธอด้วยแววตาท้าทาย


                “ไม่เห็นจะจำได้เลยสักนิด” เมื่อเขากำลังรวนเธอด้วยคำถาม เธอก็เลยตอบกลับด้วยคำตอบที่กวนอารมณ์เช่นกัน


                ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายยิ่งเริ่มมีร่องรอยของความไม่พอใจแล้วนั้นเธอก็ได้รู้ว่าคำตอบของเธอมันคงไปจุดฉนวนความเกรี้ยวกราดของเขาราวกับน้ำมันที่เทเข้าสู่กองไฟ


                “งั้นก็แสดงว่ายังไม่เลิกกัน?”


                “แล้วเราเหมือนคนรักกันหวานชื่น?” เอาสิ...ในเมื่อเขาอยากเล่นเกมกับเธอ


                เธอก็อยากจะลองสู้ดูสักครั้ง เพราะคนที่ความอดทนทางอารมณ์ต่ำยิ่งกว่าระเบิดที่ถูกปลดสลักแบบเขาจะสู้เธอได้แค่ไหนกันเชียว


                “พอๆ กูไม่อยากรู้แล้ว พวกมึงเลิกเล่นเกมแข่งความอดทนกันสักที แยกๆ เอาเหล้ามาเพิ่มสิ” กลายเป็นคนอยากรู้ที่ยอมแพ้ไปก่อน


                ดารัณสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติของตนเอง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น และเบนสายตาออกมาให้ความสนใจกับอย่างอื่นแทน


                เมินเฉยแววตาหาเรื่องที่มองมาไปเสีย


                “มาค่ะชะนี รีบกระดกเดี๋ยวคนสวยคนนี้จะพาไปเฉิดฉาย” แดนนี่ที่ยิ้มร่าสร้างบรรยากาศหันมายัดแก้วแอลกอฮอล์ใส่มือเธอ ก่อนจะเริ่มเรียกคนอื่นมาชนแก้ว


                “มึงต้องฉลองให้กับกูไม่ใช่เหรอแดนนี่” เจ้าสาวเอ่ยทักท้วงด้วยรู้สึกว่าสิ่งที่เพื่อนกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง มีอย่างที่ไหนลืมกันได้ว่าเพื่อนแต่งงานแล้ว


                “กูจะฉลองให้กับคนที่ทิ้งเพื่อนไปมีผัวก่อนได้ยังไงกันคะ มีผัวแล้วก็เชิญไปกกผัวค่ะ!” ไล่กันอย่างไม่ไว้หน้าคนจ่ายค่าเครื่องดื่มและเป็นเจ้าของงานแต่ง


                เจ้าสาวที่เปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงหันมาส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับเธอ พร้อมกับส่งสายตาถามด้วยความเป็นห่วง


                เธอจึงขยับยิ้มแสดงออกว่าไม่เป็นไรเพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องมากังวลในวันนี้


                ช่างมันเถอะ


                เธอจะถือคติอย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมาก็แล้วกัน


                สรุปเสร็จเรียบร้อยภายในใจก็เลิกให้ความสนใจกับสายตาดุที่จ้องหาเรื่องกันไม่เลิกและหันไปชนแก้วกับกลุ่มเพื่อนทันที


                หลังจากเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสี่ทุ่มครึ่ง ทุกคนก็เริ่มอยากออกสู่โลกกว้าง จึงตกลกกันว่าจะย้ายไปนั่งด้านในคลับของโรงแรมแทน


                เจ้าบ่าวผู้แสนดี หรืออีกนัยน์หนึ่งก็คืออยากสนุกกับเพื่อนเพื่อส่งท้ายความโสดจึงออกปากจัดการให้ด้วยตนเอง เพียงไม่นานโซนที่นั่งด้านในสำหรับวีไอพีก็พร้อมสำหรับคณะใหญ่


                เธอถูกแดนนี่ลากให้ตามเข้ามายังด้านในด้วยความไม่เต็มใจนักเพราะอยากกลับห้องไปนอนด้วยเริ่มมึนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วเช่นกัน


                “อย่าทำหน้าเหม็นเบื่อค่ะชะนี เพื่อนพาออกมาหาสามีในอนาคตอย่าทำหน้าอยากตายขนาดนั้น” เธอลอบกลอกตาเมื่อได้ยินเช่นนั้น


                มันยังไม่เลิกพูดเรื่องสามีอีกนะ


                “เริ่มมึนแล้ว ไม่กินแล้วแดนนี่” มือขาวดันแก้วแอลกอฮอล์สีเข้มที่ไม่ต้องชิมก็รู้ว่าเพื่อนชงมาแบบเข้มมากๆ ให้ออกห่างตัว


                “เดี๋ยวก็ได้เมาเป็นหมาหรอก” แดนนี่มองค้อนเธอและยังคงยืนยันให้เธอฉลองให้กับความโสดของเพื่อนที่เพิ่งแต่งงานไป


                ดารัณจึงตัดบทโดยการยอมรับแก้วมาถือเอาไว้


                “ดีมากค่ะชะนี ถ้ากูเมาแล้วเอากูไปเก็บห้องด้วยนะ” แดนนี่หันมาออกคำสั่งกับฉันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มฉลองให้กับการสละโสดของเพื่อนสาวในครั้งนี้โดยมีเธอที่ดื่มบ้างเป็นบางครั้งเวลาโดนขอชนแก้ว


                เธอส่ายหน้าเมื่อเห็นบรรดาเพื่อนๆ เริ่มปล่อยความแก่โดยการลุกออกไปเต้น ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเมื่อหวนนึกถึงสมัยเรียน...เป็นช่วงวัยที่ไม่ต้องคิดหรือสนใจอะไรให้มากนักนอกจากใช้ชีวิตให้สนุกไปตามที่หัวใจตนเองต้องการ


                อันที่จริงเธอในตอนนั้น...มีความสุขมากเลย


                นัยน์ตากลมโตลอบเบนสายตาไปยังร่างสูงของธาวิน เขายังคงเป็นผู้ชายที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเพื่อนฝูงอยู่เสมอเช่นเดียวกับสมัยเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย


                เราสองคนเรียนกันคนละคณะก็จริง...แม้จะดูเป็นไปได้ยากในการเจอกัน แต่วิชาเรียนรวมในปีแรกของการเรียนในระดับอุดมศึกษานั้นทำให้เราทั้งสองคนรู้จักกัน อีกทั้งกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอยังคงเป็นเพื่อนโรงเรียนเดิมกับเขา จึงเป็นไปได้ที่เราจะเริ่มรู้จักกันและสนิทกันเป็นกลุ่มมากยิ่งขึ้น


                จนกระทั่งเมื่อสิ้นสุดการสอบปลายภาคเทอมสุดท้ายของปีหนึ่งเธอและเขาจึงได้ตกลงเลื่อนสถานะความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นคนรัก


                ด้วยความที่ธาวินเป็นที่รู้จักของบรรดารุ่นพี่ทั้งในและนอกคณะด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดี รวมถึงหน้าตาจัดว่าดีมาก อีกทั้งยังเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย เรื่องการคบกันของเธอและเขาจึงกลายเป็นที่พูดถึงของกลุ่มคนในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะสาวๆ


                ความสัมพันธ์ของเราสองคนถ้าจะให้นิยามมันก็คงจะนิยามได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และสดใส เพราะความอ่อนวัย...การใช้ชีวิตโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใดนอกจากการเรียน ไม่ต้องคิดให้มากเช่นวัยผู้ใหญ่


                เราใช้หัวใจนำทางมากกว่าเหตุผลใดๆ


                ในระหว่างที่คบกัน เราทะเลาะกันบ่อยก็จริง แต่ทุกครั้งเราก็กลับไม่สามารถเลิกกันอย่างที่ปากบอกได้สักครั้ง ต่อให้ทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นก็กลับมาคืนดีกันจนเพื่อนๆ ต่างส่ายหน้า


                เราไม่เคยคิดเลยว่าการทะเลาะกันและกลับมาคืนดีกันทุกครั้งนั้นในแต่ละครั้งมันกลับทิ้งรอยร้าวเล็กๆ เอาไว้ นับวันมันก็กลายเป็นรอยร้าวมากเกินกว่าจะประคองไม่ให้มันแตกสลาย


                “มึงไม่คิดจะออกไปเต้นรึไง”


                “ไม่เอา” ดารัณส่ายหน้าเมื่อเพื่อนเดินกลับมาออกปากชวน


                “งั้นเฝ้าโต๊ะไปนะคะ” เธอหยักหน้าตอบรับก่อนจะมองตามเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่วาดลวดลายเต้นกันอยู่บริเวณตรงกลาง


                ครืน


                โทรศัพท์เครื่องบางของเธอสั่นเตือนเมื่อมีข้อความเข้า มือเรียวขาวเอื้อมไปหยิบมันมาก่อนจะเปิดดู แล้วก็ต้องชะงักไปราวกับโดนสาปเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งมา


                สรุป...นี่โดนบอกเลิกเพราะอะไรเหรอวะ


                ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่ออ่านข้อความจากธาวิน


                เธอเงยหน้าจากหน้าจอเพื่อกลับไปสบตากับเขาผ่านความสลัวของแสงไฟภายในสถานบันเทิง นัยน์ตาคู่คมคู่นั้นเธอจดจำมันได้ดี


                กลายเป็นเธอเองที่ยอมแพ้...เบนสายตาออกมาด้วยหัวใจที่สั่นไหว


                ห้ามเด็ดขาดนะดารัณ


                หลายปีที่ผ่านมาเธอทำมันได้ดีมาตลอด


                ไม่ตอบ?


                ข้อความถูกส่งมาเรื่อยๆ ทำเอาเธอนิ่วหน้า ก่อนจะเริ่มคิดว่าเขาน่าจะเริ่มเมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


                คุยกันหน่อยไม่ได้รึไง เธอแม่งใจร้าย


                เป็นอีกครั้งที่เธอเลือกที่จะเมินเฉยข้อความจากเขา เช่นเดียวกันเมื่อหลายปีก่อนที่ธาวินเพียรพยายามในการง้องอน


                ใจร้ายจริงๆ ด้วยว่ะ


                ข้อความสุดท้ายที่ส่งมาถูกเธอเปิดอ่าน ก่อนที่ร่างสูงของเขาจะลุกขึ้น และทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดนั่นคือการเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างกายเธอ


                “ไทม์”


                “อ้อ...ยังจำกันได้ด้วย”






    **************************

    ยังรักเค้าแหละเลยไปหาเรื่องเค้า

    ดูออก

    :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×