คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : TIME TO LOVE :: CHAPTER 1 [50%]
CHAPTER 1
Our Love
พิธีเช้าจบลงท่ามกลางความชื่นมื่นของแขกเรื่อทุกวัย
และเนื่องจากกลุ่มเพื่อนที่ถือโอกาสใช้วันลาการมางานแต่งเพื่อนนั้นจึงถือโอกาสใช้จังหวะนี้ในการนั่งรำลึกความหลังกันท่ามกลางบรรยากาศกลางสวนอันร่มรื่น
รวมทั้งวางแผนต่อว่าจะออกเที่ยวกลางคืน
ยามเย็นจึงไลน์ตามเพื่อนในกลุ่มที่แยกกันพักผ่อนอยู่ภายในโรงแรมที่เจ้าบ่าวเป็นหุ้นส่วนอยู่ให้ออกมารวมกลุ่มกัน
สวนที่เต็มไปด้วยพรรณไม้ต่างๆ
ถูกประดับประดาไปด้วยไฟสีสลัวสร้างบรรยากาศให้กับผู้ร่วมงานเลี้ยงให้รื่นรมย์มากยิ่งขึ้น
ดารัณออกมาเป็นคนเกือบสุดท้ายด้วยใช้เวลาในช่วงบ่ายเขียนงานส่งบก.
เธอเป็นนักเขียนมือทองที่กำลังเป็นที่นิยมในเวลานี้
จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะงานยุ่งและหัวหมุนเป็นพิเศษ
“มาแล้วเหรอคะแม่นักเขียนมือทอง”
“ขอโทษที
คุยงานกับพี่นุชอยู่ถึงมาช้า”
ดารัณออกปากเอ่ยขออภัยเพื่อนที่รั้งรอดด้วยความเกรงใจ เมื่อเห็นที่ว่างข้างกายแดนนี่ยังคงถูกเว้นว่างเอาไว้ให้กับเธอ
“ฉันยังเคืองที่หล่อนแย่งช่อดอกไม้ฉันไปอยู่นะ”
คนเคืองออกปากจิกกัดแต่ยอมขยับตัวไปรับแก้วเครื่องดื่มให้นักเขียนสาวที่นั่งลงพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
“ขอโทษนะคุณแดนนี่
คนจะมีสามีอะไรก็คงฉุดไม่อยู่” ด้วยความหมั่นไส้เพื่อน ดารัณจึงอดโต้กลับไปไม่ได้
และเพราะการโต้ตอบนี้เองจึงได้เรียกเสียงหัวเราะให้กับกลุ่มเพื่อนที่นั่งโต๊ะตัวยาวฉลองให้กับบ่าวสาวกันอยู่
หลายคนจึงหันมาให้ความสนใจฉันกับแดนนี่ที่เริ่มเปิดฉากการปะทะคารมกัน
“ก่อนจะมีสามี
หาแฟนให้ได้ก่อน”
เพื่อนผู้รู้ว่าเธอยังคงโสดสนิทหันมาค้อนจนตาคว่ำและกล่าวประโยคดูถูก
แต่กลายเป็นว่าเพื่อนคนอื่นกลับเข้าข้างเธอและออกปากให้แทน
“ดูถูกกันจริงนะ
รัณอาจจะซุกแฟนไว้ที่กรุงเทพก็ได้นะ เห็นพักหลังไม่ค่อยมาเจอเพื่อนฝูงเลย”
นั่นเพราะงานเขียนดึงเวลาเธอไปเยอะมากต่างหาก
เธอมองค้อนเอกภพที่หันหน้ามาเอ่ยปากแซว...และเพราะการหยอกล้อนั้นของเจ้าของใบหน้าตี๋ผู้ชื่นชอบในการกลั่นแกล้งเพื่อนเป็นพิเศษเธอจึงกลายมาเป็นผู้ได้รับความสนใจจากกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ในทันที
ให้ตายเถอะ
เธอไม่ชอบมันเลยสักนิดกับสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
โดยเฉพาะแววตาคมกล้าเป็นประกายคู่นั้น
“ว่าไงคุณนักเขียน
ต้องเฉลยแล้วไหมว่าตอนนี้โสดหรือไม่โสด”
“ตลกแล้วเอก”
“ก็เห็นหลายคนอยากรู้”
หลายคนที่กลายเป็นผู้อยากรู้ทำเพียงยกยิ้มด้วยความรื่นรมย์ก่อนจะยินยอมพยักหน้าเออออเห็นด้วย
“เออใช่
ตอนแรกกูคิดว่าคู่นี้แม่งแต่งก่อนเพื่อนแน่ๆ” เพราะคำกล่าวว่า ‘คู่นี้’ ของเตตะวันนั้นกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกันนานก็เงียบลงราวกับพร้อมใจกันรอดูปฏิกิริยาของเธอและใครอีกคนที่นั่งเยื้องเธอไปอีกหลายคน
เตตะวันผู้ยังคงความเป็นเหยี่ยวข่าวประจำกลุ่มได้เป็นอย่างดีเอ่ยถามราวกับคำถามนั้นเป็นคำถามง่ายๆ
ที่ใครก็สามารถตอบได้
และแสร้งไม่รับรู้บรรยากาศอันน่าอึดอัดของอดีตคู่รักที่เคยหวานชื่นและเป็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในระหว่างเรียน
ดารัณเลือกที่จะแสร้งมองไม่เห็นความอยากรู้ของเพื่อนๆ
เธอยังคงยกยิ้มเล็กน้อยราวกับสิ่งที่คนถามนั้นไม่ใช่เรื่องของตน
เขายังคงไม่ตอบ
เช่นเดียวกับเธอที่ยังเงียบ
เลยกลายเป็นว่าคนถามกลับต้องหัวเราะกลบเกลื่อนอาการเก้อของตัวเอง
“ยังไม่คุยกันอีกเหรอวะ
เลิกกันมาหลายปีแล้วนะ”
“มึงนี่ก็นะไอ้เต”
แดนนี่ที่เห็นความอึดอัดของเพื่อนจึงได้แต่ออกปากด่าคนปากสว่างให้
“เออๆ
ไม่ตอบก็ไม่ตอบ กูแค่เสียดาย คิดว่าจะได้ไปงานแต่งมึงสองคนเป็นคู่แรกซะอีก”
เธอยังคงใช้ความเงียบในการกลบเกลื่อนทุกอย่าง โชคดีหลายปีที่ผ่านมาเธอถูกถามคำถามนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะหลายคนย่อมอยากรู้
เธอจึงยังคงนิ่งและวางสีหน้าได้เป็นปกติ
แต่ในจังหวะที่ทุกคนกำลังจะกลับไปสนใจสิ่งที่เคยทำอยู่ก่อนหน้านั้น
เจ้าของเสียงทุ้มที่เธอยังคงจดจำมันได้ดีก็ส่งเสียง
หลังจากนั่งยกแก้วแอลกอฮอล์อยู่โดยไม่สนใจตอบคำถามอยู่นาน
“กูก็ยังไม่รู้เลยว่ากูถูกทิ้งเพราะอะไร”
************************
นั่นสิคะ
เลิกกันทำไม?
:)
ความคิดเห็น