คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : TIME TO LOVE :: INTRO
TIME TO LOVE
เวลารัก
เชียงราย,ประเทศไทย
เสียงเพลงแว่วหวานเริ่มบรรเลงเมื่อถึงฤกษ์งามยามดี นัยน์ตากลมโตเป็นประกายอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าบ่าวผู้ก้าวขึ้นมายังด้านหน้า ชุดแต่งงานไทยประยุกต์แบบล้านนาสีงาช้างเสริมสร้างบุคลิกอ่อนโยนของเขาได้เป็นอย่างดี
ภายใต้ทรงผมและใบหน้าที่ถูกช่างแต่งหน้าของเจ้าสาวจับแต่งยิ่งสร้างความเปล่งประกายให้เจ้าบ่าวของงานมากขึ้นไปกว่าเดิม
ดารัณยกยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่าทีประหม่าภายใต้สีหน้ายกยิ้มเล็กน้อยตามนิสัยเจ้าตัว ก่อนจะหันไปมองยังเจ้าสาวที่เดินควงบิดามาตามทางเดินที่ถูกโรยด้วยกลีบดอกไม้
ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของเพื่อนยิ่งสร้างความปลื้มปีติให้แก่เพื่อนสนิทของเจ้าสาวเช่นเธอเป็นอย่างมาก ด้วยรู้ดีว่าเพื่อนแต่งให้กับคนที่รักมาก และได้เวลาสร้างครอบครัวด้วยกันแล้วหลังจากคบกันมานานหลายปี
“สวยมาก” ดารัณขยับปากบอกเพื่อนพร้อมกับรอยยิ้ม สร้างความพอใจให้กับเจ้าสาวในชุดสีงาช้างแบบทางเหนือที่ทอมือด้วยความประณีตยกยิ้มเขินอายกลับมา
พิธีกรของงานซึ่งก็คงไม่พ้นเพื่อนในกลุ่มก๊วนด้วยกันกับบ่าวสาวสมัยเรียนเริ่มออกปากแซวผ่านไมค์ลอยที่เจ้าตัวถือเอาไว้ แน่นอนว่าแขกผู้ใหญ่ต่างอมยิ้มกับการหยอกล้อนั้น
งานแต่งของเพื่อนเธอถูกจัดขึ้นที่บ้านเกิดของเจ้าสาว ด้วยอยากให้ทางผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าบ่าวและเพื่อนๆ ได้มาสัมผัสอากาศเย็นของทางตอนเหนือของประเทศไทยในเดือนมกราคม
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหวานชื่นยิ่งสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนภายในงาม สายตาทุกคู่ต่างมองไปยังบ่าวสาวที่กำลังกล่าวคำสัญญาและบอกรักกันด้วยแววตาหวานซึ้ง
เธอยกกล้องถ่ายรูปของตนเองขึ้นมาถ่ายก่อนจะกดบันทึกภาพความทรงจำของเพื่อนสนิทตนเองเอาไว้ผ่านเลนส์กล้องคู่ใจ
เมื่อเก็บภาพจนหนำใจแล้วจึงได้เลื่อนกล้องลง เป็นจังหวะเดียวกับที่ตากล้องของงานที่นั่งอยู่เยื้องอยู่ด้านหลังบ่าวสาวขยับตัวลดกล้องลงจากใบหน้า
นัยน์ตาสองคู่สบกันในจังหวะที่เธอไม่อาจหลบได้ทัน...ราวกับจังหวะเวลาถูกหยุดเอาไว้เมื่อหัวใจของเธอมันดันเผลอเต้นแรงขึ้นมาแบบห้ามไม่อยู่
นานแค่ไหนกันนะที่ไม่ได้เจอกัน
เธอกับเขา...นับตั้งแต่วันนั้นก็ทำเหมือนเราทั้งคู่ตายจาก
แม้จะยังคงอยู่ในกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ยังคงความสัมผัสแบบเหนียวแน่นหลังจากเรียนจบมาหลายปีแล้วนั้น แต่เธอและเขาต่างไม่เคยได้เจอกันเลยในวันนัดรวมกลุ่มกัน
มีเธอย่อมไม่มีเขา และแน่นอนว่ามีเขาย่อมไม่มีเธอ
“เอาล่ะครับ ถึงเวลารับช่อดอกไม้แล้ว สาวๆ ที่ยังโสดเรียนเชิญครับ” แม้งานแต่งจะถูกจัดทางเหนือ แต่พิธีการต่างๆ นั้นเจ้าสาวยังคงอยากได้แบบที่ใจตัวเองต้องการ
ดารัณกระพริบตาก่อนจะเบนสายตากลับไปให้ความสนใจกับบ่าวสาวเจ้าของงาน และก่นด่าตนเองอยู่ภายในใจด้วยเผลอแสดงความหวั่นไหวแบบที่ไม่น่าให้อภัย
“ลุกสิคุณดารัณ”
“ไม่เอา พวกแกไปเลย”
“อย่าบอกนะว่าไม่โสดอีกคนแล้ว กะเทยไม่ยอมนะคะ” ดารัณมองค้อนเพื่อนตัวดีที่หวีดร้องเสียงดังมากกว่าโทนปกติไปมากหน่อย ก่อนจะยอมลุกขึ้นแบบช่วยไม่ได้เมื่อโดนกล่าวหาด้วยข้อหาร้ายแรงว่าไม่โสดแล้ว
“โยนมาทางนี้นะชะนี!” แดนนี่ หรือชื่อเดิมดรุพลตะโกนบอกเจ้าสาวที่กำลังฉีกยิ้มกว้างมองบรรดาเพื่อนๆ ที่รวมกลุ่มกันอยู่ด้วยแววตาสนุกและเปี่ยมสุข
“เตรียมรับนะกะเทยจะได้มีผัวเหมือนคนอื่นสักที” เสียงหัวเราะดังขึ้นหลังจากเจ้าสาวกล่าวจบ ดารัณทำเพียงส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มหน่ายใจกับความปากร้ายของเพื่อนในกลุ่มที่ยังคงเป็นเช่นเดิมเสมอทั้งที่อายุเฉียดใกล้เลขสามเข้าไปทุกที และแต่ละคนมีหน้าที่การงานที่หากลูกน้องมาเห็นเข้าคงหมดความน่าเชื่อถือ
“อย่าลีลาค่ะชะนี เพื่อนหล่อนอยากมีผัวแล้ว ตามันร้อนไปหมดเพราะงานแต่งหล่อน!” เสียงหยอกล้อกันของเพื่อนบ่าวสาวสร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
ร่างเจ้าสาวส่งสัญญาณบอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลัง เธอมองแผ่นหลังเล็กของเพื่อนและเตรียมตัวเปิดทางให้กับแดนนี่ ร่างบอบบางจึงขยับเพื่อเบี่ยงไปยังด้านซ้าย แต่ในจังหวะที่กำลังหันไปเรียกแดนนี่ให้ขยับขึ้นมาแทนที่เธอ เสียงหวีดร้องพร้อมกับช่อดอกไม้ที่ลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศกลับมาหล่นตุบที่เธอ โดยมีปฏิกิริยาจากตัวเธอเองที่อ้าแขนรับไว้ได้อย่างสวยงาม
นัยน์ตากลมโตเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึงเมื่อเห็นดอกไม้ชื่อเล็กที่จัดเข้าช่อด้วยความสวยงามที่อยู่ในมือตนเองนั้น
“ชะนี...หล่อนจะทิ้งฉันไปอีกคนไม่ได้!” ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของแดนนี่ ผู้ที่ถูกทำนายว่าจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไปจึงทำได้เพียงเบิกตากว้างและยืนถือช่อดอกไม้ด้วยความงุนงงเพียงเท่านั้น
******************
ฝากติดตามด้วยนะคะ
ความคิดเห็น