คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : น่านฟ้า :: Intro
น่านฟ้า
‘สวยมักนก...ตลกมักได้ แต่ถามหน่อยเถอะ
ทั้งสวยและตลกขนาดนี้ทำไมถึงได้อาภัพรักนัก!’
เฮงซวย!
ฉันยืนแข็งค้างมองสองร่างที่กำลังมีความสุขกันอย่างหน้าไม่อายที่
‘รังรัก’ ของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘แฟน’ ของฉัน สองมือกำถุงเค้กที่ลงทุนให้คุณแม่สอนเป็นครั้งแรกแน่นจนมันสั่นไปหมด
ไม่รู้ว่าเพราะความรู้สึกร้อนรุ่มในใจที่มันกำลังแผดเผาหรือเพราะความรู้สึกโกรธที่มีมากกว่ากันในตอนนี้
ฉันจึงทำได้เพียงแค่...ยืนตัวสั่นอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน...ทั้งๆ ที่ฉันควรต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้สองคนที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่บนโซฟาได้รู้ตัวว่ากำลังมี
‘แขกที่ไม่ได้รับเชิญ’ ยืนดูอยู่
“อื้อ!”
โง่ดีนะ
“จอม...เบาหน่อยเดี๋ยวมิ้นท์ต้องไปเรียนตอนบ่าย
งื้อ!”
“แล้ว...วันนี้...วันเกิดจอม
เราต้อง...อื้อ! ไปถือเค้กให้ไหม
เผื่อฟ้าไม่...ไป” ฉันเหยียดยิ้มให้กับประโยคสุดหวังดีนั่น
ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นโง่มากแค่ไหนถึงได้ไม่เคยรับรู้เลยว่า ‘เพื่อนสาวที่แสนดี’ กำลังร่วมมือกับ ‘แฟนที่แสนเลว’ หักหลังฉันได้หน้าชื่นขนาดนี้
“ฟ้าไม่ไปหรอก”
“แต่วันนี้วันเกิดจอมนะ...แฟนจะไม่ไปได้ยังไงกัน”
ฉันมองร่างเล็กที่กำลังนั่งคร่อมตักเจ้าของห้องอยู่แล้วก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าเพื่อนฉัน...เพื่อนสาวที่แสนดีจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับฉันได้ลงคอเชียวหรือ
ตลอดเวลาสามปีที่รู้จักกันมา...ทำได้ลงจริงๆ เหรอวะ!
แล้วตอนนี้ฉันต้องรู้สึกยังไง...โกรธ
เกลียด หรือสมเพชตัวเองดี
อย่ามาอ้างว่าอารมณ์ชั่ววูบเพราะทำกันแบบนี้มันไม่น่าจะเรียกได้ว่าอารมณ์ชั่ววูบนอกจากจะเรียกว่า
สันดานเสีย!
“ฟ้าไม่ชอบไปเที่ยวที่แบบนั้น”
เฮอะ! น้ำเสียงห้าวที่คุ้นเคยพึมพำตอบกลับเพราะตอนนี้ง่วนอยู่กับการซุกซอกคอขาวผ่อง
ฉันจิกเล็บเข้าไปที่ฝ่ามือก่อนจะจ้องมองสองคนที่คุ้นเคย...ถึงเวลาต้องแสดงตัวแล้วรึเปล่านะ
“แย่เนอะ
วันเกิดแฟนทั้งที” โอ้โห...ไม่บอกก็ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าเพื่อนฉันหวังดีกับฉันขนาดนี้!
ต่อหน้าก็ดูเรียบร้อยแสนดีที่ไหนได้...ลับหลังเป็นคนแบบนี้เองเหรอ
“จอม...แล้ว...อื้อ!” ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากยืนอยู่ที่เดิม
จากที่เคยอยากตรงเข้าไปหระชากร่างสองร่างให้แยกออกจากกันแล้วลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ความรู้สึกของตัวเองบ้าง
แต่...ก็เหมือนเคย
ฉันยังคงโง่ยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกไปทั้งนั้น...ไม่มีแม้กระทั่งน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความเสียใจจากการถูกหักหลังจากคนทั้งสองคนที่ฉันรัก
ไม่สิ...แกคิดเองว่าสองคนนั้นรักแกทอฟ้า!
“อื้อ! จอม...อ๊ะ!
ฟ้า!” นัยน์ตาหวานของ ‘ใบมิ้นท์’ เบิกกว้างขึ้นมาในจังหวะที่เจ้าหล่อนขยับตัวขึ้นเพื่อถอดชุดนอนสุดวาบหวิวให้ออกจากร่าง
เราสองคนสบตากันก่อนคุณเพื่อนฉันจะกรีดร้องและลนลานขยับร่างออกจากร่างสูงที่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่ากำลังแสดงสีหน้าอะไรเพราะเจ้าตัวหันหลังอยู่
“ฟ้าคือมัน...”
จอมปลอม!
มองดูก็รู้ว่าไอ้อาการลนลานและแสดงออกทางสีหน้าว่ากำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อต่อหน้าฉันเนี่ยมันจอมปลอม...ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ!
เธอไม่ได้เสียใจเลยสักนิดกับการกระทำ
ติดว่าฉันมองไม่เห็นแววตาสะใจที่เผลอแสดงงออกมาตอนเราสบตากันงั้นเหรอคุณเพื่อน
ถึงฉันจะเคยโง่...แต่ตอนนี้เลิกโง่แล้ว
“ฟ้ามันไม่ได้”
“จะบอกว่ามันไม่ได้มีอะไรเหรอมิ้นท์
แกคงคิดว่าฉันมันโง่ขนาดมองไม่ออกเลยเหรอว่าพวกแกกำลังทำอะไรกัน”
“ฟ้า!”
“ตอแหล
แกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงมิ้นท์ ฉันเป็นเพื่อนแกไม่ใช่เหรอ!”
“ฉัน...”
“เพื่อนกันเค้าทำกันแบบนี้
ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่าแกมันจอมปลอม!”
“ทอฟ้า!”
“เลว...เลวทั้งคู่”
ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนด่าสองคนอยู่ที่เดิม ใช่...ตอนนี้ไม่มีแม้แต่น้ำตาที่ไหลออกมาจากตาฉันเลยสักนิด
ผิดกับเพื่อนสาวตรงหน้าที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
ควรเป็นฉันไม่ใช่เหรอที่ต้องเสียใจ
ที่ต้องยืนร้องไห้อยู่ตรงนี้คือคนที่ถูกหักหลัง...!
“ฉันทำเค้กมาให้”
โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมาเจอเข้ากับความจริงบางอย่าง...แหม โง่อยู่ตั้งนานนะทอฟ้า!
“มาคุยกันหน่อย”
เสียงผู้ชายคนเดียวในห้องทำเอาฉันตวัดสายตากลับไปมอง...ใบหน้าหล่อเหลามีร่องรอยของความไม่ชอบใจแสดงออกผ่านสีหน้าที่มักจะเรียบเฉย
“คงไม่ต้องมีอะไรต้องคุยแล้วล่ะ”
“ฟ้า”
“อย่ามาเรียกชื่อฉัน!” ฉันขยับถอยหลังเมื่อจู่ๆ
ร่างสูงก็เดินย่างสุ่มเข้ามาหา
ถุงเค้กที่อยู่ในมือถูกปาออกไปด้วยแรงอารมณ์และเพื่อหยุดการคุกคาม
‘จอมทัพ’
ก้มมองถุงเค้กที่เละไม่มีชิ้นดีด้วยแววตาที่ฉันมองไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แต่ไหนแต่ไรมาจอมไม่ใช่คนที่ชอบแสดงออกอะไร หรือเป็นฉันเองที่ไม่ได้ใส่ใจมากอในการอ่านความหมายของสายตาคู่คม
“อย่าเข้ามา!”
“ฟ้า”
“เลิกกันเถอะจอม”
“บอกว่าอย่าพูดคำนั้นออกมาไง”
“แกกล้าทำแบบนี้กับเราแล้วแกยังจะกล้าเรียกร้องอย่างหน้าไม่อายอีกเหรอจอม! นั่นเพื่อนเรานะ
เพื่อนสนิทเลยด้วย
แกกับมันทำอะไรลับหลังเราขนาดนี้แกยังมีหน้ามาพูดแบบนี้กับเราอีกเหรอ! เลวเกินไปไหม!”
“ฟ้า
ฉันอธิบายได้”
“ไม่ต้อง!
ฉันไม่อยากรู้เท่าไหร่ว่าตัวเองโง่ขนาดไหน”
ฉันตวัดสายตาไปมองใบหน้าสวยหวานที่เป็นเพื่อนกันมาเนิ่นนาน
“หลังจากนี้เราอย่ามาเป็นเพื่อนกันอีกเลยนะมิ้นท์
เจอหน้ากันก็ไม่ต้องมาทักทาย อยู่ให้ห่างกันเข้าไว้” ฉันเชิดหน้าขึ้นก่อนจะหันไปมองหน้าผู้ชายคนเดียว
“อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีก”
“เพราะเธอเป็นแบบนี้ไงฟ้า
ชอบใช้อารมณ์เป็นที่หนึ่ง”
“แล้วแกจะให้เราทำยังไงเหรอจอม
ฟังแก้อธิบายน่ะเหรอ ตลก!
และต่อให้เราชอบใช้อารมณ์แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์เอาความรัก ความไว้ใจของเราไปเหยียบย่ำแบบนี้
นับจากนี้เราสองคนอย่าได้มาข้องเกี่ยวกันอีก อยากจะรักกันขนาดไหนก็เชิญ!”
ฉันเชิดหน้าขึ้นก่อนจะกวาดตามองสองร่างที่ฉันเคยให้ความรักความไว้ใจแล้วถูกทำลายทิ้งอย่างย่อยยับราวกับมันช่างไร้ค่า!
“เราจะถือว่าเราปล่อยควายกับควายไปอยู่ด้วยกัน!”
พอกันที...นับจากนี้ฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว
“โทรเรียกมาที่คิดว่ากูเป็นคนขับรถเหรอวะฟ้า”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองรถคันหรูที่ขับเทียบเข้ามาจอดอยู่ด้านหน้า ก่อนจะมองใบหน้าของ ‘คนขับรถส่วนตัว’ ที่ฉันโทรเรียกให้ออกมาทันทีที่ก้าวขาออกจากห้องนั่น
“เงียบ
นี่กำลังกวนตีนอยู่ช่ะ?”
“ก็เฮียน่านเป็นคนบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรหา”
เฮีย ‘น้ำน่าน’ กวาดตามองสภาพใบหน้ากวนตีนแบบหน้าตายแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปากเรียกฉันให้ขึ้นรถ
“ขึ้นมา”
ฉันจึงยอมลุกขึ้นเดินไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย
หลังจากปิดประตูรถเรียบร้อยแล้วเฮียน่านก็ยังคงไม่ยอมออกรถ
คนขับทำหน้ายุ่งกับอาการนิ่งเงียบผิดวิสัยของฉันก่อนจะยอมเอ่ยปากถาม
“แล้วจะไปไหน
กลับบ้านเลยไหม?”
ฉันหันไปมองเฮียน่านก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกว่าขอบตาตัวเองกำลังร้อนอย่างห้ามไม่อยู่
แค่เฮียถามว่าจะไปไหน...ทำไมต้องอยากร้องไห้ด้วยนังบ้า! ฉันก่นด่าตัวเองในใจก่อนจะหลุดปากเอ่ยประโยคบ้าบอออกมา
“คนที่เลิกกับแฟนเค้าต้องไปไหนกัน”
เพราะตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับบ้านด้วยสภาพจิตใจที่กำลังหม่นหมองได้รึเปล่า
ถ้าไปเจอแม่ในตอนนี้...ฉันต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ
“ฮะ?”
“ไปทะเลก็แล้วกัน
มีคนเคยบอกว่าถ้าอกหักให้ไปตะโกนดังๆ ที่ทะเล งั้นเราไปทะเลกัน”
มาค่ะ ไรท์คัมแบคคคคคคคคค
และเฮียน่านก็คัมแบคเช่นกันนนนนนนนนนนน
อย่างที่แจ้งเอาไว้ที่เพจนะคะว่าจะกลับมาอัพสองเรื่องของเฮียน่านและเฮียเหนือให้เพราะไรท์แต่งไว้เกินครึ่งแล้ววววว
ใครรอบ้าง เม้นต์มาหวีดเฮียน่านหน่อยเร็ววววววว
ความคิดเห็น