ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BJIN) Just Another Boy ที่รัก รักผมเถอะครับ

    ลำดับตอนที่ #10 : chapter ten ตีตัวออกห่าง

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 57


    CHAPTER 10



     

    “ห้ะ มึงจะปรึกษากูเรื่องอะไรนะ” ไอ้นัมพูดเสียงดังหลังจากผมขอคำปรึกษาไป

    “มึงก็เบาๆเด้ กูคิดผิดหรือถูกที่มาถามมึงเนี่ยย - -

    “เออถามมาๆกูไม่บอกใครหรอก”ไอ้นัมทำท่ารูดซิบปาก

    “ถ้าสมมติมึงเกลียดขี้หน้าคนนึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าอ่ะ แล้วทีนี้มึงเจอเขาทุกวันได้คุยกัน

    แล้วมึงมีโอกาสจะพัฒนาความสัมพันธ์มั้ยวะ”

    “ก็คงต้องขึ้นกับนิสัยเขามั้ง จะบอกว่ามีโอกาสก็มี จะว่าไม่มีก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์อ่ะมึง”

    “แล้วคนที่มีความรักนี่อาการมันเป็นยังไงวะ”

    “นี่มึงมีความรักปะเนี่ย” แทฮยอนหันมาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

    “ป๊าวววว กูแค่อยากรู้”

    “แน่ะเสียงสูงเชียวนะเมิงง”

    “เปล่า ถ้ามึงไม่ตอบกูก็ไม่เป็นไร” จริงๆนะครับ ผมไม่ได้มีความรักอะไรเลยจริงจริ๊งงง

    “ถ้ามึงเจอเขาแล้วใจสั่น หรือใจเต้นแรง หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่มึงหน้าแดงตอนอยู่ต่อหน้าเขา

    แสดงว่ามึงปิ๊งเขาแน่ๆว่ะ ตามทฤษฎีกูเองอ่ะนะ”

    “เออขอบใจมาก กูไปเรียนต่อละ” ผมลุกขึ้นเก็บกระเป๋า

    “มึงบอกมาเลยมึงกำลังชอบใครอยู่วะ” ไอ้แทหันมาเซ้าซี้

    “จะใครซะอีก ก็ไอ้ฮันบินนั่นไง กูเห็นมันมารับทุกวันเลยนิ” ไอ้ซึงยูนที่มาแอบฟังตอนไหนไม่รู้ตอบขึ้นมา

    “พ่องงง กูไม่ได้ชอบมันสักหน่อย” ผมเถียงกลับทันที

    “มึงเคยด่าว่ากูปากแข็งแต่มึงนี่แม่งปากแข็งกว่ากูเยอะ” ไอ้แทบ่น

    “อย่าคิดนะว่าเมื่อคืนกูไม่เห็นมึงกับไอ้เด็กนั่นน่ะ พอเข้าบ้านมากูเห็นมึงยิ้มจนแก้มแทบจะฉีก” ซึงยูนเสริม

    “ มึงเมาจะไปรู้อะไร ยิ้มเยิ้มอะไรมึงอาจจะเบลอก็ได้”

    “กูเมาก็จริงแต่กูก็ตื่นขึ้นมาเห็นตอนมึงคุยกับมันละกัน” ซึงยุนยักคิ้วกวน ไอ้เพื่อนคนนี้มันเห็นทุกช็อตเลยปะเนี่ยย

    “เออ เอาจริงๆนะเว้ย กูไม่แน่ใจว่ากูชอบหรือไม่ชอบเด็กนั่น กูเริ่มสับสนว่ะ” ในที่สุดผมก็ต้องเปิดใจคุยกับพวกมัน

    ถ้าขืนเก็บไว้คนเดียว มีหวังผมได้บ้าตายแน่

     

     
     


    [hanbin’s part]

     

    เมื่อคืนตอนผมให้ของขวัญจินฮวานฮยอง ผมแอบเห็นฮยองยิ้มด้วยตอนเจอผมอ่ะแต่ฮยองก็พยายามกลบเกลื่อนความดีใจของตัวเองด้วยการก้มหน้าขมวดคิ้วแทน แต่ยิ่งทำอย่างนั้นยิ่งโคตรน่ารักเลยครับ ><

    ผมก็หวังว่าสักวันนึงฮยองเขาจะยอมคบกับผมสักทีนะ บางทีผมก็มาไกลเหลือเกิน

     

    ผมกำลังเดินไปที่ลานจอดรถ เห็นคนตัวเล็กๆยืนอยู่ข้างรถ นั่นใครน่ะ แต่พอเห็นเฝือกที่ข้อเท้าอีกคนผมก็จำได้ทันที คนที่ผมอยากเจอทุกวันนั่นไงครับ


    “ฮยองยังไม่หายดีเลย ไปเรียนมาเหรอ”

    “อืม”

    “ทำไมวันนี้มาหาผมได้เนี่ย คิดอะไรกับผมแล้วใช่ปะ”

    แต่คนตัวเล็กตรงหน้าก็ไม่ยอมตอบ เดินเข้ามาใกล้ แล้วก็จ้อง


    “ฮยองมามุขไหนเนี่ย จู่ๆมาจ้องกันงี้ผมเขินนะเนี่ย ฮ่าๆ” ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า สังเกตเห็นแก้มฮยองตอนนี้เริ่มแดงแล้วล่ะ


    เมื่อไหร่ก็ตามที่มึงจ้องตามันได้เกินสามสิบวิโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย คือมึงไม่ได้ชอบมันเลย แต่ถ้ามึงเขินหน้าแดงก็นั่นแหละ

    คำพูดของเพื่อนเขาผุดอยู่ในหัวของคนตัวเล็ก ทำให้เขาต้องมาพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง

    แต่เพียงไม่กี่วินาทีเจ้าตัวก็หน้าแดงซะงั้น


    “ฮยองหน้าแดงแล้วนะเนี่ย เอาแต่จ้องผม คิดอะไรหื่นๆปะเนี่ย”

    “บ้าน่า!!” คนตัวเล็กละสายตาออกจากคนตรงหน้าทันที

    “แต่ฮยองหน้าแดงจริงๆนะ” ผมบอกและจิ้มแก้มฮยองเบาๆ

    “กลับบ้านเถอะ” คนตัวเล็กปัดมือผมออกแล้วหันหน้าเข้ารถทันที เขินสินะ ฮ่าๆๆ

    “คร้าบคร้าบ ^^

     

    ไม่นานเราก็มาอยู่หน้าบ้านของจินฮวานฮยองแล้วครับ ผมเลยอาสาหิ้วกระเป๋าเข้าไปให้ฮยอง

    รู้สึกว่าน้องชายของฮยองก็คงยังไม่กลับมาสินะ บ้านเงียบเชียว

    “มานี่ดิ” คนตัวเล็กกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา

    “ว่าไงคร้าบบ คิดถึงผมอ่อ ฮ่าๆ”

    “มาใกล้ๆหน่อย” แล้วก็ดึงผมเข้าไปใกล้อีก

    “ฮยองมาไม้ไหนเนี่ย” จินฮวานฮยองจะคิดเล่นอะไรแผลงๆปะเนี่ย ปกติไม่เคยชอบให้ผมมาใกล้ขนาดนี้

    คนตัวเล็กไม่พูดอะไรแต่เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น เกิดมาไม่เคยใจเต้นตึกตักขนาดนี้เลยนะเฮ้ย

    ฮันบินจิเป็นลมมมม ><



    จุ๊บ

    “-3-” สัมผัสนุ่มที่ข้างแก้มจากคนตรงหน้าเนี่ยเป็นอะไรที่ฟินอย่างไม่น่าเชื่อเลยหละ

    “0.0 ฮยองจุ๊บผมด้วย เขินจัง ><” ยอมรับว่าตอนแรกผมแอบตกใจนิดๆนะครับ ปกติฮยองไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย

    แค่ผมกอดก็จะต่อยผมแล้ว แต่นี่.. แต่ผมก็ชอบนะครับ ฮ่าๆ

    “ก็แค่หอมแก้มหละน่า อย่าคิดไปไกล”

    “ถ้าคนไม่ชอบกันเค้าไม่ทำอย่างนี้หรอก โถ่วว”

    “ตอนนี้หน้าฉันมันเป็นยังไงวะ” ฮยองยังคงถามต่อ

    “ก็..” ผมทำเป็นจ้องหน้าคนตรงหน้าที่ตอนนี้หน้าแดงไปถึงหูแล้ว “แดงเป็นมะเขือเทศเลยหละ ฮ่าๆๆ”

    “โกหกมีต่อย - -

    “พูดจริงๆ ผมจะไปหลอกฮยองทำไมเล่า -3-

    “เฮ้อ” คนตัวเล็กถอนหายใจก่อนจะเดินปิดหน้าขึ้นบันไดไป “นายกลับไปเถอะฉันจะทำงานต่อละ”

    “อ้าว ไหงไล่กันง่ายๆเงี้ยอ่ะฮยอง” ผมตะโกนตามไปแต่ไม่ยักมีเสียงตอบรับกลับมา

    ปล่อยให้ฟินแล้วก็จากไป ฮยองกำลังเล่นอะไรอยู่เนี่ย ใครก็ได้บอกผมที

     


    ร่างบางได้แต่เฝ้ามองอีกคนที่กำลังเดินขึ้นรถจากทางหน้าต่าง หลังจากรถเคลื่อนตัวออกไปแล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนทันที

    “มึงง กูว่ากูรู้สึกแปลกๆว่ะ”

    “แปลก? ยังไงวะ” ปลายสายถามเสียงเรียบ

    “กูทำตามที่มึงบอกหมดเลยนะ ตอนกูจ้องตามันรู้สึกแบบ โอยกูไม่สามารถจ้องตามันได้เกินสิบวิด้วยซ้ำ

    แล้วเนี่ยกูลองหอมแก้มแล้วแม่งรู้สึกร้อนๆที่หน้าว่ะ ทำตัวไม่ถูกว่ะ ไอ้เด็กนั่นมันยังบอกกูหน้าแดงด้วย

    กูควรทำไงวะมึง กูเครียด”

    “ฟวย มึงจะเครียดทำไม มึงชอบมันก็ยอมรับเถอะว่ามึงชอบมันอะ”

    “ใช่ที่ไหนเล่า!!

    “งั้นกูมีวิธีสุดท้าย”

    “อะไรวะ”

    “วิธีตีตัวออกห่าง”

     






    [Jinhwan’s part]

     

    วิธีตัวออกห่าง? วิธีประหลาดจากไอ้แทฮยอนที่มันไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรมาเลย

    สรุปคือผมต้องตีตัวออกห่างจากหมอนั่นใช่ปะ

    หลังจากได้คุยกับแทฮยอนผมก็เริ่มปฏิบัติภารกิจทันที

     

    ~Just let the past Just be the past And focus on things That are gonna make us last Take me as I am, not who I was … เสียงริงโทนโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่องอยู่บนโต๊ะรอให้เจ้าของมารับสาย


    “ฮัลโหล”

    “ฮยองหายไปไหน โทรไปตั้งหลายสายทำไมเพิ่งรับเนี่ย” ปลายสายรีบยิงคำถามมารัวๆทันที

    “ช่วงนี้ยุ่งๆนิดหน่อย เออเดี๋ยวไปทำงานต่อละ บาย” แล้วผมก็รีบกดวางสายทันที

    “เดี๋ยวๆ ฮยอง..”

    ตู้ดดด

     


    “ฮยอง วันนี้ไปกินไอติมกันผมเลี้ยง”

    “วันนี้ไม่ว่างว่ะ”

     


    “คืนนี้มีคอนเสิร์ตเจ๋งๆด้วย ผมได้ตั๋วมาสองใบ ฮยองจะ...”

    “โทษทีวันนี้ไปทำงานบ้านเพื่อน” ไม่ทันจะพูดจบผมก็รีบแทรกทันที

    “แต่ผมซื้อตั๋วมาแล้ว”

    “ใครบอกจะไปล่ะ แค่นี้นะ”

    ตู้ดดด

     



    “วันนี้ผมไม่เห็นฮยองเลย ไม่สบายรึเปล่า เดี๋ยวผมไปหาที่บ้าน”

    “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกละ”

    ตู้ดดด

     

     

    และเหตุการณ์แบบนี้ก็ดำเนินไปตลอดหนึ่งอาทิตย์ ผมคิดว่าผมจะไม่รู้สึกอะไรนะ แต่ทำไมมันรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆ

    หรือเป็นเพราะเมื่อก่อนผมกับหมอนั่นได้เจอกันได้คุยกันทุกวันเลยทำให้ไม่ชินหละมั้ง แต่ผมคงไม่ได้คิดถึงหมอนั่นหรอกมั้ง

    แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ในใจก็ยังรู้สึกเหงาอยู่ดีนั่นแหละ

     

    หลังจากที่ผมพยายามหลบหน้าฮันบินมาสองอาทิตย์ จู่ๆก็ไม่มีการติดต่อจากหมอนั่นอีกเลย อดคิดไม่ได้ว่าหมอนั่นจะเป็นอะไรรึเปล่านะ ผมเลยลองถามพี่ซึงฮุนดูปรากฏว่าหมอนั่นยังสบายดีทำให้โล่งอกไปที

    หรือว่าหมอนั่นมันตัดใจได้แล้วนะ ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้ไม่คิดมาก แต่ทำไมพอคิดได้อย่างนั้นมันยิ่งทำให้ผมคิดมากกว่าเดิม  จินฮวานมึงเป็นอะไรเนี่ย มันไม่ชอบมึงก็ดีแล้วไง จะคิดมากทำไมวะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×