คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความพิศวง(100%)
๒. ความพิศวง
หลายวันผันผ่านราชาเหมันต์ทรงแข็งแรงขึ้นมาก เริ่มเสด็จออกนอกตำหนัก ชมอุทยานบ้าง แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ห้องพระอักษรเพื่อตรวจตราราชกิจที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะการทำเหมืองเพชรและแร่ธาตุหลากหลายที่ต้องส่งให้กับอาณาจักรนาบู
“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์มาพะยะค่ะ”
“ให้เข้ามาสิ”
วิลล์คุกเข่าคำนับเจ้าเหนือชีวิตอย่างนอบน้อม แล้วลุกขึ้นโดยไม่ต้องรอคำอนุญาต
“ว่าไง”
“สืบได้เรื่องบางอย่างแล้วพะยะค่ะ”
“หึ...”
ราชาเหมันต์ละพระเนตรจากกองหนังสือมาที่วิลล์อย่างสนพระทัย
วิลล์กราบทูลถึงความคืบหน้าเรื่องพวกที่ลอบทำร้ายราชาเหมันต์ ว่าพบคนหนึ่งยังรอดชีวิตและหนีเข้าอาณาจักรนาบู เพื่อไปพบกับมหาอำมาตย์เอกที่องค์ราชาจักรภพวางพระทัยให้ดูแลกิจการต่างๆของอาณาจักร
“เจ้าจะบอกว่าองค์ราชาต้องการทำร้ายข้า”
“กระหม่อมเพียงสันนิษฐาน แต่ฝ่าบาทอย่าทรงลืมว่าพระองค์เป็นใครสิพะยะคะ”
“ข้าเป็นใคร”
สุรเสียงคล้ายรำคาญ
“ทรงสืบเชื้อสายจากองค์ราชาดราโก ลูกหลานแห่งตระกูลอามานีส” วิลล์ทูลเสียงหนัก “เป็นผู้ชอบธรรมในการปกครองอาณาจักรทั้งมวลที่องค์จักรภพครอบครองอยู่”
“เลิกพูดเรื่องนี้เสียที ไม่ชอบฟัง”
ราชาเหมันต์ตรัสด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แต่เป็นความจริงนี่พะยะค่ะ ที่สำคัญทางนั้นอาจจะเริ่มระแคะระคายแล้วก็ได้”
“แค่สงสัยก็อยากจะฆ่าข้าเนี่ยนะ”
“ทรงทำออกบ่อย เวลาจับพวกเชลยศึกได้”
วิลล์เหน็บ
“แล้วมันเหมือนกันหรอ พวกนั้นปลอมมาเพื่อมุ่งร้ายกับแคว้นเรา” เหมันต์ตรัสเสียงเข้ม “จะให้ปล่อยไปรึไง”
“องค์จักรภพก็สงสัยว่าพระองค์จะแย่งอำนาจ”
“อยากได้นักนี่”
วิลล์มองนายเหนือด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ใจหนึ่งก็อยากให้เจ้านายหนุ่มดำรงตำแหน่งที่ควรจะได้ แม้รู้ดีว่านั่นเป็นความเสี่ยงและภาระอันหนักยิ่ง แต่ก็อยากให้คำนึงถึงความเสียสละของพระมารดาที่อดทนเลี้ยงดูพระองค์มา อีกใจหนึ่งก็ทราบดีว่าราชาหนุ่มไม่อยากทุกข์ใจเหมือนราชาองค์อื่นที่ต้องแต่งงานเพราะการเมืองบังคับ ชีวิตเหมือนถูกควบคุมจนต้องสูญเสียแม้แต่คนรักอย่างที่บรรพบุรุษของพระองค์ประสบมา และอย่างที่ราชาจักรภพเผชิญอยู่ตอนนี้
“เป็นเรื่องที่จะแทนคุณพระมารดานะพะยะค่ะ”
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้ไหม ... ไม่อยากฟัง”
รับสั่งเหมือนจะตะคอก
“ก็ ...”
“เข้าใจแล้ว แต่ไม่อยากทำ” เหมันต์ตรัสเสียงสะบัด “พระมารดาอยากให้ข้ามีความสุข และข้าก็มีแล้วจากสิ่งที่เสด็จลุงประทานให้ ข้าไม่อยากได้อะไรอีก”
“นี่คือสิ่งที่ใครก็ต้องการนะพะยะค่ะ”
“อำนาจ ...”
สุรเสียงและสายพระเนตรหม่นแสงลง
“แล้วต้องสูญเสียหัวใจกับชีวิตหรอ ไม่มีวันล่ะ” ราชาเหมันต์ตรัสเสียงหนัก “แล้วเรื่องท่านยาย”
“ท่านยายอะไรพะยะค่ะ”
วิลล์ตีหน้าตาย
“ข้าให้เจ้าสืบสองเรื่อง นี่เจ้าบอกแต่เรื่องสงสัยราชาจักรภพคิดไม่ซื่อกับข้าแค่นี่หรอ”
สีพระพักตร์คล้ายอยากจะฆ่าคนสนิทให้จบเรื่องไป
“พะยะค่ะ เรื่องนี้สำคัญนี่พะยะค่ะ”
“มันสำคัญทั้งสองเรื่องแหละ” ราชาหนุ่มตรัสเสียงอ่อนลง “ให้คนไปสืบแล้วใช่มั้ย”
“พะยะค่ะ”
“งั้นก็ต้องได้เรื่องอะไรบ้างสิ ... บอกข้ามาเร็ว”
เงียบไม่มีเสียงตอบ แถมคนถูกถามยังตีหน้าทะเล้นเสียงั้น
“บอก”
“บอกอะไรพะยะค่ะ”
“เร็ว”
“ทำอะไรรึพะยะค่ะ”
คราวนี้เหมือนราชาหนุ่มจะทรงหมดความอดทนแล้วจริงๆ ทรงลุกขึ้นก้าวเข้าประชิดตัวหัวหน้าองครักษ์หนุ่มด้วยพระเนตรขุ่นมัว
“อย่ามาเล่นลิ้นวิลล์ ข้าถามเรื่องท่านยายก็บอกมา”
วิลล์ถอนหายใจราวกับคนทุกข์หนัก
“ไม่ทราบพะยะค่ะ”
“ทำไมไม่ทราบ”
“ไม่มีใครกล้าเข้าไปในดินแดนมนตรา ทุกคนเชื่อคำเล่าลือเรื่องแม่มดก็เลยหวาดกลัว”
“เจ้าด้วยหรอ ไหนว่าเป็นคนไปพาข้าออกมา”
ราชาเหมันต์คาดคั้น
“กระหม่อมห่วงเรื่องคนลอบทำร้ายมากกว่า กระหม่อมต้องถวายความปลอดภัย” วิลล์ทูลด้วยน้ำเสียงจริงจัง “กระหม่อมต้องสืบเรื่องนั้นด้วยตนเองก่อน”
“ข้าขอร้องแค่นี้ไม่ได้หรอ”
“กระหม่อมจะไปสืบให้หลังจากเรื่องคนร้ายแน่ชัดแล้ว”
“เมื่อไหร่”
“อาทิตย์หน้าพะยะค่ะ”
ราชาหนุ่มมีสีพระพักตร์นิ่ง จนวิลล์ไม่แน่ใจว่าจะทรงเข้าพระทัยไหม ทราบดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีเหตุผลก็จริง แต่บางครั้งก็คล้ายเด็กที่เอาแต่ใจ ครั้งนี้ก็เหมือนเด็กอยากได้เพื่อนเล่นใหม่
“ข้าจะไปตามนางเอง”
“ไม่ได้พะยะคะ”
“ทำไม” รับสั่งถาม “ข้าอยากรู้เดี๋ยวนี้ แต่เจ้าไม่ว่าง ข้าก็จะไปตามเอง”
วิลล์ถอนใจรู้ดีว่ารั้งไว้ก็คงไม่อยู่
“ได้ กระหม่อมจะไปสืบให้พะยะค่ะ”
“ข้าไปด้วย”
“ก็กระหม่อมบอกจะสืบให้แล้วนี่”
“ไปตอนนี้เลย” เหมันต์ตรัสยิ้มๆ “เจ้าจะได้ไม่มีข้ออ้างอีก”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตะเข็บชายป่าระหว่างสามแคว้นปกคลุมด้วยหมอกหนาจนแทบมองไม่เห็นทาง นอกจากเสียงต้นไม้ลู่ไหวตามแรงลมแล้วก็ไม่เห็นมีสิ่งมีชีวิตใดๆเลย ไม่มีแม้แต่เสียงนกร้อง กระรอกที่ชอบวิ่งวุ่นก็ยังไม่เห็นสักตัว ยิ่งเข้าใกล้ดินแดนมนตราเท่าไหร่ความหนาวเหน็บและความอึมครึมน่าสะพรึงกลัวก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
“ตอนเจ้ามาพาตัวข้าไปเป็นแบบนี้หรอ”
ราชาเหมันต์รับสั่งถาม
“เปล่าพะยะค่ะ มันสว่างและเห็นของชัดเจน” วิลล์ทูล “แถวยังมีนกน้อยเกาะกิ่งไม้ร้องเพลงไปตลอดทางด้วย”
“แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเนี่ยนะ”
“พะยะค่ะ ถึงได้ไม่มีใครมา” วิลล์ทูล “ทุกคนเชื่อว่าเพราะเวทมนต์ถึงพบพระองค์ และเพราะเวทมนต์ป่าถึงปกคลุมด้วยหมอก”
“เหลวไหล”
ราชาเหมันต์ดุ แล้วกระตุกบังเหียนให้ม้าวิ่งให้เร็วขึ้นจนทะลุผ่านข้ามสู่เขตแดนมนตรา
“แปลกจัง”
“อะไรรึพะยะค่ะ”
“คืนนั้นจันทร์กระจ่าง ทุกอย่างดูอ่อนนุ่มสวยงาม” เหมันต์รำพึง “แต่วันนี้ทั้งมืดมน น่ากลัวจริงอย่างที่เจ้าว่า”
“เชิญเสด็จกลับเถอะพะยะค่ะ เรื่องท่านยายกระหม่อมจะมาสืบให้วันหลัง”
วิลล์ทูลเตือนอย่างห่วงใย รู้สึกว่าที่นี่วังเวงก็ไม่ควรอยู่นาน
“ไม่ได้... ข้าต้องหานางให้พบ”
ราชาเหมันต์กระโดดจากหลังอาชาทรง กวาดสายพระเนตรมองรอบๆแล้วสาวพระบาทไปข้างหน้า ตั้งใจว่าต้องหาท่านยายให้พบวันนี้ให้ได้ เดาว่าบ้านของนางไม่น่าจะไกลจากแถวนี้เท่าไร
“เราเข้ามาลึกมากแล้วนะพะยะค่ะ”
“แล้วไงล่ะ ก็ข้ายังไม่พบท่านยายนี่”
“กระหม่อมว่านางคงไม่อยู่แถวนี้แน่ ที่นี่ดูรกร้างเหมือนไม่มีคนอาศัยมานานแล้ว”
“เจ้าจะว่าคืนนั้นข้าฝันสิ” เหมันต์หันกลับมามองวิลล์นิ่ง “แล้วยากับน้ำที่เจ้าพบข้างตัวข้าคืออะไร”
วิลล์ส่ายหน้า
“หม่อมฉันทูลแล้วว่า นางเป็นแม่มดเป็นปีศาจ ... ไม่ควรใส่ใจ”
“นางจะเป็นแม่มดหรือปีศาจก็ช่วยชีวิตข้า ... ข้าต้องตอบแทน”
“เอาไว้วันหลังก็ได้พะยะค่ะ วันนี้...”
วิลล์ยังพูดไม่ทันจบ ก็ต้องรีบดึงรั้งวรกายสูงสง่าให้หลบลมพายุหมุนลูกใหญ่ที่พุ่งเข้าหาราชาหนุ่มอย่างมุ่งร้าย
“นี่มันอะไรกัน”
ราชาเหมันต์ที่หมุนตัวกลิ้งหลบลูกพายุคราง ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้น
“กระหม่อมทูลแล้วว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย เรามาใหม่วันหลังเถอะ”
“วันไหนล่ะ”
วิลล์ครุ่นคิดถึงคำของผู้เฒ่าที่หมู่บ้านชายป่าในปกครองของราชาเหมันต์ จำได้ว่าผู้เฒ่านั่นเล่าถึงชายป่ารอยต่อสามแคว้นเคยสวยงาม อาจมีหมอกบ้างแต่ไม่หนาตาและไม่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้ แต่ก่อนเคยมีชาวบ้านอาศัยอยู่บ้างเพื่อหาของป่าไปขายและใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ จนเมื่อห้าปีก่อนแถวนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกอวลด้วยกลิ่นความเศร้า แต่ในคืนพระจันทร์เต็มดวงที่นี่จะกลับสวยงามอีกครั้ง หมอกจะจางส่องให้เห็นความงามของป่า
“คืนเพ็ญหน้าพะยะค่ะ”
“อีกสองอาทิตย์นะ”
“ทรงรอเถอะพะยะค่ะ” วิลล์ทูล “ถึงเสี่ยงเข้ามาก็ไม่มีประโยชน์ มัวสัวแบบนี้ก็ไม่พบใคร”
“แล้วคืนนั้นจะพบหรอ”
เหมันต์ทรงสงสัย
“ท่านผู้เฒ่าบอกว่าคืนเพ็ญที่นี่จะกลับสวยงามเหมือนในอดีตพะยะค่ะ”
“ท่านผู้เฒ่า ... พ่อเฒ่าการิมนะหรอ”
“พะยะค่ะ”
เหมันต์เหลียวมองรอบพระองค์ รับรู้ได้ถึงความแปลกพิลึกชวนพิศวงของที่นี่ คนที่เคยพบกลับหายสาบสูญเหมือนไม่มีตัวตนจนน่าประหลาด
“ได้ ข้าจะลองเชื่อดูสักครั้ง”
ความคิดเห็น