คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เมื่อแรกพบ
เจ้าหญิงคือฐานะที่สูงส่ง ศักดิ์ศรีไม่เป็นรองใครโดยเฉพาะเจ้าหญิงที่ได้รับแต่งตั้งให้ครองแคว้นลูกหลวงภายใต้ปกครองของอาณาจักรนาบูที่ยิ่งใหญ่ ก็ไม่ควรมีสิ่งใดที่พระองค์ต้องขาดแคลน ทว่าความรักกลับเป็นสิ่งเดียวที่พระองค์ต้องสูญเสีย ความรักที่เคยงดงามกลับเปลี่ยนเป็นความทรยศ เจ็บแค้นและชิงชัง เวลาที่เนิ่นนานไม่เคยเปลี่ยนความรู้สึกนั้น แต่ความหวังเพียงเศษเสี้ยวในพระทัยก็ยังคงซ่อนอยู่... คือการรอคอยการกลับมาของคนรัก
ความรักคงมีเพียงกาลเวลาเท่านั้นที่เห็นคุณค่า ทุกคืนวันเพ็ญชายป่าทึบระหว่าง 3 แควันคือเวลาที่เจ้าหญิงมาเฝ้าคอยเพื่อหวังว่าคนรักจะกลับมาพบพระองค์ ณ ที่ซึ่งทรงเปลี่ยนไปเพื่อเขา แต่ไม่มีครั้งใดที่จะช่วยเติมเต็มพระทัยของพระองค์ได้เลย
“ท่านไม่เคยกลับมา ... ทามอน”
สุรเสียงเศร้าของเจ้าหญิงที่พร่ำหารักแท้
“ท่านจะไม่มีวันมา ข้าเกลียดๆๆ... เกลียดความรักนี้”
วรองค์โปร่งระหงส์ทรุดวรกายราบกับพื้นดินอย่างเจ็บปวด น้ำตารินไหลอาบใบหน้าที่แนบสนิทกับพื้นดิน
เมฆคล้อยเคลื่อนผ่านพระจันทร์เต็มดวงเผยให้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง พร้อมกับเสียงร้องของม้าและเสียงย่ำเท้าหนักๆนับหลายสิบชีวิตกระตุ้นเรียกพระสติของเจ้าหญิงผู้อาภัพให้รู้สึกองค์ จันทริภาแนบหูกับพื้นดินเพื่อฟังให้ชัดอีกครั้ง มั่นใจแล้วว่าเสียงนั้นอยู่แถวชายแดนไม่ห่างจากกระท่อมนี้นัก
“เกิดอะไรขึ้น พระบิดาต้องการทำอะไร”
จันทริภาตรัสอย่างสงสัย โดยไม่ต้องคิดพระองค์รีบสาวพระบาทตามเสียงนั้นไป
“แกร็ก ...”
“ใคร ... ข้าถามว่านั่นใคร”
เงียบไม่เสียงตอบ
“อย่าให้ข้าหมดความอดทนนะ”
จันทริภาตวาดเสียงเข้ม ดึงมีดพกข้างพระวรกายมาถือไว้มั่น
“ข ... ข้า ... ถูก ...ลอบทำร้าย”
เสียงครางแผ่วเบา พร้อมกับร่างสูงใหญ่โผล่พรวดจากเงามืดหลังพุ่มไม้
“เจ้า ...”
จันทริภาทรงผวาเข้าประคองร่างใหญ่ที่นอนล้มแน่นิ่งไป แม้จะไม่ชอบให้ใครเข้ามาในเขตหวงห้ามของพระองค์ แต่พอทอดพระเนตรร่างโชกเลือดและบาดแผลฉกรรจ์ก็ไม่อยากได้ชื่อว่าแล้งน้ำพระทัย เจ้าหญิงทรงประคองเขาให้นั่งพิงกับต้นไม้ใหญ่แล้วผละไปหยิบยาและของใช้จำเป็นที่กระท่อมไม่ไกลนัก
“เลือดออกเยอะมากนี่”
จันทริภาบ่น ตระหนักว่าอีกฝ่ายคงเหลือโอกาสรอดเพียงน้อยนิด จึงตัดสินพระทัยใช้อำนาจเวทมนต์เข้าช่วย เพียงวางพระหัตถ์ทั้งสองบ่นบาดแผลฉกรรจ์ต่างๆ เลือดที่เคยหลั่งไหลก็หยุดสนิทอย่างง่ายดาย ที่สำคัญยังช่วยให้แผลสมานตัวเร็วได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ที่นี้เจ้าก็รอดตายแล้วนะ เจ้าหนุ่ม”
จันทริภาแย้มสรวลบางๆ แล้วเดินหายลับไปในเงามืด
“โอ๊ย ...”
“ค่อยๆพระเจ้าค่ะ”
“ข ... ข้ามาอยู่ ... ที่นี่ได้ยังไง”
“กระหม่อมลอบเข้าไปดินแดนแม่มดพระเจ้าค่ะ”
ราชาหนุ่มขมวดพระขนง
“คือ ... หมายถึงแคว้นมนตรานะพะยะค่ะ”
วิลล์หัวหน้าองครักษ์หนุ่มรีบทูล
“ทำไม ... เรียกแบบนั้น”
วิลล์มองราชาหนุ่มนิ่ง แล้วเริ่มเล่าถึงเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนที่แคว้นมนตาเริ่มมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น ท้องฟ้ามืดขึ้นและลมพัดแรงตรงรอยต่อ 3 แคว้น มีเสียงท่องมนตราดังลั่นกึกก้องทั่วท้องฟ้า ท้องน้ำ และขุนเขา ชาวบ้านต่างหวาดกลัวหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านถึง 3 วันกว่าลมพายุจะสงบและท้องฟ้ากระจ่างอีกครั้ง และนับจากนั้นมาที่กระท่อมชายป่าติดชายแดนจะมีหญิงชราผมสีเงินยวงปรากฏตัวเสมอในคืนจันทร์เต็มดวง และถ้าใครไปแถวนั้นในคืนนั้นจะไม่ได้กลับบ้านอีกเลย
“พูดเพ้อเจ้อ เอาเรื่องปรากฏการณ์ธรรมชาติมาปั้นแต่งไปเรื่อยเปื่อย”
“แต่คนที่ไปท้าพิสูจน์ก็ไม่มีใครกลับมาเลยนะพระเจ้าค่ะ”
“นี่เจ้าเชื่อเรื่องแบบนี้เมื่อไหร่ ... วิลล์”
หัวหน้าองครักษ์หนุ่มตีหน้าจ๋อยยอมจำนน
“เจ้าบอกว่าลอบเข้าไปที่นั่น”ราชาหนุ่มตรัสถาม “เพื่อช่วยข้า”
“พระเจ้าค่ะ” วิลล์รับคำ “เห็นพระองค์นอนสลบนิ่ง พระภูษาขาดวิ่นเลอะเลือดไปทั้งวรกาย แต่น่าแปลกพระเจ้าค่ะ เห็นบาดแผลพระองค์มีเพียงเล็กน้อย”
ราชาหนุ่มเลิกพระขนง พยายามคิดทบทวนถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ตั้งแต่งานฉลองชัยชนะแห่งการรวมแคว้นทั้งหมดไว้ใต้อาณัติของราชาจักรภพผู้เป็นใหญ่เหนือราชาทั้งมวล เพราะความที่ไม่อยากพักที่นั่น จึงขอตัวกลับหลังเที่ยงคืนเล็กน้อย เส้นทางที่ใช้เป็นเส้นทางประจำที่คุ้นเคย แต่กลับมีกลุ่มคนสวมชุดดำคลุมหน้ากว่า 100 คนเข้าซุ่มโจมตี และพระองค์ก็ถูกฟาดฟันจนเกิดบาดแผลมากมาย
“ไม่ถูกนะ”
“อะไรพระเจ้าค่ะ”
“พวกนั้นตั้งใจทำร้ายข้า คนของเรามีน้อยถูกพวกมันทำร้ายอย่างหนัก” ราชาหนุ่มรับสั่ง “ข้าถูกฟัดแทบทั้งตัว ยังคิดว่าคงต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ”
“ท่านเหมันต์”
“ไม่ได้ยินเรียกแบบนี้ตั้งนานแล้วนะ ... วิลล์”
ราชาเหมันต์หยอกเย้าเมื่อเห็นวิลล์ตีหน้าง้ำไม่พอใจ
“เรื่องถูกลอบทำร้ายไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มาสนใจอะไรเรื่องแผลเป็น” วิลล์ดุ “ทรงเล่ามาให้ครบดีกว่า”
ราชาเหมันต์ทรงพระสรวลเบาๆ ยังรู้สึกแปลบแผลบางจุด
“ถูกฟันเลือดออกเยอะมาก ทหารที่ไปด้วยคุมกันให้ข้าหนี”
ราชาเหมันต์นิ่งไปเป็นครู่ คล้ายพยายามนึกบางอย่างที่ติดในพระทัย
“ใช่ เจอท่านยาย นางคงช่วยข้าไว้ก่อนเจ้าจะพบ”
“แม่มด ... แม่มดแน่ๆ”
“วิลล์ แม่มดอะไร” เหมันต์ดุ “ก็เจ้าบอกเองว่าแม่มดชอบฆ่าคน แล้วนี่นางช่วยข้า ทำแผลให้ด้วย ใช่แม่มดที่ไหน”
“ให้น้ำท่านดื่มกับยาด้วยล่ะ”
“หึ ...”
วิลล์ถอนใจ แต่ยังไม่วายระแวง
“กระหม่อมว่าควรจะให้หมอตรวจอีกหน่อย เผื่อในยามียาพิษแบบว่าช่วยเพื่อทรมาน”
เหมันต์ทรงสรวลลั่น ไม่สนใจว่าจะเจ็บแผลแล้ว นึกขำคนสนิทที่ช่างระแวงสงสัย ยังนึกแอบดีใจที่ตื่นมาแล้วอีกฝ่ายไม่บ่นว่าที่เขาไม่ยอมให้ไปด้วย แต่เหมือนวิลล์จะรู้พระทัยนายเหนือดีจึงย้ำมั่นว่า
“คราวหน้าจะเสด็จที่ใด กระหม่อมจะขอตามไปด้วย” วิลล์ทูล “ไม่ให้พ้นสายตากระหม่อมแม้แต่น้อย”
“ตอนข้าอาบน้ำ ปลดทุกข์ด้วยสิ”
“พระเจ้าค่ะ”
ราชาเหมันต์ได้แต่มองหน้าองครักษ์หนุ่มขุ่นเขียว นึกอยากจะบีบคออีกฝ่ายให้แหลกคาพระหัตถ์จะได้เลิกบ่น เลิกติดตามให้รำคาญใจแบบนี้ แต่ความสัมพันธ์ตั้งแต่เยาว์วัยทำให้รู้ดีว่าหัวหน้าองครักษ์คนนี้พร้อมจะแลกชีวิตให้กับพระองค์ได้ทุกเมื่อ
“แต่กระหม่อมสงสัยว่าไอ้พวกนั้นเป็นใคร”
วิลล์ทูลถามด้วยสีหน้าจริงจัง
ราชาเหมันต์ถอนพระทัย ตระหนักดีว่าศัตรูในเงามืดรับมือได้ยากยิ่ง ที่สำคัญคือไม่รู้ว่าเป็นพวกไหน พวกที่ต้องการราชบัลลังก์หรือว่ามีประสงค์อื่น
“ข้าเองก็อยากรู้ แต่ตอนนี้ข้าอยากให้เจ้าสืบเรื่องหนึ่งให้ข้าก่อน”
“อะไรรึพระเจ้าค่ะ”
“สืบดูสิว่าบ้านท่านยายอยู่ที่ไหน” เหมันต์ตรัส “ข้าอยากตอบแทนนาง”
วิลล์ส่ายหน้าช้าๆ ไม่เข้าใจว่านายเหนือจะสนใจยายแก่นี่ทำไมมากมาย นางช่วยแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้มาดูดีอีก ก็แปลได้ว่าช่วยไปงั้นๆ ไม่รู้จะทรงสนพระทัยทำไม เรื่องที่ควรห่วงว่าถูกใครคิดปลงพระชนม์นี่สิเรื่องใหญ่ และดูเหมือนราชาหนุ่มจะทรงอ่านความคิดลูกน้องออกจึงรับสั่งเสียงหนักว่า
“ก็สืบทั้งเรื่องท่านยายกับเจ้าพวกนั้นก็ได้ ... ข้าไม่ตายแบบนี้ต้องมีพิรุธให้เจ้าจับผิดใครได้บ้างแน่”
ช่วยคอมเม้นท์ให้กันหน่อยนะคะ
อยากได้กำลังใจค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ
ความคิดเห็น