ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำหรับผู้ที่รักเกราะกายสิทธิ์อย่างแท้จริง

    ลำดับตอนที่ #1 : ความเสียใจเก่าๆของอังคาส

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 49


    นับตั้งแต่ที่บัวตายไป  อังคาสก็เศร้าใจมาก และพยายามที่จะลืมสาวบ้านป่าที่ชื่อ บัวแย้มไปให้จงได้

    แต่แล้ววันหนึ่ง เสด็จพ่อและเสด็จแม่ก็มีกำหนดการที่จะไปเยี่ยมเยียนเมืองเพื่อนบ้าน ซึ่งเมืองนั้นก็คือเมือง

    “พิณราช” เป็นเมืองของกษัตริย์ศุภเชษฐ์  ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับศาตรา  และแน่นอนว่าเกราะกายสิทธิ์ทุกคนจะต้อง

    ไปด้วย รวมทั้งเภตรา อาธาร สุดหล่อและจั๊กแหล่น

    ตั้งแต่ที่สไบทองถูกเนรเทศเมื่อครั้งที่ให้กำเนิดสุริยะ ศาตราก็ไม่มีโอกาสมาพิณราชอีกเลย..

    เมื่อขบวนเสด็จของศาตราเดินทางมาถึงพิณราช  ทางพิณราชก็มีการต้อนรับเป็นอย่างดี..

    ศุภเชษฐ์ – ลมอะไรหอบมาล่ะ ศาตรา สไบทอง

    ศาตรา – ก็เราเห็นมาเราไม่ได้มาพิณราชนานแล้ว ก็เลยแวะมาเยี่ยมเจ้าน่ะ

    สินิทรา -  อืม แล้วนั่นลูกๆของท่านกับมเหสีสไบทองรึเพคะ

    สไบทอง -  ใช่เพคะ 

    ศุภเชษฐ์ – พวกเจ้านี่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึง พ่อกับแม่ของพวกเจ้ามากเลยนะ เราก็มีศักดิ์เป็นลุงกับป้าของ
                      พวกเจ้าสิเนี่ยเอ้าหลานๆมานั่งก่อนมา

    สุริยะ – ไม่เป็นไรหรอกพระเจ้าค่ะ พวกหลานขอออกไปเดินเล่นดีกว่า

    ศาตรา – อืม  งั้นพวกลูก ออกไปก่อนเดี๋ยวพ่อจะให้คนไปตาม

    ลูกทั้ง7 – พระเจ้าค่ะ/เพคะ

    ศุภเชษฐ์ – พวกท่านมีอะไรรึเปล่า

    ศาตรา -  คือ..เราจะมาสู่ขอลูกสาวของเจ้าให้กับอังคาส ลูกชายคนที่3ของเราน่ะ

    สินิทรา(ภรรยา– ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนเลยน่ะหรือเพคะ

    ศาตรา – ใช่ แต่เราคิดว่า ลูกสาวของท่านทั้งสองเหมาะสมกับลูกเรามากที่สุด

    ศุภเชษฐ์ – หมื่นวาทิน ไปตามลูกๆของศาตรามา  อานนท์ ไปตามลูกสาวเรามา

    หมื่นวาทิน/อานนท์ – พระเจ้าค่ะ


    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
    ทางด้านจันทราภาและพุทธรัตน์ก็เดินชมสวนของเมืองพิณราชอยู่

    จันทราภา – พิณราชนี่สวยจริงๆเลย

    พุทธรัตน์ – เราไม่เคยเห็นเมืองใดสวยเช่นนี้มาก่อน

    ทั้งคู่ยิ้มให้กัน โดยไม่สังเกตว่า ไอศูรย์ตามมาด้วย

    หมื่นวาทินตามพวกเกราะกายสิทธิ์มาครบทุกคนแล้วจึงพาไปที่ตำหนักใหญ่

    ศุภเชษฐ์ – มากันแล้วเหรอ

    ทั้ง 7 คน- พระเจ้าค่ะ/เพคะ

    ศาตรา – พ่อมีเรื่องจะบอกพวกเจ้า

    จันทราภา – เรื่องอะไรหรือเพคะเสด็จพ่อ

    ศาตรา – พ่อกับแม่ปรึกษากับศุภเชษฐ์แล้วว่า พ่อจะให้อังคาสแต่งงานกับธิดาของศุภเชษฐ์ เจ้าคงไม่ขัดข้องใช่มั๊ย                 
    อังคาส

    อังคาสสีหน้าหนักใจแต่ก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธไปได้เพราะอยู่ต่อหน้าศุภเชษฐ์

    อังคาส – พระเจ้าค่ะ

    ศุภเชษฐ์ – แล้วเจ้าอานนท์ทำไมไปตามลูกเรานานเสียจริง

    ระหว่างนั้นเอง อานนท์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวของศุภเชษฐ์

    ทุกคนหันไปมองก็ถึงกับชะงัก  นางคือ บัวแย้ม สาวบ้านป่านั่นเอง แต่ทำไมนางถึงกลับกลายมาเป็นเจ้าหญิงผู้

    สูงส่งเช่นนี้  อังคาสยิ้มออกมาอย่างดีใจ ร้องเรียกบัวเบาๆ  บัวแย้มได้ยินหันไปมองหน้าอังคาสอย่าง งงงง

    อังคาสเสียใจมากที่บัวแย้มจำเขาไม่ได้

    สไบทอง – บัวแย้ม 

    ศุภเชษฐ์ – สไบทองเจ้ารู้จักลูกสาวเราด้วยหรือ

    สไบทอง – เพคะ

    ศุภเชษฐ์ – บัวมาหาพ่อมาลูก

    บัวแย้ม – เสด็จพ่อให้อานนท์ไปตามลูกมีอะไรหรือเพคะ

    ศุภเชษฐ์ – นี่ศาตรากษัตริย์แห่งรัตนบุรี เพื่อนของพ่อเอง

    บัวแย้ม – เพคะ

    สินิทรา – เสด็จพ่อมีพระประสงค์จะให้ลูกแต่งงานกับอังคาสน่ะลูก

    บัวแย้มหน้าสลดไปนิดนึง  หันไปมองอังคาส แล้วกระซิบกับสินิทราว่า

    บัวแย้ม – ใช่คนที่หน้าดุๆคนนั้นรึเปล่าเพคะเสด็จแม่

    สินิทราพยักหน้า

    ศุภเชษฐ์ – ลูกมีข้อขัดข้องอะไรรึเปล่า

    บัวแย้ม – ไม่มีเพคะ แต่ลูกยังไม่ขอตอบตกลงนะเพคะ ลูกขอคิดดูก่อน

    อังคาส – ทูลลาพระเจ้าค่ะ

    สไบทอง และเกราะกายสิทธิ์ทั้ง6คนรู้ดีว่าอังคาสนั้นเสียใจเพียงไร  ที่อังคาสต้องเดินหนีออกไปแบบนี้เป็นเพราะ

    บัวแย้มพวกเขารู้ดี..

    ศุภเชษฐ์ – อ้าว.. ไปซะแล้ว บัวออกไปดูพี่เขาหน่อยสิลูก

    บัวแย้ม – ก็ได้เพคะ ลูกทูลลา

    บัวแย้มเดินออกมาหน้าตำหนักก็ไม่เห็นอังคาสเสียแล้ว  จึงเดินไปถามทหาร ทหารบอกว่าเห็นเดินไปในสวนย่อม

    บัวแย้มจึงวิ่งตามไป.

    บัวแย้ม – เดี๋ยวก่อนสิอังคาส ท่านจะรีบไปไหน

    อังคาส – บัว (พูดออกมาสีหน้าดีใจ แต่ก็ต้องสลดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าบัวจำเขาไม่ได้)

    อังคาส – เจ้ามีอะไรกับเรา

    บัวแย้ม – ก็เสด็จพ่อให้เรามาดูแลเจ้า (บัวพูดออกมาหน้ามุ่ยนิดๆ)

    อังคาส – งั้นก็แปลว่าเจ้าไม่ได้อยากมาแต่พ่อเจ้าใช้ให้มา

    บัวแย้ม – ก็ใช่น่ะสิถามได้

    บัวแย้มหารู้ไม่ว่าคำพูดของนางนั้นเฉือดเฉือนหัวใจของอังคาสเข้าอย่างจัง

    อังคาส – งั้นเจ้าก็กลับไปซะเถอะ  เราอยากอยู่คนเดียว

    บัวแย้ม – หยึย ไม่เอาหรอกขืนกลับไปใครเห็นเราไม่ได้อยู่กับเจ้ามีหวังเราตายแน่ๆ เสด็จพ่อกับพ่อของเจ้าคงต้อง

    ต่อว่าเราเป็นแน่

    อังคาส – งั้นก็ตามใจ

    ว่าแล้วอังคาสก็เดินหนีไป

    บัวแย้ม – อ้าว รอเราด้วยสิ

    เมื่อเดินมาถึงท้ายสวนบัวแย้มชวนให้อังคาสมานั่งคุยกันแต่อังคาสปฏิเสะและเลือกที่จะหาที่นั่งที่อยู่ไกลจากบัว

    แย้มทำให้บัวแย้มเข้าใจว่าอังคาสรังเกียจตน

    บัวแย้ม – อังคาส นี่เจ้ารังเกียจเรามากขนาดนั้นเลยเหรอ

    บัวแย้มถามขึ้นมา

    อังคาสตกใจ

    อังคาส – เปล่านะบัว เราไม่เคยรังเกียจเจ้าเลย

    บัวแย้ม – แล้วทำไมเจ้านั่งไกลซะขนาดนั้น

    จันทราภา – อ้าว มาอยู่นี่กันนี่เอง

    จันทราภา ประกายพรึก สุริยะ และศนิวารเดินเข้ามาขัดจังหวะ

    อังคาส – อืม

    สุริยะ – บัวแย้ม นี่เจ้าจำอังคาสไม่ได้จริงๆเหรอ

    บัวแย้ม – ก็เราไม่เคยรู้จักพวกเจ้ามาก่อนนี่นา  ใครจะไปจำได้ล่ะ

    อังคาสรู้สึกปวดร้าวในหัวใจอย่างมาก

    จันทราภา – มานี่เราจะเล่าให้เจ้าฟัง

    จันทราภาและประกายพรึก พาบัวแย้มไปอีกทาง  ศนิวารและสุริยะจึงอยู่ดูแลอังคาส

    สุริยะ – เราเข้าใจความรู้สึกเจ้านะอังคาส

    อังคาส – ช่างเราเถอะสุริยะถึงจะรื้อฟื้นยังไง นางก็ไม่มีวันจำเราได้ เพราะบัวแย้มคนเก่า ตายไปแล้ว ด้วยฝีมือของ

    นางแม่มด

    --------------------------------------------------------------------------------------
    มันเป็นเรื่องที่เราเคยแต่งไว้ในบอร์ดบอยคลับอ่า  เปนไงก้อช่วยๆกานโหวต+เม้นด้วยน๊าจ้ะ  ไม่งั้นจะตามไปหลอกจิงๆด้วย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×