ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Bind Love แผนรักร้ายมัดหัวใจนายตัวแสบ ~1~
‘ฮีชอล เรา... เลิกกันเถอะ’ ไม่นะ
‘นายผิด’ ฮันเกิง ไม่
‘นายเป็นผู้ชาย’
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!”
“ฮีชอล!!!”เสียงของเพื่อนทั้งสี่คนของฮีชอลดังขึ้นพร้อมกัน หลังจากที่เขาเด้งตัวขึ้นมาจากฝันร้ายแล้วแหกปากร้องตะโกนลั่นห้อง เขามองไปรอบๆอย่างหวาดกลัว จนกระทั่งสายตาเขามาหยุดอยู่ที่เพื่อนสนิททั้งสี่คน(ที่ยังตกใจไม่หาย)ของเขา เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้านั้นเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขา เมื่อนึกถึงตอนที่ฮันเกิงบอกเลิก... น้ำใสๆก็เริ่มเอ่อล้นดวงตาคู่สวยอีกครั้ง ฉันไม่เข้าใจ ฮันเกิง ทำไมนายต้องทิ้งฉัน?
เพื่อนๆทั้งสี่คนของเขายังคงมองมาที่เขาด้วยความงุนงง แต่ด้วยความที่สงสารเพื่อนทำให้โบอาหนึ่งในเพื่อนสนิทคนเดียวที่เป็นผู้หญิง เดินเข้าไปหาฮีชอลก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงปลอบใจ
“ฮีชอล นายเป็นอะไรไป บอกพวกเราหน่อยสิ” ฮีชอลเงยหน้ามองโบอาด้วยแววตาที่ขุ่นมัว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
“ฉัน ฮึก! มาอยู่ ฮึก! ที่นี่ดะ... ฮึก! ได้ไง”
“ค่อยๆพูดก็ได้ เดี๋ยวได้สำลักก้อนสะอื้นตายซะก่อนหรอก”
“ค่อยๆพูดก็ได้ เดี๋ยวได้สำลักก้อนสะอื้นตายซะก่อนหรอก”
จุนซูเพื่อนสนิทอีกคน ปรี่ตัวเข้าไปช่วยโบอาลูบหลังฮีชอลแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง แต่ไม่มีใครขำเลย (ก็แน่สิย่ะ -*-)
“มีคนมาส่งนายที่นี่ เขาบอกว่านายถูกรถเฉี่ยว ไม่เป็นอะไรมาก แค่สลบไป” แจจุงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆเพื่อให้ฮีชอลสบายใจ
“แต่แปลกนะ เขารู้จักที่อยู่ของนายได้ไง” อีทึกพูดต่อด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ฮีชอลเงยหน้ามองอีทึกเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วร้องไห้ต่อ
“แต่แปลกนะ เขารู้จักที่อยู่ของนายได้ไง” อีทึกพูดต่อด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ฮีชอลเงยหน้ามองอีทึกเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วร้องไห้ต่อ
“เรื่องนั้นน่ะ ช่างมันก่อนเถอะ ดูอาการของหมอนี่ก่อนดีกว่า” โบอารีบพูดตัดบท เมื่อเห็นว่าอาการของฮีชอลหนักลงเรื่อยๆ เธอใช้มือเรียวยาวลูบหัวของฮีชอลอย่างเป็นห่วง แล้วถามด้วยน้ำเสียงปลอบๆ
“มีอะไรจะเล่าให้พวกเราฟังไหม”
ฮีชอลเงยหน้ามองโบอาก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาทั้งน้ำตา...
ฮีชอลเงยหน้ามองโบอาก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาทั้งน้ำตา...
“ฉัน... ฉัน ผะ... อึก! ผิดตรงไหน... หรอ ฮือๆ”
เล่าจบ ฮีชอลถามเพื่อนๆของเขาเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และร้องไห้หนักเรื่อยๆจนจุนซูต้องถลาเข้ามากอดฮีชอลไว้ เขาลูบหัวฮีชอลแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปลอบใจ
“โอ๋ อย่าร้องนะ นายไม่ผิดหรอก นายไม่ผิดอะไรเลย หมอนั่นตังหากที่ผิด ผิดที่ไม่ยอมมาดูแลนาย นายไม่ผิดอะไรเลย จริงๆ” ทุกคนกำหมัดแน่น ฮีชอลผู้ร่าเริงของพวกเขาได้หายไปแล้ว
เล่าจบ ฮีชอลถามเพื่อนๆของเขาเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และร้องไห้หนักเรื่อยๆจนจุนซูต้องถลาเข้ามากอดฮีชอลไว้ เขาลูบหัวฮีชอลแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปลอบใจ
“โอ๋ อย่าร้องนะ นายไม่ผิดหรอก นายไม่ผิดอะไรเลย หมอนั่นตังหากที่ผิด ผิดที่ไม่ยอมมาดูแลนาย นายไม่ผิดอะไรเลย จริงๆ” ทุกคนกำหมัดแน่น ฮีชอลผู้ร่าเริงของพวกเขาได้หายไปแล้ว
“พวกนาย... ออกไปก่อนเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว... เงียบๆ”
“ว่าไงนะ! ไม่มีทาง สภาพนายตอนนี้มันแย่มากเลยนะ” จุนซูเอ่ยเสียงดัง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางทิ้งเพื่อนที่ตอนนี้ดูเหมือนตายทั้งเป็นให้อยู่คนเดียวหรอก ไม่มีทาง!
“ว่าไงนะ! ไม่มีทาง สภาพนายตอนนี้มันแย่มากเลยนะ” จุนซูเอ่ยเสียงดัง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางทิ้งเพื่อนที่ตอนนี้ดูเหมือนตายทั้งเป็นให้อยู่คนเดียวหรอก ไม่มีทาง!
โบอาจับไหล่ของจุนซูแล้วส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ปล่อยเขาให้อยู่คนเดียวไปก่อนเถอะ บางทีเขาอาจจะต้องใช้เวลา”
“แต่...”
“จุนซู”
“...”
“เชื่อฉัน”
จุนซูหันหน้าไปมองร่างบางที่นอนขดร้องไห้อยู่บนเตียง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ปล่อยเขาให้อยู่คนเดียวไปก่อนเถอะ บางทีเขาอาจจะต้องใช้เวลา”
“แต่...”
“จุนซู”
“...”
“เชื่อฉัน”
จุนซูหันหน้าไปมองร่างบางที่นอนขดร้องไห้อยู่บนเตียง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ก็ได้”
ก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากห้องไป เพื่อให้ฮีชอลได้อยู่ตามลำพัง...
ก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากห้องไป เพื่อให้ฮีชอลได้อยู่ตามลำพัง...
ตกเย็น
ณ หอพักของพวกฮีชอล
ณ หอพักของพวกฮีชอล
ก็อก ก็อก ก็อก
“ฮีชอล เปิดประตูหน่อยสิ”
โบอาเคาะประตูเรียกฮีชอลรอบที่สาม แต่ก็ยังคงไร้เสียงใดๆกลับมา เธอขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าแจจุง อีทึกกับจุนซูมองหน้ากันเลิกลักเหมือนพยายามจะหาคำตอบ
“ฮีชอล อย่าทำแบบนี้ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!” แจจุงทุบประตูแล้วตะโกนเสียงดัง โบอายื่นมือไปจับลูกบิดประตูแล้วหมุนก่อนจะประหลาดใจอีกรอบ
“ฮีชอล เปิดประตูหน่อยสิ”
โบอาเคาะประตูเรียกฮีชอลรอบที่สาม แต่ก็ยังคงไร้เสียงใดๆกลับมา เธอขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าแจจุง อีทึกกับจุนซูมองหน้ากันเลิกลักเหมือนพยายามจะหาคำตอบ
“ฮีชอล อย่าทำแบบนี้ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!” แจจุงทุบประตูแล้วตะโกนเสียงดัง โบอายื่นมือไปจับลูกบิดประตูแล้วหมุนก่อนจะประหลาดใจอีกรอบ
“ประตูไม่ได้ล็อก -*-“ เมื่อแจจุงได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วตามโบอาแล้วท้วงเสียงแข็ง
“อย่าล้อเล่นน่า ฉันออกคนสุดท้ายของห้องฉันล็อกเองกับมือเลย -*-“
“ไม่เชื่อแกดู” โบอาหมุนลูกบิดประตูให้แจจุงดูคราวนี้ขมวดคิ้วกันทั้งวง -*-
“อย่าล้อเล่นน่า ฉันออกคนสุดท้ายของห้องฉันล็อกเองกับมือเลย -*-“
“ไม่เชื่อแกดู” โบอาหมุนลูกบิดประตูให้แจจุงดูคราวนี้ขมวดคิ้วกันทั้งวง -*-
“โบอา ถอยไปเลย ฉันเข้าไปดูเอง -*-“ อีทึกพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะหมุนลูกบิดประตูเข้าไป
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป กลิ่นของแอลกอฮอร์ฉุนๆลอยเข้ามาปะทะจมูกของทั้งสี่คนทันที(แน่นนอนว่าทุกคนหน้าเริ่มเสีย) กลิ่นแรงมากจนทั้งสี่คนต้องเอามือมาปิดจมูกเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปโดยที่อีทึกเป็นคนนำ ตามมาด้วยโบอา แจจุง และจุนซู
“เฮ้ย! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย! ฮีชอล! ทำบ้าอะไรของแกเนี่ย! ฮีชอล! เฮ้ย! ฮีชอล! ฮีชอล!” สิ่งที่ทุกคนเห็นคือ(ซาก)ขวดแอลกอฮอร์มากมายก่ายกองนอนกองอยู่บนพื้นห้องเต็มไปหมด(นี่เองที่เป็นสาเหตุของกลิ่น)แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนหน้าซีดยิ่งกว่านั้นคือร่างที่นอนขดอยู่บนเศษซากขวดแอลกอฮอร์ใบหน้าแดงจัดเพราะพิษของของมึนเมา
อีทึกรีบปรี่เข้าไปประคองฮีชอลให้ลุกขึ้นมาโบอารีบตามไปช่วยอีกคนก่อนที่ทั้งสองคนจะประคองฮีชอลขึ้นมาไว้บนเตียง แต่ฮีชอลก็ไม่วายหยิบขวดเบียร์ที่หล่นอยู่ขึ้นมาเปิดแล้วซดต่อหน้าเพื่อน (ความสามารถพิเศษของฮีชอลในเรื่องนี้คือ เปิดขวดเบียร์ได้โดยไม่ต้องใช้ฝาเปิด)
แจจุงที่ทนดูไม่ได้เดินเข้ามากระชากขวดเบียร์ของจากมือของฮีชอลแล้วปาลงพื้น ขวดเบียร์ขวดนั้นแตกและกระจายเศษของมันไปทั่ว ฮีชอลมองการกระทำนั้นด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
“ไง สะใจดีไหม” แจจุงขึ้น เขาตะคอกใส่ฮีชอลเสียงดัง
“ฮีชอล!!!” แจจุงเตรียมจะเดินไปกระชากคอฮีชอลมาต่อยเรียกสติ แต่จุนซูห้ามไว้ก่อน
“แจจุง ฮีชอลเขาเมาอยู่นะ” ฮีชอลได้ยินดังนั้นจึงโวยวายเสียงดังลั่น
“เมาหรอ! ทำไมฉันต้องเมาด้วย! ทำไมฉันต้องเมาให้กับไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย! ทำไมฉันต้องเมาให้กับคนสารเลวไร้หัวใจอย่างฮันเกิงด้วย! ทำไม! ฮันเกิง! ฉันผิดตรงไหน! ทำไมเรารักกันไม่ได้! การที่ฉันเป็นผู้ชายมันผิดด้วยรึไง! นายบอกเองไม่ใช่หรอ! ว่าเรารักกัน! ว่าเราจะไม่ทิ้งกัน! นายสัญญาเองนะ! ฮือๆ นายมันใจร้าย! ฮือๆๆ ออกไปให้หมดเลยนะ! ฉันอยากอยู่คนเดียว! ฮือออ!!!”
ทั้งสี่คนมองฮีชอลที่กำลังนอนซบหมอนร้องไห้อยู่ก่อนจะปลีกตัวออกมาให้ฮีชอลได้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนดูสภาพเพื่อนรักที่มีสภาพไม่น่าดูนั้นได้ ทุกคนในตอนนี้มีสภาพคิดหนักอย่างมาก เขาไม่น่าปล่อยเพื่อนรักของเขาให้เจอสภาพแบบนี้เลย...
“ฮีชอล!!!” แจจุงเตรียมจะเดินไปกระชากคอฮีชอลมาต่อยเรียกสติ แต่จุนซูห้ามไว้ก่อน
“แจจุง ฮีชอลเขาเมาอยู่นะ” ฮีชอลได้ยินดังนั้นจึงโวยวายเสียงดังลั่น
“เมาหรอ! ทำไมฉันต้องเมาด้วย! ทำไมฉันต้องเมาให้กับไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย! ทำไมฉันต้องเมาให้กับคนสารเลวไร้หัวใจอย่างฮันเกิงด้วย! ทำไม! ฮันเกิง! ฉันผิดตรงไหน! ทำไมเรารักกันไม่ได้! การที่ฉันเป็นผู้ชายมันผิดด้วยรึไง! นายบอกเองไม่ใช่หรอ! ว่าเรารักกัน! ว่าเราจะไม่ทิ้งกัน! นายสัญญาเองนะ! ฮือๆ นายมันใจร้าย! ฮือๆๆ ออกไปให้หมดเลยนะ! ฉันอยากอยู่คนเดียว! ฮือออ!!!”
ทั้งสี่คนมองฮีชอลที่กำลังนอนซบหมอนร้องไห้อยู่ก่อนจะปลีกตัวออกมาให้ฮีชอลได้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนดูสภาพเพื่อนรักที่มีสภาพไม่น่าดูนั้นได้ ทุกคนในตอนนี้มีสภาพคิดหนักอย่างมาก เขาไม่น่าปล่อยเพื่อนรักของเขาให้เจอสภาพแบบนี้เลย...
“สิบห้าขวด! =O=* กินไปได้ไงตั้งสิบห้าขวด! นี่ฉันยังไม่นับรวมขวดที่แตกเลยนะ คนบ้าอะไรกินเบียร์ได้เยอะขนาดนี้ว่ะ - -*”
“เอาน่า! มันอกหักก็ต้องกินเยอะเป็นธรรมดา ถ้าเป็นฉัน ฉันล่อยี่สิบขวดเลยนะเฟ้ย -v-“
“เออๆ =_=*”
“เออๆ =_=*”
อีทึกบ่นกับแจจุงอย่างปวดหัว หลังจากที่ผ่านมาสามชั่วโมงฮีชอลก็ร้องไห้จนหมดสติอยู่ในห้องเน่าๆนั่น(หมายถึงห้องของฮีชอล) เดือดร้อนเพื่อนๆที่ต้องทำความสะอาดห้องยกใหญ๋ โดยที่ทุกคนช่วยกันแบกฮีชอลไปที่ห้องของแจจุงโดยมีจุนซูดูแลอยู่ไม่ห่างส่วนพวกที่เหลือก็จำเป็นต้องมารับกรรม (?) ที่ฮีชอลก่อไว้โดยปริยาย = =^
“นี่พวกแก จะอู้กันอีกนานไหมยะ -_-* มาช่วยฉันเก็บเศษขวดเบียร์เดี๋ยวนี้นะ”
อีทึกกับแจจุงที่กำลังยืนคุยกันอยู่หันมามองทางโบอาด้วยสีหน้าอารมณ์เสียแต่หน้าของทั้งสองคนกลับหดลงเหลือสองนิ้วทันทีเนื่องจากหน้าเจ๊โบอาแกโหดยิ่งกว่า T^T
“เอ่อ... มีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า -_-;” จุนซูที่เพิ่งมาถึง ถามอย่างกังๆ อยู่หน้าประตู เนื่องจากตอนนี้แจจุงและอีทึกมองหน้าจุนซูแบบซึ้งใจสุดๆกับการปรากฎตัวของเขา -_-;
ส่วนโบอาหันมาทางจุนซูก่อนจะทำสายตาวิ้งวับ(ซึ่งมันดูน่ากลัวมาก -__-;;;)แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหวามเยิ้ม(มดจะขึ้นไหมน้อ =_=)
ส่วนโบอาหันมาทางจุนซูก่อนจะทำสายตาวิ้งวับ(ซึ่งมันดูน่ากลัวมาก -__-;;;)แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหวามเยิ้ม(มดจะขึ้นไหมน้อ =_=)
“มีสิจ้า~ ว่าแต่ตอนนี้ฮีชอลเป็นไงบ้าง ไม่ไปดูแลมันต่อหรอ”
“มันอาการดีขึ้นเยอะเลย กะจะไปดูต่อแล้วนอนเลย พรุ่งนี้ต้องไปที่ร้าน ขอตัว =___=;;;”
“มันอาการดีขึ้นเยอะเลย กะจะไปดูต่อแล้วนอนเลย พรุ่งนี้ต้องไปที่ร้าน ขอตัว =___=;;;”
จุนซูพูดปัดๆแล้วรีบหันหลังกลับเตรียมวิ่งทันทีเมื่อรู้สึกเสียววาบกับสายตาของที่ชวนสยองของโบอาแต่ก่อนที่เขาจะได้วิ่งนั้น...
หมับ!!!
“จะไปไหน! มาอยู่ช่วยงานเดี๋ยวนี้! *O*”
Oh My God!!! ตูว่าแล้ววววววววววว!!!!! ๐๐TT[]TT๐๐
...............................
จบไปอีกตอนแล้วสิเนี่ย...
ยังไม่มีใครมาเม้นให้เลย เสียใจนะ T^T
ขยายนิดนึงนะ ตอนที่จุนซูบอกว่าจะไปที่ร้านน่ะ
มันเป็นร้านเบเกอรี่ของฮีชอล
แล้วเพื่อนๆของฮีชอลก็ทำงานอยู่ที่นั่น
บอกไว้เพื่องง ^O^
หมับ!!!
“จะไปไหน! มาอยู่ช่วยงานเดี๋ยวนี้! *O*”
Oh My God!!! ตูว่าแล้ววววววววววว!!!!! ๐๐TT[]TT๐๐
...............................
จบไปอีกตอนแล้วสิเนี่ย...
ยังไม่มีใครมาเม้นให้เลย เสียใจนะ T^T
ขยายนิดนึงนะ ตอนที่จุนซูบอกว่าจะไปที่ร้านน่ะ
มันเป็นร้านเบเกอรี่ของฮีชอล
แล้วเพื่อนๆของฮีชอลก็ทำงานอยู่ที่นั่น
บอกไว้เพื่องง ^O^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น