ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1-2
ช่วงเช้าห้องของแม็กซ์เรียนกันสามวิชา แต่เขาไม่ค่อยมีกะจิตกะใจเท่าไรนัก หัวสมองเฝ้าหมุนวนค้นหาแผนการต่างๆ นานาว่าจะทำอย่างไรจึงจะชนะนายป๊อบได้ ...จนช่วงพักกลางวันเดินทางมาถึง...
   
“เฮ้ย!!...ไอ้แม็กซ์ไปหาอะไรแดกกัน!!”
   
โก้... เด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับแม็กซ์ตะโกนเรียกพร้อมสาวเท้าเข้ามาใกล้ โก้นั้นเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของแม็กซ์ หุ่นหมอนี่ท้วมแต่ไม่ถึงกับอ้วน ตัวสูงกว่าแม็กซ์เล็กน้อย ...นอกจากโก้คนนี้แล้ว แม็กซ์ก็ยังมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อ เจ๋ง ...เจ๋งนั้นเป็นคนค่อนข้างเงียบ ตัวเล็กผอม ใส่แว่น ดูท่าจะเป็นเด็กเรียนแต่ก็ไม่ใช่ มิหนำซ้ำยังอาจจะเกเรมากกว่าแม็กซ์กับโก้อีกต่างหาก เพราะเขาชอบชวนโดดเรียนไปเล่นเกมอยู่บ่อยๆ ..ทั้งสามคนนี้เป็นแก๊งเดียวกัน...
   
“เออ... ไปดิ แล้วไอ้เจ๋งล่ะ ?” แม็กซ์ลุกขึ้นถาม
   
“โน้น... กำลังเก็บกระเป๋าอยู่ มึงก็เก็บด้วยสิวะ” โก้บุ้ยหน้าไปทางเจ๋ง ผู้ซึ่งกำลังเอาตำราเรียนใส่กระเป๋า แล้วค่อยๆ คลี่แผ่ถุงดำขนาดใหญ่ออกเบาๆ เหมือนกลัวถุงจะขาด...
   
“ให้กูเก็บทำไมวะ นี่อย่าบอกนะว่าจะไปหาแดกกันข้างนอก ?”
   
โก้ยิ้มแล้วเอียงตัวมากระซิบข้างๆ แม็กซ์
   
“ไปแดกข้าวที่ร้านแฟร์เพลย์โว้ย ...ไปเปล่า ?”
   
“อะไรวะ!!... จะไปเล่นเกมกันอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวเกรดไม่สวยนะมึง เดือนนี้เราก็ออกไปตั้งสองครั้งแล้วอีกอย่างก็ใกล้สอบแล้วด้วย...” แม็กซ์ไม่เห็นด้วยสักเท่าไร “...นี่พวกมึงโดดไปเล่นเกมกันอยู่เรื่อย ถ้าโดนจับได้จะแย่เอาน่ะโว้ย!!”
“น่า... ไม่โดนจับได้หรอก ทางหนีน่ะมีแค่เราสามคนที่รู้... ถ้ามึง กู ไอ้เจ๋งไม่บอกใครซะอย่าง ใครจะไปรู้ได้วะ... หรือมึงคิดจะไปบอกจารย์” โก้ยืนหน้ามาใกล้ๆ ทำเชิงขู่เล็กน้อย
“กูน่ะไม่บอกใครหรอก...เฮ้อ!!” แม็กซ์ถอนหายใจ เขาเงียบคล้ายคำนวณอะไรสักอย่างในสมอง พักหนึ่งก็เอ่ยตอบ ”...เอ้อ ไปก็ได้!! เดี๋ยวกูไปเก็บของแป๊บหนึ่งก็แล้วกัน”
“งั้นกูลงไปรอกระเป๋าก่อน อย่าลืมกระเป๋ากูน่ะมึง” โก้กำชับแม็กซ์ จากนั้นก็วิ่งออกนอกห้องไป
กลวิธีการโดดเรียนของทั้งสาม มิได้ทำเหมือนเด็กคนอื่นที่โดดเรียนในโรงเรียนนี้ คนอื่นนั้นจะใช้วิธีโดดจริงๆ คือ ปีนข้ามกำแพงด้านหลังตึกโรงอาหาร ซึ่งบริเวณนั้นมีต้นไม้รกครึ้ม เดินผ่านที่รกร้างแล้วถึงสามารถออกไปยังซอยข้างหลังโรงเรียนได้ ...ส่วนพวกแม็กซ์มีทางหนีประจำที่ถูกซ่อนไว้ยังข้างๆ ตึกเรียนที่พวกเขาเรียนอยู่นี่เอง ทางหนีนี้มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ โดยเจ๋งเป็นคนพบมันโดยบังเอิญเมื่อปีก่อน สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็มีเพียงแค่นำกระเป๋าออกไปด้วยให้ได้โดยต้องไม่ให้ใครสังเกตเห็น ซึ่งหลังจากบ่มเพาะประสบการณ์โดดเรียนมาหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาก็ได้วิธีการโดดเรียนที่นับได้ว่าสมบูรณ์แบบวิธีหนึ่งเลยทีเดียว...
แผนการมีอยู่ว่า พวกแม็กซ์จะอาศัยท่อทิ้งขยะที่มีช่องทิ้งขยะอยู่ในแต่ละชั้นของตึกเรียน เป็นทางสำหรับนำกระเป๋าลงไปข้างล่าง โดยห่อกระเป๋าของแต่ละคนด้วยถุงพลาสติกสีดำที่เจ๋งเตรียมมาก่อน เมื่อแม็กซ์ซึ่งลอบนำกระเป๋าทั้งสามใบมาทิ้งได้แล้ว โก้ที่ยืนรออยู่ตรงบริเวณที่พักขยะจากท่อทิ้งขยะพร้อมกับถังขยะแบบเข็นที่เขาแกล้งทำเป็นมาทิ้งขยะ จะรีบนำถุงดำที่ห่อกระเป๋าไว้ใส่ถังขยะอย่างรวดเร็ว แล้วเข็นไปไว้ที่ข้างตึกเรียนซึ่งมีลักษณะเป็นซอกตึกติดกับกำแพงโรงเรียน ที่ตรงนั้นเจ๋งจะรออยู่แล้วเพื่อช่วยกันแกะถุงดำที่ห่อกระเป๋าออก แล้วโยนกระเป๋าเข้าไปในซอกตึกนั่น รอแม็กซ์ครู่หนึ่งแล้วทั้งสามคนจะรีบเดินตะแคงแบบก้มๆ เข้าไปในซอกตึกโดยมีถังขยะที่นำกระเป๋าพวกเขามาบังอยู่ เมื่อเดินมาได้ประมาณครึ่งตึกเรียน ก็จะเจอประตูทางหนีที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางร่มไม้และวัชพืชที่หนาตา
...ทั้งหมดทำตามแผนเดิมอีกครั้ง... มันสำเร็จลุล่วงได้โดยสะดวก ไม่มีใครสงสัยหรือสังเกตว่าพวกเขาทำอะไร แต่ถึงแม้จะเห็นก็คงเป็นแค่เด็กนักเรียนด้วยกัน ไม่น่าจะมีใครไปฟ้องอาจารย์อยู่แล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
ประตูเหล็กขึ้นสนิมจนผุ ถูกเปิดออกช้าๆ มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดเล็กน้อยไม่มากนัก ...เจ๋งคอยดูแลทางหนีนี้อยู่เสมอ เขาจะหมั่นมาตรวจและใส่น้ำมันจักรให้ประตูเปิดปิดโดยสะดวกไม่เสียงดัง อีกทั้งยังคล้องกุญแจล็อกประตูไว้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้ใช้ทางหนีนี้อีกในวันหน้า
แม็กซ์ก้าวเท้าออกมาจากประตูเป็นคนสุดท้าย เขาปิดประตูเหล็ก ด้วยการค่อยๆ บิดก้านลูกบิดประตูลงแล้วผลักเข้าที่อย่างช้าๆ แล้วก็เอื้อมมือผ่านซี่กรงเข้าไปด้านใน เพื่อล็อกแม่กุญแจอันเขื่อง
ขณะกำลังล็อกประตู สายตาของแม็กซ์ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นป้ายที่มีเลข 3264/028 เขียนติดอยู่ ความจริงป้ายนี่ก็ติดอยู่นี่ตั้งนานแล้ว เขาเองก็เห็นประจำแต่ไม่ได้สังเกตมันเท่าไร ...แต่วันนี้แม็กซ์รู้สึกว่ามันแปลกๆ ออกไป จึงสะกิดโก้ที่อยู่ข้างหน้า แล้วกระซิบถาม
“เฮ้ย... ไอ้โก้ ไอ้เจ๋ง... มึงว่าเลขตรงนี้มันแปลกๆ ไปเปล่าวะ? “
โก้และเจ๋งหยุดเดินแล้วหันกลับมามองป้ายนั่น
“เหรอ...” โก้พูดขึ้น เขาจ้องป้ายนั่นเพื่อหาว่ามีอะไรที่แปลกไป “...ไม่รู้วะ อะไรวะที่ว่าแปลกน่ะ ?”
โก้ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติไปเลย ตัวเลขสีแดงเลือดนกที่เข้มจนเกือบเป็นสีน้ำตาลก็ยังสดอยู่เหมือนเดิม ป้ายบ้านเลขที่ผุๆก็ติดอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หรือแม้แต่ประตูสนิมเขรอะ รอยของสนิมบางจุดที่เขาจำได้ก็ยังอยู่ที่เดิม...!!?
“เอ๋...!? จะว่าไปแล้ว...” โก้เหมือนจะฉุกนึกอะไรขึ้นมาได้ เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ประตูเพื่อจ้องตัวเลขนั่น
แม็กซ์เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้น
“มึงคิดเหมือนกันใช่ม้า... ไอ้โก้”
“คิดอะไรวะ ที่ว่าเหมือนกันน่ะ ?... กูยังไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกแตกต่างเลย”
เจ๋งยังคงไม่รู้เรื่องว่าสองคนพูดถึงเรื่องอะไรกัน
“ตัวเลขนี้ไง มึงว่ามันแปลกมั้ย ?...” แม็กซ์ชี้ไปที่ตัวเลขให้เจ๋งมองตาม “...เรารู้จักทางนี้มาตั้งนานแล้ว ดูประตูสิ หรือแม้แต่แผ่นป้ายที่มีตัวเลขนี้...”
“ประตูเป็นสนิมเขรอะ แผ่นป้ายก็เก่าผุเป็นสนิมเหมือนกัน...” โก้เสริม
เท่านี้เจ๋งก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนพูดถึงอะไรที่ว่าแปลก
“มึงสองคนกำลังจะบอกว่า ...มีแต่ตัวเลขนี้เท่านั้นที่ดูสียังสด เหมือนกับว่าเพิ่งมีคนมาทาไว้ใหม่ ใช่มั้ย? “
แม็กซ์กับโก้พยักหน้าเป็นเชิงตอบว่าใช่ ...แต่เจ๋งกลับส่ายหน้าเป็นพัดลม
“แล้วพวกมึงจะไปสนใจทำไมวะ... อาจจะเป็นภารโรงหรือใครก็ได้นี่หว่า ที่เอาสีมาทาตัวเลขเนี่ย” เจ๋งพูดท่าทางไม่ใส่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
“เออ...นั่นดิ” โก้หันมาเห็นด้วยกับเจ๋งแล้วคราวนี้
“อ้าว...!!” แม็กซ์อุทานพร้อมๆ กับหันไปมองโก้ “...มึงนี่ไอ้โก้!! ก็ถ้ามีคนมาทาสีใหม่จริงๆ ก็แสดงว่ามีคนที่รู้ทางหนีของเราตรงนี้สิวะ จริงมั้ย ?”
โก้ทำหน้าครุ่นคิด แล้วพยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร
“เฮ้ย...ไอ้แม็กซ์ ทางนี้มันเป็นทางเก่าตั้งแต่ตึกนี้ยังไม่สร้างเลยนะโว้ย มีก่อนเราเกิดซะล่ะมั้ง... ถ้าจะมีคนอื่นรู้ก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่หว่า ...แล้วอีกอย่าง พวกมึงจะยืนพูดกันอยู่ตรงนี้ให้มีคนมาเห็นใช่มั้ยเนี่ย?... งั้นกูไปก่อนแล้วกัน...” เจ๋งพูดจบก็แหงนหน้ามองตึกเรียน ว่ามีใครโผล่หน้าออกมาเห็นพวกเขาหรือไม่ จากนั้นก็รีบเดินไปต่อ
โก้เดินตามเจ๋งไปอีกคนโดยไม่พูดอะไร ส่วนแม็กซ์จะยืนอยู่คนเดียวก็กระไรอยู่ จึงเดินตามเพื่อนทั้งสองไปทันที ในใจก็คิดถึงตัวเลขที่เห็น เพราะนอกจากมันจะดูใหม่กว่าที่ควรจะเป็นแล้ว มันยังมีอะไรแปลกๆ ไปกว่านั้นอีก ซึ่งเขาก็นึกไม่ออกว่ามันคืออะไร? ...อืม... แต่ช่างมันเถอะ เอาหัวไปคิดเรื่องไอ้ป๊อบดีกว่า...
   
“เฮ้ย!!...ไอ้แม็กซ์ไปหาอะไรแดกกัน!!”
   
โก้... เด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับแม็กซ์ตะโกนเรียกพร้อมสาวเท้าเข้ามาใกล้ โก้นั้นเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของแม็กซ์ หุ่นหมอนี่ท้วมแต่ไม่ถึงกับอ้วน ตัวสูงกว่าแม็กซ์เล็กน้อย ...นอกจากโก้คนนี้แล้ว แม็กซ์ก็ยังมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อ เจ๋ง ...เจ๋งนั้นเป็นคนค่อนข้างเงียบ ตัวเล็กผอม ใส่แว่น ดูท่าจะเป็นเด็กเรียนแต่ก็ไม่ใช่ มิหนำซ้ำยังอาจจะเกเรมากกว่าแม็กซ์กับโก้อีกต่างหาก เพราะเขาชอบชวนโดดเรียนไปเล่นเกมอยู่บ่อยๆ ..ทั้งสามคนนี้เป็นแก๊งเดียวกัน...
   
“เออ... ไปดิ แล้วไอ้เจ๋งล่ะ ?” แม็กซ์ลุกขึ้นถาม
   
“โน้น... กำลังเก็บกระเป๋าอยู่ มึงก็เก็บด้วยสิวะ” โก้บุ้ยหน้าไปทางเจ๋ง ผู้ซึ่งกำลังเอาตำราเรียนใส่กระเป๋า แล้วค่อยๆ คลี่แผ่ถุงดำขนาดใหญ่ออกเบาๆ เหมือนกลัวถุงจะขาด...
   
“ให้กูเก็บทำไมวะ นี่อย่าบอกนะว่าจะไปหาแดกกันข้างนอก ?”
   
โก้ยิ้มแล้วเอียงตัวมากระซิบข้างๆ แม็กซ์
   
“ไปแดกข้าวที่ร้านแฟร์เพลย์โว้ย ...ไปเปล่า ?”
   
“อะไรวะ!!... จะไปเล่นเกมกันอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวเกรดไม่สวยนะมึง เดือนนี้เราก็ออกไปตั้งสองครั้งแล้วอีกอย่างก็ใกล้สอบแล้วด้วย...” แม็กซ์ไม่เห็นด้วยสักเท่าไร “...นี่พวกมึงโดดไปเล่นเกมกันอยู่เรื่อย ถ้าโดนจับได้จะแย่เอาน่ะโว้ย!!”
“น่า... ไม่โดนจับได้หรอก ทางหนีน่ะมีแค่เราสามคนที่รู้... ถ้ามึง กู ไอ้เจ๋งไม่บอกใครซะอย่าง ใครจะไปรู้ได้วะ... หรือมึงคิดจะไปบอกจารย์” โก้ยืนหน้ามาใกล้ๆ ทำเชิงขู่เล็กน้อย
“กูน่ะไม่บอกใครหรอก...เฮ้อ!!” แม็กซ์ถอนหายใจ เขาเงียบคล้ายคำนวณอะไรสักอย่างในสมอง พักหนึ่งก็เอ่ยตอบ ”...เอ้อ ไปก็ได้!! เดี๋ยวกูไปเก็บของแป๊บหนึ่งก็แล้วกัน”
“งั้นกูลงไปรอกระเป๋าก่อน อย่าลืมกระเป๋ากูน่ะมึง” โก้กำชับแม็กซ์ จากนั้นก็วิ่งออกนอกห้องไป
กลวิธีการโดดเรียนของทั้งสาม มิได้ทำเหมือนเด็กคนอื่นที่โดดเรียนในโรงเรียนนี้ คนอื่นนั้นจะใช้วิธีโดดจริงๆ คือ ปีนข้ามกำแพงด้านหลังตึกโรงอาหาร ซึ่งบริเวณนั้นมีต้นไม้รกครึ้ม เดินผ่านที่รกร้างแล้วถึงสามารถออกไปยังซอยข้างหลังโรงเรียนได้ ...ส่วนพวกแม็กซ์มีทางหนีประจำที่ถูกซ่อนไว้ยังข้างๆ ตึกเรียนที่พวกเขาเรียนอยู่นี่เอง ทางหนีนี้มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ โดยเจ๋งเป็นคนพบมันโดยบังเอิญเมื่อปีก่อน สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็มีเพียงแค่นำกระเป๋าออกไปด้วยให้ได้โดยต้องไม่ให้ใครสังเกตเห็น ซึ่งหลังจากบ่มเพาะประสบการณ์โดดเรียนมาหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาก็ได้วิธีการโดดเรียนที่นับได้ว่าสมบูรณ์แบบวิธีหนึ่งเลยทีเดียว...
แผนการมีอยู่ว่า พวกแม็กซ์จะอาศัยท่อทิ้งขยะที่มีช่องทิ้งขยะอยู่ในแต่ละชั้นของตึกเรียน เป็นทางสำหรับนำกระเป๋าลงไปข้างล่าง โดยห่อกระเป๋าของแต่ละคนด้วยถุงพลาสติกสีดำที่เจ๋งเตรียมมาก่อน เมื่อแม็กซ์ซึ่งลอบนำกระเป๋าทั้งสามใบมาทิ้งได้แล้ว โก้ที่ยืนรออยู่ตรงบริเวณที่พักขยะจากท่อทิ้งขยะพร้อมกับถังขยะแบบเข็นที่เขาแกล้งทำเป็นมาทิ้งขยะ จะรีบนำถุงดำที่ห่อกระเป๋าไว้ใส่ถังขยะอย่างรวดเร็ว แล้วเข็นไปไว้ที่ข้างตึกเรียนซึ่งมีลักษณะเป็นซอกตึกติดกับกำแพงโรงเรียน ที่ตรงนั้นเจ๋งจะรออยู่แล้วเพื่อช่วยกันแกะถุงดำที่ห่อกระเป๋าออก แล้วโยนกระเป๋าเข้าไปในซอกตึกนั่น รอแม็กซ์ครู่หนึ่งแล้วทั้งสามคนจะรีบเดินตะแคงแบบก้มๆ เข้าไปในซอกตึกโดยมีถังขยะที่นำกระเป๋าพวกเขามาบังอยู่ เมื่อเดินมาได้ประมาณครึ่งตึกเรียน ก็จะเจอประตูทางหนีที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางร่มไม้และวัชพืชที่หนาตา
...ทั้งหมดทำตามแผนเดิมอีกครั้ง... มันสำเร็จลุล่วงได้โดยสะดวก ไม่มีใครสงสัยหรือสังเกตว่าพวกเขาทำอะไร แต่ถึงแม้จะเห็นก็คงเป็นแค่เด็กนักเรียนด้วยกัน ไม่น่าจะมีใครไปฟ้องอาจารย์อยู่แล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
ประตูเหล็กขึ้นสนิมจนผุ ถูกเปิดออกช้าๆ มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดเล็กน้อยไม่มากนัก ...เจ๋งคอยดูแลทางหนีนี้อยู่เสมอ เขาจะหมั่นมาตรวจและใส่น้ำมันจักรให้ประตูเปิดปิดโดยสะดวกไม่เสียงดัง อีกทั้งยังคล้องกุญแจล็อกประตูไว้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้ใช้ทางหนีนี้อีกในวันหน้า
แม็กซ์ก้าวเท้าออกมาจากประตูเป็นคนสุดท้าย เขาปิดประตูเหล็ก ด้วยการค่อยๆ บิดก้านลูกบิดประตูลงแล้วผลักเข้าที่อย่างช้าๆ แล้วก็เอื้อมมือผ่านซี่กรงเข้าไปด้านใน เพื่อล็อกแม่กุญแจอันเขื่อง
ขณะกำลังล็อกประตู สายตาของแม็กซ์ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นป้ายที่มีเลข 3264/028 เขียนติดอยู่ ความจริงป้ายนี่ก็ติดอยู่นี่ตั้งนานแล้ว เขาเองก็เห็นประจำแต่ไม่ได้สังเกตมันเท่าไร ...แต่วันนี้แม็กซ์รู้สึกว่ามันแปลกๆ ออกไป จึงสะกิดโก้ที่อยู่ข้างหน้า แล้วกระซิบถาม
“เฮ้ย... ไอ้โก้ ไอ้เจ๋ง... มึงว่าเลขตรงนี้มันแปลกๆ ไปเปล่าวะ? “
โก้และเจ๋งหยุดเดินแล้วหันกลับมามองป้ายนั่น
“เหรอ...” โก้พูดขึ้น เขาจ้องป้ายนั่นเพื่อหาว่ามีอะไรที่แปลกไป “...ไม่รู้วะ อะไรวะที่ว่าแปลกน่ะ ?”
โก้ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติไปเลย ตัวเลขสีแดงเลือดนกที่เข้มจนเกือบเป็นสีน้ำตาลก็ยังสดอยู่เหมือนเดิม ป้ายบ้านเลขที่ผุๆก็ติดอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หรือแม้แต่ประตูสนิมเขรอะ รอยของสนิมบางจุดที่เขาจำได้ก็ยังอยู่ที่เดิม...!!?
“เอ๋...!? จะว่าไปแล้ว...” โก้เหมือนจะฉุกนึกอะไรขึ้นมาได้ เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ประตูเพื่อจ้องตัวเลขนั่น
แม็กซ์เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้น
“มึงคิดเหมือนกันใช่ม้า... ไอ้โก้”
“คิดอะไรวะ ที่ว่าเหมือนกันน่ะ ?... กูยังไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกแตกต่างเลย”
เจ๋งยังคงไม่รู้เรื่องว่าสองคนพูดถึงเรื่องอะไรกัน
“ตัวเลขนี้ไง มึงว่ามันแปลกมั้ย ?...” แม็กซ์ชี้ไปที่ตัวเลขให้เจ๋งมองตาม “...เรารู้จักทางนี้มาตั้งนานแล้ว ดูประตูสิ หรือแม้แต่แผ่นป้ายที่มีตัวเลขนี้...”
“ประตูเป็นสนิมเขรอะ แผ่นป้ายก็เก่าผุเป็นสนิมเหมือนกัน...” โก้เสริม
เท่านี้เจ๋งก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนพูดถึงอะไรที่ว่าแปลก
“มึงสองคนกำลังจะบอกว่า ...มีแต่ตัวเลขนี้เท่านั้นที่ดูสียังสด เหมือนกับว่าเพิ่งมีคนมาทาไว้ใหม่ ใช่มั้ย? “
แม็กซ์กับโก้พยักหน้าเป็นเชิงตอบว่าใช่ ...แต่เจ๋งกลับส่ายหน้าเป็นพัดลม
“แล้วพวกมึงจะไปสนใจทำไมวะ... อาจจะเป็นภารโรงหรือใครก็ได้นี่หว่า ที่เอาสีมาทาตัวเลขเนี่ย” เจ๋งพูดท่าทางไม่ใส่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
“เออ...นั่นดิ” โก้หันมาเห็นด้วยกับเจ๋งแล้วคราวนี้
“อ้าว...!!” แม็กซ์อุทานพร้อมๆ กับหันไปมองโก้ “...มึงนี่ไอ้โก้!! ก็ถ้ามีคนมาทาสีใหม่จริงๆ ก็แสดงว่ามีคนที่รู้ทางหนีของเราตรงนี้สิวะ จริงมั้ย ?”
โก้ทำหน้าครุ่นคิด แล้วพยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร
“เฮ้ย...ไอ้แม็กซ์ ทางนี้มันเป็นทางเก่าตั้งแต่ตึกนี้ยังไม่สร้างเลยนะโว้ย มีก่อนเราเกิดซะล่ะมั้ง... ถ้าจะมีคนอื่นรู้ก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่หว่า ...แล้วอีกอย่าง พวกมึงจะยืนพูดกันอยู่ตรงนี้ให้มีคนมาเห็นใช่มั้ยเนี่ย?... งั้นกูไปก่อนแล้วกัน...” เจ๋งพูดจบก็แหงนหน้ามองตึกเรียน ว่ามีใครโผล่หน้าออกมาเห็นพวกเขาหรือไม่ จากนั้นก็รีบเดินไปต่อ
โก้เดินตามเจ๋งไปอีกคนโดยไม่พูดอะไร ส่วนแม็กซ์จะยืนอยู่คนเดียวก็กระไรอยู่ จึงเดินตามเพื่อนทั้งสองไปทันที ในใจก็คิดถึงตัวเลขที่เห็น เพราะนอกจากมันจะดูใหม่กว่าที่ควรจะเป็นแล้ว มันยังมีอะไรแปลกๆ ไปกว่านั้นอีก ซึ่งเขาก็นึกไม่ออกว่ามันคืออะไร? ...อืม... แต่ช่างมันเถอะ เอาหัวไปคิดเรื่องไอ้ป๊อบดีกว่า...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น