ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
แม้จะเป็นฤดูหนาว ทว่าแสงแดดที่เร่าร้อนในยามพักเที่ยง ส่งผลให้หลายๆ คนในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ต้องดับความร้อนกระหายด้วยการดื่มน้ำเย็นๆ แต่สำหรับเด็กนักเรียนชายวัยสิบเจ็ดสิบแปดปีสามคนนี้แล้ว เขากลับใช้น้ำจากก๊อกหลังตึกเรียน ราดรดหัวแล้วสะบัดไปมาเพื่อไล่ไอร้อนที่คุกรุ่นอยู่ในร่างกาย พวกเขาทั้งสามดูท่าเหมือนรอคอยใครบางคนอยู่
   
“เมื่อไหร่มันจะมาซะทีวะ?” วัยรุ่นชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ใบหน้าที่เหี้ยมเกรียมดุดัน กอปรกับท่าทีที่ยียวนกวนประสาท ทำให้นึกไปได้ว่าเขาเป็นหัวโจกของแก๊งนี้
   
อีกสองคนมองหน้ากันพลางทำเฉย ...พักหนึ่งเงาของใครบางคนก็ปรากฏให้เห็นอยู่ริมตึก เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหัวโจกรีบสะกิดผู้กำลังบ่นพึมพำ พลางก้มหน้าก้มตาเอาน้ำรดหัวอยู่ให้เงยหน้าขึ้นมามอง...
   
“ในที่สุดก็มาซะที แม่ง!!...เล่นตัวฉิบเป๋ง!!”
   
เด็กหนุ่มที่พวกนั้นรออยู่ ย่างเดินเข้าใกล้พร้อมกับสองมือที่ล้วงกระเป๋า เมื่อมาหยุดยืนตรงหน้าชายรุ่นใหญ่กว่าทั้งสามแล้ว เขาก็พูดออกไปทันทีด้วยท่าทางที่ไม่กลัวเกรง
   
“สืบมาได้แล้ว ...ของทุกอย่างจะมาอยู่ในโรงเรียนอีกสองอาทิตย์”
   
“ดี!! แล้วราคาล่ะ?”
   
“ห้าหมื่น...”
   
“เฮ้ย!! ห้าหมื่นเชียวเหรอวะ ...มึงคิดว่าพวกกูจะเอาเงินมาจากไหนกัน!!?”
   
“จะเอาหรือไม่เอา!! ถ้ากูเอาไปขายเอง กูได้มากกว่านี้อีกนะ ...นี่กูอุตส่าห์ให้พวกมึงเป็นเอเยนต์นะเนี่ย”
   
หัวโจกดูท่าคิดหนัก เขาขบกรามแล้วใช้สมองที่ไม่ค่อยปราดเปรื่องคำนวณอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่คิดพรรคพวกอีกสองคนก็เร่งสะกิดพลางกระซิบว่า ...เอาๆ ไปเหอะ ถ้าขายได้ อาจจะกำไรยิ่งกว่าห้าหมื่นเสียอีก...
   
“วะ!!! เอาก็เอา แล้วอย่าเบี้ยวกูล่ะ!! ...บอกมาจะส่งของวันไหน!?”
   
“ก่อนสอบโรงเรียนมีหยุดให้หนึ่งอาทิตย์ กูจะเอามาให้พวกมึงวันที่สามของวันหยุด!!”
   
“ให้เร็วกว่านั้นไม่ได้หรือไงฟะ!!!” หัวโจกขึ้นเสียงขู่ แต่เด็กหนุ่มผู้นั้นก็ไม่สะทกสะท้าน ยังยืนล้วงกระเป๋านิ่งใบหน้าจ้องตรง น้ำเสียงที่ตอบกลับราบเรียบคล้ายบอกให้รู้ว่าตนถือไพ่เหนือกว่า
   
“มึงจะไม่เอาก็ได้นะเว้ย”
   
“แม่ง!!! ...ก็ได้ๆ ตกลงตามนี้ แล้วอย่าช้าล่ะ ...ถ้ากูขายไม่ทันกูเล่นมึงแน่” หัวโจกยังไม่วายเอ่ยขู่ แม้จะรู้ว่าตนตกเป็นเบี้ยล่างก็ตาม
   
“หึ...มึงไม่ผิดหวังแน่ถ้าตกลงกับคนอย่างกู ถ้าเสร็จธุระกันแล้ว กูไปล่ะ...”
   
เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอ เขากลับหลังหันแล้วสาวเท้าก้าวไปทันที ปล่อยให้ชายวัยรุ่นสามคนกำหมัดจ้องมองด้วยสายตาเชือดเฉือนคล้ายจะกินเลือดกินเนื้อ หากแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ใส่ใจพวกปลายแถว เพราะรู้ว่าพวกนั้นทำอะไรตนเองไม่ได้อยู่แล้ว...
   
...เวลาเหลืออยู่อีกครึ่งเดือน สำหรับเขาแล้วงานนี้มันช่างง่ายดายเสียจริงๆ...
   
“เมื่อไหร่มันจะมาซะทีวะ?” วัยรุ่นชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ใบหน้าที่เหี้ยมเกรียมดุดัน กอปรกับท่าทีที่ยียวนกวนประสาท ทำให้นึกไปได้ว่าเขาเป็นหัวโจกของแก๊งนี้
   
อีกสองคนมองหน้ากันพลางทำเฉย ...พักหนึ่งเงาของใครบางคนก็ปรากฏให้เห็นอยู่ริมตึก เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหัวโจกรีบสะกิดผู้กำลังบ่นพึมพำ พลางก้มหน้าก้มตาเอาน้ำรดหัวอยู่ให้เงยหน้าขึ้นมามอง...
   
“ในที่สุดก็มาซะที แม่ง!!...เล่นตัวฉิบเป๋ง!!”
   
เด็กหนุ่มที่พวกนั้นรออยู่ ย่างเดินเข้าใกล้พร้อมกับสองมือที่ล้วงกระเป๋า เมื่อมาหยุดยืนตรงหน้าชายรุ่นใหญ่กว่าทั้งสามแล้ว เขาก็พูดออกไปทันทีด้วยท่าทางที่ไม่กลัวเกรง
   
“สืบมาได้แล้ว ...ของทุกอย่างจะมาอยู่ในโรงเรียนอีกสองอาทิตย์”
   
“ดี!! แล้วราคาล่ะ?”
   
“ห้าหมื่น...”
   
“เฮ้ย!! ห้าหมื่นเชียวเหรอวะ ...มึงคิดว่าพวกกูจะเอาเงินมาจากไหนกัน!!?”
   
“จะเอาหรือไม่เอา!! ถ้ากูเอาไปขายเอง กูได้มากกว่านี้อีกนะ ...นี่กูอุตส่าห์ให้พวกมึงเป็นเอเยนต์นะเนี่ย”
   
หัวโจกดูท่าคิดหนัก เขาขบกรามแล้วใช้สมองที่ไม่ค่อยปราดเปรื่องคำนวณอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่คิดพรรคพวกอีกสองคนก็เร่งสะกิดพลางกระซิบว่า ...เอาๆ ไปเหอะ ถ้าขายได้ อาจจะกำไรยิ่งกว่าห้าหมื่นเสียอีก...
   
“วะ!!! เอาก็เอา แล้วอย่าเบี้ยวกูล่ะ!! ...บอกมาจะส่งของวันไหน!?”
   
“ก่อนสอบโรงเรียนมีหยุดให้หนึ่งอาทิตย์ กูจะเอามาให้พวกมึงวันที่สามของวันหยุด!!”
   
“ให้เร็วกว่านั้นไม่ได้หรือไงฟะ!!!” หัวโจกขึ้นเสียงขู่ แต่เด็กหนุ่มผู้นั้นก็ไม่สะทกสะท้าน ยังยืนล้วงกระเป๋านิ่งใบหน้าจ้องตรง น้ำเสียงที่ตอบกลับราบเรียบคล้ายบอกให้รู้ว่าตนถือไพ่เหนือกว่า
   
“มึงจะไม่เอาก็ได้นะเว้ย”
   
“แม่ง!!! ...ก็ได้ๆ ตกลงตามนี้ แล้วอย่าช้าล่ะ ...ถ้ากูขายไม่ทันกูเล่นมึงแน่” หัวโจกยังไม่วายเอ่ยขู่ แม้จะรู้ว่าตนตกเป็นเบี้ยล่างก็ตาม
   
“หึ...มึงไม่ผิดหวังแน่ถ้าตกลงกับคนอย่างกู ถ้าเสร็จธุระกันแล้ว กูไปล่ะ...”
   
เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอ เขากลับหลังหันแล้วสาวเท้าก้าวไปทันที ปล่อยให้ชายวัยรุ่นสามคนกำหมัดจ้องมองด้วยสายตาเชือดเฉือนคล้ายจะกินเลือดกินเนื้อ หากแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ใส่ใจพวกปลายแถว เพราะรู้ว่าพวกนั้นทำอะไรตนเองไม่ได้อยู่แล้ว...
   
...เวลาเหลืออยู่อีกครึ่งเดือน สำหรับเขาแล้วงานนี้มันช่างง่ายดายเสียจริงๆ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น