ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MarkBam] He's Glasses Boy ; #ฟิคแบมแว่น

    ลำดับตอนที่ #14 : CH 12 | สิ้นสุดสถานะไร้ชื่อ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.34K
      8
      24 พ.ย. 59





    Chapter 12
    สิ้นสุดสถานะไร้ชื่อ
    รบกวนอ่าน talk ด้วยน้า  ♥



              "ห้ะ?! นอนค้างนี่?!" แบมแบมถึงกับทวนสิ่งที่มาร์คเพิ่งพูดไป นี่เขาหูฝาดไปรึเปล่า?

              "ใช่ ผมจะค้างที่นี่" พูดจบก็ยิ้มกว้างประกอบจนเห็นเขี้ยวเอกลักษณ์

              ย้อนไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว หลังจากที่คุณหญิงภูวกุลเดินออกจากห้องอาหารไปแล้ว  ความคิดหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัว ผสมกับคำพูดของคุณหญิงภูวกุลที่พูดกับเขาไป เขายิ่งแน่ใจว่าเขาควรทำอะไร มือหนาควักโทรศัพท์เครื่องเก่งมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วรัวพิมพ์ถึงคุณหญิงต้วน แม่ของเขา

              Mark Tuan : ม๊า วันนี้ทำงานบ้านเพื่อนยังไม่เสร็จเลย
              Mark Tuan : ขอค้างบ้านเพื่อน งานไม่คืบหน้าเลย น่าจะทำทั้งคืน
              Mark Tuan : จะทำตัวเป็นเด็กดีครับ ขอบคุณมาก

              เอ๊ะ.. อะไรทั้งคืนน้า?..

              "ไอ้บ้า แม่อนุญาติแล้วรึไง?!"

              "บอกแม่ไปแล้วว่าทำงานบ้านเพื่อนไม่เสร็จ เลยขอค้าง" แบมแบมตีไปที่ไหล่ของมาร์คแรงดังตุบหลังมาร์คพูดจบ บ้านไหนสอนให้โกหกแม่ตัวเองกันห้ะ?!

              "แม่พี่อนุญาติแล้ววรึไงจะมานอนบ้านพี่เนี่ย?" หาข้ออ้างมาข่มได้แบมแบมก็รีบเอ่ย 

              แต่ทว่า

              "มาร์คอยากนอนก็นอนสิลูก" แม่ของเขาโผล่มาจากไหน?! แถมแนวร่วมเดียวกับมาร์คเสียด้วย

              ตกลงแม่เป็นแม่ใคร แม่ของแบมแบมหรือแม่ของมาร์ค?..

              "แม่ แต่แบมไม่อยากให้มันนอนด้วย" ถึงพูดอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วปากก็ดันไม่ตรงกับใจซะเท่าไหร่หรอก..

              เมื่อห้ามมาร์คไม่ได้ ก็หันไปงอแงใส่แม่ เผื่อว่าแม่จะเข้าข้างเขาบ้าง

              แต่ไม่เลย..

              "นอนๆไปเถอะ เนาะมาร์คเนาะ ฟูกอยู่ห้องแม่นะ หรือจะนอนเตียงเดียวกันก็ได้" เขาจะเฉยๆมากถ้าประโยคท้ายแม่ไม่ส่งสายตากรุ่มกริ่มมาให้เขา

              นี่แบมลูกแม่จริงรึเปล่าเนี่ย?

              "เอาที่สบายใจกันเลยเหอะ" แบมแบมกระทืบเท้าปึงปังเข้าห้องนอนตั้งแต่ทุ่มกว่าๆเพราะงอนแม่และมาร์คที่ดูจะทีมเดียวกันเหลือเกิน ไม่มีใครเข้าข้างเขาสักคน งอนรอบที่ 2 ของวัน!

              "เอาไงล่ะมาร์ค งอนตุ๊บป่องแล้วน่ะ" แม่พยักเพยิดมาทางเขาหลังจากแบมแบมกระทืบเท้าเข้าห้องด้วยนิสัยแบบเด็กๆที่ติดใช้เฉพาะกับคนสนิท

              มาร์คถอนหายใจเบาๆพลางยิ้มไปกับความพี่แบมของเขางอนเป็นรอบที่ 2  นิสัยเด็กๆนี่อยากให้ใช้กับเขาคนเดียวชะมัด หวังว่านิสัยนี้นอกจากเพื่อนกับแม่จะมีเขาเพียงคนเดียวได้ดูนะ 

              มาร์คค่อยๆเดินเข้าไปในห้องตามทางที่แบมแบมเพิ่งเดินผ่านมา มือค่อยๆเอื้อมไปบิดลูกบิดเบาๆ บังเอิญว่าห้องไม่ได้ล็อค มาร์คถึงถือโอกาสนี้เข้าไปอย่างพละการณ์

              ภาพที่เห็นตรงหน้าของเขาคือห้องนอนขนาดใหญ่สีขาวฟ้า กับคนตัวเล็กที่นั่งขัดสมาธิบนเตียงขนาดคิงส์ไซส์หันหลังให้ประตู กอดอกมองไปที่ระเบียงไม่สนว่าใครจะเดินมาเลยแม้แต่น้อย

              "เชี่ย!" แบมแบมอุทานออกมาหลังจากที่ตัวเองรู้สึกว่ามีร่างกายของใครสักคนมากอดเขาจากทางด้านหลัง สัมผัสอุ่นๆจากร่างกายของเขาสามารถทำให้แบมแบมคลี่ยิ้มออกมาเบาๆ นั่นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าใคร

              "พี่งอนหรอ?" มาร์คขยับจนหน้าท้องลอนสวยแนบชิดไปกับแผ่นหลังบางที่มีเสื้อนักเรียนกั้นไปอยู่ แบมแบมรู้สึกถึงความแนบชิดจนสามารถเห็นภาพหน้าท้องของมาร์คได้อย่างชัดเจนว่าเป็นคนที่ดูแลสุขภาพดีขนาดไหน ยิ่งเสียงทุ่มต่ำกับลมหายใจอุ่นๆมันรดรินบริเวณหูของเขา มันยิ่งทำให้ใบหน้าของแบมแบมนั้นเห่อร้อนขึ้นได้อย่างไม่ยาก

              "ป- ปล่าวสักหน่อย" แต่ยิ่งหลบไม่ให้สันจมูกโด่งของมาร์คมาโดนใบหน้าเขา มันกลับยิ่งทำให้มาร์คเลื่อนใบหน้าเขามาใกล้กว่าเดิม 

              และใกล้เสียจนจมูกของมาร์คสามารถฝังลงไปบนแก้มนุ่มได้

              "ไอ้บ้ามาร์ค! ใครบอกให้ท -" แบมแบมที่ติดนิสัยยิ่งเขินมากยิ่งโวยวายหนักกำลังไปตวาดใส่รุ่นน้องตัวสูงที่ยืนแบ็คฮักซ้อนอยู่ด้านหลังที่ดันขโมยหอมแก้มเขาไปโดยไม่ได้รับอนุญาติ

              แต่ทว่า

              จุ๊บ

              เมื่อหันไปปากของเขาสัมผัสกับปากของมาร์คได้อย่างพอดิบพอดี แบมแบมเบิกตากว้างแต่กลับไม่สามารถขยับตัวได้เลย ราวกับร่างกายของเขาถูกแช่แข็งไว้

              จูบเพียงสัมผัสที่ปากแผ่วเบามันค้างเฉยๆไว้อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่แบมแบมจะค่อยถอนออกช้าๆ

              ห้องกว้างใหญ่ได้ยินเพียงแต่เสียงเข็มนาฬิกาและเสียงหัวใจของพวกเขา ที่มันดังเสียจนพวกเขาคิดว่าเหมือนหัวใจเขากำลังโลดเต้น มันเต้นดังจนหูของแบมแบมอื้ออึงไปหมด มันไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ มีเพียงความเงียบปกคลุมโดยรอบ สมองของแบมแบมเองก็ไม่สามารถประมวลผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้

              แบมแบมหลบสายตาของมาร์คที่มองมาด้วยความตกใจปะปนไปกับสายตาที่แสดงถึงความโลดเต้นดีใจ มือเรียวค่อยๆเลื่อนขึ้นมาแตะลงบนริมฝีปากของตัวเอง 

              จูบแรกของเขา.. เขาเสียให้มาร์คเสียแล้ว..

              แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่เขานึกเสียใจ ทว่ามันคือความคิดที่ไปทางดีใจเสียอีก 

              ในเมื่อมาร์คคือคนที่เขาคิดตัดสินใจจะเลือกในใจแต่แรกแล้ว มันก็ไม่มีอะไรน่าเสียใจเลย

              ในขณะที่ความคิดราวกับสาวแรกรุ่นที่เพิ่งเสียจูบแรกของแบมแบมกำลังกลั่นกรองออกมาทางความเขินอายและเลือดขึ้นสีที่อยู่บนใบหน้า มาร์คกลับค่อยๆอย่างย่างก้าวเข้ามาใกล้ตัวของแบมแบมช้าๆ พลิกตัวแบมแบมให้หันห้าเข้าหาตนเอง มือหนาเชยใบหน้าที่เขาหลงรักขึ้นมาให้สายตาสองเขาสองสบกัน พลางถอดแว่นตาหนาเตอะเผยให้เห็นดวงตากลมหวานที่เงยมองเขาอย่างน่ารัก ยิ่งรวมองค์ประกอบของใบหน้าตอนถอดแว่นแล้วละก็ มันทำให้เขารู้สึกหวงไปทุกส่วนบนร่างกายของรุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้

              ากของแบมแบม เมื่อกี้ที่เขาได้ลองสัมผัสดู มันนุ่มยุ่นยิ่งกว่าที่เขาวาดภาพฝันในหัวเมื่อมองปากอูมนั่นเสียอีก

              มันทำให้เขา.. อยากจะลิ้มลองมากกว่านี้

              เขาโน้มตัวลงก่อนจะเลื่อนใบหน้าให้เข้าไปใกล้อย่างช้าๆจนปลายจมูกสัมผัสกัน มาร์คเอียงหน้าปรับองศาของหน้าตัวเองให้การจูบในครั้งนี้ถนัดขึ้น

              จนกระทั่งริมฝีปากของเขาทั้งสองสัมผัสกัน มาร์คก็เปิดเกมส์โดยการจูบค้างไว้อย่างนั้น ค่อยๆเลาะเล็มริมฝีปากนิ่มทั้งบนและล่างอย่างละเมียดละไม แบมแบมหลับตาแน่น แขนทั้งสองข้างที่ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดูเกะกะไปหมด มาร์คจึงจับแขนทั้ง 2 ข้างของแบมแบมมาเกี่ยวรั้งไว้บนคอของเขา

              หลังจากเล่นกับปากนุ่มจนพอใจ เขาก็ส่งลิ้นเข้าไปลิ้มลองความหวานจากในปาก ลิ้นของเขาเกี่ยวตวัดไปทั่วปากของคนตัวเล็ก ทั้งเกี่ยวกับลิ้นของรุ่นพี่ตัวเล็ก ทั้งเลาะเล็ม ผสมปนเปไปหมด

              "อื้อ!"

              ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กของเขาจะเริ่มหายใจไม่ออก จึงทุบไปที่อกแกร่งเพื่อเป็นสัญญาณบอก มาร์คถอนริมฝีปากมาอย่างอ้อยอิ่ง แต่สายตากลับจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานนั่นไม่ยอมลดละ พวงแก้มใสที่แดงระรื่อรามไปถึงหู ปากที่เขาเพิ่งไปลิ้มลองรสจูบไปเมื่อกี้กำลังหอบหายใจเป็นจังหวะเดียวกับไหล่ สายตาก็ไม่ยอมสบกับมาร์คเป็นเพราะเขิน

              ..ทำให้เขารู้สึกไม่พอ

              ..คนคนนี้ทำให้ความต้องการของเขาไม่มีสิ้นสุด 

              "พี่เคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า?" มือหนาจับไปที่คางเบาๆพยายามเชยให้ใบหน้ารั้นเชิดขึ้นมาสบตากับเขา 

              "ฮื้อ!" แบมแบมส่ายหน้ารัวๆเพื่อปฏิเสธจนผมสีทองสบัดไปตามแรง แบมแบมในตอนนี้ดูเด็กกว่ามาร์คทุกอย่าง ทั้งประสบการณ์ ทั้งจูบเงอะงะที่เจ้าตัวเพิ่งได้ทำเป็นครั้งแรก ทั้งท่าทีที่แสนน่ารักในตอนนี้

              เขาอยากจะเก็บไว้ดูคนเดียว ไม่อยากให้ใครเห็นแบมแบมในด้านนี้เลยจริงๆ

              หัวใจแบมแบมมันเต้นแรงมากๆจนเขาเริ่มรำคาญที่เมื่อไรที่อยู่กับมาร์ค มันมักเต้นแรงแบบนี้เสมอ จนเขากลัวว่ากระดูกซี่โครงจะหักเลยล่ะ

               แถมเขายังนึกแปลกใจกับตัวเองที่สามารถดำเนินเกมส์ไปได้จนจบแม้จะมีติดขัดนิดหน่อยก็ตาม

              เมื่อเขาสบสายตากับมาร์ค กลับเห็นแต่ความต้องการมากล้น และสายตาแน่วแน่กับสิ่งที่ตนกำลังเอื้อนเอ่ยออกไป

              เขาคิดว่าเขาพอจะเดาได้กับสิ่งที่ร่างสูงกำลังจะพูด..

              "ถ้างั้นให้ผมเป็นแฟนคนแรกของพี่ได้มั้ย?"

              "..."

              "เป็นแฟนกันนะครับ แบมแบม"



    40 per.
    #ฟิคแบมแว่น
    Loading for 60 per.




              "อะไรนะ?.." แบมแบมปากค้างทันทีเมื่อได้ฟังกับหูตัวเอง ถึงแม้จะแอบคิดไว้แล้วในหัว แต่เมื่อได้มาฟังกับปากของเจ้าตัว เขากลับรู้สึกปากค้างขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกไปไม่เป็น

              จะตอบปฏิเสธก็ดูจะฝืนใจตัวเอง เพราะเขารักมาร์คเข้าให้แล้วยังไงล่ะ

              แต่ถ้าจะให้ตกลงไปเลย เขาอยากพูดแทบตาย แต่เหมือนมันติดอะไรอยู่สักอย่าง

              สิ่งนั้นมันทำให้เขากัดริมฝีปากตัวเองแน่น หลบสายตาคู่นั้นที่มองมาทางเขาด้วยความหวัง.. หวังถึงคำตอบที่เขาจะได้รับมันจะคือข่าวดี

              อาการนิ่งเงียบที่ทำให้ห้องโอ่งโถ่งเกิดอาการเดดแอร์ไปชั่วขณะทำให้มาร์คใจกระตุกวูบลง

              เพราะภาพที่เขาคิดว่ามันควรจะเป็นคือ พี่แบมแบมของเขาเขินหน้าแดงแล้วพยักหน้าหงึกหงักตอบรับเขาทันที

              แต่ภาพที่เขาเห็นตอนนี้มันกลับไม่ใช่แบบที่เขาวาดภาพฝันไว้ ตอนนี้คนตัวเล็กของเขาอยู่ในห้วงอาการที่ลังเล ไม่รู้ว่าลังเลอะไร แต่ในใจเขากลับมองไปเป็นแง่ร้ายไปแล้ว

              แง่ร้ายที่ว่าคือ ที่ผ่านมาเขาแค่คิดไปเอง คิดไปเองว่าที่ผ่านมาแบมแบมจะมีใจให้กันบ้าง แต่มันกลับไม่ใช่ ที่ลังเลคงจะกลัวว่าถ้าตอบอะไรออกไปเขาจะเสียความรู้สึกสินะ

              มาร์คลดมือจากคางเลื่อนลงมากอบกุมมือเล็กแล้วบีบเบาๆ

              ความมั่นใจของเขาถึงคำตอบที่ควรจะรับมันลดลงฮวบเลยล่ะ

              แบมแบมช้อนตาขึ้นมาคนตรงหน้าที่ไม่สบสายตากับเขาอย่างที่ควรจะเป็น รอมยิ้มฝืดเล็กประดับบนใบหน้ามาร์คเพื่อให้กำลังใจตัวเอง

              แบมแบมกำลังรู้สึกผิด เขารู้ว่ามาร์คคงคาดหวังกับคำตอบเอามากๆ แต่เขาแค่รู้สึกว่า

              มันมีกำแพงบางๆกั้นอยู่ ที่ทำให้เขาไม่กล้าตอบรับไปได้อย่างเต็มปาก

              ตอนนี้ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายของเขาราวกับมีมือที่ไร้ซึ่งรูปร่างมาบีบรัดแน่นจนรู้สึกหน่วงไปหมด 

              "ถ้า.. พี่ไม่อยากให้คำตอบวันนี้ก็ไม่เป็นไรนะ" มาร์คฉีกยิ้มที่เขาคิดว่ามันคงจะทำให้เขาดูเหมือนว่าตอนนี้เขามีความสุขดีอย่างเสแสร้งให้แบมแบม 

              ร่างทั้ง 2 ที่ไร้ซึ่งการเอ่ยปากใดๆนั่งดูบนเตียงในท่าเดิมโดยที่ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเองจนมือหนาของมาร์คเริ่มมีเหงื่อซึมออกมานิดๆ

              "อ่า ผมกลัวแม่เป็นห่วงจัง ผม.. ไปนะ" มาร์ควางมือบางไว้บนเตียวนอนนุ่มเช่นเดิม แบมแบมที่ยังคงก้มหน้าก้มตาสัมผัสว่าเตียงคลายแรงยุบตัวก็ยิ่งใจแป้ว

              เขาสังหรณ์ไม่ดี.. เขากลัวว่าวันพรุ่งนี้นอกจากเราจะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว มาร์คที่ตอนนี้เป็นดั่งคนหนึ่งที่อยู่ในลิสชีวิตประจำของเขาจะหายไป

              เขาเกลียดการจากลา... 

              รู้ตัวอีกทีเขาก็ลุกตามมาร์คที่กำลังจะจับลูกบิดไปด้วยความเร็วเท่าที่เขาคิดว่าจะสามารถห้ามไม่ให้มาร์คออกจากห้องนี้ไปได้

              มือบางที่ชุ่มเหงื่อจากมือมาร์คเอื้อมไปเกาะเสื้อนักเรียนตัวบางจนเกิดแรงกระตุกเบาๆ นั่นเป็นสัญญาณทำให้มาร์คหันหลังกลับมามองคนด้านหลังเขา

              "ย - อย่าเพิ่งไปสิ รีบอะไรนักหนา" เสียงหวานเรียกยื้อเขาเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ทำให้มาร์ครู้สึกชุ่มที่หัวใจเล็กน้อย แต่ความคิดในหัวของเขาก็กลับมาวกทำให้ความรู้สึกของเขาดาวน์ลง

              "ก็ผมจะรีบกลับไง แม่.. แม่คงรอ-" ไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบมือบางอีกข้างก็มาปิดปากเขาเชิงให้หยุด

              "เลิกโกหกเถอะ พี่รู้ว่าน้องบอกแม่ว่ามาทำงานทั้งคืน"

              "..."

              "ขอโทษที่ไม่ได้ให้คำตอบเลยนะ.. แต่พี่แค่รู้สึกว่ามันมีอะไรสักอย่างที่ทำให้พี่ตอบไม่ได้" พูดจบเจ้าตัวก็เม้มปากตัวเองนิ่ง ลดมือจากปากของคนตัวสูงลงมากุมอย่างประหม่า มาร์คหยุดเคลื่อนไหวแล้วหันหน้ามาหาแบมแบม

              "อะไรที่ทำให้พี่ตอบไม่ได้ล่ะ?"

              แบมแบมครุ่นคิดสักครู่ ในระหว่างที่ความคิดในหัวกำลังประดังประเดกลั่นกรองออกมาเป็นคำตอบนั้น ความทรงจำหนึ่งก็แล่นเข้ามา

              "มาร์คน่ะดังมากๆเลย ทั้งดังทั้งหล่อ ไม่น่าไปจีบพี่เฉิ่มๆคนนั้นเนาะ" บทสนทนาของคนที่คาดว่าจะเป็นรุ่นน้องในห้องสมุดดังขึ้นบริเวณเขา เจ้าตัวหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อของรุ่นน้องที่ตามจีบตนเองอยู่

              "นั่นดิ แค่ชื่อยังไม่รู้จักเลย เป็นใครในโรงเรียน?" เด็กสาวอีกคนเอ่ยสมทบเพื่อน ถ้าเขาเดาไม่ผิดคงเป็นแฟนคลับของมาร์คล่ะมั้ง เอาแต่พูดถากถางเขาอย่างนั้น

              และไอ้คำพูดนินทานั้น มันทำให้เขาเริ่มมาคิด คิดว่าตัวเองน่ะ

              ไม่เหมาะสมกับมาร์คจริงๆนั่นแหละ

              ไหนจะหน้าตา ชื่อเสียง ในหลายๆด้านของมาร์ค มันกลับตรงข้ามกับแบมแบมไปเสียหมด

              เขาก็แค่นักเรียนหนังหน้าเฉยๆคนนึงที่ใช้ชีวิตเงียบๆ สไตล์เด็กเรียน

              จนวันหนึ่งที่มาร์คเริ่มเข้ามาให้ชีวิต กำแพงกั้นหนาของเขาก็เริ่มพังทลายลงทีละนิด ทีละนิด จนเปิดรับมาร์คให้กลายมาเป็นหนึ่งในคนที่สำคัญในชีวิตของเขา

              แล้วถ้าวันหนึ่งเราคบกันขึ้นมา.. มันจะเหมาะสมแล้วจริงๆเหรอ?...

              "เออมึง รู้จักฮยอนอาปะ? แฟนเก่ามาร์คอ่ะ หน้าแม่งอย่างเด็ด สวยเวอร์" เขายังคงนั่งฟัง 2 สาวสนทนาเสียงดังอย่างเงียบๆ และคงจับไม่ได้หรอกว่าเขาแอบฟังอยู่เพราะพวกเธอนั่งหันหลังให้เขาอยู่

              "รู้จักสิ เดี๋ยวนี้นางไปถ่ายแบบที่เมกาแล้วนี่ อ่อใช่ อีกนางนึงที่ชื่อคลาวเดียร์อ่ะ นั่นก็หนังหน้าดีเวอร์ หน้าตาน่ารักแบบ.. กรี้ด" 

              "ถึงว่าไง คนละระดับเลยอ่ะ ฟ้ากับเหวชัดๆถ้าเทียบกับรุ่นพี่ไรนั่น" 

              ก็จริงนั่นแหละ ระหว่างเขากับมาร์ค อาจจะไม่เหมาะสมกันจริงๆก็ได้

              ราวกับฟ้ากบเหวเลยล่ะ..

              "แค่รู้สึกว่า.. มาร์คกับพี่อาจจะไม่เหมาะกันก็ได้.."

              "ตรงไหน?"

              "ชื่อเสียง หน้าตา หลายๆอย่าง.." ประโยคหลังๆเสียงของเขาเริ่มอ่อยค่อยลง 

              "ทำไมพี่คิดแบบนั้น? ผมเคยบอกแบบนั้นเหรอ?" แบมแบมเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง เขาไม่กล้าสบตากับมาร์ค เขาไม่รู้ว่าตอนนี้มาร์คกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่

              "ม- ไม่รู้ ใครๆก็บอกแบบนั้น พี่อาจจะไม่เหมาะสมกับมาร์คก็ได้ หน้าตาก็ไม่มีอะไร จะเอาอะไรไปสู้พวกแฟนเก่าของน้องได้.." มาร์คคิดไปเอวรึเปล่าวว่าประโยคหลังๆนี่ประชดออกไปทางน้อยใจเสียมากกว่า

              อ่า.. ตอนนี้มันควรดราม่าสิ ทำไมเขากลับรู้สึกดีกับประโยคนี้กันนะ ให้ตายสิ

              "ผมไม่ได้รักพี่จากรูปลักษณ์ภายนอกนะ ถึงตอนแรกจะตามจีบพี่เพราะเห็นพี่ตอนถอดแว่นแล้วโครตน่ารัก แต่พอผมได้รู้จักได้ตามจีบพี่จริงๆ พอได้รู้จักตัวตนจริงๆของพี่แล้ว

              แค่การกระทำธรรมดาๆของพี่ มันกลับทำให้ผมใจสั่นได้ตลอดเวลาเลยนะพี่รู้มั้ย?"

              "..."

              "ผมแค่รัก.. รักในแบบที่พี่เป็นทุกอย่าง ไม่สนว่าใครจะมองยังไง? มันเรื่องของเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องของเรา ผมไม่อยากให้ใครมาตัดสินแทนหัวใจของพี่"

              "..."

              "พี่แค่ตอบว่าตกลงหรือไม่ตกลง นั่นจะคือคำตอบทั้งหมดของสิ่งที่ผมถามมาและพูดมาทั้งหมด"

              หลังจากที่เขาฟังมาร์คพูดมาทั้งหมด ได้ลองคิดตาม และได้เห็นถึงการกระทำของมาร์คที่ชัดเจนกับเขามาตลอด

              ความรู้สึกของเขา.. เรื่องของหัวใจของเขา เขาไม่ควรให้ใครมาตัดสินแทนใจเขา

              แบมแบมคิดว่า เขาควรจะชัดเจนได้เสียที ก่อนที่มันจะสายไป

              สายจนกลับไปแก้ไขไม่ได้

              "ผมยังรอคำตอบจากพี่อยู่นะ" 

              เขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร แต่ตอนนี้เขาจะปล่อยให้หัวใจของเขานำทาง ปล่อยให้หัวใจของเขาอยู่เหนือการควบคุมของสมอง

              ไม่ว่าเขาจะทำอะไรลงไป มันล้วนเกิดมาจากใจของเขา

              มือเล็กประคองใบหน้าคนตรงหน้าแล้วเขย่งเพื่อให้ความสูงของตนที่ห่างกันระดับหนึ่งกับมาร์คระดับมาอยู่ในระดับที่เท่ากัน ก่อนจะปากอิ่มกดลงไปบนปากกระจับได้รูปของร่างสูง คนโดนขโมยจูบเบิกตากว้าง ไม่คาดฝันกับการกระทำของคนตัวเล็ก 

              มันทำให้หัวใจของเขาทั้ง 2 สั่นรัว แถมยังเต้นแรงเหมือนตอนที่จับมือกันครั้งแรก

              แบมแบมเอาแต่หลับตาแน่น ไม่ยอมเบิกตาเพราะความเขินและการกระทำของตนเองที่ตัวเองยังไม่คาดฝันจะทำ

              จูบเบาๆเพียงแค่สัมผัสถูกค้างไว้อย่างเนิ่นนาน เนิ่นนานจนไม่ทราบว่าเวลาเดินไปกี่นาทีแล้ว แต่มันกลับอบอุ่นอย่างน่าเหลือเชื่อ บรรยากาศรอบกายดูอบอุ่นสดใสต่างจากเมื่อครู่ที่ทีเพียงความเงียบและความอึดอัด

              เหมือนว่าจูบนี้คือคำตอบของคำถามที่มาร์คถามและวิงวอนถึงคำตอบที่เขาคาดหวัง

              และแน่นอน แบมแบมได้มอบคำตอบที่น่าพึงพอใจให้เขาดั่งที่วาดฝัน

              "อื้อ ตกลง แบมแบมเป็นแฟนกับมาร์คครับ" 

              มันคงถึงเวลาแล้ว ที่ความสัมพันธ์ไร้ชื่อเรียกของเราสองมันจะชัดเจนเสียที


    The End 'CH 12 | สิ้นสุดสถานะไร้ชื่อ'



              - Talk with Writer -
    12 Nov. 16
    เลย 60 per. มะ? 555555 
    ขอโทษนะคะ สำหรับคนที่โหวตว่าอยากมี NC
    แต่คนโหวตว่าไม่ควรมี NC เยอะกว่า ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ
    เรื่องนี้มาแนวใสๆ รั้วโรงเรียน ปูเรื่องมาแนวมุ้งมิ้ง
    จะมา NC ก็ยังไม่ถึงวัยเนาะ อะเคคค ตามนั้นนะคะ
    เรื่องนี้น่าจะมี NC อยู่มั้งนะ แต่ขอไกลๆนู้น รอเค้าคบกันนานๆก่อนเนาะ55
    ขอบคุณที่มาเม้นโหวตให้นะคะ ♥
    4 Nov. 16
    ลืมบอกค่า เวลาในตอนคือช่วงเย็นๆของวันเรียนปกตินะคะ5555
    เวลาในตอนนี้ก็คงสักค่ำๆ และคือคืนวันศุกร์.. 
    ง่า เราใช้คำซ้ำเยอะมาก แต่งแบบนี้ครั้งแรกเลย 
    ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าอ่านแล้วมันดูติดขัดแปลกๆ
    เพราะครั้งแรกเลยพยายามทำให้รีดเข้าถึงอารมณ์ให้มากที่สุด T^T







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×